เช่นกัน หากทำสิ่งใดด้วยความเกลียดชัง กระแสทางลบก็ผลักไปทางปลูกฝังโลกด้วยความเกลียดและ ความสุดโต่งทางร้ายได้สุดโลกอีกเช่นกัน... เหล่าดรุณชน จึง ดีได้สุดโต่ง และ เลวได้สุดโต่ง เช่นกัน ทางพลังผลักดัน ที่ต่อสู้กันระหว่าง เอ็นดอร์ฟีน Endorphene กับ อะดรีนาลีน adrinalene เหตุนั้น ครูบาอาจารย์ จึงสั่งสอนเสมอว่า เมื่อจับทิศทางเยาวชน ดรุณชนได้ว่า จิตใจ นั้นชอบสิ่งใด ในทางสมาธิธรรมนั้น เมื่อเด็กจับสิ่งใดอันเป็นทางแห่งความสุข ปิติฉายทั่วใบหน้าและแววตาประดุจค้นพบความจริงแท้แห่งชีวิตอันซ่อนเร้นมาแล้ว ให้เด็กไปทางนั้นเถิด...จะร้องเพลง จะเต้นรำ จะเขียนภาพ จะเขียนวรรณกรรม จะเล่นกีฬา จะ ทำกราฟฟิคคอมพิวเตอร์ จะ แก้ไขรื้อเครื่องทุกชนิดมาดูไปทางช่างไฟฟ้า ช่างยนต์ ช่างอะไรก็แล้วแต่.. .ผู้ปกครอง...พึงพินิจพิจารณาดูว่า.. เขารักอะไร...ส่งเสริมไปทางนั้น.. ขอยกย่องพ่อแม่ ผู้ปกครองทุกท่านที่ส่งเสริมลูก หลาน ของตน เอาใจใส่ พาไป ฝึกหัด ศิลปะ และ กีฬา ทุกชนิด... คุณกำลังสร้างเพชร เม็ดงามให้แก่สังคมไทย ขอขอบคุณ... ขอให้เราสามารถค้นหาตนเองให้พบ ว่า ชอบงานอะไร และ รักงานอะไร สิ่งไรที่เราทำ แล้ว เราเป็นสุขปลาบปลื้มเหลือเกินที่ได้ทำ.. นั้นคือคุณค่าความรัก ในงาน ความรักในงาน ที่เราทำ..นี้ เป็นพลังทางบวกอันมีคุณค่ามหัศจรรย์ยิ่งแก่ บ้าน ครอบครัว ชุมชน และโลก เรามาสร้างสรรค์ สังคม ด้วยความรัก..ใจรักงานกันเถิดค่ะ ด้วยความรักพี่น้องในเรือนไทย Thaipoem.com ทุกท่าน ขอให้ค้นพบทางสันติสุขแก่ชีวิตของตนค่ะ ทิกิ_tiki จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki รหัส - วัน เวลา : 308636 - 31 ก.ค. 47 - 12:23
คือฉันทะ....นะความรัก....สมัครเสมอ ...........วางคำเพ้อ...คำฝัน....วันหลายหน ....รักนั้นเกิด นั้นก่อ...ท้อ...ก็ทน ..วางคำหวาน....จารมิหม่น...มิหมางใจ ด้วย ฉันทะ...คือตัวนำ....คือคำค่า รัก...ด้วยผองหัทยา....นำมาใส่ รัก...ในงาน...อันสรรค์สร้าง...พร่างละไม ละมุนรัก....สลักไว้....ในผองกานท์ วางไว้ให้ด้วยใจรักกลอน คืน พระศุกร์ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เพลาดึก ๒๓:๕๐ นาฬิกา คืน ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘/๘ คืนฟ้าเย็นกรุงเทพฯเมืองงามยามดึกดื่น...ประเทศไทย งานนี้ นำคุณค่า ฉันทะมาเป็นบทนำ มนุษย์เรานั้น จะสำเร็จ หรือ ไม่สำเร็จในกิจที่ทำนั้น..