ข้ามเวลา
เปลี่ยนบันทึกรัก
The Blue Diary Of Love (บทนำ : น้ำหวาน)
น้ำหมึกขาว
น้ำหวาน มกราคม 1964
ทุกวันก่อนไปโรงเรียน...ฉันจะชอบให้แม่ถักเปียสองข้างให้ฉัน...
ฉันก้าวเข้าผ่านประตูไม้บานใหญ่ไปในห้องเรียน...ทันทีที่ฉันปรากฏตัวในห้อง... ที่กำลังมีเพื่อนชายหญิงที่คุยกันอย่างเซ็งแซ่นั้นก็ปรากฏร่างของเด็กหญิงผมม้าคนหนึ่ง ส้มโอ หล่อนโผล่พรวดออกมาจากหลังห้องนั่นแล้ววิ่งมาที่ฉันด้วยท่าทางลุกลนและกริยาที่ดีใจอย่างสุขล้น หล่อนเป็นคนที่ฉันเคยพูดคุยในยามฉันเปล่าเปลี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียว คนที่ฉันเคยแอบหนีไปค้างบ้านเธอเวลาแม่ฉันลงโทษ คนที่ฉันไปทานข้าวกลางวันพร้อมกับเธอเป็นประจำทุกวัน คนที่จะคอยหัวเราะหรือร้องไห้ไปพร้อมๆกับฉัน คนที่ฉันเอ่ยปากขอยืมทุกอย่างได้ในตัวของหล่อนเว้นแต่ชีวิต คนที่ฉันเรียกเธอว่า เพื่อนตาย
น้ำหวาน!.น้ำหวาน!ชั้นมีอะไรจะบอกเธอแหละเธอจำผู้ชายที่ชื่อธัณได้มั้ย??เค้ามาสารภาพบอกรักชั้นแล้วชั้นขอบใจเธอจริงๆนะ ส้มโอพูดหลังจากที่เธอวิ่งมาเขย่าตัวของฉันผมม้าของเธอสะบัดพริ้วไหวตามแรงเขย่าตัวเธอที่มีให้ฉัน เธอเล่าพร้อมกับกล่าวถึงชื่อของผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันและเธอรู้จักดี ธัณ เด็กหนุ่มที่ดีทั้งหน้าตาและรูปร่าง พอๆกับฐานะทางการเงินของเขา ธัณอยู่ห้องเรียนถัดไปที่ติดกับห้องเรียนของฉันและส้มโอ
นายนั่นเป็นคนที่เพื่อนสนิทของฉันตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น แต่ส้มโอก็ไม่เคยรับรู้เลยว่าฉันก็แอบชอบเด็กผู้ชายที่ชื่อธัณนั่นไปพร้อมๆกับเธอ .. .
. .. ชื่อเล่นที่ชื่อน้ำหวานนั้น เป็นชื่อที่คุณพ่อคุณแม่ของฉันตั้งให้ ท่านบอกว่าพวกท่านทั้งสองชอบดื่มน้ำหวานมาก โดยตอนตั้งครรภ์นั้น คุณแม่ของฉันก็ยังชอบดื่มน้ำหวานอยู่อย่างไม่ขาด และนั่นก็เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันชื่อเล่นชื่อนี้
ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวนี้ ฉันเติบโตมากับบ้านทรงญี่ปุ่นที่อาจจะดูใหญ่ไปสักหน่อยสำหรับครอบครัวเล็กๆที่มีเพียงสามคนคือ พ่อ แม่ และลูก ตั้งแต่จำความได้ฉันโตมากับ ปุย ปุยเป็นแมวตัวผู้สีขาวสะอาด เราทั้งคู่มักจะไปนั่งเล่นที่ใต้ต้นไม้ต้นเล็กๆที่มีอยู่เพียงต้นเดียวกลางสนามที่ติดอยู่กับห้องรับแขก จนกระทั่งฉันขึ้นประถม ปุยจากฉันไปอย่างไม่มีวันกลับมา
ฉันจำได้ดีว่ากลางดึกวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมาก ฉันนั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้าประตูภายในบ้านกับแม่ของฉัน ที่ยังคงลูบหัวพร้อมคำพูดที่ปลอบฉันอยู่อย่างไม่ขาด ฉันมองดูประตูไม้บานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าซึ่งพ่อของฉันวิ่งออกไปตามหาปุย นานพักใหญ่กว่าพ่อของฉันจะกลับมาด้วยสภาพที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝน
บางสิ่ง อยู่บนอุ้งแขนของพ่อฉันที่กำลังอุ้มอยู่ ร่างสัตว์สี่เท้าสีขาวที่ฉันรู้จักดีนอนแนบนิ่ง แม้ว่าบนตัวของ บางสิ่ง ที่พ่อฉันอุ้มอยู่จะมีคราบสีแดงสดหยดลงมาพร้อมๆกับน้ำฝนที่ยังคงติดตัวผสมอยู่ แต่ฉันก็มั่นใจว่ามันคือ ปุย พ่อของฉันพูดสั้นๆด้วยสีหน้าเศร้าสลดเพียงว่า ปุยหลับไปแล้วนะ แล้วพ่อก็ส่งปุยมาให้ฉัน ฉันก็ร้องไห้ไม่หยุด ฉันได้แต่เขย่าตัวของมันให้ฟื้นขึ้น ปากก็พลางพูดให้มันตื่น ฉันหอมไปที่ขนเปียกๆบนหัวมัน เพื่อหวังว่ามันจะเงยหน้ามาเลียฉันเหมือนทุกครั้ง แต่ปุยก็ยังคงหลับสนิทเหมือนที่พ่อฉันบอกไว้ ฉันจึงไปฝังปุยไว้ที่ใต้ต้นไม้ที่มีเพียงต้นเดียวของบ้านหลังนี้ .. .
แม้ว่าปุยจะจากฉันไปได้ไม่นานนัก ฉันก็ได้เริ่มเรียนชั้นประถมในทันที ความรู้สึกที่นึกถึงปุยยังคงอยู่ในใจฉันตลอด จนวันหนึ่งจิตใจของฉันก็ถูกแทนที่ด้วยเด็กหญิงที่ชื่อ ส้มโอ
ส้มโอดีกับฉันทุกอย่าง เราเล่นด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกัน เราทั้งคู่ถือเป็นตัวแทนซึ่งกันและกัน บางวันถ้าฉันถูกทำโทษส้มโอก็จะมาอธิบายจนคุณครูยอมสยบยกโทษให้ ฉันกับส้มโอสนิทกันมากจนกระทั้งเราเรียนถึงชั้นม.ปลาย
วันหนึ่งในขณะที่ฉันกำลังจะกลับบ้านหลังจากเลิกเรียน เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันคุ้นหูก็ดังขึ้น
น้ำหวานเสร็จรึยัง?? ส้มโอถามคำถามหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างตั้งใจ ฉันพยักหน้าอมยิ้มพร้อมกับยื่นกระดาษสีชมพูหวานไปให้เธอ เธอยิ้มกว้างพร้อมกับทำตาโตพลางกอดฉันหนึ่งทีก่อนวิ่งจากฉันไป เธอวิ่งไปห้องเรียนที่ติดข้างๆห้องพวกเราทั้งสอง เพื่อนำกระดาษสีชมพูอ่อนกลิ่นกุหลาบแดงที่ฉันบรรจงเขียนให้เธอไปสอดไว้ใต้โต๊ะไม้ของ ใครคนนั้น
ส้มโอ เธอให้ฉันเขียนจดหมายรักให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อธัณ ฉันรู้ได้เพราะว่าเธอเขียนบทสารภาพรักหวานซึ้งตรึงใจ หรือเข้าใจไปยังเบื้องลึกของผู้ชายไม่ดีเท่าฉัน คงเป็นเพราะว่าเธอคงจะไม่มีอารมณ์โรเมนติกเลยกระมัง เธอถึงมาขอร้องฉัน ฉันเขียนจดหมายให้เธอเพื่อที่จะนำไปให้ผู้ชายที่ชื่อธัณคนนั้น แต่ฉันก็คงจะไม่มีทางเขียนบทรักหวานชื่นนั่น ได้ถ้าฉันไม่ได้รู้สึกอย่างที่ส้มโอรู้สึกกับธัณ .. .
