ทรัพย์ธรนินทร์ (ตอนที่3)
สุชาดา โมรา
ต่อมาไม่นานนักคุณท่านก็ทราบเรื่องและไล่ให้คุณทั้งสามไปเป็นเพียงบ่าวท้ายครัวเท่านั้น คุณพยอมจึงโชคดีกลายเป็นที่รักของคุณท่านทันที
"แม่พยอมมานั่งใกล้ ๆ พี่สิพี่มีของมาให้"
คุณพยอมคลานเข้าไปใกล้ ๆ คุณท่านจากนั้นคุณท่านก็เอาสร้อยทับทิมออกมาคล้องคอคุณพยอม
"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ"
คุณพยอมก้มลงกราบแทบเท้า คุณท่านจึงพยุงตัวขึ้นมานั่นบนเตียง คุณพยอมจึงเรียนขอคุณท่านเรื่องพี่ ๆ ทั้งสามคน
"วันนี้วันเกิดอิฉันคุณพี่ให้ทับทิมเส้นนี้มาแต่อิฉันอยากจะขออีกเรื่องนึงเจ้าค่ะ"
"แม่พยอมจะขออะไรพี่ให้ได้ทุกอย่างเลย...บอกมาสิ"
"อิฉันอยากให้คุณพี่ยกคุณพี่ทั้งสามขึ้นมาเหมือนเดิมเจ้าค่ะเพราะคุณ ๆ ก็เป็นถึงลูกพระน้ำพระยาฉะนั้นถ้าใครรู้เข้าจะครหาได้นะเจ้าคะ"
คุณพยอมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
"อย่าพูดเรื่องนี้ได้ไหม.......!!!!"
คุณท่านโกรธทันทีเมื่อได้ยินคุณพยอมเอ่ยถึงเรื่องนี้แล้วก็เดินออกจากห้องไป คุณพยอมจึงวิ่งตามออกไปแล้วกอดขาคุณท่านเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เศร้า ๆ
"คุณพี่ลองคิดดูอีกทีนะเจ้าคะว่าถ้าคุณพระยาเขารู้ว่าลูกท่านทั้งสามคนลดตัวจากเมียกลายเป็นขี้ข้าในครัวเขาจะต้องโกรธและอาจจะทูลฟ้องได้นะเจ้าคะเพราะคุณหญิงเอี่ยมท่านเป็นข้าหลวงเก่าและยังเข้า ๆ ออก ๆ อยู่ข้างในตลอดเวลา คุณพี่มิเกรงบ้างหรือเจ้าคะ"
คุณท่านถึงกับหยุดคิดทันทีแล้วก็พยุงคุณพยอมกลับเข้าห้องไป....
พอเช้าคุณท่านก็เรียกบ่าวสองคนให้มาพบที่เรือนหลังเล็กของคุณพยอม
"อีอิ่มมึงไปตามอีสามคนนั่นมา..."
"สามคนไหนเจ้าข้า"
"นายมึงนั่นแหละ...ถามมากกูจักเอาหวายเฆี่ยนมึง นี่กูยังไม่ได้ลงโทษมึงนะอีอิ่ม"
นางอิ่มวิ่งเข้าครัวไปตามคุณทั้งสามมาทันทีเพราะกลัวคุณท่านจะเฆี่ยน พอคุณทั้งสามมาถึงเรือนคุณพยอม
"มาแล้วเหรอ...แม่พยอมเขาขอร้องข้าเอาไว้ข้าเลย หึ....!!!! มึงกลับมาเหมือนเดิมได้แต่มึงไม่ใช่เมียกู มึงต้องไปไถ่บาปด้วยการไปดูแลคุณผอบแก้วด้วย แล้วถ้าอีบ่าวสี่คนนั่นมันรังแกมึงกูก็ช่วยไม่ได้นะเพราะมึงทำกับมันไว้นี่"
คุณทั้งสามก้มลงกราบคุณท่าน แต่คุณท่านชักเท้าหนีแล้วก็เดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างหงุดหงิด คุณท่านก็โกรธที่คุณทั้งสามไปทำร้ายคุณผอบแก้วเมียรักของท่าน แต่ท่านก็รักคุณทั้งสามเหมือนกันท่านจึงทำท่าโกรธไปอย่างนั้นเอง
"คุณพี่...มืด้านหมดแล้วโถ่..."
"ขอบใจนะแม่พยอมพี่คิดอยู่แล้วว่าหล่อนต้องช่วยพี่"
คุณทั้งสามจึงรุมกอดคุณพยอมด้วยความรัก เพราะคุณทั้งสามก็ไม่มีลูกเนื่องจากก็อายุมากแล้วจึงมีความรู้สึกว่ารักคุณพยอมมากและยิ่งคุณพยอมช่วยพูดให้คุณท่านลดโทษให้คุณทั้งสามก็ยิ่งรักคุณพยอมมากเข้าไปใหญ่
1 เดือนผ่านไป
"อวก....อวก...อวก....!!!!"
"คุณพยอมเป็นอะไรเจ้าคะ...หรือว่า"
เสียงบ่าววิ่งกระหืดกระหอบมาที่เรือนหลังใหญ่ด้วยสีหน้าเลิกลัก
"มาทำไมอีอิ่ม....กูถามมึงไม่ได้ยินหรือ"
"ไม่ใช่เรื่องของมึงอีมา กูจักมาเรียนคุณท่าน"
"คุณคนไหนล่ะมีหลายคุณ"
"มึงอย่ามากวนตีนกูนะ ถอยไป...."
นางอิ่มใช้รูปร่างอ้วน ๆ ผลักนางมาจนตกบันไดไปแล้วก็ขึ้นไปหาคุณท่านที่บนเรือน
"มึงมาทำไมอีอิ่ม...เรือนของมึงอยู่นู่น....!!!!"
อิ่มถึงกับทำหน้าเสียเมื่อเห็นคุณผอบแก้วออกมานั่งที่นอกชานแล้วก็ชี้ไล่อิ่มไม่ให้มาที่นี่
"มีอะไรหรืออิ่ม"
"คุณโสภี...คือคุณพยอมเธอไม่สบายเจ้าค่ะบ่าวก็เลยมาตามคุณท่าน"
"ไม่สบายก็ไปหาหมอสิมาเรียกท่านให้ปวดหัวทำไม"
"คุณแม่คะพยอมก็เป็นเมียคุณพ่อนะเจ้าคะคุณแม่น่าจะอนุโลมบ้าง ทีคุณแม่ยังอยากให้คุณพ่อมาดูแลในยามป่วยเลยแล้วทำไมพยอมจะให้คุณพ่อไปดูแลไม่ได้ อย่าลืมสิคะพยอมไม่เคยทำร้ายคุณแม่นะเจ้าคะ... และอีกอย่างพยอมก็เป็นเพื่อนลูกที่โรงเรียนด้วย เป็นถึงลูกเสนาบดีคุณแม่จะใจร้ายไม่ให้คุณพ่อไปได้อย่างไรกัน"
คุณพยอมถึงกับอึ้งแล้วก็ให้นางอิ่มเข้าไปพบคุณท่านที่ในห้อง นางอิ่มกระซิบที่ข้างหูคุณท่านเบา ๆ ต่อหน้าเมียบ่าวหลายคนที่กำลังบับนวดให้คุณท่านอยู่ คุณท่านถึงกับทำตาโตแล้วก็วิ่งกระหืดกระหอบมาที่เรือนหลังเล็กของคุณพยอมทันที
"เป็นอย่างไรบ้างแม่พยอม แพ้มากไหม"
คุณพยอมยิ้มแล้วก็ทำท่าเขินอายคุณท่านจึงมาดูแลคุณพยอมทั้งวันจึงทำให้คุณผอบแก้วเกิดความสงสัยมากยิ่งขึ้น
"คุณพี่...แม่พยอมเป็นอะไรหรือเจ้าคะ"
"ก็แค่ป่วยนั่นแหละ"