เกิดอะไรขั้นไม่รู้กับชีวิตในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะไปงานขึ้นบ้านใหม่เพื่อนที่ทำงานเก่า คนที่ไปด้วยเป็นเพื่อนผู้หญิง เพิ่งหัดขับรถ จึงกลัวการขับรถขึ้นเนินมาก จากถนนนวมินทร์ มุ่งตรงไปยังถนนรามอินทรา เพื่อนก็ขับรถไปช้าๆ คงเป็นเพราะวันอาทิตย์ รถไม่ติด เราก็เลยไม่รีบร้อน จนกระทั่งรถติดไฟแดง เพื่อนจึงจอดรถตรงเชิงสะพาน ไม่กล้าขับขึ้นไป เกรงว่ารถจะไหลลงมาชนรถคันหลัง ด้วยรู้ตัวดีว่าเลี้ยงครัชไม่เก่ง ระหว่างนั้นเรายังหันมาคุยกันว่า ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ น่าจะดีกว่านี้ พอดีสัญญาณเปลี่ยนเป็นไฟเขียว เพื่อนก็เข้าเกียร์หนึ่ง ทีนี้คนเพิ่งหัดขับ มันก็เลยช้า และคงเป็นเพราะกลัวการขับรถขึ้นเนิน ก็เลยประหม่า ไอ้เราก็บอกเพื่อนว่า ช้าๆ ก็ได้ ให้คันหน้าขับเลยไปไกลๆหน่อย จะได้เหยียบคันเร่งขึ้นไป อย่างไม่ต้องกังวล อ้อ...ที่ท้ายรถเพื่อน มีสติ๊กเกอร์ติดเอาไว้ตัวเบ้อเริ่มว่า มือใหม่หัดขับ ทีนี้คันหลังคงรำคาญ ก็บีบแตรเร่ง เพื่อนก็เลยสั่น แต่ก็ประคองรถออกไปได้ เรื่องน่าจะจบลงแค่นี้...แต่ไม่จบ เพราะรถคันหลัง คนขับเป็นบุรุษที่ไม่น่าจะมีคำว่าสุภาพ เขาขับแซงรถเพื่อนขึ้นไป ทั้งที่อยู่บนสะพาน และในจังหวะที่กำลังจะลงสะพานนั่นเอง เขาก็ชะลอรถโดยไม่มีสาเหตุ เพื่อนก็เบรก เขาก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไป พอลงมาอยู่บนพื้นราบ เขาก็ขับป่ายซ้าย ป่ายขวา แล้วชะลอให้ต้องเบรกอยู่ตลอดเวลา ไอ้เราก็ลุ้น กลัวเพื่อนจะไม่รอด จนมาถึงทางแยก เขาก็เลี้ยวไปในเส้นทางของเขา แต่เราตรงไป เพื่อนถอนหายใจ เหงื่อแตกซิก ทั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ ดูเถอะ คนไม่รู้จักกันแท้ๆ ไหงทำกันได้ขนาดนี้ กลับออกจากบ้านเพื่อน เราก็ชวนกันแวะห้างสรรพสินค้า เลือกห้างที่มันมีลานจอดรถอยู่ข้างล่าง เมื่อเข้าไปในห้างฯ ก็คว้ารถเข็นคนละคัน ฉันเข็นรถไปในมุมที่ขายขนม ตั้งใจจะซื้อไปฝากพ่อ แต่บริเวณนั้นคนเยอะ และฉันคงตีวงกว้างไปหน่อย ด้านหน้าของรถ จึงไปสะกิดเอาผู้ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ (สะกิดนิดเดียวจริงๆ สาบานได้ว่าไม่น่าจะเจ็บด้วยซ้ำ) ฉันรีบเอ่ยปากขอโทษ โดยอัตโนมัติ แต่เขากลับด่าฉันด้วยถ้อยคำสารพัดสัตว์เลื้อยคลาน ฉันนิ่งอึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะเจออย่างนี้ แต่ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้หันไปเลือกขนม แต่เขาก็ยังเมามันกับการด่าไม่เลิก และทำในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด คือเขาตรงมาที่รถเข็นของฉัน แล้วไสมันออกไปด้วยอำนาจโมโห รถเข็นก็แล่นลิ่วๆไป โชคดีที่บริเวณนั้นไม่มีเด็ก คนแก่ หรือผู้หญิงยืนอยู่ มิฉะนั้นคงถูกรถเข็นชนเข้าให้อย่างจัง ฉันมองตามรถเข็น แล้วหันไปมองหน้าเขา คราวนี้สารพัดสัตว์เลื้อยคลานก็หลุดออกมาจากปากเขาอีก ฉันก็เลยถามว่า แล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อก็ขอโทษแล้ว เขาก็ว่า เข็นรถไม่ระวัง แล้วสารพัดสัตว์ก็ออกมาเลื้อยเพ่นพ่านเต็มห้างอีก ฉันเหลืออดจริงๆ ก็เลยพูดขึ้นมาลอยๆ โดยไม่มองหน้าว่า แล้วนี่ไม่อายเขาหรือ เป็นผู้ชายแท้ๆ มายืนด่าผู้หญิงปาวๆอยู่ได้ คราวนี้เขาชะงัก ประกอบกับผู้คนก็พากันหันไปมองเขา ฉันเห็นเขายืนถือตะกร้าเก้ๆ กังๆ อยู่ แล้วในที่สุดก็หันหลังเดินจากไปดื้อๆ เพื่อนที่มาเห็นเหตุการณ์เอาตอนท้ายๆ ก็ซักถาม ฉันเล่าให้ฟังคร่าวๆ เพื่อนถึงกับอุทานว่า "เฮ้อ...วันกลียุค" เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ ที่ประสบพร้อมกันในวันเดียวนั้น ทำให้อดฉงนใจไม่ได้ว่า เรื่องซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร สยามเมืองยิ้ม คงไม่มีแล้ว มีแต่สยามเมืองร้อน เพราะร้อนกันจริงๆ ทั้งสองเหตุการณ์ ถ้าอีกฝ่ายตอบโต้ด้วยวิธีการอันรุงแรงเช่นเดียวกัน อะไรจะเกิดขึ้น...ไม่อยากคิด
16 พฤศจิกายน 2555 10:03 น. - comment id 131004
คนขับรถสมัยนี้พกปืนผาหน้าไม้ด้วย ต้องระวัง.. อะไรยอมได้ก็ยอมกันไป..ไม่ได้กลัวเกรงอะไร แต่ศักดิ์ศรีสำคัญน้อยกว่าชีวิต อยู่อย่างมีสติและไม่ประมาทค่ะ :)
15 พฤศจิกายน 2555 14:24 น. - comment id 131015
เจอแบบนี้แย่เนาะพี่ดิน... เวลาขับรถพิมจะพยายามทำใจร่มๆ ถ้าเราหงุดหงิดอารมณ์เสีย มันก็เสียสุขภาพจิตเราเอง ปล.ผู้ชายคนนั้นเขาคงอยู่ช่วงวัยทองเนาะพี่ดิน แหะ
15 พฤศจิกายน 2555 15:11 น. - comment id 131018
เดาว่า รถคันที่แกล้งบนสะพาน เขาใส่แว่นตาดำ เลยมองไม่เห็นป้ายท้ายรถ" หัดขับ" เดาว่า คนที่ถูกรถเข็นชน แล้วโมโห ไม่ยอมเลิกลา เพราะว่า เพิ่งถูกเมียสั่งให้ซักผ้า เขาเก็บกด เลยมาลงที่คุณดิน อิอิ อภัย คือสิ่งที่จะทำให้มนุษย์อยู่รว่มดันอย่างมีสุขครับผม
15 พฤศจิกายน 2555 19:33 น. - comment id 131022
ดีน๊ะที่คุณดินใจเย็น..นี่หละสงบสยบเคลื่อนไหว...