ใช่แล้ว ฉันชอบธัณด้วยเช่นกัน แต่ฉันไม่สามารถทำได้ เพราะส้มโอคือ เพื่อนตาย ของฉัน ฉันเขียนจดหมายรักโต้ตอบกับผู้ชายที่ชื่อธัณนั่นเป็นเวลานานนับเดือน โดยที่ตรงมุมชื่อของจดหมายที่ฉันเขียนนั้นเป็นชื่อของ ส้มโอ
วันใดถ้ามีเวลาว่าง ฉันมักจะเอาไดอารี่สีฟ้าเล่มโปรดของฉันมาเสก็ดภาพเด็กผู้ชายที่ชื่อธัณนั่น แม้ว่าชั่วโมงศิลปะฉันจะทำคะแนนได้ไม่ดีนัก แต่ฉันก็ตั้งใจที่จะวาดผู้ชายคนที่ฉัน รัก
ส่วนใหญ่ฉันเขียนเรื่องราวที่เป็นเหมือนนิยายของฉันผ่านเส้นหมึกที่บรรจงเขียนทุกตัวอักษรลงในไดอารี่ของฉัน เรื่องราวความรักของฉันที่ไม่สามารถบอกส้มโอหรือธัณได้
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ความรักที่ส้มโอรอคอยก็สมหวัง ฉันจึงทำได้แต่เพียงยืนยิ้มและดีใจไปกับเธอ แม้จะรู้สึกเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก ในที่สุดธัณก็รับรักหญิงที่เขียนจดหมายรักนั่น ภายใต้จิตใจของฉันที่ผ่านออกไปนั่นคือ ส้มโอ
ตลอดระยะเวลาที่มีนั้น ธัณและส้มโอรักกันมาก ฉันรู้สึกอิ่มไปด้วยความรักของคนทั้งคู่ ทั้งสองนั้นไม่เคยลืมฉันและไม่เคยคิดว่าฉันเป็นส่วนเกินแต่อย่างใด ไม่ว่าทั้งคู่จะไปเที่ยวหรือทานข้าวก็จะชวนฉันไปด้วยเสมอ ฉันรู้สึกว่าธัณเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์พร้อมและเหมาะกับคนที่ดีอย่างส้มโอ โดยที่ความลับของฉันกับส้มโอที่ปิดซ่อนไว้ไม่มีทางที่ธัณจะรู้ได้ แต่ภายในของความรู้สึกนึกคิดนั้น ฉันก็แค่คิดว่าเพียงได้อยู่ใกล้ชิดกับธัณก็เพียงพอแล้ว
บ้าสิ!น้ำหวาน!เธอคิดอะไรของเธอ!ส้มโอเพื่อนเธอนะ!! ฉันเตือนตัวเองหลังจากเพ้อฝันเป็นเวลานาน
สองคนนั้นดีกับฉันเสียจริงๆ ทั้งคู่ต่างนำเงินที่เก็บไว้ไปซื้อนาฬิกาข้อมือให้ฉันใส่ในวันเกิดของฉัน โดยที่ฉันก็ยังชอบใส่อยู่ไม่เคยถอดออกหรือลืมทิ้งไว้ที่ไหนเลย เว้นแต่ตอนอาบน้ำ
. .. แต่แล้วในที่สุด เรื่องราวความรักของคนสองคนที่ฉันรัก นั้นกำลังจะจบจากงานแต่งงานของพวกเค้าในไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะมาถึงหลังจากที่เราทั้งสามจบมหาลัย เรื่องทั้งหมดอาจจบเพียงเท่านี้และไม่ยืดเยื้อออกไปอีก ถ้าไม่มี ใครคนนั้น เห็น ไดอารี่สีฟ้า ของฉัน
ไดอารี่ที่เปลี่ยนผันชีวิตของคนทั้งสาม
