ผมชอบบรรยากาศตอนกลางคืนของกรุงเทพฯ ยิ่งดึกเท่าไร หัวใจยิ่งสงบไปด้วย งานที่คั่งค้างเมื่อตอนกลางวันถูกสะสางเสร็จโดยเวลาไม่นานในตอนกลางคืน แม้จะเป็นค่ำคืนที่ยากจะหาใครมาสนทนาปราศัยได้ถูกคอ เพราะคงไม่มีใครมานั่งปราศัยคุยแก้เหงาในคืนที่เปลี่ยวเปล่า ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยกับหน้าที่การงานเมื่อตอนกลางวัน .. แต่ผมไม่ ผมอยากให้กลางคืนมีมากกว่ากลางวัน .. คอมพิวเตอร์ คือเพื่อนที่คอยอยู่กับผมแม้ในยามดึกดื่นค่ำคืน ผมรู้ว่ามันชักงอแงเวลาที่ผมชวนมันอยู่ดึก ๆ บางครั้งมันแกล้งหยุดไปเฉย ๆ ก็มี บางครั้งแกล้งแฮงค์ ค้างไม่ยอมพูดจา ..ผมต้องปิดมัน แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ มันคงรู้ตัวเองดีว่า คงขัดใจผมไม่ได้ เลยจำยอมต้องทนนั่งเป็นเพื่อนผมจนดึก ๆ ดื่น ๆ .. วันหนึ่งขณะที่ผมทำงานตัวเองจนเสร็จ แต่ดูเวลาที่ข้างฝาพึ่งจะ 5 ทุ่มกว่า เอ๊ะ ..เสร็จไวกว่าทุกวัน ..อย่ากระนั้นเลย ลองเล่นอินเตอร์เนทดูสิ เขาว่าสนุกหนักหนา เวลาแชท ..ลงโปรแกรมยอดฮิตไป ทั้ง msn , icq ได้คุยกับคนหลายคน มากหน้าหลายตา ทั้งนักศึกษา คนทำงาน ..แต่ไม่เห็นสนุกอย่างที่เค้าพูดกันเลย ส่วนใหญ่ ก็จะมาถามว่า ชื่ออะไร? เรียนหรือทำงาน? อายุเท่าไร และสุดท้ายมีแฟนรึยัง? ผมเบื่อกับคำถามเหล่านี้ เหมือนกับกำลังถูกสัมภาษณ์โดยใครก็ไม่รู้ .. จนในที่สุด ในคืนวันหนึ่ง หลังจากที่ผมออนไลน์ทิ้งไว้โดยนั่งอ่านกระทู้ต่าง ๆ ที่เยาวชนไทยสร้างสรรค์จรรโลงใจ ใช้เป็นที่ระบายด่าคนนู้นคนนี้อย่างสบายอุรา .. อยู่ ๆ ก็มีคนแอดผมในmsn .. " หวัดดีค่ะ ว่างไหม ขอคุยด้วยได้ไหม" " อ้อ ว่างครับ" ผมพิมพ์ตอบไปอย่างใจเย็น "นอนดึกแบบนี้ประจำเหรอ" "ครับ ..ผมชอบบรรยากาศกลางคืนของกทม." "ญา ก็ชอบค่ะ มันเงียบดี" เธอแนะนำชื่อตัวเอง และจากนั้นผมกับเธอก็คุยกันอย่างถูกคอ เรามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน เราต่างหนีความวุ่นวายจากสังคมมาสู่อีกสังคมที่ไม่วุ่นวาย แต่คล้ายจะวุ่นวาย ... เราต่างแลกเบอร์โทรของกันและกัน โทรคุยกันจนในที่สุด เธอก็นัดเจอกัน ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของนักแชททั่วไป ที่เมื่อคุย ต้องขอเบอร์โทร และนัดเจอกัน ซึ่งเมื่อเจอแล้ว ถ้าพอใจกัน ก็คบกันต่อไป ถ้าไม่พอใจ ก็วันนัดเจอนั้น ก็เป็นวันสุดท้ายของมิตรภาพในเนตนั่นเอง.. พันธ์ทิพย์คือจุดนัด ชั้นสองตรงร้านขายของกิน ผมไปรอเธอก่อนเวลา 30 นาทีด้วยใจเต้นถี่ไม่เป็นท่า ตั้งใจว่า ขอให้เธอกับคนในรูปที่ส่งมาให้ดูก่อนหน้านี้เป็นคนเดียวกันเถอะ ..ยังไม่ถึงเวลานัดหมาย ผมจึงเดินลัดเลาะหาดูของบนห้างใหญ่อย่างสบายใจ เผื่อเจอของถูกใจจะได้ซื้อหาไปเปลี่ยนให้คอมพิวเตอร์ที่บ้านบ้าง ผมเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง เพื่อฆ่าเวลาแห่งการรอคอย อีกใจหนึ่งหวังให้ความตื่นเต้นเบาบางลง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ถูกวางบนชั้นในตัวร้านอย่างมีระเบียบ บางชิ้นถูกนำไปวางบนโต๊ะโชว์ประหนึ่งเพชรราคาเรือนแสนที่ตั้งโชว์ในห้างดัง อุปกรณ์เหล่านี้มันก็ดีไปทุกชิ้น เพียงแต่ว่าเราจะเอาชิ้นไหน รุ่นไหน ไปใช้ให้supportกับคอมพิวเตอร์ของเรามากที่สุด ถึงแม้ราคาจะสูงลิ่ว แต่ไม่ถูกรุ่นกับคอมพิวเตอร์แล้ว ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ต่างจากอุปกรณ์ที่ราคาไม่กี่ตังค์ เหมือนกับผู้หญิง ทุกคนเค้าล้วนมีคุณค่าในตัวเหมือน ๆ กัน เพียงแต่เราสามารถเลือกผู้หญิงที่supportกับเราได้หรือไม่เท่านั้นเอง ถ้าเราสามารถเลือกคนที่supportกับเราได้มากที่สุด แม้เขาจะไม่สวยเลิศเลอเฟอเฟ็กต์ นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญ ตรงกันข้ามถ้าเราได้คนที่ไม่support กับเรา ถึงแม้เขาจะสวย เริ่ด เซ็กซี่ น่ารัก หรือเกิดในตระกูลคนมั่งมีเพียงใด ไม่นานอาการError ก็เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อนั้น แม้หน้าของกันละกันก็ไม่อยากจะมอง .. ผมออกจากร้านโดยไม่ได้ซื้ออะไรติดมือมาเลย ไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน แต่เพราะจุดประสงค์หลักของผมเพียงต้องการฆ่าเวลาแห่งการรอคอย และสิ่งที่ผมคิดว่าได้มากกว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในร้านนี้ คือความมั่นใจที่จะเจอเธอคนนั้น เธอคนในอินเตอร์เนต ความตื่นเต้นมันมาพร้อมกับความหวังอันสูงลิ่ว ผมหวังให้เธอเป็นอย่างที่ผมหวัง โดยลืมคิดถึงคืนวันที่ต่างได้แลกเปลี่ยนความคิด ความห่วงใยของกันและกันผ่านโปรแกรมแชท ผมจะต้องแคร์อะไรกับหน้าตาของเขา ในเมื่อเราและเขาต่างเข้าใจกันดีในภาษาสนทนาโดยไม่มีหน้าตาบอกท่าทาง ผมกำลังจะถูกครอบงำโดยความคิดของคนสมัยใหม่ ความคิดที่การให้ความสำคัญแก่หัวใจถูกเขี่ยมาไว้เป็นอันดับที่สองรองจากหน้าตา ไม่ใช่เพราะเลือกเพียงหน้าตาเหรอ ดารา หรือใครต่อใครหลาย ๆคู่ ต้องอยู่กันไม่ยืด เกิดอาการError หรือแฮงค์กันกลางคัน ไม่ใช่เพราะเลือกเพียงหน้าตาเหรอ ผู้หญิงทั้งหลายต้องเข้าคิวทำแท้งกันไม่หยุดไม่หย่อน ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในร้านที่นัดหมาย เหลือบดูเวลาอีก 10 นาทีจะถึงเวลาที่เราได้นัดกันไว้ เธออาจจะมาก่อนเวลา แต่ยังไม่เข้ามา อาจจะอยู่ตรงไหนสักแห่งซึ่งสามารถมองเห็นผมได้ อาการของเธอคงไม่ต่างจากอาการของผมเมื่อ 30 นาทีก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว มีเพียงหัวใจที่บริสุทธิ์ที่รอคอยการมาพบกันของหัวใจอีกดวงที่มันคุ้นเคย โดยผ่านการสื่อสารแบบใจถึงใจ ไม่มีอาการเสแสร้งใดใดมาปนเป นานแล้วที่หัวใจต้องเหนื่อยล้า เพราะเลือกเอาเพียงหน้าตาแต่ไม่เคยsupport กับใจดวงนี้สักที ครั้งนี้อีกครั้ง จะเป็นอะไรไปเมื่อจะทดลองใจกับคนที่เราคิดว่าsupport แม้จะเป็นคนที่ไม่เคยเห็น แม้จะเป็นคนในอินเตอร์เนตก็ตาม ..
30 มีนาคม 2547 01:56 น. - comment id 72282
อ่านแล้วอึ้งๆ รู้สึกเห็นด้วยครับที่สมัยนี้เลือกคบคนที่หน้าตามากว่าที่หัวใจ หลายๆคนจึงต้องปลูกไร่แห้วกัน งิงิ
30 มีนาคม 2547 11:45 น. - comment id 72292
เราเห็นด้วยมากๆๆๆๆเลย เรายังเคยมีเลยรักคนที่เเชทด้วย ทั้งๆๆที่ไม่ได้เห็นหน้าจริงๆๆเลยด้วยซ้ำเเค่รูปที่ส่งมาให้เราก็เอาเก็บในกระเป๋าตังเเระ อืมเเต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร เราว่ามองที่ใจนะเเน่กว่าหน้าตาอยู่เเล้ว
30 มีนาคม 2547 21:13 น. - comment id 72308
แต่งได้เด็ดขาดยอดเยี่ยมมากครับ ให้แง่คิดดี ๆ หลายอย่าง นำคำภาษาอังกฤษมาใช้ได้ลงตัวเหมาะเหม็งมากครับ
31 มีนาคม 2547 13:41 น. - comment id 72335
อืม... สุดยอดความคิดของชายไทย ความรักอยู่ที่หัวใจไม่ใช่หน้าตา