ด้วยใจรักเป็นเกณฑ์ หากทำไปท้อแท้เหนื่อยหน่าย ผลตอบแทนมาได้น้อยไม่สมกับที่ลงทุนใจไป แต่ดวงตาแจ่มใสในรักแห่งคุณค่างานนั้นหนักหนา ตีราคามาเป็นเงินมิได้ ด้วยความสุขทางใจนั้นมีค่ามหาศาล คนบางคน เป็นสุขเพียงได้ แม้กระทั่งหยิบไม้ สักแผ่น มาเลื่อย ตัดเป็นชิ้น นำเครื่องมือแกะสลักราคาชุดละแค่ 39 บาท มานั่งแกะเป็นรอย ธรรมชาติ อันงดงามตามที่ตาเห็นแล้วเก็บฝังไว้ในความทรงจำ งานชิ้นนั้น ตีราคาในทางโลก อาจไม่กี่บาท แต่ตีราคาในทางในในทางธรรม นั้น สูงค่าเหลือเกิน เป็นการถ่ายทอดวิญญาณแห่งตนในสมาธิจิตที่สวยงาม เป็นความสุขอันฝังรากลึกในวิญญาณอันมีคุณค่าต่อ ศักดิ์ศรี และ ความเป็นมนุษย์ อย่างที่ สัตว์โลกชนิดใด ก็มิอาจทำได้ เฉกเช่นที่มนุษย์ได้กระทำ งานแห่งความรัก อันเป็นศิลปะบริสุทธิ์ จากใจนี้.. จึงมีค่างดงามเกินกว่าที่ราคาค่ากระดาษอันพิมพ์สีและตราไว้ว่า **ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ทางกฎหมาย** จะข้ามไปวัดค่านี้ได้ ทิกิ_tiki 13:45 เสาร์ 31 กรกฎาคม พ.ศ2547 ประเทศไทย
๏ ด้วยความรัก ...จักนำทัพ....ไปปรับศึก ด้วยความรัก...จักโหมฮึก...แล้วห้าวหาญ ด้วยความรัก..แม้นจมปลัก...ก็เบ่งบาน สอดประสาน....งานด้วยรัก....ถักละมุน...... รักนั้นคือแม่ทัพนับเป็นหนึ่ง ใจไม่รักใครจักซึ้ง ถึงเกื้อหนุน ใจไม่รัก แม้นดีเลิศ ประเสริฐคุณ ก็ว้าวุ่น ทิ้งขว้าง ร้างจาบัลย์ ๚ งานแห่งการสร้างสรรค์จินตนาการ อันทำให้ตัวตนของคนเราหายไป ไม่ติดกับโลกนี้ โลกแห่งเนื้อหนังมังสานั้น ถือเป็นความงามสุนทรีย์แห่งชีวิต เช่น ความรู้สึกปิติอิ่มเอิบ เมื่อเราได้จับต้อง งาน อันสำเร็จมา อันมี พลังในทางบวก พลังในทางดี อยู่ในชิ้นงานนั้น ทุกครั้งที่เราแตะต้องงานนั้น งานนั้นเป็นงาน ปิติสุขแห่งรอยยิ้ม อันอิ่มเอิบ ด้วยประกายความงามอันบริสุทธิ์ แห่งการสร้างสรรค์ นั้นคือ ผลกำไร อันมหาศาลต่อชีวิต...ในวาระแห่งสมาธิจิตผลิตผลงาน รังสรรค์อันบริสุทธิ์นั้น มนุษย์เราจะพบตัวตนที่แท้แห่งตน..ที่คนอื่นไม่อาจเข้าใจได้เลย ว่า คุณค่าเหนือกระดาษที่ประทับตรา ว่าใช้หนี้ได้ตามกฎหมายนั้น ไร้ความหมายต่อชีวิตและผลงานนั้นโดยสิ้นเชิง ขอให้ทุกคนค้นพบใจตนเอง บนทางบรรเลงเพลงงานเล่น บนแสงสีวรรณกานท์ทานบำเพ็ญ ให้ฉากหนึ่งใจเย็น..เป็นสุข..งาม ทิกิ_tiki 15:20 เสาร์ 31 กรกฎาคม พ.ศ2547 ประเทศไทย
คือผู้ใหญ่...ให้เรียนรู้...ดูเยาวชน วางสิ่งไรให้ได้ผล..บนทางสรรค์ ให้เด็กรัก...ในงาน...ผสานกัน จะบากบั่น..มิคั้นวาทย์.....ศาสตร์สุนทร พ่อแม่ ฝึกให้ลูกหมั่นทำตามสิ่งที่เขารักและชอบ เขาก็จะได้ดีในทางของเขาเอง วางไว้ให้ด้วยใจรักกลอน คืน พระศุกร์ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เพลาดึก ๒๓:๕๐ นาฬิกา คืน ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘/๘ คืนฟ้าเย็นกรุงเทพฯเมืองงามยามดึกดื่น...ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ Copyright ..All rights reserved ทิกิ_tiki ฉันทะ