. .. นั่นเป็นช่วงเวลาเดียวที่ฉัน ส้มโอ และธัณเพิ่งได้งานทำที่เดียวกัน หลังจากที่พวกเราจบจากมหาลัย และพิธีงานศพครบร้อยวันของพ่อแม่ของฉันซึ่งท่านเสียชีวิตไปอย่างกระทันหันจากอุบัติเหตุ
พรุ่งนี้พวกเราไปค้างบ้านเธอนะจ๊ะ น้ำหวาน
อืมม์จ่ะไว้ฉันจะไปเตรียมห้องให้นะ ฉันตอบส้มโอหลังจากที่เธอเอ่ยปากขอ เพราะเธออยากให้ฉันช่วยเลือกของที่ละลึกกับการ์ดแต่งงาน
ถึงฉันจะรู้ตั้งแต่แรก ว่ารักแรกของฉันไม่มีทางที่จะสมหวังได้ แต่วันนี้คนที่ฉันรักทั้งคู่จะมาที่บ้านของฉัน ฉันไม่ขอให้ธัณเค้ารักฉัน ฉันขอแค่ฉันมีลมหายใจที่จะรักเค้าต่อไปก็เพียงพอแล้ว
สายลมเย็นๆแผ่วเบาพาดผ่านมายังภายในบ้านที่เปิดหน้าต่างบานใหญ่หลายบานเปิดรับ แสงแดดสีส้มแสดกระทบกับต้นไม้ที่ฉันฝังปุยอยู่ ฤดูหนาวอันใกล้นี้คงจะอีกไม่นานแน่ ฉันคิดขณะที่เพื่อนสนิทของฉันมาพร้อมกับว่าที่สามีของเธอ
พวกเราทั้งสามต่างพูดคุยเล่นกันจนดึก โดยที่ลืมไปเลยว่าฉันต้องเลือกของที่ละลึกให้คนที่สองที่อยู่ตรงหน้าฉัน
เดี๋ยวมานะส้มโอ ขนมที่ฉันทำไว้ใกล้สุกแล้วล่ะ ฉันพูดเมื่อได้กลิ่นหอมกรุ่นๆ ของขนมที่ฉันทำไว้โชยมากลบกลิ่นเลม่อนอ่อนๆในห้องนั่งเล่นนั่น ก่อนที่จะเดินลับตาชายหญิงคู่นั้นไปโดยที่ไม่เอะใจเลยว่า ฉันลืม ไดอารี่สีฟ้า วางอยู่บนเก้าอี้ของฉัน .. .
และนั่นคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้พูดกับ ส้มโอ
บางสิ่ง อยู่บนอุ้งแขนของธัณที่กำลังอุ้มอยู่ ร่างหญิงสาวในชุดอยู่บ้านที่ฉันรู้จักดีนอนแนบนิ่ง แม้ว่าบนร่างของ บางสิ่ง ที่ธัณอุ้มอยู่จะมีคราบสีแดงสดหยดลงมาพร้อมๆกับน้ำฝนที่ยังคงติดตัวผสมอยู่ แต่ฉันก็มั่นใจว่าเธอนั้นคือ ส้มโอฉันรู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ขึ้นมาทันทีแม้ว่าฉันจะลืมเลือนมันไปนานแล้วก็ตาม
ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นมันกัดกินใจฉันเรื่อยมาจนทุกวันนี้ ฉันไม่อาจทำให้ใจของฉันรักธัณได้แม้ว่าฉันอยากจะอยู่ใกล้เค้ามากเพียงใด เพราะสิ่งๆหนึ่งที่คั่นกลางระหว่างจิตใจของฉันที่มีให้กับธัณ นั่นคือ ส้มโอ ฉันจึงตัดสินใจ จากเค้าไป จากไปให้ไกล
ให้ไกลจาก .. รักครั้งแรกซึ่งจะเป็นรักครั้งสุดท้าย ของฉัน
ติดตามบทนำตอนต่อไป