บทเรียนสุดท้าย
น้ำตาซาตาน
เริ่มจากความรู้สึกดีๆ กับคนๆหนึ่ง เขาหยิบยื่นทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมให้แก่ฉัน แต่สิ่งที่เป็นนามธรรม หรือความในใจของเขา ฉันไม่อาจรู้เลยแม้จนนิดเดียว
ด้วยวัตถุที่เป็นรูปธรรมนี่เอง ฉันหลงกับเขาเหล่านั้น คิดว่าเขามีใจให้จริงๆ ความรู้จักเอาอกเอาใจของเขา บวกกับความเสียสละในโอกาสต่างๆ เช่น ยอมลุกที่นั่งให้คนแก่บนรถเมล์ ปิดท่อที่มีคนเปิดทิ้งไว้ในทางริมถนนฟุตบาธ ฯลฯ
ฉันรักเขาจนหมดหัวใจ เขาไปที่บ้านฉันอย่างคนคุ้นเคย ฉันแนะนำกับพี่สาว และแม่อย่างไม่เคอะเขินว่า เขาคือแฟน
เราคบกันแบบแฟนอย่างเปิดเผย จนวันหนึ่ง เขาได้ขอในสิ่งที่ฉันหวงแหนมา 21 ปีเต็ม นั่นคือความสาว ฉันให้อย่างเต็มใจแม้แม่จะเคยเตือนหนักเตือนหนาก็ตามที แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องของเราสองคน ที่รู้กันแค่สองคนเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันพึ่งรู้ ฉันคิดผิด
เขาเริ่มเปลี่ยนไป
เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวขึ้น และเฉยชากับฉันขึ้นอย่างน่าใจหาย
สิ่งที่เลวร้าย และฉันรับไม่ได้เลยคือ เค้าไม่รับโทรศัพท์ฉัน
เราเจอกันน้อยลง ฉันเริ่มปลง
และในที่สุด ฉันก็เจอเข้ากับสัจธรรม เขาไปกับผู้หญิงคนใหม่อย่างน่าใจหาย
ฉันไม่ได้เสียดายเขา แต่ความปวดร้าวคือ ฉันจะแบกหน้าไปเจอใครได้ ในเมื่อคนอื่นเขารู้กันหมดแล้วว่าเรารักกัน และจะแต่งงานกัน!
เขาเสียชีวิตลงหลังจากเลิกกับฉันได้ 7 เดือน
ฉันร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ในเหตุการณ์ครั้งนี้
ฉันไม่ได้เสียใจที่เขาตายไป แต่ที่ฉันเสียใจ เพราะเขาตายด้วยโรคเอดส์!
ไม่ต้องสงสัยใดๆทั้งสิ้น ฉันรับเชื้อนั้นมาอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องไปตรวจให้เสียเวลา เขาก็คือผู้ชายที่มอบทุกอย่างให้กับฉันอย่างแท้จริง
ทุกวันนี้ฉันนั่งรอความตายอย่างสิ้นหวัง เนื้อตัวเริ่มไม่มีแรงแม้แต่จะลุกออกเดิน คนรอบข้างรังเกียจถึงขนาดไม่ยอมคบค้าสมาคม ฉันอยากจะอยู่กับความฝันในยามค่ำคืนนาน ๆ ตลอดไป
เมื่อคืนฉันฝันว่าได้แต่งงานและอยู่กับเขาอย่างมีความสุข เรากำลังจะมีลูกกัน แต่น่าเสียดายที่ฉันดันเผลอตื่นมาก่อน .
คืนนี้ ฉันคงจะโหยหายฝันอย่างนี้ต่อ ๆ ไป จนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉันยังรักเขา เพียงเพราะว่า..
เขาให้ฉันทุกอย่าง จริง ๆ
"ผู้หญิงรักผู้ชายด้วยหัวใจ
แต่ผู้ชายรักผู้หญิงด้วยหัวสมอง"
นักปราชญ์ท่านหนึ่งบอกเอาไว้ และอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