งานศิลปะทุกชนิด จะเป็นยาชโลมจิตใจให้เรามีสมาธิ สร้างสรรค์สิ่ง อันสวยงาม ทำให้เราใช้ชีวิตเป็น ใช้ชีวิต ดี ใช้ชีวิต มีสุข เวลาของเราย่อมจะมีคุณค่ามากค่ะ ไม่เว้นแม้ในโลกนี้ โลกอดีต หรือ โลกอนาคต งานศิลปะในฐานะงานอดิเรก จะทำให้จิตใจเรางดงามใน ความงาม และการสร้างสรรค์ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นแม้กระทั่งเข็มโครเชต์เล็กๆในมือเรา หรือ เข็มถักนิตติ้งสักคู่ หรือแม้กระทั่งเข็มและด้ายในมือ อันเย็บปัก..งานถัก และ งานร้อย ล้วนแต่เป็นสิ่งเยือกเย็นแก่จิตใจ ทั้งนั้น เช่นกันกับเสียงดนตรีเบาๆที่ทำให้ใจสงบค่ะ ขอให้พบโลกศิลปะอันบริสุทธิ์ และ มีความสุขค่ะ ทิกิ_tiki : 4895 - tiki : 288348 - 12 มิ.ย. 47 - 22:11 คำตอบเพื่อนมิตรสหาย ในกระทู้บทกลอน ๏ ช่อกุหลาบ...งามทุกมุม ๚ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55146.php
ชีวิตแห่งการสร้างสรรค์ บางครั้งอาจดูอ้างว้าง..รอบข้างหาคนเข้าใจได้น้อยนัก แต่โปรดเถิดนักสร้างสรรค์จงตระหนัก ว่าความรักในงานแห่งกานท์กลอน ราวชีวิตเหหันวันอ้างว้าง สู่เส้นทาง ..คือคารม เปรียบ คมศร อันเสียบเสียด แทงใจดำ...คำสัญจร มิม้วยมรณ์ จะรักงาน...กานท์หัวใจ ฝากไว้อีกบทกลอน ท่ามกลางสายฝนอันพร่างพรูมาจนฟ้าเป็นสีเทาขาว คนทุกคนใจเรามิเหน็บหนาว แม้นปวดร้าวเพียงใด ยังฝากคำพร่ำไว้ เพื่ออักษรา..มิขาดเลย ทิกิ_tiki จากใจคนรักกลอน 17:11 เย็นวันเสาร์
หากเรารู้ซึ้ง รู้ค่าของกาลเวลา ที่มอบให้เรามาในโลกนี้ ชีวิตจะไม่มีการหยุดพัก แม้สักขณะจิต เราคงจะคอยครุ่นคิดเพื่อจะสรรค์สร้าง ความสวยใสพราวพร่างแห่งจินตนาการ ..มิหยุดบากบั่น ในห้องเล็กๆของฉัน เสมือนหนึ่งรังสรรค์จากสมาธิจิตใจ ให้เป็นร้อยแก้ว และ ร้อยกรองอันอำไพ เพื่อเทิดค่าเวลาที่ผ่านไป อย่างไม่เสียดายเวลา ทิกิ_tiki
เวลา คือ เจ้าแห่งชีวิตบนโลกมนุษย์ เรามิอาจหยุดกาลเวลาและสรรพสิ่งไว้ได้ คำว่า โลกะ นั้น คือการเสื่อมสลายไปทุกขณะจิตใจ เฉกเช่นชีวิตของเราที่เลื่อนไหลไป..กับวัน และ เวลา สิ่งเดียวอันทรงค่า คือการใช้เวลาไปกับการสร้างสรรค์ สิ่งอันน้อย สิ่งเล็กๆนั้น ช่วยจรรโลงชีวาตม์ ชีวัน ให้สูงส่งเกินรำพัน คือ วัน และ เวลา จรรโลงยามเย็นฟ้าฝนโปรยปราย วันพระเสาร์ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา ๑๗:๔๕ นาฬิกา สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ Copy right....All right reserved ๏ทิกิ_tiki ๚
