เสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ ( ตอนที่ 13 )

สุชาดา โมรา

แม่จ๋าวันนี้วันแข่งแล้วหนูกลัวจริง ๆ คนที่นี่เป็นคนพื้นถิ่นทั้งนั้นหนูจะสู้ไหวไหมคะแม่...แต่ยังไง ๆ ก็จะสู้เพื่อแม่และเพื่อประเทศของเรา...แม่คะพ่อคะหนูขออธิษฐานให้แม่ส่งใจมาเชียรหนูหน่อยนะคะ  หนูต้องการความหวังและกำลังใจจากแม่มากเลยค่ะ
	ไม่รู้ว่าจะอีกกี่คู่กันที่ฉันต้องแข่ง  แต่รู้สึกว่าผู้คนมากมายทีเดียว  ไม่รู้ว่าหลั่งไหลมาจากที่ไหนกัน  แต่ที่รู้ ๆ คือหัวใจฉันเต้นแรงและรู้สึกกลัว ๆ เกร็ง ๆ ยังไงไม่รู้  ร่างกายฉันมันเริ่มต่อต้านการแข่งขันครั้งนี้เสียแล้ว  ขามันเริ่มสั่นจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกทีเดียว  ฉันชั่งน้ำหนักแล้วก็ไปฟิตร่างกาย  ฉันจับคู่ซ้อมกับพี่ตุ๊กแล้วก็ไปจุดธูปขอพรต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ด้วยจิตใจที่เต้น      ตุ๊บตั้มตุ่มต่อมแต่พอปักธูปแล้วก็โล่งใจ  รู้สึกว่ากำลังใจดีมากทีเดียว  แต่ผู้คนก็มามองดูพวกเราเหมือนกันที่นั่งไหว้รูป  พวกเขาคงไม่รู้ว่ารูปของกษัตริย์ไทยนี่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาก็เลยมองด้วยความประหลาดใจ...ก็น่าขำเหมือนกันนะแต่ก็อย่างว่าเรามันคนแปลกที่มาทำอะไรแบบนี้เขาก็ต้องมองเป็นตัวตลกนั่นแหละ
	ตอนนี้ฉันต้องแข่งเสียแล้ว  อาจารย์เรียกฉันไป  ฉันไปรายงานตัวกับกรรมการและขึ้นสังเวียนทันที  ฉันเดินขึ้นมาบนเบาะและยืนที่ข้างหลังเส้น  คำนับและเดินข้ามเส้นไป
	"ฮาจิเมะ...!!"
	ฉันเดินเข้าไปกระชากคอเสื้ออย่างรวดเร็ว  และจับทุ่มทันทีด้วยท่าฮิปโป้ง-เซโออินาเงะ
	"ฮิปโป้ง...!!!"
	กรรมการบอกว่าฉันชนะ  ฉันคำนับคู่ต่อสู้แล้วก็เดินลงจากเบาะไป  ฉันคิดว่าทำไมมันง่ายแบบนี้  มันเร็วเกินไปที่ฉันจะชนะ...แต่ก็เอาเถอะ  ชนะก็ชนะ...  อาจารย์สุพจน์ถึงกับชมฉันอย่างไม่หยุดปากทีเดียว
	ต่อมาในช่วงบ่ายฉันจับสลากและเข้ามาแข่งอีกครั้ง
	"ฮาจิเมะ....!!!"
	กรรมการสั่งให้เริ่มต้น  ฉันมองดูการสืบเท้าของคู่ต่อสู้คนนี้ไม่ธรรมดาเลย  ลักษณะดูแก่วิชา  แต่ฉันก็เข้าไปกระชากเสื้อจนได้และปัดขาทั้งสองข้างลอยแล้วกระทบลงพื้น...ปัก...
	"ยูโก..."
	ฉันได้คะแนนมา 1 ยูโก  ฉันต้องทำให้ได้อีกเพื่อที่คู่ต่อสู้จะได้ตามมาไม่ทัน  ฉันกระชากคอเสื้ออีกแล้วตามด้วยการทุ่มแต่ฉันเข้าทุ่มไม่ได้  คู่ต่อสู้หักแขนฉัน  ฉันจึงถอยหลังออกมาแล้วกระชากคอเสื้อทันที  จากนั้นก็ทำท่าเหมือนจะทุ่มแต่เกี่ยวขาในท่าไท-โอ-โทชิทันทีและตามไปล็อกด้วยท่าเกซ่า-กาตาเมะ  แต่ล็อกด้วยข้างที่ถนัดที่สุดคือข้างซ้ายทันที
	"โคก้า...!!!"
	ฉันได้อีก 1 โคกา  ทีนี้ก็เหลือแต่เวลาเท่านั้นที่ฉันจะชนะ  คู่ต่อสู้ดิ้นรนจนฉันเกือบยั้งไม่อยู่  แต่ฉันก็กดไว้ได้เพราะท่านี้ไม่มีใครเคยแก้ล็อกในข้างซ้ายสักที  เพราะไม่มีใครเคยสอนให้ล็อกฝั่งซ้ายนั่นเอง
	"วาซารี้-วาซาเตะ-อิปโป้ง...!!!!"
	ฉันชนะมาอย่างขาวสะอาด  แล้วก็เดินลงจากเบาะไป...  คู่ต่อสู้คนนี้ท่าทางเหยาะแยะไม่รู้ว่าผ่านการคัดเลือกมามาได้ยังไงกัน...แต่ฉันก็คิดว่าการซ้อมที่ผ่านมาของฉัน  การเก็บตัวที่แสนจะยาวนานนั้นทำให้ฉันแกร่งและพิชิตคู่ต่อสู้ได้อย่างราบรื่น  หรือว่าเรายังไม่เจอคนแกร่ง ๆ เลยก็ได้นะ...ฉันคิดอย่างนั้น
	ฉันไปกินข้าวแล้วก็กลับมาในหอประชุมที่กำลังแข่งขันกันอยู่  พี่ติ๊กนี่ไม่ธรรมดาเลย  แข่งมา 11 คนยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเขายังอึดอยู่เลย  น่านับถือจริง ๆ...อาจารย์เรียกฉันไปอีกครั้งคราวนี้ฉันต้องแข่งอีกครั้งแล้ว  ฉันคิดว่าคู่ต่อสู้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ อาจารย์ถึงได้เรียกมาเทรนแบบนี้
	"ฮาจิเมะ...!!"
	เสียงกรรมการบอกให้เริ่มต้น  ฉันเข้าท่าทุ่มทันที  แต่โดนดัดหลังหงายท้อง  โชคดีที่พลิกตัวกลับทันไม่งั้นหลังโดนพื้นจะต้องแพ้แน่ ๆ ฉันจึงหักแขนและบิดตัวคู่ต่อสู้ให้หงายท้อง  แต่เสื้อและสายรัดเอวหลุดซะก่อน  กรรมการจึงสั่งห้ามและเอามือประสานไว้ที่หน้าขาเป็นสัญลักษณ์การแต่งตัว  ทำให้ฉันคิดถึงการต่อสู้เกมส์ต่อไปได้ว่าจะชนะได้อย่างไร...
	"ฮาจิเมะ...!!"
	กรรมการสั่งให้เริ่มต้นอีกครั้ง  ฉันจึงดัมดะตะ  หรือการประชิดคู่ต่อสู้แล้วจึงใช้ท่าชั้นสูง   พิชิดคู่ต่อสู้ทันทีด้วยท่าฮาเน  มากิโคมิ  ทำให้เป็นที่ฮือฮาของวงการยูโด
	"อิปโป้ง...!!!"
	จากนั้นฉันก็ต้องแข่งต่อ  ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่เป็นคู่สุดท้ายของวันนี้แล้วเหมือนกัน  เมื่อฉันยืนรออยู่ก็ต้องตกใจที่เห็นผู้หญิงสายดำคนหนึ่งเดินขึ้นมาที่เบาะ  เขามาเป็นคู่ต่อสู้ของฉันเอง  ฉันรู้สึกกลัว ๆ เกร็ง ๆ ยังไงชอบกล
	"ฮาจิเมะ...!!"
	เสียงกรรมการบอกให้เริ่มต้น
	"เอี้ย..........!!!!"
	ผู้หญิงสายดำส่งเสียงร้องข่มฉันอย่างน่ากลัว  แต่ถึงแม้ว่าจะแพ้หรือชนะถ้าฉันเต็มที่กับมันฉันก็ถือว่าฉันชนะความกลัวได้แล้วละ...
	ฉันเข้าไปกระชากคอเสื้อทันทีแล้วเข้าไปทำท่าเหมือนจะทุ่มแต่หมุนออกมาเกี่ยวในท่าโอชิคาริ  ลิชิการิ  ทันที...ผูหญิงสายดำล้มลงไปก้นกระแทกกับพื้น
	"โคกา....!!!"
	ฉันได้คะแนน 1 โคกาทันที  ทำให้เป็นที่ฮือฮาแก่คนอื่น ๆ  จากนั้นฉันก็ตรงเข้าไปในขณะที่ผู้หญิงสายดำคนนี้กำลังลุกขึ้น  ฉันจึงใส่ต่อด้วยท่าโทโมอิ-นากิอีกครั้งแต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย  พลิกตัวได้ทันหลังจึงไม่กระทบกับพื้น
	"โคกา....!!!"
	ฉันได้ 2 โคกาแล้วแต่ยังไม่ทิ้งห่าง  ฉันจึงใช้ท่าจูจิ-กาตาเมะ  หรือท่ารัดคอก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะลุกขึ้นได้  จากนั้นจึงกดตัวให้หงายแล้วจับล็อกด้วยท่าพื้นฐานที่สุดทันที  เกซ่า-กาตาเมะ  แต่ก็ถูกแก้ล็อกได้  ฉันเป็นฝ่ายถูกล็อกทันทีทำให้มีเสียงวิพากวิจารณ์กันใหญ่  ฉันจึงแก้ล็อกทันที  เมื่อแก้ล็อกได้ฉันก็ล็อกเขาด้วยท่าโททิ-ชิโฮ-กาตาเมะ  ทำให้คู่ต่อสู้ดิ้นไม่หลุดจนหมดเวลา
	"อิปโป้ง...!!!"	
	"เฮ............!!!!"
	เสียงพี่ ๆ และอาจารย์ที่เชียรอยู่ข้าง ๆ ร้องดังขึ้น  ฉันดีใจมาก  พอเคารพและเดินลงมาจากเบาะแล้วอาจารย์ก็ชมฉันอยู่ตลอดแล้วก็พาไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารไทย  ฉันรู้สึกว่าฉันได้ก้าวข้ามมาอีกขั้นหนึ่งแล้ว  พรุ่งนี้คงไม่มีกระดูกอ่อนให้ขบเขี้ยวแน่ ๆ น่าจะมีแต่กระดูกต้นขาแล้วละมั้ง...
                     โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ใกล้อวสานเรื่องแล้วขอขอบคุณเพื่อน ๆ มากนะคะที่ทำให้เรื่องนี้มีคนเข้ามาอ่านมากมากจากสกุลไทย...				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน