ผมเดินไปที่เตียง ..................... ..................... ..................... ผมกับเธอมองตากัน ผม หยิบโทรศัพท แล้วโทรขอที่นอนอีกชุด ผมหันพูดกับเธอ เราไม่รู้นะว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง แต่เราไม่เหมือนกับคนที่เธอเจอมาหรอกเชื่อเราสิ ผู้หญิงท่าไม่รักตัวเอง มันก็จะหมดค่าน่ะ ผมเดินเข้าห้องน้ำ ทิ้งเธอไว้อย่างนั้น ไม่อยากจะพูดอะไรหรือคิดอะไร ผมบอกกับตัวเองไม่ให้คิดลามกตอนนี้ในใจก็ท่องแต่ชื่อ มินๆๆๆๆ เสียดายโอกาศเหมือนกัน แต่ผมไม่อยากเจอหน้ามินแล้วมองหน้าเธอไม่ติด อย่างน้อยผมก็ภูมิใจที่อดกลั้นตัวเองได้.......................... คืนนั้นผ่านไปด้วยดี โดยมีผมนอนที่พื้นแล้วเธอก็นอนเตียง................ตลอดคืน วันต่อมาก็พาเธอไปกินข้าว...................... เธอเป็นผู้หญิงแบบไงดีครับ เรียบร้อยมาก...............มากเกินไปหรือเปล่าไม่รู้-_-|||| แบบไม่พูดเลยอะครับ ถามคำตอบคำยิ้มแค่นั้น แต่เธอก็น่ารักอะครับ....................กินๆแล้วก็นั่งรอผมกินเสร็จ ผมออกจากโรงแรมแล้วครับ ไปหามินตามที่อยู่ที่วาวาทิ้งไว้ให้ แต่จะบอกมินไงหว่ามีสาวเดินตามเนี่ย-_- ช่างเตอะ มินไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่าที่จะไม่ฟังเหตุผล เธอเก่งมากเลยครับ ยอมรับว่าคุ้มจริงๆ เธอจัดการซื้อตั๋วรถไฟให้..................รู้บริเวณหมดแค่ดูที่อยู่แป๋บเดียว โอพระเจ้า ไม่ต้องจ่ายค่าแท็กซี่มหาโหดอีกแล้ว^^ เดินถือโดนัทคนละชิ้นกินรอรถไฟครับ โอ้สุขจริงๆ แล้วผมก็ไปถึงซอยบ้านที่มินอยู่ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะครับ ดีใจ ตื่นเต้น ปนกันไปหมด ผมเดินไปหน้าบ้านช้าๆแบบนับก้าว ทุกก้าวที่ผมเดินผมก็ใกล้มินมากขึ้นทุกที 1ก้าว 2ก้าว จนถึง............... อยู่หน้าบ้านหลังสีขาว มีสวนดอกเล็กๆอยู่หน้าบ้าน มีรถจักรยานพาดเสาอยู่ กล่องรับจดหมายตั้งอยู่หน้าบ้าน กริ่งเล็กๆตั้งอยู่ที่ปลายมือนี่เอง ผมสูดหายใจเข้าลึกๆยกมือขึ้น แล้วกดกริ่ง..............กริ้ง..เล็กๆดังชัดเจน มินอีกไม่กี่นาทีเราก็จะเจอกันแล้ว เธอจะทำหน้ายังไงน่ะผมคิด ต้องว่าเสียให้เข็ด....ไม่ยอมติดต่อเจมแบบเนี้ย(เอาจริงๆกอดดีฟ่า) เสียงถอดกลอน เสียงเปิดประตู ดังขึ้น ผมยังยืนอยู่ตรงนี้ตรงขอบรั้วรอมินอยู่ คุณป้าชาวอเมริกันคนนึงเดินออกมา เธอแก่มาก ผมขาว อุ้มหมาตัวเล็กๆไว้ หน้าตาดูใจดี มีแว่นอันเล็กใส่อยู่ (ส่วนของคำพูดต่อไปขอแปลเป็นไทยเลยนะครับจะได้ไม่เสียอรรถรส) เธอยิ้มครับ..........