เสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ ( ตอนที่ 17 )
สุชาดา โมรา
ตั้งแต่มีพี่เบลวมาเป็นคนปลอบใจฉันอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีที่พึ่งทางใจมากยิ่งขึ้น บ่อยครั้งที่ฉันมักจะชวนกันไปทำบุญเพื่อที่จะให้จิตใจสงบ และบ่อยครั้งที่ฉันจะนัดพี่เขาไปเที่ยวด้วยเสมอ ๆ จนทำให้ฉันและพ่อแม่ของพี่เขาเริ่มสนิทกันมากขึ้น แต่ฉันก็ไม่เคยเล่าเรื่องราวอะไรให้พ่อแม่เขาฟังนักหรอกเพราะมันทำให้ภาษีเราไม่ดี
ครั้งนี้เป็นการแข่งยูโด ฉันไปในฐานะกรรมการผู้ตัดสินข้างสนามพี่เบลวไปแข่ง ฉันคอยลุ้นอยู่ตลอดจนพี่เบลวเขาชนะได้ถึงสามคนจึงได้สายเขียวมาครอง ฉันดีใจมากทีเดียว
ช่วงนี้เราค่อนข้างสนิทกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน ไม่มีใครคิดหรอกว่าเราเป็นแฟนกันเพราะลักษณะเราเหมือนกับพี่น้องกันมากกว่า ครั้งต่อไปเป็นการแข่งยูโดชิงถ้วยพระราชทานซึ่งครั้งนี้ฉันต้องไปแข่ง แต่ก่อนไปแข่งฉันก็ได้ไปคัดสายที่จรัญสนิทวงศ์ โรงเรียนบูรณวิทย์ ฉันเข้าร่วมชั่งน้ำหนักและวอร์มร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อม สายครั้งนี้เป็นสายที่สำคัญกับฉันมากเพราะนี่เป็นสายน้ำตาลปลายดำ ฉันต้องแข่งให้ชนะถึง 8 คนเพื่อที่จะได้สายมาครอง แต่ทว่าจู่ ๆ อาจารย์ดนัยซึ่งเป็นกรรมการที่ไปตัดสินที่นั่นก็เอาประกาศนียบัตรสายดำมาให้ฉัน นี่เป็นประกาศนียบัตรมาจากกองทัพอากาศ ฉันดีใจมากที่สิ่งที่ฉันทำเพื่อประเทศนั้นมีความหมายและความสำคัญถึงเพียงนี้...
ฉันจึงไม่ต้องแข่งคัดสายแล้ว ส่วนพี่เบลวก็มาคัดสายฟ้า พี่เขาเป็นคนเก่งหัวไวสอนอะไรก็เป็น อาจารย์หลาย ๆ ท่านก็มาเทรนพี่เขาจนพี่เขาแกร่ง เก่งและฟิตมากทีเดียว ครั้งนี้พี่เขาแข่งได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ คู่ต่อสู้เป็นคนของกองทัพอากาศ แต่พี่เบลวก็สามารถชนะมาได้ด้วยท่าพื้นฐานอย่างโมโนเตะ-เซโออินาเงะ และก็สู้กับคนภายนอกอีกอย่างมหิดล พระจอมเกล้า พระมงกุฎในชุดสีน้ำเงินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นั่น และของนอกสังกัดอีก จนได้สายฟ้ามาครอง
ที่จริงพี่เบลวเข้ามาเล่นยูโดเพียงไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็สามารถทุ่มได้ ต่อมาอีก 3 วันก็สามารถคว้าสายเขียวมาครองได้ และใช้เวลาอีก 1 เดือนก็สามารถคว้าสายฟ้ามาครองได้นี่ก็ไม่ธรรมดาเสียแล้ว พี่เขาเก่งจริง ๆ แถมยังเป็นคนดีอีกต่างหาก เหตุครั้งนี้จึงทำให้พี่เขาด้ฉายาในวงการว่าเป็นเจ้าชายวายุ หมายถึงรวดเร็วมากในการได้สาย ต่อมาพี่เขาก็ได้ไปแข่งอีกหลายครั้งจนได้เป็นนักกีฬาเขตการศึกษา 6 ไม่ว่าพี่เขาจะเก่งแค่ไหนแต่พี่เขาก็ไม่เคยลืมฉันเลย พี่เขายังเป็นที่ปรึกษาให้ฉันเสมอ ฉันรู้สึกดีใจมากที่มีพี่เขาคอยเอาใจใส่และเป็นที่พึ่งในยามท้อแท้ได้
............................................
ฉันไปแข่งยูโดชิงถ้วยพระราชทานที่ ม.รามคำแหง1อีกครั้ง คราวนี้มีพี่เบลวมาแข่งด้วย ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาแข่ง แต่ก็รู้สึกว่าเจนสนามเสียแล้ว ครั้งนี้ไม่ตื่นเต้นมากนัก คราวนี้แข่งประเภททีม มีพี่เจี๊ยบ ฉัน และพี่นก เราแข่งมาจนถึงคู่สุดท้ายก่อนที่จะชิงถ้วยและเหรียญทองไปครอง ฉันเป็นมือที่สามทำให้แรงกดดันมาอยู่ที่ฉันคนเดียว คู่ต่อสู้ค่อนข้างแกร่งและมีฝีมือ โดยเฉพาะที่เป็นเจ้าภาพแล้วยิ่งน่ากลัวใหญ่ เพราะใคร ๆ เขาก็ล่ำลือว่า ม.รามนี่มีฝีมือในการเล่นยูโดมากที่สุด ฉันรู้สึกกลัว ๆ เหมือนกันแต่ก็ยังถือคติเดิมว่าจะสู้....สู้ ๆๆๆๆๆๆ....
"ฮาจิเมะ.........!!!"
ฉันเดินเข้าๆไปหาจังหวะคู่ต่อสู้ ฉันค่อนข้างมีสมาธิที่ดี จนกระทั่งฉันหาจังหวะได้และเข้าท่าทุ่มทันทีแต่คู่ต่อสู้เก่งมากพลิกตัวกลางอากาศทำให้ฉันไม่ได้คะแนนในจุดนี้ ฉันจึงพยายามเข้าไป รุกเข้าไปทุ่มอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จอีกจนกระทั่งหมดเวลา ฉันเจอคู่ต่อสู้ที่เป็นยอดของนักยูโดเข้าให้แล้ว... กรรมการสั่งให้เสมอกัน แต่ยังไง ๆ ทีมของฉันก็ชนะเพราะเราชนะมาถึง 2 คนแล้ว ทีมของฉันจึงได้ถ้วยและเหรียญไปครองอย่างไม่คาดฝัน ส่วนทีมของพี่เบลวนั้นก็ได้เหรียญทองและถ้วยมาครองเช่นกัน
ขากลับฝนตกกระหน่ำ รถกระบะต่อแคบใช่ว่าจะกันฝนได้ ฉันนั่งหนาวจนอาจารย์จอดรถและเอาผ้าใบมาบังฝนให้ จากนั้นก็ขับต่อไปอีก ฉันง่วงมาก ดึกก็ดึกไม่รู้จะทำยังไงดี พี่เบลวอยู่ใกล้ ๆ ฉันก็เลยขอร้องเขา
"พี่เบลวขอร้องอะไรหน่อยได้ไหม"
"อะไรเหรอ..."
"ง่วงแล้ว ขอหนุนตักหน่อยนะ"
ฉันไม่ทันได้ฟังว่าพี่เขาอนุญาติหรือเปล่า แต่ที่รู้ ๆ คือตักพี่เขานุ่มมากไม่เหมือนตักผู้ชายเลย แต่เสียอย่างเดียวนอนลำบากไปหน่อยฉันเลยขดตัวขึ้นมานอนบนม้านั่งแล้วก็หลับยาวจนกระทั่งอาจารย์มาจอดรถที่ปั๊มแห่งหนึ่ง
"ดาว ๆ ตื่น ๆ ๆ"
ฉันเงยหน้ามาอย่างัวเงียแล้วก็ลงมาเข้าห้องน้ำ จากนั้นจึงเข้าไปซื้อมาม่ามาคัพมากินบนรถเพราะเมื่อหัวค่ำก่อนออกมาจาก ม.รามนั้นยังไม่ได้กินข้าวกันเลย มาม่ามื้อนี้จึงอร่อยที่สุดเลย พอกินเสร็จก็ขึ้นรถ ฉันก็ยังตู่ขอนอนตักพี่เขาอยู่ดี ทำให้พี่เก้าและพี่ต้นเพื่อนของพี่เบลวต้องแซวอยู่หลายครั้ง ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ที่รู้ ๆ คือฉันนอนหลับยาวจนรถมาจอดที่สมาคมฯตอนตี 4 ได้
"ดาว ๆ ตื่นได้แล้วถึงแล้ว"
ฉันเงยหน้ามาอย่างงัวเงีย พี่เบลวพาฉันลงมาจากรถฉันจึงมานั่งหลับอยู่ที่ศาลาของสมาคมฯ พี่เบลวโทรให้พ่อเขามารับ พ่อของพี่เบลวจึงมาส่งฉันที่บ้าน ที่บ้านเป็นห่วงฉันมากรอฉันทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน แต่พอฉันกลับมาทุกคนก็ดีใจแล้วก็เข้านอน คืนนี้ฉันไม่อาบน้ำแล้วขอเข้านอนเลยดีกว่าเพราะง่วงมากเลย
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้นะคะ
...ช่วยเป็นกำลังใจให้กันหน่อยนะคะ...