วันนั้นชั้นนั่งจมอยู่กับความเงียบที่บ้านตามปกติ นานแล้วที่ชั้นชินกับความเงียบนี้ บางทีชั้นก็กลัวกับความชินนี้เหมือนกัน เวลาที่ชั้นอยู่เงียบๆอย่างนี้ ไม่ว่าชั้นจะทำอะไรอยู่ ชั้นก็จะคิดถึงเขาคนนั้น เขาที่เคยเป็นอะไรที่สำคัญต่อชีวิตชั้น เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชั้น แต่แล้วเขาก็มาจากชั้นไปกับผู้หญิงคนอื่น ตอนนั้นชั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่บนโลกไม่ได้แล้ว อากาศรอบตัวที่แม้ชั้นจะสูดมันเข้าไปมากเท่าไหร่ก็ไม่ทำให้ร่างกายคลายความมึนชา ร่างไร้เรี่ยวแรง แต่ชั้นก็ยังใจเด็ดอยู่มากที่นั่งฟังเขาพูดจนจบว่าเขาชอบคนอื่น ชั้นยิ้มให้เขา ตอบเขาว่าพอจะรู้อยู่แล้วว่าต้องมาถึงวันนี้ วันที่เขาบอกเลิกกับชั้น หนึ่งเดือนที่ผ่านมาได้บอกอะไรบางอย่างกับชั้นเสมอๆ วันที่เขาไปกับผู้หญิงคนนั้นโดยอ้างว่าไปทำรายงาน วันที่เขาไปเรียนพิเศษแต่เขากลับไปกินสุกี้กับผู้หญิงคนนั้น ตอนเย็นบ่อยครั้งที่เขาไม่กลับบ้านกับชั้นแต่กลับกับผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาบอกว่าเป็นเพื่อนมาตลอด เขาดูเสียใจที่ต้องบอกชั้นอย่างนั้นแต่คงไม่เท่ากับความเสียใจของชั้นเป็นแน่ ไม่เป็นไรเราเข้าใจ เป็นคำที่ชั้นบอกกับเขา ก่อนที่จะเดินไปส่งเขาที่ห้องเรียน เช้านั้นดูหม่นหมองลงทันตา ไม่มีวี่แววของความสดใสออกมาจากตาของเขาและของชั้นเลย ก่อนที่เขาจะเข้าห้องเรียน น้ำใสๆก็เอ่อออกมาจากตาเขา น้ำใสๆนั้นไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกใดสะสมอยู่ ความเสียใจ ความละอายใจ ความรู้สึกผิด ชั้นก็ยังได้แต่ยิ้มให้เขา ขอให้มีความสุขนะ เป็นคำพูดสุดท้ายที่ชั้นพูดกับเขาก่อนจะหันหลังกลับ น้ำตาที่อัดอั้นอยู่ในต่อม เอ่อล้นออกมาโดยมีความเสียใจและความผิดหวังเป็นตัวผลักดัน ชั้นไม่ได้หันกลับไปมองเขาเลย จนตัวเองกลับมาถึงห้องเรียนของตน เพื่อนสนิทของชั้นได้แต่เอามือลูบหลังและตบเบาๆที่ไหล่ ดีแล้วล่ะ ชั้นยังไม่ต้องการอธิบาย ไม่ต้องการคุยกับใครตอนนี้ ชั้นแค่อยากจะนั่งร้องให้บนแขนของชั้นเท่านั้น วันเวลาดูเลื่อนไปอย่างช้าๆ บ่อยครั้งที่ชั้นคิดว่าเขากำลังมีความสุขกับผู้หญิงคนนั้น แค่นั้นหัวใจชั้นก็เต้นอย่างรุนแรง ปวดตุบๆที่อก เหมือนร่างกายจะหยุดทำงานไปเฉยๆ ความปวดนั้นยังคอยเล่นงานชั้นอยู่เสมอเมื่อชั้นเห็นเขากับผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน จับมือกัน ชั้นมันไม่ดีตรงไหน เป็นคำถามที่ชั้นคอยถามตัวเองอยู่บ่อยๆ หลังจากเขาทิ้งชั้นไป หลายคืนที่มีแต่ภาพของเขามาตามหลอกหลอน ภาพความสุขที่เราเคยมีด้วยกัน ภาพนั้นเรียกน้ำตาของชั้นได้เสมอๆ เขายังมาพูดคุยกับชั้นบ้างถ้าเราบังเอิญพบกันบนทางเดินในโรงเรียน เมื่อไม่มีผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วย เธอคงไม่ชอบให้ชั้นคุยกับเขาสักเท่าไหร่ ชั้นไม่โกรธเธอหรอก เพราะชั้นเข้าใจว่าเธอคงไม่อยากเสียเขาไปให้ชั้นอีก เหมือนกับที่ชั้นไม่อยากเสียเขาให้เธอ แต่ถ่านของชั้นกับเขาคงไม่ลุกติดขึ้นมาง่ายนักหรอกเพราะเขารักเธอมาก ชั้นดูออก แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วภาพเกี่ยวกับเขาก็ไม่ได้ลบเลือนหายไปเลย เพราะอะไรนะ ชั้นมักตั้งข้อสังเกตอย่างนี้เสมอแต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้สักที มันเป็นชีวิตวัยรุ่นที่ทั้งสุขและเศร้าของชั้น แต่ชั้นก็ดีใจที่ได้พบชีวิตแบบนั้น มันสอนให้ชั้นรู้อะไรหลายๆอย่าง ชีวิตมนุย์ไม่ได้มีแต่คำว่าสมหวัง มันยังมีความผิดหวังคอยแอบซ่อนอยู่ในมุมมืดหนึ่ง รอเวลาของมัน เราทำได้แต่คอยรับมือกับมันเท่านั้น ระหว่างที่ชั้นกำลังนั่งจมอยู่กับตัวเอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เรียกร้องให้ความสนใจของชั้นเบนไปที่มัน "สวัสดีค่ะ" ชั้นกรอกข้อความคุ้นเคยลงไป "ขอสายกิ๊บหน่อยครับ" เสียงคุ้นๆที่ชั้นเคยได้ยินมาก่อนดังขึ้นจากปลายสาย "พูดอยู่ค่ะ ใครค่ะ" ชั้นยอมเสียมารยาทถามไปตรงๆ "อั๋นเองไง จำได้ป่าว" หัวใจชั้นแช่มชื่นขึ้นเล็กน้อย เขานั่นเอง นานแล้วที่ชั้นไม่ได้ยินเสียงเขาหลังจากวันเกิดเขาปีก่อนที่ชั้นโทรไปสุขสันต์วันเกิด "สบายดีรึปล่าว" ถ้อยคำถามตอบพื้นๆอย่างคนห่างเหินดังต่อเนื่องเป็นระลอกๆ จนประโยคสุดท้าย "เรากลับมาคบกันได้ไหม" เขาพูดอย่างตะกุกตะกักแตเป็นน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความหวังลึกๆ น่าแปลกที่ชั้นไม่ได้รู้สึกดีใจสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นเมื่อ 3 ปีก่อนชั้นอาจจะกระโดดดีใจจนตกตึกไปเลยก็ได้ ความเงียบที่น่าอึดอัดเริ่มเข้าครอบคลุมชั้นกับเขา "เราเลิกกับคนนั้นแล้วนะ" เขาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ชั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไม่รู้เลยว่าจะรับกับสถานการณ์นี้อย่างไรดี แต่ความรักของชั้นที่มีต่อเขาดูมันจะไม่เหมือนเดิมซะแล้ว ชั้นพึ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่ามันไม่เหมือนเดิม ทำไมเขาต้องกลับมาคบกับชั้น คนที่เขาทำลายจนหัวใจยับเยินเกินเยียวยา แต่เมื่อมันผสานเข้ากันได้แล้วเขาก็กลับมกระทบมันอีก เกิดรอยร้าวเล็กๆขึ้นอีกแล้ว "มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ" ชั้นพูดออกไปในที่สุด ความเงียบเข้าครอบคลุมอีกครั้ง "งั้นก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องคิดมาก"เขาพูดออกมาเหมือนกับทำให้มันดูเป็นปกติทั้งที่หางเสียงของเขาสั่นจนน่ากลัว เขาพูดอีก 2-3 ประโยค แล้วจึงวางไป ชั้นทำอะไรผิดไปรึเปล่า ชั้นอาจจะกลัวอะไรบางอย่างก็ได้ กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย กลัวเขาทรยศต่อชั้นอีก หรือกลัวว่าชั้นจะรักเขาอีกก็ได้ (ขอขอบคุณที่อ่านมาถึงนี่ มีต่อภาค 2)
5 เมษายน 2547 05:49 น. - comment id 72521
ค่ะ เขียนได้ดีมาก มีเหตุ และ มีผล และเป็นความรู้สึกที่รับฟังได้ค่ะ ว่าเวลาที่เราดูเหมือนไม่มีค่ากับใตรสักคนนั้น มันเป็นอย่างไร เราคงไม่อยากเป็นตัวสำรอง ของเขาทั้งชีวิต ไม่ต้องมาเมตตากับฉันหรอกนะ มันไม่มีความหมายอะไรแล้วในเวลานี้ นะคะ
5 เมษายน 2547 14:35 น. - comment id 72528
ขอบคุณๆ ดีใจจังมีคนอ่านของเราด้วย
8 เมษายน 2547 21:13 น. - comment id 72644
เขียนทิ้งท้ายไว้น่าติดตามว่านางเอกในเรื่องของเราจะใจแข็งหรือใจอ่อนกันแน่ ติดตามภาค ๒ นะครับ
11 เมษายน 2547 11:13 น. - comment id 72763
อ่านนิดหน่อยค่ะ รู้สึกว่าคำว่าชั้นจะมากไปหน่อย และลักษณะการเขียนเริ่มแรกดูไม่ค่อยน่าติดตาม คิดว่าคงชอบคำติมากกว่าคำชมนะค๊ะ
13 เมษายน 2547 00:21 น. - comment id 72879
ขอน้อมรับคำชี้แนะ ขอบคุณๆ
11 สิงหาคม 2547 21:18 น. - comment id 76012
ทำไมเรื่องราวเหมือนเรื่องจริงในชีวิตเค้าก็ไม่รู้ เค้าเพิ่งเจอเหตุการณ์ที่แย่ ๆแบบนี้มาอุ่นๆ เลย แต่เค้าไม่คืนดีกับคนที่ทำเค้าช้ำใจแน่นอน