Feeling part 3 : สงสาร

จากความฝันสู่ความจริง

ตอนที่3 : สงสาร
     ผมเดินออกจากห้องเรียนด้วยความเบลออย่างมากคงเป็นเพราะเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย 
     นายเป็นอะไรไปวะ เอก ชิดเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
     นั้นซิเราก็เห็นนายเผลองีบตั้งหลายหน วิทย์เข้ามาถามด้วยเช่นกัน
     เมื่อคืนเราอ่านตำราหนักไปหน่อยนะ ไม่เป็นอะไรมากหรอก
     อย่าหักโหมมากไปนะเอก เดี๋ยวไม่สบาย วิทย์บอกด้วยความเป็นห่วง
     งั้นเราไปยืดเส้นยืดสายหน่อยดีไหมละ ก็เล่นกีฬาไง เจ้าชิดเป็นคนออกความเห็น
     พวกเราเลยตัดสินใจว่าเราจะไปเล่นฟุตบอลกัน ที่จริงฟุตบอลกับผมก็ไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไร แต่เนื่องจากในสมัยมัธยมผมมีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลห้องด้วย ซึ่งทำให้ผมได้ฝึกซ้อมและมีทักษะอยู่พอสมควร พวกเราลงไปเล่นกับรุ่นพี่ ซึ่งเล่นอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่วิทย์สิทำอย่างไรก็ไม่ยอมลงไปเล่น เพราะเขาเคยโดนลูกฟุตบอลกระแทกที่ศีรษะจนต้องเข้าโรงพยาบาล วิทย์นั่งอยู่ข้างสนาม เล่นไปได้สักครึ่งชั่วโมง หันมาอีกทีเจ้าวิทย์หายไปไหนไม่รู้พวกเราคิดว่าคงไปเดินเล่นมั้ง พอเล่นเสร็จก็มานั่งพัก เจ้าวิทย์วิ่งมากระหืดกระหอบและบอกว่า
     เอก ชิด พวกนกเล่นแบตมินตันที่สนาม
     จริงเหรอ เฮ้ย เอกไปเร็ว เจ้าชิดกระชากพวกเราสองคนให้ไป
     แล้วเราทำไม ไม่ซื้อน้ำไปฝากละ ผมพูดเปรยๆออกมา
     ความคิดดีนี่ เอก
     พวกเราเลยรีบไปซื้อน้ำกับป้าอิ่ม พนักงานประจำสหกรณ์ของมหาลัย และรีบตรงไปยังสนามแบตมินตัน ปิ่นและเพื่อน กำลังจะเลิกอยู่พอดี
     อ้าว เอก มานานยัง
     พึ่งมา พอดีผ่านมาเลยซื้อน้ำมาฝาก
     ขอบใจนะ เอก 
     แล้วปิ่นก็รับน้ำไปกิน ส่วนเจ้าชิดวิ่งไปหาจ๋อมเลย จ๋อมก็รับน้ำไปกินอย่างสดชื่น แต่เจ้าวิทย์นั้นกล้าๆกลัวที่จะเอาน้ำไปให้กับนก พอนกมองดูท่าทางของประวิทย์ ก็ทำหน้าเบื่อๆ และเดินออกไปจากสนามแบ็ดมินตั้น
     ปิ่น จ๋อม เราไปก่อนนะ เบื่อคนแถวนี้นะ
     แล้ว นกก็มองไปยังประวิทย์และหัดหน้ากลับพร้อมกับเดินไปเลย ผมกับปิ่นมองหน้ากันและหันไปหาชิด ซึ่งทั้งชิดและจ๋อมก็หันมาเช่นกัน พวกเราทุกคนคงรู้สึกเดียวกันว่า ประวิทย์น่าสงสาร ที่จริงนกก็ไม่น่าจะทำยังงั้น แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เพราะเราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้ ก็ได้แต่ถอนใจนะแหละ
     กลับกันดีกว่านะ ปิ่นชวนพวกเรากลับ ซึ่งมีความรู้สึกเหมือนกันกับพวกเรา
     ดีเหมือนกัน งั้นตอนกลับเราแวะร้านขายไอติมไหม เจ้าชิดพูดแล้วก็หันไปหาจ๋อม
     ก็ได้ แต่ชิดเป็นคนเลี้ยงนะ จ๋อมพูดแนวเล่นๆกับชิด
     โอเค ไปกันเลยไป งั้นเดี๋ยวเป็นเจ้ามือเอง
     พวกเราก็เลยเดินไปยังร้านไอติมหน้ามหาวิทยาลัย ที่จริงเจ้าชิดมันก็ไม่ได้รวยซักเท่าไหร แต่เนื่องจากพ่อเจ้าชิดประกอบอาชีพขายที่ดิน ทำให้ช่วงเมื่อสองสามปีที่แล้วได้กำไรมาจากการขายที่ดิน เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ที่ดินราคาสูง เดือนหนึ่งพ่อของเจ้าชิดก็จะส่งเงินเข้ามาทางบัญชีของเจ้าชิดเอง ตอนนี่คงได้เป็นหมื่นแล้วมั้งผมคิดว่านะ พวกเรากินไอติมกันไปคุยกันไปสนุกสนานทำให้พอจะลืมเรื่องแย่ๆเมื่อกี้ได้ 
     พอกินกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กลับหอพักกัน ผมกับเจ้าชิดก็เดินกลับด้วยกันอีกตามเคย ระหว่างทางผมกับเจ้าชิดแวะร้านหนังสือ กำลังใจ ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่พอๆกับร้านหนังสือในกรุงเทพ โดยมีพี่สิน เป็นคนดูแลร้าน
     เอ้า! เอกเป็นไงบ้างช่วงนี้ไม่ค่อยแวะร้านพี่เลย
     ไม่ค่อยว่างครับพี่ งานส่งอาจารย์เพียบเลยพี่
     หวัดดีครับพี่สิน เจ้าชิดเข้าไปหาพี่สิน
     หวัดดีจะ นี้เพื่อนเอกหรือ ชื่ออะไรจ๊ะ
     ชื่อชิดครับ
     เออพี่สินตอนนี้มีหนังสืออะไรบางละพี่
     ก็มีเกี่ยวกับนิยายนะ และก็มีหนังสือเกี่ยวกับบทกลอนตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม มากเลยนะ เอก จะลองเอาไปอ่านสักเล่น สองเล่มไหม
     ก็ดีพี่ พี่ช่วยเลือกให้หน่อยซิครับ
     เดี๋ยวนะ แล้วพี่สินก็ลงไปหาหนังสือใต้เคาน์เตอร์ ผมก็เลยมองไปรอบๆ ร้าน และก็ไปสะดุดตรงหนังสือเรื่อง ความลับ
     พี่สิน เรื่องความลับ เป็นเรื่องแนวไหนหรือพี่
     ก็เป็นเรื่องของผู้เขียนที่แอบรักผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาไม่กล้าบอกเธอจนสุดท้ายเธอและเขาก็ต้องจากกันนะ เอกสนใจเหรอ
     เปล่าครับพี่
     เอ้า เอกนี้ไงหนังสือที่พี่บอก มันเป็นหนังสือแนวเป็นกลอนซึ่งตอนนี้
วัยรุ่นชอบกันมาก
     ไหนขอดูหน่อยครับพี่
     ผมลองเปิดอ่านทีละหน้าๆ ผมรู้สึกถูกใจหนังสือเล่มนี้มาก มันดูเหมาะกับอารมณ์ของตอนนี้ เพราะตอนนี้ผมกำลังหลงรักปิ่นเลยทีเดียว
     เล่มนี้ราคาเท่าไหรหรือครับ
     55 บาท จ๊ะ แต่เดี๋ยวพี่ลดให้นะ
     พี่สินลดให้เหลือ 50 บาท ผมกับเจ้าชิดก็ลากันกลับบ้าน เพราะตอนนี้ก็เย็น
มากแล้ว ผมกลับมาถึงหอ ก็ลงไปอาบน้ำและก็ขึ้นมาที่ห้อง มานั่งอ่านหนังสือเล่มที่
ผมซื้อมาที่เตียง มันเป็นหนังสือรวมกลอนไว้สำหรับส่งเพ็จ บางที่อ่านไปรู้สึกเอียนกับความหวานของบทกลอนแต่ก็ยังคงอ่านต่อไป สงสัยเพราะอารมณ์ผมกับหนังสือมันตรงกันละมั้ง
     หลังจากเรียนมาจนถึงครึ่งปีแรกก็รู้สึกว่าอะไรก็ดูดีไปหมด มองดูอะไรก็สวยงามคงเป็นเพราะความรักทำให้ผมเป็นยังนี้ แต่ก็ไม่เหมือนเจ้าชิดที่เกิดเรื่อง เพราะตอนบ่ายของวันที่มีการส่งรายงานผมไม่เจอเจ้าชิดแต่เช้า แต่พอเดินไปได้สักครู่ก็เจอเจ้าชิด
     ตอนผมเห็นเจ้าชิด ผมแทบจำมันไม่ได้ ดูมันทำหน้าเศร้าๆยังไงไม่รู้ 
     เป็นอะไรไปวะ ชิด
     ไม่มีอะไรหรอกวะ เจ้าชิดคงพยายามตอบอย่างเลี่ยงๆ
     เฮ้ย ปกตินายไม่เป็นยังงี้หนี่หวา อกหักมาหรือไง
     ผมแหย่มันไปเล่นๆ เพราะคิดว่าคนอย่างเจ้าชิดคงอกหักไม่เป็น หรือไม่ถ้าอกหักมันก็คงไม่รู้สึกสะเทือนอะไรมากแต่มันกลับหันหน้ามาและเริ่มทำถ้าเหมือนจะร้องไห้ ทำตาแดง ผมเห็นถ้าจะพูดถูกใจดำมันซะแล้วแฮะ
                   ***********************************************				
comments powered by Disqus
  • somebody

    2 ตุลาคม 2545 18:21 น. - comment id 66571

    โอ้   ผมจะติดตามอ่านคราบบบ   เก่งๆๆๆ   หนุกกก
  • พี่แอน

    11 ตุลาคม 2545 17:22 น. - comment id 66677

    พี่มาอ่านแล้วนะจ๊ะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน