ประากยชล - ไอตะวัน 6
TANOI_ZA
ตอนที่หก ความรู้สึก
เย็นวันต่อมา กระป๋องน้อยของฉัน ก็ไม่มีโอกาสรับไอเมฆขึ้นรถมาด้วย เพราะเขาบอกว่ารถซ่อมเสร็จแล้ว เร็วจนฉันไม่อยากจะเชื่อว่าอะไรจะซ่อมเสร็จเร็วปานนั้น เมื่อวานนี้เขายังบอกฉันอยู่เลยว่าว่า คือ มันเยอะมากเลยคะ ไอ้ที่เขาบอกว่าเสีย มีแต่ที่ฉันไม่รู้จักทั้งนั้นเลย (TANOI_ZA: ก็แหม!! จะไปรู้จักได้ยังไงละ แม่คุณเรียนจบช่างยนต์มาหรือไงคะ) ฉันจึงแซวเขาไปว่า
ช่างซ่อมคงมีพ่อเป็นซุปเปอร์แมนแน่เลยนะคะเพราะรถซ้อมเสณ้จเร็วเหลือเกิน คุณไอเมฆ
อ้อ บังเอิญไม่เคยมีพ่อเป็นซุปเปอร์แมนน่ะครับ เลยไม่รู้ว่าช่างซ่อมเขามีพ่อเป็นซุปเปอร์แมนหรือเปล่า
เอ้อ พี่น้องคู่นี้แปลกดีแฮะ ไม่ค่อยเหมือนกันเลย มีอยู่เรื่องเดียวที่เหมือนกัน ก็เรื่องเพื่อนนี่แหละน้า
วันนี้ฉันจึงพาตาเค้กไปเที่ยวกันให้ช่ำปอด ระหว่างที่กำลังเดินดูของกันอยู่ตามประสาสาวช่างช้อบกับเด็กช่างซื้อ ตาเค้กก็ถามฉันว่า
วันนี้น้ากลอนกับน้าไอไม่เห็นมาเที่ยวด้วยกันเลยเน้าะ เป็นคำถามที่ทิ่มใจฉันจนเจ็บจี๊ด แต่ว่าตาเค้กถามอย่างนี้แสดงว่าเหงาแน่ๆ เลย ฉันจึงถามกลับไปว่า
เหงาหรือไง
บ้า! ใครเขาจะคิดถึงน้าไอกัน
เอ้า!! แม่ยังไม่ถามเลยนะว่าคิดถึงใคร คนเราร้อนตัวก็เป็นอย่างนี้แหละน้า
เปล๊า เขาไม่ได้เหงาอะไรซักหน่อย ก็แค่สงสัย แล้วก็ไม่อยากเห็นแม่ทำหน้าเบื่อโลกแบบนี้ต่างหาก
คราวนี้ตาเค้กพูดโดนใจอย่างจัง ฉันจึงเป็นฝ่ายเงียบก่อน ตาเค้กเองคงจะรู้สึกว่าเมื่อกี้ได้พูดอะไรแทงใจดำฉันไป จึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ เราจึงเดินดูของต่อท่ามกลางความเงียบระหว่างเรา
เมื่อเดินมาถึงร้านขนมเค้กเจ้าประจำ ฉันจึงแวะซื้อเค้กไปฝากพ่อกับแม่ และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ตาเค้ก กินไปหมดซะทุกอย่าง แต่ก็ยังผอมแห้งมากอยู่ดี และฉันก็ได้เจอกับคนที่ฉันยังไม่อยากเจอ
ยัยชล!! มาซื้อขนมเค้กเหมือนกันเลยนะ ไม่ได้เจอกันตั้งเกือบอาทิตย์เป็นยังไง? สบายดีนะ? ได้ข่าวว่าไม่สบายเมื่อ 23 วันที่ผ่านมานี่นา เอาซะฉันพูดไม่ออกเลย จะเงยหน้าสบตายังไม่กล้าเลย ได้แต่ภาวนาให้อะไรก็ได้มาช่วยฉันที และสวรรค์ก็ส่งเขามา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะเราสองคน
ตู๊ดๆ..ตู๊ดๆ
อุ้ย! กวีโทรมา งั้นฉันขอตัวแป๊บนึงนะ เดี๋ยวกลับมาคุยด้วย ไม่เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงเธอจังเลย สักพักกลอนก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม
วันนี้เราขอตัวก่อนแล้วกัน พรุ่งตาเค้กต้องไปร.ร.แต่เช้าน่ะ ใช่ไหมเค้ก
หะ! อะ..อืมๆ ครับ น้ากลอน พรุ่งนี้ผมต้องรีบไปทำเวรที่ร.ร.แต่เช้า ตาเค้กตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวาน
จ้าๆ งั้นก็โชคดีนะ ยายชลฉันไปแล้ว ว่าจะเล่าอะไรให้ฟังสักหน่อย แต่เอาไว้วันหลังก็ได้
เมื่อซื้อเค้กเรียบร้อยแล้ว เราสองคนจึงรีบมุ่งหน้ากลับบ้าน เพราะฉันต้องการจะคิดอะไรเพียงคนเดียว ทั้งเรื่องที่ฉันยังตัดใจจากไอตะวันไม่ได้ ฉันยังเป็นคนเห็นแก่ตัว ยังอยากมีเขาอยู่ข้างกาย ส่วนตาเค้กก็ต้องทำการบ้านแล้วก็เข้านอน
เช้าวันนี้เมื่อฉันไปส่งตาเค้กที่ร.ร. ฉันก็ขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้านไอศกรีมเจ้าประจำที่ฉันมักไปกินกับไอตะวันและยัยกลอน ทำให้ฉันเผลอหันไปมองด้วยความคิดถึงเขา
ไม่จริง ฉันตาฝาดใช่ไหม ไอกลับมาตั้งแต่เมื่อไรไหนบอกว่าอีก 2 อาทิตย์ไง เอ้ะ!! ยัยกลอนนี่ โธ่! ทำไมนะเรื่องแบบนี้ มันถึงต้องเกิดกับฉัน แค่ฉันได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กันก็ทำร้ายฉันมากพอแล้ว นี่ยังให้ฉันมาเห็นกับตาตัวเอง เพื่อตอกย้ำว่าเขาไม่ได้รักฉันอีกด้วยเหรอ ฉันขับรถต่อไปทั้งที่น้ำตาเอ่อล้นออกมาท่วมแก้มทั้งสองข้าง
ช่างมัน! มองไม่เห็นถนนก็ช่างมัน! ขาหักแขนหักหรือตายไปเลยก็ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมาเฮ้อเพื่อนฉันกับคนที่ฉันรัก แล้วฉันจะตัดใจได้เมื่อไหร่ละเนี้ย
ฉันเข้าไปทำงานตอนบ่าย ทำให้เจ้านายต่อว่าฉันเป็นการใหญ่ แต่ว่าเขาคงเห็นว่าฉันเออๆ ไม่อยู่กับล่องกับรอย ก็เลยปล่อยฉันให้นั่งทำใจสักพักแล้วจึงให้งานมาทำต่อ ระหว่างทำงานสายตาฉันก็คอยจะมองหาแต่ไอตะวัน แต่ก็ไม่มีวี่แววจนกระทั่งเลิกงานก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเจอเขาสักนิด
เมื่อถึงเวลาไปรับตาเค้กฉันก็เดินออกมาด้วยอาการเหม่อลอย ในขณะที่ฉันกำลังเปิดประตูรถ ไอเมฆก็เดินเข้ามาทักทายด้วยสีหน้าที่เศร้าผิดปกติ
จะเป็นอะไรไหมคุณชล ถ้าวันนี้ผมจะขอติดรถคุณไปด้วยอีกครั้ง
ห้ะ! อะไรนะอีกแล้วเหรอ ไอ้ช่างซ่อมคนนั้นมันคงมีพ่อเป็นคนขายก๋วยเตี๋ยวแน่ๆ เลย ถึงได้ซ่อมรถให้ตานี่ลวกๆ
ได้อยู่แล้วค่ะ ก็คุณเป็นน้อง..เอ่อ.เพื่อนของชลนี่คะ ติดรถไปด้วยกันจะเป็นไรไป พูดไปก็ร้าวใจเปล่าๆ หลายๆ คำเหลือเกินที่ทำร้ายใจกัน ฉันจะทนสภาพนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ
และการติดรถไปด้วยของไอเมฆครั้งนี้ เป็นเวลาอันน่าตื่นเต้นและประทับ เหมือนกับเราไปเที่ยวสวนสนุกอย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่คราวนี้มันคือชีวิตจริง เพราะฉันเหม่อลอย รถจึงเดินเป็นเส้นโค้งไปโค้งมา เสียงตะโกนโหวกเหวกดังลั่นรถว่า
"ซ้ายๆๆๆ คุณซ้ายเฮ้ย!!.....ขวาๆๆ สิขวาคุณขวาๆๆ คุณไฟแดงแล้วไฟแดงๆๆ จอดด้วยครับจอดๆๆ เฮ้อ!! " รถจอดสนิท แต่ฉันก็ยังเหม่อลอยเหมือนกับไม่รู้สึกอะไร ทันทีที่ไฟเขียวนาทีระทึกใจก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
"ชลครับ ไฟเขียวแล้ว ไอ้รถคันหลังมันด่าแฟนคุณแม่แล้วครับ แต่ถ้าจะให้ดีผมขับเอ.....ง เหวอ!!...คุณใจเย็นๆ...... รถครับรถ ไม่ใช่อากาศระวังด้วย เฮ้อ!! ขวาๆๆๆ ขวาครับ เราสองคนจะไปถึงร.ร.เค้กไหมเนี้ย ผมว่าผมขับเองดีกว่านะ เฮ้ย!!....คุณเลี้ยวด้วย! เลี้ยว! ข้างหน้ากำแพงครับ ซ้าย! คุณซ้ายๆๆๆ! เฮ้ย!! ดูรถด้วยสิชล จอดชะลอก่อนก็ได้" เมื่อเขาทนไม่ได้แล้วที่จะอยู่ในสวนสนุกกลางใจถนน เขาจึงตะโกนบอกให้หยุดรถแล้วไล่ฉันไปนั่งที่เขา เพื่อที่เขาจะขับเอง และปล่อยให้ฉันนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยอาการเหม่อลอย
ในที่สุดเราทั้งสามคนก็มาถึงบ้านด้วยอาการครบ 32 วันนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำกับข้าว ก็อย่างที่เห็นนะคะ ขืนยังดื้อทำแถบนี้คงระเบิดเป็นผงแน่เลย วันนี้แม่จึงเป็นคนทำกับข้าว ฝีมือแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนฉันเป็นคนทำ อันไหนแม่เป็นคนทำ เพราะปกติที่บ้านฉันพ่อเป็นคนลงครัว
กินข้าวเสร็จ ไอเมฆก็ไปนั่งเกมส์เพลย์กับตาเค้กทะเลาะกันอย่างกับเด็กๆ ก็ดีตาเค้กจะได้มีเพื่อนมาเล่นด้วยที่บ้านบ้าง เพราะแถวๆ บ้านของฉันไม่ค่อยมีเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับตาเค้กมากนัก ทำให้ตาเค้กไม่ค่อยมีเพื่อน แต่ฉันก็ไม่ได้หมายความว่า คุณไอเมฆอายุสมองเท่าตาเค้กนะ เพียงแต่ว่า เขาเล่นอะไรเหมือนกับที่เด็กๆเล่นกัน ทำให้ไอเมฆเข้ากับตาเค้กได้ดี
พอ 4 ทุ่มครึ่งเขาก็บอกให้ฉันไปส่งเหมือนปกติ ระหว่างทางกลับบ้านของไอตะวัน อยู่ๆเขาก็บอกว่า
ผมยังไม่กลับบ้านนะครับ ผมมีอีกที่ที่ต้องไป และผมก็อยากให้คุณไปดูผมทำตามความฝันตัวเองเป็นคนแรกด้วย เขาพูดพร้อมกับหันมามอง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายบางอย่าง ทำให้ฉันต้องแกล้งทำเป็นตั้งใจขับรถ และไม่ยอมสบตาเขา
เขาพาฉันไปที่ผับแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าไปถึงเข้าก็เดินตรงไปที่โต๊ะๆ หนึ่งซึ่งตั้งอยู่หน้าเวทีเด่นตระหง่าน เขาบอกให้ฉันนั่งลงด้วยสีหน้าที่พูดได้เลยว่าเขาดีใจและตื่นเต้นมากขนาดไหน
นั่งลงตรงนี้ก่อนนะครับ วันนี้ผมมีอะไรจะให้คุณดู เพราะคุณพูดกับผมวันนั้น ผมถึงได้ตัดสินใจทำตามความฝันผม
หมายความว่ายังไงคะ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย
ไว้คุณนั่งดูความฝันผมเรียบร้อยแล้ว ผมมีบางอย่างจะบอกคุณ
เอาอีกแล้วสายตาแบบนี้ ไม่ชอบเลย ไอเมฆคุณต้องการอะไรกันแน่
ไม่!! คุณต้องบอกฉันตอนนี้ ฉันไม่อยากดูแล้ว เราสองคนเงียบทันที ไม่มีบทสนทนาใดๆ อีก แต่สีหน้าเขาเสียไปเลยทันที ทำให้ฉันตัดสินใจพูดในสิ่งที่ฉันสงสัยอยู่
คุณบอกฉันได้ไหม คุณไอเมฆ ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับฉัน
ผมประทับใจคุณตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่ตอนนี้ผมเริ่มมีความรู้สึกดีๆกับคุณแล้ว
ไม่ คุณคิดอย่างนั้นกับฉันไม่ได้ เพราะฉันไม่ได้ระ
ไม่ต้องพูด ผมเข้าใจคุณรักพี่ผม แต่ขอแค่ผมรักคุณข้างเดียวอย่างนี้ไม่ได้เลยหรือ
มันอาจจะเป็นการเห็นแกตัวมากนะ แต่ฉันคงไม่ยอมให้คุณคิดอย่างนั้นหรอก เลิกซะเถอะ ฉันขอร้อง ความฝันของคุณเองก็เหมือนกัน คุณก็ต้องทำด้วยตัวเอง อย่าเอาฉันไปช่วยแบกด้วยสิ
แต่..
ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ ถ้าคุณจะเลิกคิดแบบนั้นกับฉัน แล้วฉันก็วิ่งออกมาจากที่นั้นด้วยความรู้สึกที่สับสนและเจ็บปวด เจ็บที่ทำร้ายจิตใจไอเมฆ ปฏิเสธไอเมฆอย่างเลือดเย็น แต่ตัวฉันเองก็รู้ดีว่าฉันก็ดื้อดึงที่จะรักไอตะวันต่อไป มันเป็นความรู้สึกที่ทรมาน ซึ่งฉันไม่อยากให้ไอเมฆต้องมารู้สึกแบบเดียวกับที่ฉันรู้สึก
เมื่อฉันกลับถึงบ้าน คนที่ฉันมองหาเขาทั้งวันก็มายืนรอที่หน้าบ้านแล้ว เหมือนกับเขาว่ารู้เรื่องที่ฉันเห็นเขากับกลอนที่ร้านไอศกรีมเมื่อเช้าอย่างนั้นแหละ
กลับมาแล้วเหรอคะ ฉันถามเขาด้วยอาการแปลกเพราะไม่คิดว่าเขาจะมาหาที่บ้าน และตกใจเพราะฉันรู้สึกเหมือนคนร้ายที่เพิ่งทำผิดมา แล้วหนีมาเจอตำรวจ ถึงแม้ตำรวจจะไม่ได้สังเกตอะไรเลยก็ตาม
ผมกลับมาแล้ว เขาส่งยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ที่ใจของฉันจะรู้สึกปวดร้าวไปซะหมด
ทำไมไม่กลับไปพักผ่อนก่อนละคะ พรุ่งนี้ค่อยมาเจอกันก็ได้
ผมรอให้มันถึงพรุ่งนี้ไม่ได้ ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมอยากจะบอกกับคุณ เรื่องทุกอย่างที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับผม
ตอนนี้ความรู้สึกต่างเข้ามารุมเร้าประกายชลให้รู้สึกสับสน เธอรักไอตะวัน แต่ไอตะวันโกหกรักของเธอ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรับรู้ ไม่ว่าอะไรก็ทำร้ายเธอได้ทุกเมื่อ แล้วยังเรื่องที่ไอเมฆบอกรักเธออีก เธอยังพร้อมที่จะรับรู้อะไรทั้งนั้นในตอนนี้ แต่เขาก็เข้ามาช่วงนี้พอดี ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะรักษาน้ำใจใครการปฏิเสธของเธอทำร้ายทั้งไอเมฆและเธอเอง ตอนต่อไป การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของประกายชลจะสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งเขาและไอตะวันขนาดไหนลองให้กำลังใจเธอดูนะคะ
โปรดติดตามตอนต่อไป
TANOI_ZA