++ ก่อนร่วมเรียงเคียงหมอน++
สิปราง
การแต่งงาน คือ สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน... เป็นฉากที่จัดขึ้น
ไม่ต่างอะไรจากมหรสพฉากใหญ่ที่ผู้คนจำต้องเล่นเพื่อสังคม....
ส่วนคนที่คบหาดูใจกันอยู่นั้น ก็คงต้องรอเวลา เพราะทุกอย่างต้องอาศัย
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนของใครคนนั้น.... คนที่พร้อมจะเปิดโลกส่วนตัว
ของเขาให้เราค้นหาได้ทุกซอกทุกมุมในหัวใจ และพร้อมจะดูแลรักษา....
เติมเต็มชีวิตที่เหลือของกันและกันให้เปี่ยมล้มไปด้วยสุข สุขที่ได้รัก...และ
สุขที่ได้รับรักตอบแทน
หลายคู่ที่ถูกบังคับจากญาติผู้ใหญ่ ด้วยเห็นว่า...คบหาดูใจกันมานาน
เกรงฝ่ายหญิงจะเสียหาย หรืออีกหลายคู่พอคบกันสักพัก...แล้วก็เห็นว่า
ถึงเวลาแต่งงานกันเสียที ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้นิสัยหรือตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย
เลยด้วยซ้ำ กลับมองไปว่า...การแต่งงานคือบทสรุป เมื่อแต่งแล้วทุกสิ่ง
ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์ มีน้อยคู่นักที่ฝ่ายหญิงจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่
โชคดีที่สุดหลังการแต่งงาน... แล้วที่เหลือหล่ะ
ไม่มีใคร....อยากผิดพลาดในชีวิต หากมองโลกในแง่ดี บทเรียนเก่า ๆ
มันทำให้เราก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีสติ... ความรักอาจทำให้เราเจ็บปวด
แต่มันก็สอนให้เราเห็นค่าของความสุข...และรู้จักถนอมความสุขนั้นให้ยาวนาน
ที่สุด หากเราทำเช่นนั้นแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับคืนมามันไม่ใช่.... ก็อย่าได้
ดิ้นรนหรือปรารถนาที่จะครอบครอง เพราะมันจะเป้นความเจ็บช้ำแสนสาหัส
ไม่มีใครอธิบายได้ว่า...เพราะอะไร ก็คงต้องรักตัวเองให้มาก ๆ ทำใจ และ
หาคนที่ใช่สำหรับเราต่อไป
ส่วนใครที่ทำเช่นนั้นแล้ว... ิสิ่งที่คุณได้รับกลับคืนมาไม่ใช่แค่ความรัก
เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นความเอาใจใส่ ความอบอุ่น ความเอ็นดูของ
ทุก ๆ คนในครอบครัวของเขาที่หยิบยื่นมาให้ ไม่มีอะไรแตกต่าง....
มีแต่ความเข้าใจและความรักที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ....วิถีชีวิตของแต่ละคน
ก็คงดำเนินไปตามปกติ.... จังหวะนั้น...คือพื้นฐานส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต
เมื่อปัจจัยต่าง ๆ พร้อม ทุกอย่างลงตัว การที่คนสองคนจะก้าวเดินบน
เส้นทางชีวิตเดียวกัน ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง รับรู้กันได้ทุก ๆ
ความรู้สึก และไม่ปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องโดดเดี่ยว
เมื่อ "ต้นรัก" หยั่งรากลึกเพียงพอ และพร้อมที่จะออกดอกผลิใบ
หัวใจก็พร้อมเป็นน้ำหล่อเลี้ยงต้นรักให้เจริญเติบโต เมื่อนั้น...จึงจะถึง
เวลาของการร่วมเรียงเคียงหมอนที่แท้จริง...ชั่วนิรันดร์.