งานศิลปะ นั้นคือ การยกค่าของใจมนุษย์ขึ้นสู่ที่สูง ขึ้นเรื่อยๆ ความแตกต่างระหว่างมนุษย์ และ สัตว์นั้น ต่างกันตรงศิลปะ ซึ่งสร้างกันออกมา แต่ในธรรมชาตินั้น สัตว์หลายชนิด มีวิถีทางดำรงชีวิตอันเป็น ศาสตร์และศิลป์ เฉพาะหมู่เหล่าของตนอีก อย่างทวิชาติ สัตว์สองขา เยี่ยงนกนั้น สามารถจะบินไปคาบเส้นฟาง ใบหญ้ามาสานสอดให้เป็นรังได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือ ปลวก และ มด ก็มีเหล่าทัพงาน แบกขน เจาะ ต่างๆ อย่างน่าทึ่ง สัตว์ต่างๆ ก็มีวิถีธรรมแห่งการดำรงชีพ ของตน วิจิตรตามจิตของมัน ส่วนคน ใช้ศิลปะเป็นสื่อในการดึงตนขึ้นสู่ความหลุดพ้นจากวิถีโลก เพื่อให้พ้นจากความเบื่อหน่ายในวิถี แห่ง เนื้อหนังมังสา การกินอยู่หลับนอนการขับถ่ายสืบพันธุ์ นั้นได้ ต่างจากสัตว์ ศิลปะในทางจิตวิญญาณ ของคน ก็เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นได้ แต่กระนั้นก็ดี ในตำนานมากหลาย ได้แสดงให้เห็นวาระของสัตว์หลายชนิดจำศีล ด้วยเคยเสวยชาติเป็นคนและเป็นคนผู้ปฏิบัติธรรมมาก่อน ดังนั้น การเกิดเป็นมนุษย์ ผู้มีใจสูงกว่าสัตว์ จึงควรมีใจรักในศิลปะ เพื่อการ เสริมสร้างจิตวิญณาณตนสู่หนทาง อันก้าวขึ้นสู่ความสูงสงบในจิตวิญญาณ... ทิกิ_tiki 16:32 นาฬิกา เย็น วันอาทิตย์ 1 สิงหาคม พุทธศักราช 2547
ภูตะวัน ตะวันรอน เพิ่งจบงานศิลปะ ของตนหยกๆ ก็แวะมาอ่านงานเพื่อน ด้วยไม่ได้เข้ามาทั้งคืนและทั้งวันค่ะ เป็นสิ่งที่น่าสลดใจเหลือเกินในสังคมไทยในปัจจุบันนี้ค่ะ ภูตะวัน ตะวันรอน เพื่อนคนหนึ่ง จบครุศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ฐานะพอมีอันจะรับประทาน แต่ ..สามีรับเหมาก่อสร้างกับกรมฯ ดังกรมหนึ่งของราชการ บางครั้งมีอันต้องพาท่านบัณฑิตจากสถาบัน รุ่นพี่บางท่าน ที่จบมาจาก วิดวะ..ไปรับประทานอาหาร ซึ่งท่านเหล่านั้น ก็ต้องการแบบเลี้ยงดูปูเสื่อด้วย เพื่อนเล่าให้ฟังว่า วันนั้นในโต๊ะอาหาร ท่านพี่พวกนั้นเมาได้ที่ ปวดฉี่เกินกลั้น ลุกขึ้นคว้า ขวดเบียร์เปล่า ทำกิจกรรม ดังที่ คุณภูตะวันเล่ามานี่แหละ กลางโต๊ะอาหาร ต่อหน้าผู้คนในร้านอาหาร ต่อหน้า สามีเพื่อน และ เพื่อนสาวของเรา ที่มองตาค้าง แบบอายแทบสลบ .....อนิจจา...เงิน และ การศึกษาไม่ได้ทำให้คนมี จรรยา มารยาทเลย น่าเสียดาย ที่ หนังสือ Etiquette ที่นานาประเทศทั่วโลก เขาใช้เป็นการกำหนดค่า พฤติกรรมสังคม คนไทย มีหนังสือ สมบัติผู้ดี เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี.... สมัยที่เหล่านักศึกษารุ่นเราผู้โด่งดัง และหมั่นไส้ ตระกูลขุนน้ำขุนนางเหลือประมาณ สั่งถอดออกจาก ระบบการศึกษาไทย เราจึงไม่มี สมบัติผู้ดี หลงเหลืออยู่ใน ระบบการศึกษาไทย ขอไว้อาลัยiระบบ การศึกษาไทย ไว้ ณ ที่นี่ ทิกิ_tiki นำไปตอบ คุณ ภูตะวัน ตะวันรอน ที่กระทู้ http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2941
31 กรกฎาคม 2547 13:47 น. - comment id 75752
โล่งอกไปทีค่ะ คิดว่าที่ตัวเองเขียนจะหายไป แต่กลับมาเข้าหน้าส่วนตัวได้แล้ว...โอ้ โฮ รู้สึกราวขึ้นสวรรค์เลย เพื่อนไทยโพเอ็มรู้สึกเหมือนเราไหมคะ ..? รู้สึกจะต้องฉลองซะทีนะคะ โย้ โย้
31 กรกฎาคม 2547 14:42 น. - comment id 75753
it\'s a very nice thought thanks for sharing it i really like it and will keep it in mind use it for everyday life p\'tiki take care and rest too naka don\'t just work hard and forgot about you health...yaya pen huang ja
31 กรกฎาคม 2547 15:31 น. - comment id 75756
ขอบคุณ ค่ะ ยายา มีกรุณา ตามเคยนะคะ
31 กรกฎาคม 2547 20:30 น. - comment id 75763
มาแย้วค่ะมาแย้วมาแย้ว มาเม้นท์ให้พี่ทิกิแย้วนะคะจารีบไปก๊อบรูปพี่ซีต่อแย้วค่า ไปอาบน้ำก่องแล้วค่อยมาก๊อปต่อดีกว่า อิอิ สร้างสรรค์สิ่งที่มีค่าให้ตัวเองและสังคมค่ะ
31 กรกฎาคม 2547 21:43 น. - comment id 75764
ขอบคุณมากค่ะ คุณ น้องอิ๋ว ฟิวเจอร์เองค่า มาสร้างสรรค์คุณค่าให้สังคมบ่มนิสัยใจรัก แต่ทางสรรค์สร้างกันนะคะ
1 สิงหาคม 2547 11:18 น. - comment id 75777
มาอ่านเป็นกำลังใจนะครับ เขียนได้ดีนะ
1 สิงหาคม 2547 16:04 น. - comment id 75781
ขอขอบคุณคุณ ผลิใบสู่วัยกล้า ค่ะ
1 สิงหาคม 2547 21:34 น. - comment id 75791
เขียนเก่งจังครับ เรียนอักษรมารึเปล่า?
1 สิงหาคม 2547 22:03 น. - comment id 75793
รหัสสมาชิก : 2619 - ani-sa : : [ ห้องเก็บกลอนเก่า > ] นามปากกา ani-sa ชื่อเล่น tob ชื่อ - สกุล my love & my dream วันเกิด 17 พ.ค. 2521 E-Mail tob.ani@chaiyo.com ICQ URL www.thaipoem.com นิสัยส่วนตัว น่ารักน้า...... เขียนอะไรถึงเพื่อน ด่วน!รับจำนวนจำกัด 10 ท่านแรกเท่านั้น หายากนะเพื่อนอย่างเราน่ะ...ฮะฮ้า บทกลอนของ ani-sa อะฮะ คณ อนิสา...สงสัยว่าทำไมคุณเพิ่งเขียน เรื่องสั้น สมัครมานานหรือยังคะ น่าแปลกใจดี แล้วคุณล่ะค่ะ เรียนที่ไหนมาเอ่ย