พ่อครับ คนจนเขากินอะไร ลูกถามและมองของกินบนโต๊ะ ที่ซื้อมาจากร้านอาหารมีชื่อ เราไม่ต้องทำกับข้าวเอง บางวันแค่โทรสั่งก็มีคนเอามาส่ง กินเหมือนเรานี่แหละลูก แต่อาหารที่เขากินส่วนมากไม่ต้องซื้อ มีคนเอาไปให้หรือครับ ไม่หรอกลูก ลูกรู้จักกุ้งหอยปูปลาไหมล่ะ รู้ครับ ครูก็สอน นั่นแหละ ของพวกนั้นมีอยู่ในน้ำในนา ก็จับมาเป็นอาหารได้ไม่ต้องซื้อ เข้าใจแล้วครับ แต่เขามีผลไม้กินแบบเราไหม มีสิครับ ผลไม้แบบที่เรากิน มีขายเยอะไปตามห้างสรรพสินค้า คนจนคนรวยซื้อได้เหมือนกัน ถ้ามีตังค์ ถ้ามีขาย ถ้าอยากขาย ถ้าอยากซื้อ เราพ่อลูกคุยกันในมื้ออาหารทำให้รสชาติอาหารดีกว่าต่างคนต่างกินเงียบ ๆ พื้นเพของผมมาจากต่างจังหวัด เข้ามาแสวงโชคในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว ผมไม่เคยลืมหรอกครับว่ารากของผมอยู่ไหน ผมไม่เคยลืม เพราะความไม่มีกินนั่นแหละเป็นแรงผลักอย่างดีสำหรับสู้ชีวิต ผมเริ่มงานในกรุงเทพฯโดยเป็นลูกจ้างในร้านขายของชำของคนจีน ได้เห็นทุกวันว่า คนจีนนอนดึก ตื่นเช้า ทำงาน ทั้งวัน จับเงินทั้งวัน ลูกค้าอยากได้อะไร มีขายให้หมด แม้ของในร้านไม่มีก็ ขอยืมจากร้านข้าง ๆ เอามาให้ หรืออย่างช้าก็รุ่งขึ้นก็เอามาขายให้ได้ สลึง ห้าสิบสตางค์ก็ขายได้ มีจริงครับ ลูกค้าถือปากกาเคมี เข้ามาในร้าน เฮียเจ้าของร้านดูแล้วก็ว่าแบบนั้นเติมหมึกเอาก็ได้ไม่ต้องซื้อใหม่ จ่ายค่าเติมแค่ 2 บาท แทนที่จะซื้อใหม่ 15 บาท วิธีที่เฮียทำผูกใจลูกค้าคนยากคนจนได้หมด ไม่เคยดูถูกคน คนจึงมาหาเฮีย ซื้อทุกอย่างจากร้านชำของเฮีย กิจการของเฮียไปไกลมากแล้วครับ เฮียทำร้านขายส่งโดยหุ้นกับชาวต่างชาติ แตกสาขาออกไปมากมาย ผมซึ่งอายุมากขึ้นทุกวัน ขอเกษียณตัวเองจากงานในร้านชำมาเปิดร้านเล็ก ๆ ของตัวเอง ขายของใช้ในบ้านแบบชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปจนถึงของใช้ของสอยจากถิ่นอื่น แบบของที่ระลึก จนในที่สุดเห็นช่องทางใหม่ก็เปิดเป็นร้านขายของที่ระลึกให้ชาวต่างชาติที่มา เที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ทุกวันจะมีไกด์พานักท่องเที่ยวเข้าร้านของผมจนนับไม่หวาดไม่ไหว ไกด์พวกนั้นก็ลูกหลานของผมเองจากบ้านนอกนั่นแหละ เขาได้รับการศึกษาดี ได้ภาษาหลายภาษา ที่ผ่านมาผมถือว่าเขาช่วยผม ผมก็ช่วยเขา เราไม่ดูแคลนคนอยู่แล้วครับ พ่อครับ พ่อกำลังคิดใช่ไหม ทำไมลูกรู้ เห็นพ่อมองโคมไฟเพดานนาน เก่งครับ พ่อคิดจริงๆ คนเราต้องคิดนะ คิดถึงอดีต เพื่อสรุปบทเรียน คิดถึงปัจจุบันว่าเราได้ทำอะไรบ้าง ยังไม่ทำอะไรบ้าง คิดถึงอนาคตว่าอะไรกำลังจะไปทางไหน เพื่อจะได้.. ไม่กลายเป็นเหยื่อ.. ของตัวเอง.. ของคนอื่น.. ของสังคม.. ของโลก.. .. อาหารมื้อเย็นนั้นอร่อยมาก อร่อยเสมอ ผมตักยำไข่มดแดงเข้าปากเคี้ยวกับข้าวเหนียวเพื่อรำลึกถึงความจนในวันเก่า ๆ ส่วนลูก ๆ เขามีสิทธิ์กินอะไรตามใจเขา ผมไม่ได้บังคับให้เขาต้องกินปลาร้าเหมือนผม ผมขออย่างสองอย่างเท่านั้นจากลูก คือ อย่ากินสินบาตร คาดสินบน และอย่ายอมให้คนกินแรง
21 เมษายน 2547 12:53 น. - comment id 73371
อีกชื่อหนึ่งของเรื่องนี้คือ คนจนกินอะไร ติ แนะ ผมได้เลยครับ ขอบคุณล่วงหน้า
21 เมษายน 2547 15:50 น. - comment id 73387
.......อ่านแล้วประทับใจมาก ซึ้ง แล้วก็อบอุ่นในครอบครัวที่มีอยู่ในสังคมไทย
21 เมษายน 2547 18:46 น. - comment id 73391
สวัสดีครับคุณอาภาภัส
21 เมษายน 2547 22:28 น. - comment id 73399
สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์ เห็นคุณเขียนถึงไข่มดแดง อัลมิตราเคยเปิ่นอยู่หนหนึ่งตอนไปงานบ้านเพื่อนแถวๆบุรีรัมย์ เห็นมีแกงน้ำใสในหม้อและมีไก่ พอจะตักขึ้นมาใส่ชาม เห็นมดแดงตัวใหญ่ๆแยะเลย อัลมิตราก็เดินไปบอกเขาว่า สงสัยอาหารจะมีปัญหาแล้ว มดแดงเต็มเลย มดขึ้นอาหารน่ะ ... เชยมากๆ รู้สึกอายเมื่อได้รู้ความจริงว่าอุตส่าห์ไปเอามดแดงมาทำเป็นอาหารให้ทาน .. คนรวยมีรั้วรอบเป็นกรอบอาณาเขต แต่คนจนไร้รั้วรอบ ฟ้ากว้างๆภูเขาที่เห็นไกลลิบ คือบริเวณ.. :) เคยคิดแบบนี้ค่ะ
22 เมษายน 2547 05:31 น. - comment id 73413
ชอบคำของคุณมากๆครับ
22 เมษายน 2547 07:49 น. - comment id 73417
อ่านเรื่องนี้ไม่มีอะไรคอมเม้นเลยค่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบนะคะ พี่เสื่ออะไรได้ตรง ๆ อยากทานแบบพี่บ้างค่ะ มีเวลาทำให้ทานหน่อยนะคะ คงอร่อยมาก ๆ
22 เมษายน 2547 08:03 น. - comment id 73420
ก๊าก ผมหัวเราะ แล้วจะรู้ ว่ายาดมสำคัญ