นวนิยาย:เสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ (ตอนที่21)

สุชาดา โมรา

ดาวลูกไปร้านตัดชุดกับพ่อหน่อยได้ไหม  นี่เราจะไปกันทั้งครอบครัวเลยนะ
	ถึงฉันจะไม่อยากไปกับพ่อแต่ฉันก็ต้องไป  เพราะฉันรู้ว่าถ้าท่านโกรธขึ้นมาคงจะแย่มาก  พ่อมาร้านตัดชุดวิวาห์  พ่อเลือกชุดอยู่ส่วนฉันก็นั่งดูแบบไปเรื่อย ๆ
	ดาวนี่พ่ออยากให้หนูมาลองชุดนี้จังเลย
	หนูไม่เอาหรอกเพราะหนูไม่รู้ว่าจะใส่ไปไหน  ไม่ลองนะคะ
	ไม่ได้....!!!
	พ่อพูดเสียงดังลั่นร้านฉันเลยต้องเดินไปลองชุดราตรีสีขาว  ชุดนี้หลวมมากแต่ช่างบอกว่าจะเอาเข้าให้พอดี  ช่างให้ฉันเดินออกมาให้พ่อกับแม่ดู
	สวยมากเลยลูก...แต่เอ๊ะนี่มันรอยไม้เรียวเมื่อวันนั้นเหรอ  ทำไมมันเป็นแผลขนาดนี้
	ฉันก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไร  พ่อเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ จากนั้นทั้งแม่  ย่า  อาและปู่ก็รุมว่าพ่อเลย  ทุกคนว่าพ่อว่าทำเกินกว่าเหตุทำให้หลังฉันเป็นแผลเป็นลึกเพราะพ่อตีอย่างไม่ยั้งมือ  พอทุกคนทะเลาะกันหนักเข้าฉันก็เลยไปเปลี่ยนชุดและนั่งร้องไห้ในห้องแต่งตัว  ฉันรู้สึกแย่มากที่เห็นทุกคนทะเลาะเบาะแว้งกัน  ฉันรู้สึกว่าฉันเองเป็นฉนวนให้ครอบครัวแตกร้าว...  ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพ่อจะให้ฉันไปงานไหน  แต่ตอนนี้จิตใจฉันมันบอบช้ำมากเลยฉันไม่อยากจะไปไหนหรือทำอะไรทั้งนั้น
	พอกลับมาบ้านทุกคนก็ไม่มีใครคุยกับพ่อ  พ่ออารมณ์ไม่ค่อยดีจึงเดินไปหลังบ้าน  ส่วนคนอื่น ๆ ก็นั่งดูทีวีกัน  ฉันเองก็เข้าไปเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเพราะไม่อยากพูดหรือคุยกับใคร  ฉันอายและรู้สึกแย่  หัวใจมันเหี่ยวเฉาจนไม่อยากจะมองหน้าใครอีกต่อไปแล้ว
	ดาว...โทรศัพท์ลูก
	สวัสดีค่ะ...พี่เบลวเหรอคะ  ค่ะ  ค่ะ  ค่ะ  หา....!!!!
	พี่เบลวโทรมาบอกเรื่องานหมั้น  ฉันตกใจมากที่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าฉันจะต้องหมั้นหมายกับพี่    เบลว  ไม่เห็นมีใครมาบอกฉันเลย...  ที่จริงฉันก็ชอบพี่เบลวนะแต่ลึก ๆ ในใจมันยังคงมีพี่นัทอยู่  จะให้ฉันทำยังไงดีเนี่ย  ฉันรู้สึกสับสนกับตัวเองมากเลย
	ฉันไปซ้อมยูโดเป็นปกติ  แต่วันนี้ทุกคนพูดกันหนาหูเรื่องงานหมั้นของฉันกับพี่เบลว  เป็นเพราะพี่เบลวไปเล่าเรื่องให้พี่ตูนฟังแท้ ๆ ตานี่ถึงได้ปากโป้ง
	ดาว...พี่ขอคุยด้วยได้ไหม
	ฉันอึ้งมากพี่นัทเดินเข้ามาคุยกับฉัน
	ดาวจะหมั้นจริงเหรอ...
	ฉันเงียบไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้าทำหน้าตาซึม ๆ อยู่ตลอดเวลา
	ดาวจะร้องทำไมในเมื่อดาวกำลังจะหมั้น...พี่ขอให้ดาวโชคดีนะ...อย่าทะเลาะกันล่ะ  และอย่าให้ใครมาแยกความรักให้เดินกันคนละทางอีกนะ  พี่ไม่อยากให้ดาวต้องมาเจ็บช้ำเหมือนกับตอนที่คบกับพี่
	ฉันเช็ดหยาดน้ำตาแล้วก็ยิ้มให้พี่นัท  พี่นัทเป็นคนดีถึงแม้ว่าฉันจะรู้ว่าพี่นัทเสียใจ  และภายในใจฉันก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ เวลาที่ได้เห็นหรือได้ยินคำพูดจากปากของพี่นัทแต่ฉันก็ต้องวางตัวให้เหมือนพี่น้อง  ต้องวางตัวเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ฉันถวิลหาเขามาโดยตลอด  แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว  ฉันมีคนรักใหม่ที่ดีกว่าคนเก่า  และอีกหลาย ๆ อย่างที่เขามีมากกว่าพี่นัทคือ  ไม่ว่าเหมี่ยวจะยั่วยวนพี่เบลวเท่าไรแต่พี่เบลวก็ไม่สนใจ  เหมี่ยวพยายามทำทุกวิถีทางให้พี่เบลวแยกจากฉันแต่ก็ไม่สำเร็จนั่นเป็นเพราะพี่เบลวเป็นคนที่หนักแน่น  จริงจังและจริงใจไม่เหมือนกับพี่นัท...
	แล้ววันหมั้นก็มาถึง  พี่ ๆ และอาจารย์ที่สมาคมฯก็มาร่วมงานกันอย่างหนาแน่น  ฉันได้ออกมาจากห้องก็ตอนเริ่มพิธี  ทุกคนมองกันเป็นตาเดียวเพราะไม่คิดว่าฉันจะแต่งตัวออกมาได้สวยขนาดนี้  ฉันค่อย ๆ เดินมานั่งหน้าพ่อกับแม่ทั้งฝ่ายฉันและฝ่ายเขา  ย่าฉันถึงกับยิ้มแก้มปลิทีเดียว  พี่เบลวหยิบกล่องแหวนออกมา  แหวนวงนั้นเป็นแหวนเพชรสวิตน้ำหนัก 2.00 การัตเรือนเป็นทองคำขาวทำให้ทุกคนฮือฮากันใหญ่  ช่างภาพที่จ้างมาก็ถ่ายภาพอยู่ตลอดจนฉันรู้สึกแสบตา
	ไหว้พี่เขาสิลูก
	เสียงแม่บอกให้ฉันไหว้พี่เบลว  ฉันจึงก้มลงกราบที่อกของเขา  จากนั้นก็รอฤกษ์
	ได้เวลาแล้ว 9.00 น.  สวมแหวนให้น้องเลยลูก
	พี่เบลวค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้ฉัน  จากนั้นทุกคนก็ปรบมือกัน  ฉันก้มลงกราบที่อกเขาอีกครั้ง  เขาจึงหยิบกล่องเครื่องเพชรออกมา  ในนั้นมีทั้งสร้อยคอ  สร้อยข้อมือและต่างหู  พี่เบลวจึงนำมาใส่ให้ฉัน  พอเสร็จพิธีก็ร่วมกันถ่ายรูป  พี่ตูนแอบเหยียบชายกระโปรงฉันอยู่หลายครั้ง  ส่วนพี่เบลวก็คอยประคองฉันเพราะกลัวว่าจะล้ม  พองานเลิกฉันก็ไปเปลี่ยนชุดและไม่ยอมออกมาจากห้องอีกเลย  ไม่ว่าใครจะชวนให้ออกมากินข้าวฉันก็ไม่ยอมออกมา  จนพ่อแม่ของพี่เบลวทนไม่ไหวพาพี่เบลวกลับบ้านไป  พ่อจึงมาดุฉัน
	เปิด...เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ  ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง....!!!
	คุณ...ลูกทำใจไม่ได้เพราะลูกเพิ่งจะรู้เรื่องได้เพียงอาทิตย์เดียวคุณอย่าไปดุลูกเลยนะ  เมื่อเช้าลูกก็เหนื่อยมาพอแรงแล้วไหนจะตื่นมาแต่งตัวแต่งหน้าตั้งแต่ตี 4 อีกล่ะ  คุณไปนั่งดูทีวีดีกว่านะ
	ฉันแอบฟังพ่อกับแม่คุยกัน  สักพักฉันก็โทรหาพี่เบลว
	พี่เบลวเหรอ  ดาวขอโทษนะคือดาวปวดหัวน่ะพี่คงไม่ว่ากันนะ
	ฉันดีใจที่พี่เบลวไม่ว่าอะไร  ฉันรู้สึกสำนึกผิดเพราะฉันทำตัวไม่เหมาะสมเลย  ฉันนี่แย่จริง ๆ ฉันไม่น่าทำลงไปแบบนั้นเลย
	เช้าวันใหม่ฉันก็ไปเรียนตามปกติ  เพื่อน ๆ หลายคนเดินเข้ามาถามฉันถึงเรื่องการหมั้นเพราะเหมี่ยเอามาพูดให้คนอื่นรู้กันทั่วทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ไปงานนี้
	จริงเหรอที่ดาวหมั้นไม่เห็นบอกกันบ้างเลย
	จริงเหรอ
	...............................
	สักพักกลุ่มของเหมี่ยวก็เดินเข้ามาถาม
	จริงเหรอที่แกแย่งแฟนเพื่อนถึงขนาดลงทุนหมั้นหมายเพราะกลัวว่าเหมี่ยวจะแย่งคืน
	ฉันรู้สึกโมโหจริง ๆ ที่ได้ยินเอ๊ะพูดแบบนี้
	เธอเชื่อเหมี่ยวได้กี่เรื่อง  เหมี่ยวโกหกมากี่เรื่องแล้ว  ถามจริง ๆ เถอะเพื่อนแบบนี้เธอคบเข้าไปได้ยังไง  ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าการศึกษาสูง ๆ อย่างเธอนี่จะถูกเหมี่ยวจูงจมูกได้ง่าย ๆ
	พวกนั้นถึงกับอึ้งชั่วคณะ  แล้วก็หันมาจะทำร้ายฉัน
	นี่แกด่าฉันเหรอ...แก...
	อย่านึกนะว่าฉันจะไม่สู้....!!!!
	ฉันพูดด้วยท่าทางเอาเรื่องพวกนั้นจึงเดินออกไปไม่มารังควานฉันอีก...
                        ............................21.................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ  กำลังจะอวสานแล้วนะคะ
ขอขอบคุณเพื่อนๆมากที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา  ขอบคุณค่ะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน