กล่องของขวัญ

แชมป์

กล่องของขวัญ
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปคลีนิกรักษาผิวหน้าแห่งหนึ่งมาครับ
นานแล้วที่ผมไม่ได้แวะมาที่นี่ อาจเป็นหลักเดือนหรือหลักปี ผมไม่แน่ใจ ทว่ากลิ่นไอบรรยากาศภายในร้านยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ผมยังจำภาพในวันแรกที่ย่างก้าวเข้ามาที่นี่ได้ ฝาผนังห้องถูกรายล้อมด้วยวอลเปเปอร์สลักรูปดอกไม้ ดูคล้ายดอกกุหลาบ โซฟา(ตัวโปรด)ตัวใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าหนังสีชาเขียวอ่อน ตู้ไม้สีน้ำตาลที่อยู่ติดกับห้องทำทรีตเมนท์มีนิตยสารหลากหลายทั้งรายปักษ์และรายเดือน จริงนะครับผมกล้าพูดได้ว่า ภาพในวันนี้ไม่แตกต่างจากภาพวันแรกมากนัก 
บางครั้งความเหมือนเดิมบางอย่าง มันก็พอทำให้หัวใจของเรารู้สึกสดชื่นได้เหมือนกัน
แต่แล้วความเหมือนเดิมบางสิ่ง ที่ทำให้ผมแปลกใจไปกว่าบรรยากาศภายในคลีนิกนี้ เมื่อผมบังเอิญไปเห็นรายละเอียดในใบประวัติรักษาผิวหน้าของผม
วันนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว คือครั้งสุดท้ายที่ผมเข้ามารักษาที่คลีนิคแห่งนี้
ใช่ครับ 1 ปีพอดีกับความอัศจรรย์ในครั้งนี้
..
ไม่ทราบเหมือนกันว่า ช่วงเวลา 1 ปีของคุณมันนานขนาดไหนครับ ผมเคยนั่งคิด นอนคิดอยู่หลายครั้ง ว่าเวลา 1 ปีหรือ 365 วัน มันนานจริงหรือ
หากเรามองเจ้าเวลานี้ทางด้านคณิตศาสตร์ แน่นอนครับใครคงตอบได้ว่า 1 ปีย่อมยาวนานกว่า 1 เดือน แล้วเวลา 1 เดือนย่อมต้องใช้เวลารอคอยมากกว่า 1 สัปดาห์
หากทว่าเคยรู้สึกไหมว่า บางครั้งเวลาในอดีตที่ผ่านมาเนิ่นนาน ทำไมกลับดูเหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นานมานี้ และบางทีภาพเหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นเหมือนเพิ่งผ่านเมื่อวานไป
คล้ายกับว่าเวลาคงอยากเล่นตลกกับเราเหมือนกัน จึงทำให้ผมคิดอะไรแปลกๆเช่นนี้
เมื่อพูดความนานหรือไม่นาน เลยอดนึกขำตัวเองในตอนเยาว์วัยไม่ได้ เพราะเวลาที่ผมต้องนั่งเรียนวิชาที่ไม่ค่อยถูกโฉลก เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกับอีก 20 นาที กว่าเข็มสั้นและเข็มยาวจะเดินผ่านเลขทีละตัว ทำไมถึงนานแสนนานเพียงนี้  เฮ้อ คำอุทานที่ใช้บ่อย หลังหมดคาบเรียน (ตอนโตยังเหมือนเดิม)
ไม่ว่าเวลาที่ผ่านพ้นไปนั้น อาจจะเป็นเพียงชั่วพริบตาหรือต้องใช้เวลารอคอย มันจะเป็นอดีตที่น่าจดจำ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความสนใจมากกว่านั้นคือ กับ 1 ปีที่ผ่านไป ผมได้ทำอะไรให้กับตัวเองบ้าง และอะไรนั้นที่ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจกับตัวเอง
..
คำว่า ภูมิใจ มันบรรยายความรู้สึกลำบากเหมือนกันนะครับ เพราะความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน เลียนแบบได้ยาก แต่มีโอกาสไม่บ่อยครั้งที่จะได้แสดงออกมา
อาการภูมิใจของผมแสดงออกได้ง่าย ระยะเริ่มต้นจะมีอาการตัวร้อนอุ่นๆ สองถึงสามนาทีต่อมา ระยะสองก็เริ่มแสดงอาการคือ ยิ้มไม่ค่อยหุบ ทำให้ปากที่กว้างอยู่แล้วยิ่งกว้างไปใหญ่ และระยะสุดท้ายคือจะพูดมากทั้งวัน จึงไม่รู้เหมือนกันว่า อาการภูมิใจของผม จะมีอันตรายต่อคนรอบข้างหรือเปล่า
แต่ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่าน มีอะไรหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม อะไรหลายอย่างนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการเรียนในปีการศึกษาสุดท้าย หรือทำตัวสำมะเรเทเมาเทือกนั้น สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น ผมเริ่มหัดเขียนหนังสือครับ
แรงบันดาลใจไม่มีอะไรมาก แค่ยากเขียนอยากอ่านผลงานตัวเองบ้าง เพราะได้อ่านผลงานคนอื่นมาพอสมควร ทีแรกคิดว่าคงไม่ยากแต่ความจริงไม่ การจะขยับปลายดินสอแล้วเขียนพยัญชนะไทยลงบนกระดาษนั้น ลำบากไม่น้อยกว่าการทำข้อสอบวิชาคำนวณเลย
ไม่รู้เหมือนกันว่า ในเวลาที่เราพยามตั้งใจทำในสิ่งที่เราคาดฝันไว้ แต่มันกลับหยุดอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหว ทุกอย่างอยู่ในสภาวะสงบนิ่ง คุณรู้สึกเช่นไร 
2 สัปดาห์ผ่านไป ผมคิดสุภาษิตใหม่  ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ไหน
คงต้องเปลี่ยนแผน ผมคิดสักครู่ ก่อนที่จะผละออกจากโต๊ะประหาร ไปเดินเล่น ฟังเพลง ไม่พยายามคิดเรื่องการเขียน ให้หัวโล่งๆแล้วค่อยกลับไปสานฝันใหม่ อย่าจริงจังเกินไป ให้อารมณ์มันพาไป แล้วทุกอย่างคงดีเอง
เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส วลีอมตะสำหรับยุคเศรษฐกิจ คงประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์ของผมได้ จากที่มือไม่ได้ขีดเขียนเลย ผมได้เริ่มเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ ไม่เป็นเรื่องเป็นราว เหมือนเด็กอนุบาลนั่งวาดรูปเล่น รูปที่คนอื่นมาเห็นอาจไม่รู้เรื่อง แต่แฝงความหมายบางอย่าง ที่ใครก็ไม่อาจรับรู้ได้
ความหวังเริ่มเห็นรางๆ เมื่อผมเริ่มวางโครงเรื่อง กำหนดบุคลิกตัวละคร เหตุการณ์ขัดแย้ง ความไม่เป็นเรื่องเป็นราวในครั้งก่อน ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย คล้ายดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน
ที่ว่าง คือเรื่องสั้นเรื่องแรกที่ผมพยามทำจนสำเร็จ เป็นเรื่องราวของความขัดแย้งในความคิดของผู้เรียนรู้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงกับผู้ผดุงความยุติธรรมผู้เรียนรู้ชีวิตในห้องเรียน ความขัดแย้งที่จะทำให้คุณรู้จักคำว่าชีวิตในอีกมุมมองหนึ่ง
แต่ที่น่าภูมิใจกว่านั้น เมื่ออาจารย์ประจำวิชาไทยวิจารณ์ ได้นำเรื่องนี้เป็นสื่อการสอนของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยที่ผมศึกษาอยู่  แม้จะไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารชื่อดัง แต่เป็นความภูมิใจที่เรื่องของผมได้ไปสู่สายตาของคนกลุ่มหนึ่ง แค่นี้คงพอใจแล้วครับ
ผมขอแก้ตัวความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น  สุภาษิตโบราณที่ใช้ได้ทุกสมัยจริงๆ
การพยามยามทำในสิ่งที่เราอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนอย่างจริงจังและซื่อสัตย์ บางครั้งง่ายคล้ายเปิดประตู แต่บางครั้งก็ยากคล้ายงอกปีกแห่งฝัน 
..
 1 ปีแล้วหรือนี่ เหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นานนะ ผมพึมพัมกับตัวเองสักพัก ก่อนที่จะเดินตรงไปรับยาพร้อมจ่ายเงินตามกติกาและมารยาท
แต่ถึงกระนั้นผมยังคงแปลกใจกับเหตุการณ์ในวันนี้ ที่ไม่อาจเกิดได้บ่อยครั้งนักในชีวิตผม ทว่ามันพอทำให้ผมระลึกถึงเวลา ที่อาจเป็นเพียงชั่วพริบตาหรือผ่านมาเนิ่นนาน กับช่วงเวลาดีๆใน 1 ปีที่ผ่านมา
แต่ที่น่าแปลกใจกว่า เมื่อวันนี้เป็นเกิดของผมเองครับ น่าอัศจรรย์ใจอีกครั้ง
ถือว่าเป็นกล่องของขวัญเล็กๆจากกาลเวลา ที่สะสมอดีตอันสวยงามของชายคนหนึ่ง แม้จะมีฝุ่นเกาะสักหน่อย แต่ยังคงสวยงามเสมอ หากเราให้เวลาที่จะเปิดฝากล่องนั้นออกมาดู				
comments powered by Disqus
  • กัลปพฤกษ์

    1 เมษายน 2547 18:40 น. - comment id 72390

    ช่วงเวลาแห่งความสุข ดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
    
  • t-qoozaa

    2 เมษายน 2547 14:22 น. - comment id 72429

    เหมือนกันเลย.......
    เคยอ่านผลงานของคนอื่นเค้ามามาก เลยอยากจะลองเขียนดูมั่ง แต่ว่า งานเขียนคงไม่เหมาะกับตัวเรา  สงสัยจะเหมาะกะนักอ่านมากกว่า 
    แล้วจะติดตามผลงานต่อไปนะ ....  
    
    อีกอย่างนึง  เวลาที่เรามีทุกข์  มักจะผ่านไปช้าๆ แต่ถ้าเราผ่านความทุกข์นั้นมาได้แล้ว เราก็ว่ามันดู (เท่ห์) ดีนะ สนุกดีด้วย
  • tiki

    1 กุมภาพันธ์ 2548 19:46 น. - comment id 82476

    สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ
  • เพลงกลางป่า

    1 กุมภาพันธ์ 2548 19:54 น. - comment id 82478

    เยี่ยมมากครับ แต่งได้ดี สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนานมากนะครับ ผมเพลงกลางป่า ตัวแต่งมือสมัครเล่นครับ
  • เพลงกลางป่า

    1 กุมภาพันธ์ 2548 19:54 น. - comment id 82479

    เยี่ยมมากครับ แต่งได้ดี สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนานมากนะครับ ผมเพลงกลางป่า นักแต่งมือสมัครเล่นครับ
  • เพลงกลางป่า

    1 กุมภาพันธ์ 2548 19:55 น. - comment id 82480

    เยี่ยมมากครับ แต่งได้ดี สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนานมากนะครับ ผมเพลงกลางป่า นักแต่งมือสมัครเล่นครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน