ความทรงจำในสายฝน
เถ้าธุลี
วันนี้ฝนตกหนัก ฉันเปิดวิทยุฟังเพลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเพลงจบ เสียงหวาน ๆ ของดีเจก็พูดขี้น
" .........ตอนนี้ฝนตก เพลงที่ขอมามีแต่เพลงเศร้า ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ เคยคิดบ้างมั้ยคะ ว่าเวลานี้ บรรยากาศอย่างนี้ มันทำให้คิดถึงบรรยากาศในวันเก่า ๆ ทั้งที่สุข และทุกข์ เหมือนกับการย้อนเวลากลับไป...."
วันเก่า ๆ เหรอ อดีต คงไม่จำเป็นต้อง สุข หรือ ทุกข์เสมอไปหรอก สำหรับฉัน เหตุการณ์ที่ยังติดอยู่ในใจฉัน .... มันคือคำถามแค่ประโยคเดียว...
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
วันนั้นฝนตกหนัก หนักกว่าวันนี้ซะอีก ฉันเดินกางร่มอยู่ท่ามกลางนักเรียนมากมายที่กลับจากการประชุมรอบเย็น เดินเบียดเสียดกันบนถนนแคบ ๆ และก็มีหลายคนที่ไม่มีร่ม กำลังวิ่งฝ่าฝนไปแบบไม่มองหน้าใครเลย จะเรียกใครมาเดินด้วยกันในร่ม เสียงฝนก็ดังจนเพื่อนไม่ได้ยินเสียงฉันเรียก
ท่ามกลางคนมากมายนั้น มีใครคนหนึ่งวิ่งแซงจากด้านหลังมา ยืนอยู่เยื้อง ๆ ฉันไปข้างหน้า ฉันหันไปดู...นั่นคือ เขา เขาที่ทำให้ใจฉันเต้นแรงเสมอ ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปแตะเขา ให้เขาเข้ามาในร่ม แต่..มือฉันก็ชะงัก ถูก ..ที่เขาเป็นคนที่ฉันชอบ แต่เขาก็เป็นคนที่เพื่อน ๆ ล้อกันว่าเป็นแฟนกับฉัน
ในขณะนั้น ใจฉันมันกำลังทำสงครามกันเอง--เรียก ไม่เรียก เรียก ไม่เรียก-- ใจหนึ่งฉันกลัวว่าเค้าจะไม่สบายเพราะตากฝน อีกใจ ฉันก็กลัวถูกเพื่อน ๆ ล้อ ซึ่งทำให้ทั้งฉันและเขา ยิ่งไม่ค่อยพูดกันอีก ...................
ฉันคงคิดนานไป พอรู้สึกตัวอีกที เขาก็กลืนหายไปกับผู้คนซะแล้ว รู้สึก..แปลก ๆ ทั้งโล่งใจ เสียดาย และ..รู้สึกผิด เล็ก ๆ
ฉันเดินคนเดียวไปจนถึงห้องเรียน เห็นเขานั่งคุยอยู่ในกลุ่มเพื่อนของเขา เนื้อตัวเปียกโชก เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี๊คนที่ยืนข้างหลังเขาเป็นฉัน
รุ่งเช้ามาเขาร่างกายปกติดี ฉันก็โล่งใจ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
เสียงเพลงจบไปอีกเพลงแล้ว ฝนก็เริ่มซาลง ทุกครั้งที่ฝนตก แม้เขาคนนั้นกับฉันจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แม้ตอนนี้ ฉันจะรู้สึกกับเขาแค่เพื่อน แต่ใจฉันยังคงมีคำถามอยู่ตลอด ... วันนี้ก็เช่นกัน ที่ฉันยังนั่งมองฟ้า มองฝน พร้อมกับถามตัวเองอย่างที่เคยถามมาตลอดว่า...
' วันนั้น เราควรจะเรียกเค้าเข้ามาในร่มรึเปล่านะ? '