นายยังสบายดีไหม

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

ยังสบายดี
------------------------------
เวลาผ่านไป 20 ปี
ผมได้กลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่า ในงานวันคืนสู่เหย้า
ได้พบเพื่อนฝูงเกือบทุกคน หลายคนแต่งงาน มีลูก บางคนมีหลานอีกด้วย
มีเพื่อนอยู่ 4  5 คน ยังไม่แต่งงาน
ผมถามเพื่อนว่า
เป็นไงบ้าง
เพื่อน ๆ ว่า สบายดี แต่มันเหงา ๆ ยังไงไม่รู้
เห็นเพื่อน ๆ มีครอบครัว มีลูกมีเต้า ท่าทางมีความสุข ก็อยากมีบ้าง
ผมพูดกับเพื่อนว่า
ชีวิตคนมีครอบครัว มันไม่ได้สุขและสบายนักหรอก
ความสุขก็เป็นความสุขปนทุกข์
ความทุกข์มันเกิดแต่การดิ้นรน เพื่อดูแลสมาชิกในครอบครัว
ไม่ให้เดือดร้อนจนเกินไป ซึ่งเราเรียกมันแบบไม่สนิทปากนักว่า ความสุข
แต่ก็ไม่แน่ใจ ผมว่าต่อ
นี่อาจเป็นรูปแบบที่คนโสดทั้งหลายปรารถนาอยากเป็นอยากมี
ถ้าย้อนกลับไปได้ ( พูดเป็นนิยาย )
ผมจะอยู่เป็นโสด มันสบายกว่า
แล้วไม่กลัวเหงาหรือ เพื่อนถาม
ความเหงาคือความกลัว ว่าจะไม่มีใครใส่ใจดูแล
เท่านั้นเองแหละ
ผมมองเห็นรูปแบบชีวิต ที่ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นความเหงา หรือะไร ๆ เห็นหลายปีมาแล้ว
เวลานี้แม้อยากย้อนกลับไปเพียงไหน ก็กลับไปไม่ได้
เพราะอะไร
เพราะเคยกลัวความเหงา และหนีมันมาเสียไกลแล้วน่ะสิ
ดูเหมือนเราไม่เข้าใจ เพื่อนว่า
นายจำได้ไหม เพื่อนว่าต่อ นายเคยบอกรักเรา เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่แต่งงานจนอายุปูนนี้
หา ( เสียงของผม )
แต่ไม่เป็นไรหรอก
เรายังคงรักนาย แต่บอกเราหน่อยซิ ว่า
รูปแบบชีวิตที่นายว่า น่ะ เป็นอย่างไร
 ถ้าให้เดา รูปแบบชีวิตที่นายว่าไม่ต้องกลัวสิ่งใด ๆ คือ การบวช -เพื่อนผมพูด
นายเดาแม่น -ผมว่า
เราก็เคยคิด แต่ไปติดตรงเพศ มันไม่สะดวกเอาเสียเลยสำหรับผู้หญิง
แต่ก็นั่นแหละ ดร. หรือคุณหญิงบางท่านก็ถือครองผ้าเป็นนักบวชได้งดงามนัก
อย่างที่หลายคนเห็นอยู่
-ผมพยักหน้ารับทราบ ด้วยได้เคยเห็นวัตรปฏิบัติของนักบวชเหล่านั้นบ้างแล้วเช่นกัน
เราหวังว่านายจะไม่ทิ้งครอบครัวไปบวชจริง ๆ
ไม่หรอก เพราะนั่นเป็นความเห็นแก่ตัวเกินไป
ลูกที่เกิดมา เขาต้องการให้พ่อแม่ใส่ใจดูแล จนเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์
จริงอยู่สินทรัพย์ที่พ่อแม่หาไว้ให้อาจจะมากมายเกินพอต่อการดำรงชีวิต
แต่ชีวิตไม่ได้ต้องการเพียงปัจจัยซึ่งเงินแลกซื้อเอาได้เท่านั้น
ชีวิตต้องการความเอาใจใส่
ชีวิตต้องการความโอบเอื้อ ความอาทร
ชีวิตต้องการอีกหลายอย่างที่ละเอียดอ่อนเกินการกล่าวเป็นถ้อยคำ
สิ่งเหล่านี้ได้มาจากผู้เป็นพ่อแม่ก่อน
ถ้าพ่อแม่ให้เขาไม่ได้ ชีวิตของเขาจะเป็นชีวิตที่เรียกร้องโหยหาความรัก
โหยหาความเอื้ออาทรจากคนอื่นอยู่เสมอ แต่ให้คนอื่นไม่เป็น
เราดีใจที่นายพูดแบบนั้น ว่าแต่ว่าตอนนี้ นายยังรักเราอยู่ไหม - ดูเหมือนเธอจ้องเข้ามาในใจผม
นายต้องการคำตอบแบบไหนล่ะ  ผมถามแบบหยอกเย้าเพื่อนในวัยร่วมเรียน
เราก็ถามไปงั้น ๆ แหละ
คำตอบนั้น นายบอกเราไปแล้ว คือ จริง ๆ นายต้องการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องกลัวอะไร ๆ ที่นายว่า มากกว่า การมีครอบครัวเป็นไหน ๆ - เธอว่า
ใช่นายเข้าใจถูก แต่เรายังรักนายเหมือนเดิมนะ พอใจไหมล่ะ -ผมพูดแล้วจิบไวน์ช้า ๆ
คืนนั้นผมกับเพื่อน ๆ ลาจากกันด้วยความรู้สึกดี ๆ เพื่อนกันก็เป็นแบบนี้ล่ะ
ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย เพียงอยากรู้ว่าเพื่อนคิดยังไงเท่านั้นหละ				
comments powered by Disqus
  • มัดหมี่ค่ะ sun strom

    26 เมษายน 2547 15:36 น. - comment id 73643

    นายเป็นไงบ้างหละ
    เราสบายดี
    นายแต่งงานยังหละ
    เรายังไม่แต่ง
    นายทำไมปล่อยให้ตัวเองแก่มาจนป่านนี้
    เราชอบขึ้นคาน
    
    ก็ตอบเค้าไปตามเรื่องอะพี่ก่อพงษ์
    เจอหน้าเพื่อนๆ ทีผู้หญิงส่วนใหญ่
    เค้าจะถามกันเรื่องนี้อะ
    
    มัดหมี่นายออกสวยทไมไม่มีแฟน
    มัดหมี่นายทำงานออกเก่งทำไมไม่มีแฟน
    มัทหมี่...จิปาถะที่จะถามอะ
    ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องแฟน
    
    ผู้หญิงทำไมเป็นงี้ก้ไม่รู้
    เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่แล้ว
    ล้วนแต่งงานไปแทบหมดค่ะ
    วัยขึ้นเลขสามหาไม่ค่อยจะได้อะพี่ก่องพงษ์
    
    วันก่อนเห็นกะเตงลูกมาด้วย
    ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างวัย 5-6 ขวบ
    น่าสงสารอะ ทำงานตัวเป็นเกลียว
    หัวเป็นน๊อต เพื่อให้ลูก ๆ
    ได้อยู่สุขสบาย
    
    อยากเปิดโรงเรียนรับเลี้ยงเด็ก ๆ เหล่านี้
    ให้เพื่อน ๆ ได้สบายกันบ้าง
    จะได้ไม่ต้องกังวล
    แต่ก็จนด้วยเกล้า
    เพราะต่างคนก็อยู่คนละมุมเมือง
    ยากนักที่จะรวมกันเป็นกลุ่มเหมือนแต่ก่อน
    
    คิดถึงวัยที่เคยไปทานมะม่วงน้ำปลาหวาน
    แล้วน้ำลายไหลอะ
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    26 เมษายน 2547 15:57 น. - comment id 73644

    อ่านเพลินดีครับ
    ที่คุณมัทเขียน
    
    คนจะรักเด็กๆได้
    หัวใจไม่ธรรมดาหรอกครับ
  • อาภาภัส

    27 เมษายน 2547 06:02 น. - comment id 73662

    คุณก่อ
          ดีค่ะ  เป็นความจริงของชีวิตดีจัง
    
          เพื่อน   ...คำนี้ไม่ธรรมดา
    
    อรุโณทัย  อาภาภัส
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    27 เมษายน 2547 06:35 น. - comment id 73663

    ใช่แล้ว
    คุณอาภาภัส
    ความรู้สึกอย่างนั้น  งามมาก
    
    
    การเป็นผัวเมีย
    ความรู้สึกบางอย่าง แบบเพื่อน แม้ยังอยู่มัน  ก็เหมือนเจื่อนจางไป  เพราะความบีบคั้นทางเศรษฐกิจ
    
    
    แต่นั่นก็ไม่ได้เลวร้าย
    ชีวิตแบบผัวเมียมันมีหลายอย่างชดเชย
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน