แม่จ๋า...หนูรักแม่

สุชาดา โมรา

.....เมื่อประมาณ 16 ปีมาแล้ว.....
	"แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง  แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล...  แม่เราเฝ้าโอละเห่กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล  แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม  แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ  เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่นี่แหละหนาอาลัยมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม   ควรคิดพินิจให้ดี  ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม  โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม  เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน  ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง  แต่เมื่อหลังหนักกว่าพื้นฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน  บวชเรียนพรากเพียรจนสิ้น  หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย..."
	"ฮือ ๆ ๆ ๆ"
	เด็กน้อยคนหนึ่งยืนร้องไห้เมื่อได้ฟังรุ่นพี่ชั้นประถมร่วมกันร้องเพลงค่าน้ำนมเนื่องในวันแม่  เด็กน้อยมีความรู้สึกอินไปกับเสียงเพลงเพราะเด็กน้อยคนนี้มีปมลึก ๆ กับแม่ของตัวเอง
	"หนูร้องทำไมลูก"
	คุณครูคนหนึ่งเดินมาถามเด็กน้อยด้วยแววตาที่อ่อนโยน  รักเด็ก...
	"แม่....แม่ไม่มางานวันแม่...ฮือ ๆ ๆ ๆ"
	"โอ๋...ไม่เป็นไรนะลูกครูอยู่ทั้งคน  หนูก็เป็นลูกสาวของครูคนหนึ่ง  หนูอย่าร้องนะลูก"
	เด็กน้อยกอดคุณครูแล้วก็เอาใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาและขี้มูกซบไปที่เสื้อคุณครูจนเปื้อนเปอะเลอะเทอะ  แต่คุณครูก็ไม่ว่าอะไร  คุณครูกลับยิ้มด้วยใบหน้าที่ใจดี  รักเด็ก...
	"มีดอกมะลิหรือยังลูก"
	เด็กน้อยควักกระเป๋ากระโปรงพร้อมกับหยิบดอกมะลิเหี่ยว ๆ ออกมา  ดอกมะลิทั้งช้ำและเหี่ยว  ก้านหักเหลือแต่ตัวดอก  กลีบถูกเด็ดจนเกือบหมด  เมื่อคุณครูเห็นก็ยิ้มละไมแล้วก็หยิบดอกมะลิดอกนั้นขึ้นมา
	"ไม่เป็นไรจ่ะ  ดอกมะลิไม่สวยแล้วก็ไม่เป็นไร  เดี๋ยวครูหาให้ใหม่นะ"
	ครูสาวจึงหยิบดอกมะลิที่ทำจากสบู่ออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วส่งให้เด็กน้อย  จากนั้นจึงเดินจูงมือเด็กน้อยไปนั่งที่โซฟารับรองของอาจารย์ใหญ่และอุ้มเด็กน้อยมานั่งบนตัก  แต่เด็กน้อยก็ยังไม่เลิกสะอื้น
	งานวันแม่แห่งชาติเมื่อปี  พ.ศ.2530  เด็กน้อยยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจมานานแสนนาน  แม่หลายคนพากันมาร่วมงานแต่แม่ของเด็กน้อยกลับไม่มา  ครูใหญ่ให้แม่ของแต่ละคนขึ้นไปนั่งบนเวทีจนแออัดยัดเยียด  เด็กน้อยนั่งมองรุ่นพี่และเพื่อน ๆ ไหว้แม่ยิ่งทำให้เด็กน้อยสะอื้นไห้ใหญ่  คุณครูสาวจึงทำหน้าที่ปลอบใจเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลาประหนึ่งเป็นแม่ของเด็กน้อยทีเดียว
	"โอ๋ ๆ ๆ....ลูกอย่าร้องนะคะ"
	เด็กน้อยก็ยังสะอื้นไม่หยุดจนกระทั่งงานกำลังจะเลิก  หญิงสาวคนหนึ่งเดินมาจากทางเข้าประตูหอประชุมด้านหลัง  สายตาเธอชะแง้แลมองใครบางคนอยู่  และจู่ ๆ เธอก็เดินมาหาครูสาวทันที
	"แม่....!!!!"
	เด็กน้อยกระโดดลงจากตักครูสาวแล้วก็วิ่งไปหาแม่ด้วยความดีใจ
	"ร้องไห้เหรอลูก...แม่บอกแล้วว่าแม่จะมาแต่มาช้าหน่อยเพราะแม่ต้องไปธุระ  ยังไง ๆ แม่ก็ต้องมา  ลูกจะร้องทำไมล่ะ....เงียบซะอย่าร้องนะลูก"
	แม่กอดเด็กน้อยด้วยความรัก  คุณครูสาวเมื่อเห็นเด็กน้อยอยู่กับแม่ก็ยิ้มอย่างมีความสุขและก็เดินเข้าไปทักทายคุณแม่ของเด็กน้อย
	"สวัสดีค่ะ  แกร้องหาแม่มาตลอดเลย...งานกำลังจะเลิกเชิญคุณแม่ขึ้นไปบนเวทีแล้วก็หนูเอาดอกมะลิที่ครูให้ไหว้แม่ซะนะจ๊ะ"
	แม่เดินขึ้นไปบนเวที  เด็กน้อยจึงกราบเท้าแม่และยื่นดอกมะลิให้กับแม่  แม่ยิ้มละไมด้วยความรักและกอดลูกเอาไว้จนกระทั่งทุกคนร้องเพลงค่าน้ำนม  ทำให้แม่และเด็กน้อยกอดกันร้องไห้ด้วยความรักความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้น
	ไม่ว่าจะอย่างไร  แม่ทุกคนไม่มีใครลืมลูกของตัวเองได้  ถึงแม้ว่าแม่จะติดธุระแต่ด้วยความรักแล้วแม่ก็ต้องมาให้ทันเวลาจนได้  อาจจะช้าไปหน่อยแต่แม่ก็มาด้วยความรักไม่ใช่มาเพราะหน้าที่เพียงอย่างเดียว
	คุณล่ะรักแม่ของคุณเหมือนเด็กอนุบาลคนนี้หรือยัง....
	ลูกที่ดีถึงแม้จะยังไม่สามารถทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำได้นั่นคือการตั้งใจ  ขยันเรียนถึงแม้ว่าจะเรียนไม่เก่งเหมือนใคร ๆ แต่ถ้าเราตั้งใจและพยายามก้าวไปสู่ฝันให้ได้แล้วนี่ก็เป็นการทดแทนบุญคุณของท่านได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน...				
comments powered by Disqus
  • สโนว์

    5 สิงหาคม 2547 04:54 น. - comment id 75865

    ชอบครับ
    ขอเป็นกำลังใจ
    จะคอยติดตามผลงานชิ้นต่อไป
    ปล.ไม่แน่ใจว่าเนื้อเพลงถูกหมดหรือเปล่า 
      แต่เมื่อหลัง..\"หนักกว่า\"..พื้นฟ้าหนักกว่าแผ่น
    
  • กอล์ฟ ขาประจำคลับ

    5 สิงหาคม 2547 09:51 น. - comment id 75867

    เป็นงานเขียนที่ดีอีกชิ้นหนึ่งครับ ผมมีเมล์ใหม่แล้วนะผึ้ง k_momo@hotmail.com นะอย่าลืมไปอ่านนะ  แล้วเมื่อไรจะไปโพสต์ที่หรรษาอีกล่ะ...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน