llllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllll lllllllll รอยวัน llllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllll llllllllll ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ รอยวรรณ เป็นชื่อของผู้หญิงที่ผมชื่นชมมาตั้งแต่เรียนชั้น ป.1 เธอเรียนเก่งมาก อ่านเขียนคล่องและพูดจาฉาดฉานที่สุดในห้อง ตาที่โตและคมสะกดทุกคนให้อยู่ในอำนาจได้ไม่ยาก เพื่อนในห้องไม่มีใครกล้าทำทียียวนกวนเธอสักคน แม้เจ้าหมอที่เกเรที่สุดในห้อง ก็ยังยกเธอไว้หนึ่งคน บักไข่เขียด มึงจะให้กูลอกไหม ถ้ามึงไม่ให้กูลอก ตอนเย็นมึงเจ็บตัว นั่นเป็นคำที่ไอ้เกมันขู่ผมอยู่ทุกบ่อย ผมเคยเจ็บตัวเพราะโดนพรรคพวกของมันรุมอยู่สองสามหนจึงไม่อยากมี เรื่องกับไอ้เกอีก เมื่อทำงานเสร็จผมก็ยอมให้มันลอก และในใจก็คิดว่าไอ้หม-เอ๊ย มึงกินแรงกูเสียจริงๆ ถ้ากูโตเท่ามึงกูไม่ปล่อยให้มึงรังแกอย่างนี้หรอก ทุกครั้งที่ผมโดนรังแก คนที่แสดงความเห็นอกเห็นใจมีรอยเพียงคนเดียว เพื่อนคนอื่นๆ มองดูตาปริบๆ เหมือนดูการแสดงสนุกๆ หนหนึ่งไอ้เกมันเอาทรายแห้งๆถูหน้าผม มันว่าแป้งยี่ห้อของมันเป็นแป้งชั้นยอด มันแกล้งผมเพราะมันอับอายเสียหน้าที่ครูชมผมกับรอยว่าอ่านหนังส ือเก่ง แต่มันอ่านไม่ออก ไอ้เกมันเก่งทางใช้กำลังข่มเหงคนทั้งโรงเรียน มันอยากได้ดินสอของใครมันขู่เอาได้ทั้งนั้น ไม่มีใครกล้าฟ้องครู นอกจากอ้ายไข่เขียด ฉายาที่มันตั้งให้คนผอมขี้โรคเช่นผม หนนั้นรอยเป็นคนแอบเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ผม โดยที่พวกนั้นไม่รู้ ผมมากกว่าชื่นชมรอยเสียแล้วตั้งแต่วันนั้น เฮอะ..ความรักของเด็กป.1 แหละเอ๋ย.. OOOO รอยวรรณเรียนถึงชั้น ป.2 ก็ย้ายไปเรียนที่อื่น ทิ้งให้อันดับ 2 อย่างผมให้ขึ้นมาเป็นที่ 1 แทน ห้องเรียนของผมยุ่งเหยิงขึ้น ด้วยผมเป็นหัวหน้าที่ไม่มีใครฟัง ตอนครูอยู่ไอ้เกมันก็เงียบล่ะแต่พอครูไปธุระมันก็โวยวาย ในโรงเรียน สมุด ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด หายบ่อยมาก แม้แต่สมุดดินสอสำหรับแจกที่ครูเก็บในลิ้นชักยังโดนคนงัดเอา ผมรู้และผมเห็นว่า ไอ้เกนั่นแหละเป็นคนออกอุบายให้สมุนของมันปีนห้องพักครูไปงัดเอ าในวันหยุด เมื่อครูสืบว่าใครขโมยครูก็มารู้จากผมที่กล้ายืนยันว่าเห็นใครข โมยและมันเอาของพวกนั้นซ่อนไว้ที่ไหน ครูให้ไอ้เกกับพวกพาไปเอาของกลางได้คืนมาจนเกือบหมดและเชิญผู้ป กครองของพวกนั้นมาทำทัณฑ์บนด้วย การคบกันเป็นเพื่อนระหว่างผมกับไอ้เกก็เป็นอันสิ้นสุดลงแต่นั้น เพราะมันกับพวกดักต่อยผมทุกวันหลังเลิกเรียน ผมแพ้บ้างชนะบ้างเพราะพวกนั้นเปลี่ยนหน้ากันมาดวลกำปั้นกับผม ไอ้เกมันไม่ยอมเปลืองตัวมาแลกหมัดกับผมหรอก มันฉลาดที่จะใช้อำนาจเสียงของมันขู่ให้คนอื่นเจ็บตัวแทนมันได้ ไอ้ไข่เขียด ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัวอีก มึงสงบปากคำดีกว่า คราวนี้คนที่พูดคำนี้ไม่ใช่ไอ้เก แต่เป็นนักเรียนชั้นป.6 ชั้นสูงสุดของโรงเรียนในหมู่บ้าน ผมรู้ว่ามันคือหัวขโมยตัวจริง มันเคยลักเอาเงินของครูไป 200 บาท มันเคยลักไก่ของภารโรง และมันเคยลักอ้อยของบ้านที่อยู่ข้างโรงเรียนด้วย ไอ้เกก็เป็นลูกสมุนของมันอีกที ช่ายมึงเฉยไว้ดีกว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัว ไอ้เกก็ยังตามมาสำทับจนได้เมื่อมันเห็นว่าลูกพี่มันว่าอะไรผม ผมได้แต่อึ้ง แม้ไม่สะทก ก็อดหวั่นไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าครูใหญ่มาถามเอาความจริงจา กผมว่าใครเป็นหัวขโมยบ้างในโรงเรียนนี้ ถ้าเวล านั้นมาถึง บางทีผมอาจจะได้ไปจากเพื่อนขี้โกงและชอบรังแกเสียที ------------------------------------------------------------- ผมอยากตัวโตสูงใหญ่อย่างคนอื่น ๆ แต่มันก็เหมือนความฝันอยากบินโดยไม่มีปีกนั่นแหละ ผมพยายามโหนกิ่งไม้ทุกวัน หวังให้กระดูกยืดออกบ้าง ทั้งยังหัดต่อยเตะถุงใส่แกลบที่ผูกโยงจากคาคบไม้เพื่อให้เป็นมวยบ้างยามต้องต่อยตีป้องกันตัว บางหนผมยังลองเตะต้นกล้วยดูด้วยว่าฝีแข้งของผมคมแข็งปานใด และผมก็รู้แล้วว่ามันเจ็บ ระหว่างคนธรรมดากับนักมวย ถ้าแลกลำแข้งกัน คือโยนแข้งใส่กัน คนธรรมดาเจ็บกว่าแน่นอนเพราะไม่ได้ฝึกรับความเจ็บปวดให้ชิน เนื้อ - กล้ามเนื้อ-กระดูก และเอ็นของนักมวยนั้นไม่ได้ยวบอ่อนแบบของคนธรรมดาหรอก แต่แน่นเปรี๊ยะแข็งปั๋ง ในสถานการณ์ที่ถูกโยนแข้งหรือเข่าเข้าใส่ หากมีการตั้งรับที่เหมาะสมบางทีก็แทบจะพูดได้ว่า เจ็บแค่จิ๊บจ๊อยแบบมดแดงกัดนั่นล่ะมั้ง เมื่อรู้ความจริงนี้จากนักมวยที่อยู่บ้านข้างกันผมจึงมีกำลังใจที่จะประเคนแข้งใส่กระสอบแกลบ และสวิงซ้ายขวาใส่เป้านิ่งที่สมมุติเอาว่าเป็นหน้าไอ้เก ได้ทุกวัน ไม่อยากเป็นนักมวยหรือไอ้น้อง คนที่สอนผมเรื่องมวยถาม ผมกลัวโดนต่อยเตะครับ ใครจะมาเตะเราได้ง่ายๆ ถ้าเราเป็นมวย ผมไม่ออกเสียงเถียงเขา แต่ผมเถียงดังๆ ในใจว่า --อ้าวแล้วที่พี่แพ้น็อคหลับกลางอากาศน่ะมันอะไรหล่ะ ไม่ใช่เพราะลูกตีนโดนก้านคอหรอกหรือ และพี่ก็ว่าพี่เป็นมวยนี่นา-- นักมวยข้างบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่นในไม่นานนัก แต่ผมก็ไม่หยุดชกกระสอบ และโหนบาร์ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะโตอย่างน้อยก็เท่าไอ้เก มันจะได้ไม่กล้ารังแกผมอีก ------------------------------------------------------------------- ความขัดแย้งระหว่างผมกับไอ้เกมาแตกหักเอาตอนปลายปีของชั้น ป.4 ซึ่งครูประจำชั้นไม่ค่อยอยู่โรงเรียน ทำให้ผมต้องรับภาระเขียนกระดานแทนครูอยู่เสมอ ในชั้นนั้นไอ้เกจะคอยโวยวายว่าผมเขียนกระดานเร็ว เขียนมาก และพวกมันเหนื่อย ผมก็เขียนตามที่ครูบอกให้เขียนนั่นแหละ ถ้าพวกมันเหนื่อยผมก็ยิ่งต้องเมื่อยเพราะต้องเขียน 2 ครั้ง หนึ่งในกระดาน สองในกระดาษ เมื่อทางอำเภอออกมาทดสอบความรู้ เพื่อนของผมสอบตกเป็นแถว ก็จะไม่ตกได้อย่างไรเพราะผมเขียนให้ลอกเท่านั้นผมอธิบายให้ฟังไม่เป็น ผมไม่ใช่ครู-โธ่เอ๋ย ผมกับไอ้เกทะเลาะกันเรื่องจดกระดานอีก มันแย่งหนังสือไปจากผมแล้วเขวี้ยงลงกลางห้องและว่ามีครูสีดาคนเดียวก็น่าเบื่อพอแล้วยังต้องมาทนกับอ้ายครูไข่เขียดอีก เพื่อนหลายคนเฮ เข้าข้างไอ้เก ผมเก็บหนังสือขึ้นมามันถีบผมล้มลงไป มวยคู่เอกจึงได้ออกหมัดกันตรงนั้น ผลการชก หน้าของผมเป็นแผลยาวใต้ตาขามาจนถึงขากรรไกขวา เพราะโดนเล็บหัวแม่มือจากหมัดเหวี่ยงของไอ้หมอนั่น แล้วคู่ชกของผมเป็นไงมั่ง อ้ายนั่นลงไปนอนกุมเป้าเลย มันโดนหลังteenของผมเข้าที่กลางหว่างขานั่นเอง ผู้ปกครองของนักเรียนที่ตีกันโดนเรียกพบ ส่วนเด็กที่ตีกันไม่ได้เข้าฟังด้วย พ่อออกจากห้องครูใหญ่มาเงียบๆ และไม่พูดอะไรกับผมด้วย จนตอนเย็นหลังเลิกเรียนนั่นแหละผมจึงได้บอกความจริงกับพ่อ (มีต่อครับ)
6 กันยายน 2547 06:56 น. - comment id 76724
มาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนดี และจะเป็นกำลังใจอีกตลอดไปนะ
6 กันยายน 2547 11:40 น. - comment id 76733
:)
6 กันยายน 2547 18:52 น. - comment id 76743
สนุกค่ะพี่พงษ์
7 กันยายน 2547 08:50 น. - comment id 76767
มีความสุขมากค่ะกับงานชิ้นนี้ เหมือนชีวิตพุดบางบทตอนเลยค่ะ ขโมยซีนมาแน่ๆเลยค่ะอิอิ
7 กันยายน 2547 10:09 น. - comment id 76771
อ่านเรื่องงนี้แล้วทำให้นึกถึงเรื่องสมัยที่ตัวเองยังเด็ก ก็คล้ายๆยังนี้แหละ อ่านแล้วทำให้รู้สึกขำถ้าย้อนกลับไปอดีตได้ก็อยากย้อนกลับไปสักครั้งคงจะมีความสุขมาก จะรออ่านต่อไปนะจะ
7 กันยายน 2547 20:08 น. - comment id 76791
ขอบคุณครับคุณ)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( คุณtiki คุณมัท คุณพุด และคุณmee คุณพุดครับ ผมmail ที่อยู่ของผมถึงคุณแล้ว แนบfileใบหน้า ก.พ.ไปให้ดูด้วย ถ้ารบกวนอารมณ์ของคุณพุด ผมขอโทษด้วย ผมไม่ได้มีความประสงค์ในทางร้ายใดๆเลย เผื่อเจอกันกลางป่ากลางเขาจะได้ทักทายเป็นเพื่อนเดินทางกันได้ ตอนต่อไปจะลงให้อ่านเร็วๆ นี้ครับ
7 กันยายน 2547 22:36 น. - comment id 76792
รอยวัน(ต่อ) โดย ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ OOOOO เมื่อพ่อรู้ความจริงว่าอะไรคือแรงผลักเบื้องหลังให้ผมโหนบาร์ทุ กวันและเตะต่อยถุงแกลบทั้งเช้าและเย็น พ่อก็ไม่ขัดเมื่อผมขอไปสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนประจ ำอำเภอ ที่นี่เองที่ทำให้ผมได้พบรอยวรรณอีกครั้ง รอยวรรณสอบเข้าเรียนได้อันดับ 1 ส่วนผมได้อันดับ 7 เด็ก ป.5 อย่างผมเก้อเขินแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอคนที่ตัวเองปลื้มเข้าอี กครั้ง นี่คุณไข่เขียด กะจะทำเป็นจำรอยไม่ได้ใช่ไหมนี่ ปะ..เปล่า ครับ คุณรอย ผมจำคุณรอยได้ รอยคือเพื่อนที่ผมปลื้มที่สุด คำพูดเพราะ ๆ แบบนั้นพวกเราได้มาจากครูประจำชั้น ป.1 ในโรงเรียนหมู่บ้านนะครับ ทำไมทิ้งพรรคพวก มาเสียล่ะ เธอคงหมายถึงเพื่อน ๆ และไอ้เกด้วยมั้ง ต่อยตีกันทุกวันครับ พ่อเลยให้สอบย้ายเข้ามานี่ ผมดีใจนะครับที่ได้เจอคุณรอยอีก รอยก็เหมือนกันค่ะ ที่โรงเรียนใหม่เพื่อนใหม่ชั้น ป.5 มีตั้ง 4 ห้องเรียน เวลาเข้าแถวจึงยาวเฟื้อยแถวตรงเหมือนงูเลื้อย หลังพักเที่ยงก่อนขึ้นเรียนภาคบ่ายครูประจำชั้น จะมายืนพูดคุยให้สาระความรู้ทุกวัน ในชั้นเรียนครูประจำวิชาเปลี่ยนกันมาสอน ไม่ใช่คนเดียวสอนทุกอย่างอย่างโรงเรียนเก่าของผมอีกแล้ว อาจารย์ใหญ่มาสอนภาษาอังกฤษ ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่สอนเลข ครูประจำชั้นสอนภาษาไทย ครูฝ่ายปกครองสอนวิทยาศาสตร์ ทุกคนที่มาสอน เสียงดัง ฟังชัดทั้งนั้น แน่ล่ะนักเรียนก็ต้องพูดดังด้วย คงอยากให้เราพูดจาฉาดฉาน ชัดถ้อยชัดคำนั่นเอง เด็กชายไข่เขียด เธอพูดเบาไป เพิ่มอีกซัก สี่หลอดได้ไหม ครูสอนเลขบอกให้ผมพูดดังขึ้น เสียงเบาเหมือนเขียดครางเลย อ้ายหมอนี่ เพื่อนใหม่ - ตัวใหญ่ นั่งข้างหลังผมพูดเหมือนจงใจให้ผมได้ยิน คนทั้งห้องหัวเราะขึ้นพร้อมกันเหมือนขบขันเหลือแสนกับถ้อยขำของ เขา เงียบหน่อย พวกขี้กะตืกแปทั้งหลาย เสียงครูดุแบบกึ่งเล่นกึ่งจริง แต่เด็กทั้งห้องก็เงียบกริบลงฉับพลันทันที ทีเดียว ไข่เขียด เธอไปซื้อบุหรี่ให้ครูที เอาสามิต 14 หนึ่งมวนนะ รีบไปรีบมา ระวังรถด้วย ที่โรงเรียนหมู่บ้าน ครูประจำชั้นเรียกใช้ผมเป็นประจำ ในโรงเรียนประจำอำเภอ ครูสอนเลขก็เป็นคนแรกที่ประเดิมใช้ผมไปซื้อบุหรี่ที่ตลาดซึ่งห่ างออกไปถึง 500 เมตร ตอนออกจากห้องเรียนไปซื้อบุหรี่บรรดาเพื่อนๆของผมก็ยังเรียนบวก ลบคูณหารเลขอยู่ด้วย แล้วผมจะเรียนเข้าใจไหมล่ะ มันเข้าใจได้ก็เก่งพิลึกล่ะครับ อ้ายไข่เขียด มึงจะเป็นอ้ายคอยีราฟรึ ชะโงกหน้าไปดูเขาทำไม ครูสอนเลขดุว่าที่ผมหันไปลอกเพื่อนที่นั่งข้างกัน อ้าว ก็ครูให้ผมออกไปซื้อยาสูบ ไม่ลอกแล้วมันจะได้ส่งเอาคะแนนหรือ\" ผมเถียงในความคิด แต่การกระทำคือชะงักไปเลย ทำได้หรือทำไม่ได้ผมก็ไม่มีแก่ใจจะทำต่อเสียแล้ว มันเสียใจไงครับ เสียใจที่ได้ยินดุว่าผมเช่นนั้น มันอายด้วยแหละคุณเอ๋ย ผมเคยแต่ให้เพื่อนลอก คราวนี้ผมมาเป็นนักช่างลอกแบบไอ้เกเสียเอง อับอายแบบอยากดำดินหนีเลยแหละ ผมแทบจะไม่กล้าหันไปทางรอยเลย มันเหนียมเสียยิ่งกว่าเหนียมแล้วแหละคราวนั้น สิ่งที่หันไปแล้วเห็น...คือ รอยยิ้มของรอยวรรณที่ไม่เปลี่ยนแปลงครับ ยังเป็นยิ้มที่เจือไมตรีอันเฟื้อเฟื้อสำหรับผม เหมือนเช่นเดิม ถ้าหากรอยวรรณก็ยังยิ้มหยันเยาะเย้ยผมด้วยอีกคนหนึ่ง &nbs p; บางทีอ้ายไข่เขียดคงกลายไปเป็นมนุษย์ขวางโลกไปแต่วันนั้นแล้ว ไม่ดอกครับ หัวใจของผมจะแข็งกระด้างได้อย่างไร ในเมื่อผมได้รับสิ่งที่อ่อนหวานสดใสนั้นแล้วเต็มสองตาและหนึ่งก อบใจ (ยังมีต่อครับ)
8 กันยายน 2547 14:43 น. - comment id 76820
หวานจังค่ะตอนท้าย ๆ อบอุ่นนะคะพี่พงษ์
12 กันยายน 2547 10:09 น. - comment id 76913
คุณมัทครับ ตอน 2 มาแล้วคลิกไปอ่านได้เลย