ผมยิ้มตอบ ถ้ามินอย่กับป้าคนนี้ผมคงไม่ห่วงแน่ๆ ยูมิหยั่งอยู่ข้างหลัง เธอยังเงียบครับ แต่เท่าที่ดูอาการเธอก็ตื่นเต้นไม่น้อยกว่าผม ขอโทษครับ มีคนชื่อ..........(ชื่อจริง).........อยู่หรือเปล่า ผมถาม เธอทำหน้างงแล้วส่ายหน้า ไม่มีเหรอครับ เอ่อไม่ทราบว่าที่อยู่อันนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับ ใช่ค่ะ......แต่ไม่มีคนชื่อที่คุณบอก เคยมีเด็กไทยมาอยู่ที่บ้านฉันเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง แต่เธอย้ายไปแล้วล่ะ รู้สึกว่ามหาลัยที่เธออยู่จะไม่ดี เธอเลยย้ายมหาลัยไปแล้ว ย้ายไปแล้วหรือครับ ใช่ค่ะ ย้ายไปแล้ว......... แล้วพอจะรู้ไหมครับว่าเธอย้ายไปไหน มีเบอรติดต่ออะไรหรือเปล่าผมผิดหวังมากเลยครับ นึกว่าจะได้เจอมิน นี่อะไรผมกับมินต้องไกลกันมากขึ้นอีกเหรอ ดิฉันก็ไม่สนิทอะไรกับเธอมากเพราะเธอมาอยู่แค่อาทิตย์เดียว ก็แค่จัดปารตี้เล็กๆให้กับเธอ ไม่ได้ถามที่อยู่ไว้หรอกค่ะ............รู้ว่าแกย้ายไปเรียนมหาลัยในเมืองเดิมนี่แหละค่ะแกเลยย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ผมโอบตัวเองไว้ครับ ทั้งหนาวและผิดหวัง ขอบคุณครับ..............และก็ขอบคุณด้วยนะครับที่เคยดูแลมินให้ผม ค่ะ..............จะเข้ามาดื่มกาแฟสักถ้วยก่อนไหมค่ะ เธอถามผม ผมว่าน่ะ ถ้าจะมาอยู่โฮมเสตยก็ขอเจอดีๆแบบนี้เถอะสาธุ ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ ผมเดินออกมาที่ถนนโดยมียูมิตามมาติดๆ ผมซึมสิครับ ผมออกจากโรงแรมมาแต่เช้าทำไมล่ะงั้น หงุดหงิดมากครับ แบบไม่อยากพูดกับใครเลยตอนนี้ ยูมิเดินมาข้างๆเธอ..............มองหน้า แล้วเธอก็เอามือมาคล้องแขนผมตกใจครับแต่ติดตรงที่เธอเงียบแล้วเดินคล้องไปเรื่อยๆ ผมเลยไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร หรือที่เมกาถือเป็นเรื่องปรกติ แต่ที่แน่ๆครับ คล้องหยั่งงี้มันอุ่นสบายกว่าเยอะทีเดียว เลยปล่อยครับ..................ผมผิดไหมเนี่ย ยูมิบอกกับผมว่าเมืองนี้มีหมาลัยถึง6แห่ง-_-โคตรเยอะ ถ้าตัดที่เก่าที่มินเรียนออกล่ะก็................ก็เหลือแค่5มหาลัยเอง(ไม่เองแล้วT_T) เธออุตสาหไปขอที่อยู่มหาลัยแต่ละที่มาให้........... มานั่งคัดๆกันพยายามเอามหาลัยที่เป็นไปได้ก่อน ดึกแล้วครับวันนี้...............ผมเปิดห้องให้ยูมิอีกห้องนึง โทรบอกหาพ่อกับแม่ครับ แต่ยังไม่บอกเรื่องยูมิเลย^^ พ่อบอกให้ดูแลตัวเอง..................แค่นั้นล่ะครับสั้นจริงๆT_T วันต่อมาผมกับยูมิก็ช่วยกันตามหามิน........... ผมไปมหาลัยหลายๆที่เดินเข้าไปถามแผนกทะเบียนนักศึกษา ฝรั่งมันก็ถามนู่นถามนี่ไม่ยอมให้ตรวจสักที มันบอกนักศึกษามีเป็นพัน หาไม่เจอหรอก ถ้าอยากหาไปดูในห้องทะเบียนเอง.............. มันไม่รู้จักคนไทยเสียแล้วครับว่าบ้าจริง ผมเดินเข้าห้องเปิดแฟ้มหาเลย ผมเปิดประวัตินักเรียนใหม่....................ตั่งแต่เช้าจนเย็น เพิ่งตรวจได้3มหาลัยครับ ได้ความร่วมมือมั่งไม่ร่วมบ้าง วันแรกเหนื่อยครับ เหนื่อยจริงๆ นั่งกันตรงม้านั่งหน้ามหาลัย มีสวนดอกไม้สวยงามครับ เด็กๆก็วิ่งเล่นกันดูเขามีความสุข ผมบอกยูมิให้รอที่ม้านั่งครับ..................แล้วผมก็เดินไปซื้อไอศครีมมาฟาก ขอบคุณค่ะเธอพูดออกมาเป็นภาษาไทย ทำผมแปลกใจมากเลย ยูมิ พูดไทยได้ด้วยเหรอ..........ผมถามเธอได้แต่ส่ายหน้า ได้แค่นั้นล่ะค่ะ เคยเจอคนไทยมาเยอะเหมือนกันเธอขำท่าผมตอนเหวอมากเลย ผมขำกับเธอเหมือนกันครับ.............แต่ไม่ไหวผมคิดถึงมินมากว่าอะไรตอนนี้ ยูมิ เราจะเจอมินไหม เมกากว้างขนาดนี้เนี่ย เราไม่รู้ว่ามินเป็นยังไง สบายดีไหม ยังคิดถึงเราหรือเปล่า เธออาจจะมีแฟนใหม่ มีความสุขไปแล้วก็ได้ผมถอนหายใจ........ ยูมิจ้องหน้าผม..............แล้วเธอก็เอื้อมมือไปในกระเป๋าถือของเธอ..... เธอหยิบด้ายสีแดงๆขึ้นมาครับเส็นเล็กๆบางๆ เธอเอามันผูกที่นิ้วก้อยของผมข้างนึง ส่วนอีกด้านนึงก็ผูกไว้ที่นิ้วก้อยของเธอ ....................................................... ที่ประเทศยูมินะ มีความเชื่อว่าน่ะค่ะว่า คนเราจะพบกันจะเป็นเพื่อนกันคนรักกัน ต้องมีดวงชะตาต้องกันค่ะ ....................เหมือนมีได้แดงผูกติดด้วยกันอยู่ เหมือนยูมิกะเจมที่มาเจอกันตอนนี้............ ยูมิเชื่อนะ ว่าเจมกับคนที่เจมรักก็ต้องมีด้ายคล้องติดอยู่เหมือนกัน ไม่มีใครดึงด้ายนี่ออกได้หรอกค่ะถ้ามันเป็นชะตา ผมมองยูมิ..................ขอบคุณกับคำพูดให้กำลังใจของเธอจริงๆ อืมขอบคุณนะ........... ผมยื่นนิ้วก้อยออกให้เธอข้างหนึ่งข้างที่มีด้ายติดอยู่นั่นแหละ ประเทศเราก็มีความเชื่อเหมือนกัน เขาว่าการเกียวก้อยสัญญา อะไรสักสิ่งมันก็หมายถึงคำมั่นที่ไม่อาจลบลืม ยูมิชูนิ้วก้อยขึ้นมาแบบ ดูเธอจะตั้งใจฟังมาก ยูมิ เป็นเพื่อนกับเราตลอดไปได้ไหม............เพื่อนที่ดีเราจะไม่ทิ้งกัน ผมชูนิ้วต่อหน้าเธอรอคำตอบอยู่.......... เธอเงียบไปเลยครับ...............ได้แต่เกี่ยวนิ้วก้อยผมตอบ เธอทำตาแดงเหมือนจะร้องไห้ ค่ะ........... เจมรู้ไหมไม่เคยมีใครดีกับเราอย่างนี้มาก่อน...........พอเราเริ่มคบใครแล้วเขารู้ว่าเราไม่มีเงิน เขาก็จะตีตัวออกห่างกัน เราเหงานะเจม ผมอึ้งครับและนับถือกับความแข็งแกร่งของเธอจริงๆ เธอยู่อเมริกาคนเดียวผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทั้งเงิน ทั้งเพื่อนทั้งทางไป เรายังเกี่ยวก้อยกันอย่างนั้น ปล่อยให้ความอบอุ่นที่มือส่งถึงกัน เจมดูสิ ยูมิปล่อยมือออกจากผมลุกขึ้น เธอชี้ให้ผมมองไปดูท้องฟ้ายามเย็น มีเกล็ดสีขาวๆค่อยๆตกลงมาดู ก้อนสีขาวๆสะท้อนแสงนีออนดูสวยมาก ยูมิไปยืนอยู่กลางสวน ปล่อยให้หิมะตกกระทบหน้า เธอสวยมากเลยครับตอนนี้ เธอยังกระโดดโลดเต้นอยู่กลางสวน ผมไม่รู้ทำไมแต่ดูเธอจะชอบหิมะมากเลย อากาศเริ่มหนาวขึ้นครับ พระอาทิตยกำลังจะลับฟ้าแล้ว ผมถอดเสื้อนอกออกเอาไปคลุมให้เธอ เธอหันมามองผมแต่ผมไม่มองตอบหรอก ได้แต่มองฟ้าแก้เขิน ยูมิยิ้มกระชับเสื้อให้แน่นขึ้น............. ขอบคุณค่ะ.......... สั้นๆแค่นั้นละครับที่ผมได้ยินจากเธอ
18 พฤศจิกายน 2546 22:38 น. - comment id 70274
o_O.... เอ่อ......ยาวไปป่าวเนี่ยยย -____- อิอิ......
19 พฤศจิกายน 2546 23:00 น. - comment id 70279
หนุกดีอ่ะ
20 พฤศจิกายน 2546 13:22 น. - comment id 70283
ลงต่อ เร้วๆ หน่อยจิ
22 พฤศจิกายน 2546 17:51 น. - comment id 70300
อืม......เพื่อนๆค่ะ ต่อไปนี้เราคงเอาเรื่องมาลงต่อไม่ได้แร้วล่ะค่ะ เพราะว่าเราเพิ่งรุ้ว่า พี่เจม (เจ้าของเรื่อง) เค้าจดลิขสิทธิ์ไว้แร้ว และคาดว่าถ้าแต่งเส้ดจารวบรวมขึ้นเปงหนังสือ ^^ แต่เพื่อนๆก้อยังสามารถไปอ่านต้นฉบับได้นะคะ http://www.vrteen.com/commun/webboard/answer.asp?id=43&VIEW=15 อาจจะโหลดนานหน่อยนะคะ เพราะคนเข้าไปอ่านเยอะมากกกกกก ก้อเค้ามีเอารูปมินกะวาวา มาลงไว้ด้วย ไปหาดูกันเอาเองนะคะ ในเวปที่ให้ไว้เค้ามีบอกค่า บะบาย เน้อ........
16 กุมภาพันธ์ 2547 19:25 น. - comment id 71074
เศร้า จาย เลยอ่ะ
16 กุมภาพันธ์ 2547 19:28 น. - comment id 71075
อยากอ่านอีก ง่ะ
2 เมษายน 2549 18:55 น. - comment id 90314
เพ่ค้าบนี่ฟิมน๊า ฟิมชอบเรื่องนี้มากเลยอ่ะ แต่ฟิมเข้าเเว็บที่พี่ให้มะด้ายอ่ะ ฟิมเเอดเมลพี่เเล้วน๊ะ เมลฟิมFilm_narak_ps@hotmail.com ถ้าพี่เจอฟิมเเอทมาคุยกานด้วยน่ะ ถึงฟิมจะเพิ่งอ่านเเต่ฟิมก้อชอบน๊ะ