ฟื้นฝอยฯ เรื่อง ความหวังหลังรอยยิ้ม

กุ้งหนามแดง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กุ้งได้มีโอกาสดูรายการโทรทัศน์ช่วงบ่าย เป็นรายการเกี่ยวกับสิ่งปาฏิหารย์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน Concept ของรายการนี้จะแบ่งออกเป็นสองช่วงคือ 
...ช่วงที่หนึ่งจะเป็นการนำความสามารถของเด็กน้อยๆ (อายุน่าจะสัก 2-3 ขวบ)  ที่มีความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งถ่ายทำแนวเดียวกับ Home TV  อาทิ เช่น เต้นรำ ร้องเพลง เป็นต้น  และจะให้ผู้เข้าร่วมรายการทำการลงคะแนน ถ้าใครชนะใจคนดูมากกว่า ก็จะได้รับรางวัลไปรู้สึกว่าจะเป็นทองคำหนึ่งเส้น
ส่วนช่วงที่สองจะเป็นละครสามเรื่องและให้ทายว่าเรื่องใด เป็นเรื่องจริงซึ่งจะมีเพียงเรื่องเดียว ส่วนที่เหลือจะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ทั้งหมดนี้จะเฉลยหลังรายการ ..แต่ช่วงนี้ไม่มีผลตอบแทนใด ๆ ..เพียงแต่ให้ดูละครสนุก ๆ..ทายกันเล่นๆ..
..วันนั้นเมื่อผ่านช่วงที่หนึ่ง ไปแล้วก็ได้นำเรื่องปาฏิหารย์ (เขาว่างั้น) มาเล่าให้ฟัง 3 เรื่องเช่นเดิม				

...เรื่องที่หนึ่ง ..เตียงไม้ที่ทำจากฝาโลง...

ประมาณว่า..เจ้าของร้านขายเฟอร์นิเจอร์ พยายามขายเตียงไม้ที่ทำจากฝาโลกนี้ ในราคาถูกๆ ซึ่งเมื่อขายไปแล้ว ผู้ซื้อกลับต้องเจอเหตุการณ์สยองๆ ในตอนกลางคืน เช่นเตียงมีเสียงดัง ทีแรกก็เข้าใจกันว่าเป็นเพราะความยืด-หด ตัวของไม้ แต่ เอาเข้าจริงๆ เมื่อพิสูจน์ไม่ได้หนักๆ เข้าเลยโทษว่าเป็นการกระทำของผีสางไป  สรุปว่าทุกคนที่ซื้อไป ต่างก็ต้องเอามาคืน จนเจ้าของจนปัญญาแล้วเลยต้องนำเตียงไม้นี้ไปถวายวัด เพราะไม่มีทางเลือก  แต่สุดท้ายพระก็ต้องนำมาคืนอีก เพราะพระก็ทนไม่ได้เช่นกัน ...				

...เรื่องที่สอง..เรื่องนกเขาเจ้าปัญหา...

เป็นเรื่องของ..ผู้อาวุโสที่มีเมียสาวและมีปัญหาว่า เมียของลุงออกจากบ้านไปทุกวี่ทุกวัน  ลุงก็เลยกลุ้มว่าออกไปไหนกัน หรือจะไปมีแฟนใหม่

เพราะความกังวล เลยไปปรึกษาเพื่อน ผู้สูงอายุพอกัน เลยเจอลูกยุ ว่าเมียสาวคงจะไปหาหนุ่มๆ ข้างนอกแล้วล่ะ ลุงผู้แสนจะคิดมากกลับบ้านไป ระหว่างอยู่คนเดียวแกเกิดอาการเลือดร้อน เพราะแกคิดว่าตัวเองหมดสมรรถภาพแล้ว เลยเอากรรไกรตัดหญ้ามาจัดการ กับช่วงล่างแก  

แล้วภาพตัดมาที่โรงพยาบาล เมียลุงมาเยี่ยมอาการป่วย ลุงแกก็งอนว่ากลับมาทำไม ทำไมไม่ออกไปข้างนอกตีโพยตีพายว่าแกแก่แล้ว คงช่วยอะไรเมียสาวไม่ถนัด เมียแกบอกว่าเข้าใจ เพราะลุงจะอายุ 70 อยู่รอมร่อแล้ว เมียแกเลยออกไปทำงานพิเศษ เพื่อจะนำเงินมาซื้อของขวัญให้ลุง  ลุงแกก็อึ้งไป นึกเสียดายของรักของหวงแก  แต่หมอบอกว่ายังไม่ได้ตัดไป....เหตุที่ลุงมาโรงพยาบาลเพราะเป็นลมเท่านั้นซึ่งลุงแกก็ดีใจมาก				

...เรื่องที่สาม..เรื่องของคานทองที่รัก...   

เป็นเรื่องของสาวคนหนึ่งซึ่งอายุปลายๆ เลขสามแล้ว (แหม! เรื่องนี้ไม่ค่อยอยากดูเลย แต่เอาเถอะอยากรู้ ทนดูไป..) เธอกำลังโทษคานบ้าน โทษว่าบ้านนี้คานเยอะ จึงเป็นสาเหตุให้เธอต้องขึ้นคาน  เลยเอาไม้ไปตีคาน (เวอร์ไปนิด)  แม่สาวเจ้าก็บอกว่าที่เธอต้องขึ้นคานเพราะเธอพูดจาไม่ไพเราะ ลองพูดกับคานดีๆ อาจมีสิทธิ์ไม่ต้องขึ้นคาน  เธอเลยเชื่อ  (แหม! แม่น่าจะรู้น่ะ อาบน้ำร้อนมาก่อนตั้งหลายกา..)  จัดการหาดอกไม้ ธูป เทียน ไหว้คานซะ.. ภาวนาให้เจอหนุ่มหล่อ ล่ำสัน ตามสเปค ที่เธอได้ตั้งไว้..

พอรุ่งเช้าเธอขับรถไปทำงาน เผอิญรถเธอเสีย ระหว่างก้มๆ เงยๆ อยู่นั้น มีหนุ่มล่ำคนหนึ่งเดินเข้ามาหา.. เธอก็หลงดีใจ ว่าเขาจะมาช่วยเพราะฤทธิ์ของแรงบนบาน เมื่อเย็นวาน..

ที่ไหนได้ ไอ้หนุ่มคนนั้นมันกลับฉุดเธอเข้าไปในบ้านร้าง และทำร้ายร่างกายหมายจะข่มขืน  ระหว่างที่เธอกำลังจะหมดสติ เพราะถูกทุบเข้าไปหลายอั๊ก  มีชายหนุ่มมาดดีคนหนึ่งมาช่วยไว้ได้ทัน โดยนำอาวุธเป็นไม้หน้าสามมาตีไอ้อันธพาลล่ำคนนั้น  จนทรุดไป  ระหว่างขอบอกขอบใจกันนั้น ไอ้วายร้ายดันฟื้นจากสลบจะทำร้ายหนุ่มใจดี ที่กำลังปลอบโยนหญิงสาว (ตอนนี้ชายหนุ่มหันหลังให้มันอยู่) ..

เป็นโชคชะตาหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ไม้คานดันหล่นมาโดนไอ้วายร้ายนั้นทันที สลบเหมือดไป เป็นอันว่าสองหนุ่มสาวก็หนีออกมาได้สำเร็จ และพบรักกัน จนกระทั่งได้แต่งงานกันในที่สุด..				

หลังจากจบเรื่องสามเรื่องนี้แล้ว ก็ให้คนในห้องส่งทำการลงคะแนน ผลปรากฏว่า เรื่องที่คนคิดว่าเป็นเรื่องจริง คือเรื่องที่สาม ..รวมทั้งกุ้งที่ดูอยู่ทางบ้านทั้งๆ ที่จริงๆ ก็คิดอยู่ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่อยากให้เป็นจริงซะเหลือเกิน

..หรือเป็นเพราะว่า สังคมเรา ขาดซึ่งน้ำใจ ในอันที่จะช่วยเหลือผู้อื่น จึงทำให้พวกเราโหยหา ความรู้สึกนั้น กลับมา..

..น้ำใจที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก..เดือดร้อน.. โดยไม่หวังผลตอบแทน ยังมีอยู่หรือไม่ในสังคมของเรา.. 

..น้ำใจโดยปราศจากความคิดที่ว่าไม่ใช่เรื่องยังหลงเหลืออยู่หรือไม่..

..หรือเราเคยชินที่จะคาดหวังว่าตอนจบของเรื่อง ต้องจบแบบสันติสุข  (Happy Ending)..

..หรือ ..ฯลฯ 

แม้ว่าบทสรุปของตอนนี้คือ เรื่องเตียงไม้ฯ จะเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ กุ้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเหตุการณ์อย่างเรื่องที่สาม เกิดขึ้น ณ.ที่ใดก็ตาม .ก็อยากจะให้มีอัศวินม้าขาวมาช่วยให้ทันสักครั้ง  .