ปลาทูมหัศจารย์
เต่าน่ารัก
ปลาทูมหัศจรรย์
กาลครั้งหนึ่งมีเมืองที่สวยงามมากแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยอันสูงตระหง่า พระราชาและราชินีปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรม ชาวเมืองจึงอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
>>>>>วันหนึ่งท้องฟ้าที่เคยสดใสก็พลันมืดครึ้มมีเสียงลมพัดอื้ออึงดังหวัดหวิวไปทั่ว เป็นสัญญาณเตือนให้ชาวเมืองรีบหาที่กำบังเพื่อหลบภัย ทันใดนั้นมีวัตถุลึกลับหล่นมาจากฟากฟ้าเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรก ๆ ไม่มีชาวเมืองคนใดกล้าออกไปดู ว่า เป็นสิ่งใดจนกระทั่งลมสงบลง ฟ้าเริ่มกระจ่างใสอีกครั้ง ชาวเมืองผู้กล้าคนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สาม จนถึงคนที่สิบ คนที่ห้าสิบ คนที่หนึ่งร้อย และคนที่เริ่มโผล่หน้าออกมาดูวันถุนั้นใกล้ ๆ อย่าง ระมัดระวัง
ผิวมันนุ่มนิ่ม จังเลย ใครคนหนึ่งตะโกนออกมา และกวาดตามองจนรอบวัตถุนั้น รูปร่างเหมือนปลาทู
ฉับพลันเสียงฮือฮาจากชาวเมืองก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกัน มันก็คือ ปลาทูยักษ์ นั่นเอง ทุกคนต่างรีบวิ่งกลับเข้าบ้านและกลับออกมาพร้อมด้วยมีด จาน ชาม หม้อ กะละมัง ถัง และอื่น ๆ เท่าที่จะหาได้ และตรงเข้าไปเฉือนปลาทู เอามาใส่ภาชนะของตนความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเมืองนี้อยู่บนดอย การได้ลิ้มลองรสเนื้อปลาทู จึงเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งนัก
ทุกคนต่างยื้อแย่งกัน นานเข้า ๆ ก็เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน จนต่างฝ่ายต่างเหน็ดเหนื่อย และบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน ทุกคนเริ่มหยุดพักและฟังคำพูดของพระราชาพระราชินี
พวกเจ้ายื้อแย่งกันไปทำไม พวกเจ้าสังเกตเห็นไหมว่าปลาทูตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก ถ้าเราจะแบ่งกันดี ๆ ก็จะได้รับประทานกันทั่วทุกคนแล้วเราก็ยังจะมีไว้รับประทานได้อักหลายวัน พอได้ฟังดังนั้นชาวเมืองเริ่มได้สติ ความละโมบค่อย ๆ หายไป
หลังจากนั้นพระราชาได้สั่งให้ทหารจัดแบ่งเนื้อปลาทูให้ชาวเมืองทุกคนอย่างยุติธรรม ชาวเมืองทุกคนได้รับประทานเนื้อปลาทูกันทุกคน.
ปลาทูยังไงน้า