15 พฤศจิกายน 2555 20:20 น. - comment id 131025
เหตุการณ์แบบนี้เยอะมาก บนท้องถนน ไม่น่าเชื่อว่าเมืองพุทธจะมีคนแบบนี้ ทางที่ดี่ที่ผมใช้ได้ผลคือ ชะลอรถเราปล่อยให้รถที่คนขับมีพฤติกรรแบบนี้ขับเลยรถเราไปให้พ้นๆ จิตเราก็จะเป็นสุข เหงื่อไม่ตก ผมใช้ได้ผลมาแล้ว ชนะกิเลส แพ้คน แต่ถ้าชนะคนเราจะแพ้กิเลส
15 พฤศจิกายน 2555 21:57 น. - comment id 131027
ถ้าอยากรู้ว่าสองเหตุการณ์ประสานกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ยากนี่ วันที่ยี่สิบสี่นี้ไปลานพระรูปด้วยกันเตรียมเสื้อแดงไว้ให้แล้วด้วยให้ไปรับยที่ไหนดีล่ะ อิอิ
15 พฤศจิกายน 2555 22:28 น. - comment id 131028
ขอเล่ามั่งนะครับ รถยนต์น่ะเจอจนชิน พูดง่ายๆอยู่ในสังคมนี้ ต้องทำใจทุกวัน ม่ายงั้นเราจะเป็นโรคปราสาท ผมเคยเจอเหตุการณ์นไทยสันดานหยาบแบบนี้ในห้างสรรพสินค้าและในเซเว่น กำลังเข้าแถวจ่ายตังส์ มีเด็กวัย ๙ ขวบได้ยืนอยู่ข้างหน้า อยู่ๆสาวเจ้าก็เดินมาแซงหน้าเด็กปุ๊บ คิดในใจทันทีจะพูดให้เขาอายเลยแกล้งเดินไปพูดกับเด็กว่า หนูน่ะเป็นเด็กดีนะ รู้จักเสียสละ สาวเจ้านางนั้นหันขวับมาทันทีตะวาดว่า " ก็ไม่เห็นนี่" แล้วเธอก็เดินไปจ่ายตังส์หน้าตาเฉย แสดงว่าเธอเห็นม่ายงั้นคงไม่ได้ยินที่เราพูด ดูท่ทางเธอจะเอาเรื่องกับเราที่เป็นผู้ชายอก ๒ ศอกเลยนะนั่น สังคมเราเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ บนท้องถนนก็เคยถูกคุณเธอด่ามาแล้ว ถนนสวนกัน ๒ เลน เธอขับคล่อมเลนมาเลย นึกในใจว่าจะไม่ให้ทางกับเธอที่นิสัยไม่ดีแบบนี้ ก็ขับสวนไปเรื่อยๆแล้วเธอก็ไปไม่ได้ คุณเธอเปิดกระจกมาด่าด้วยถ้อยคำที่ผู้ชอบสบถกัน ทำเอาเราตกกะใจเลย ไม่รู้เธออารมณ์ไม่ดีมาจากไหนจึงมาระบายบนท้องถนน มาถึงวันนนี้ ขอเป็นทำตัวพระดีกัว ครับ
16 พฤศจิกายน 2555 13:41 น. - comment id 131029
ผู้ชายปากร้าย ปากตลาดมีเยอะมากมายนะคะพี่ดิน ลืมๆไปค่ะ อย่าไปจดจำเลยนะคะ
16 พฤศจิกายน 2555 13:56 น. - comment id 131031
พี่ก็รู้สึกแย่จ้ะน้องพิม แต่ก็บอกตัวเองว่า ดีเท่าไหร่แล้วที่เขาโกรธ แล้วไสรถเข็นออกไป เพราะถ้าเขาไสพี่ เหมือนที่เขาไสรถเข็น คงจะแย่กว่านี้ ชอบสำนวนน้องพิมนะจ๊ะ ทำใจร่มๆ ฟังดูเย็นๆดี
16 พฤศจิกายน 2555 14:10 น. - comment id 131033
พยายามมองให้เป็นเรื่องขันเหมือนกันจ้ะคุณแบม อภัย คือสิ่งที่จะทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีสุข...จริงแท้แน่นอนจ้า
16 พฤศจิกายน 2555 14:39 น. - comment id 131034
จริงๆแล้วก็บอกตัวเองอยู่เหมือนกันจ้ะคุณอ้อย ยิ่งเขาหยาบเท่าไร เรายิ่งต้องสุภาพเท่านั้น หมู่นี้ไม่ค่อยโพสกลอนให้อ่านกันเลยนะจ๊ะ
16 พฤศจิกายน 2555 15:42 น. - comment id 131037
วิธีนี้ก็ดีเหมือนกันนะคุณเด็กบ้านนอก แต่ตอนนั้นมันคิดไม่ออกน่ะจ๊ะ ไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนก็เลยได้แต่ประคองรถไป ...................... ชนะกิเลส แพ้คน แต่ถ้าชนะคนเราจะแพ้กิเลส คงต้องท่องไว้แล้วล่ะจ้ะ
16 พฤศจิกายน 2555 15:45 น. - comment id 131038
คุณฤกษ์ ไปคนเดียวเถอะจ้า
16 พฤศจิกายน 2555 16:00 น. - comment id 131039
หวัดดีจ้ะคุณเด็กวัด ป ๔ เรื่องแซงคิวนี่ก็เจอบ่อย เจอกับตัวเองก็เคย ก็พูดลอยว่า เข้าคิวด้วยนะจ๊ะ แต่เขาทำเหมือนไม่ได้ยิน ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน คิดถูกแล้วล่ะจ้ะที่กลัว ผู้คนยิ่งวู่วามกันอยู่
16 พฤศจิกายน 2555 16:04 น. - comment id 131040
คุณกุ้งหนามแดง จริงจ้ะ ถึงได้เกิดเหตุยิงกันบ่อยๆไง คนถูกยิง เสียชีวิต คนยิงติดตะราง ไม่คุ้มเลยจริงๆ ศักดิ์ศรีสำคัญน้อยกว่าชีวิต ...ใช่เลย
16 พฤศจิกายน 2555 16:08 น. - comment id 131041
น้องกานต์ ผู้ชายปากร้ายมีเยอะ แต่นี่เขาหยาบเลยจ้ะ
18 พฤศจิกายน 2555 08:29 น. - comment id 131050
ผู้ชายแบบนี้ก็มีด้วย เฮ้อ นึกถึงตัวเองเลยอ่ะค่ะ ถ้าเข็นรถช้อปปิ้งไปชนใคนเขาเข้า แล้วโดนด่าแบบนี้ คงทำรายไม่ถูกเหมือนกันอ่ะค่ะ สงสัยเปงวันกลียุคจิงๆ
18 พฤศจิกายน 2555 18:31 น. - comment id 131053
เห็นใจคุณ din จริงๆ และ คุณเด็กวัด ป.4 มักพูดสอนลูกเสมอว่าทำไมสังคมไทยมันเป็นอย่างนี้..เคยเดินห่าง ตจว เจอเพื่อนซื้อของในเคาร์เตอร์ ก็เลยแวะยืนทักทายคุยกัน เรายืนหันหน้าเข้าทางเคาร์เตอร์ ด้านหลังเป็นพื้นที่แบ่งเช่าขายของของห้าง ระหว่างคุย ที่แขวนกางเกงที่มีกางเกงยีนห้อยอยู่เต็มที่แขวนก็ล้มลงมาใส่ส้นเท้าเราที่ยืนหันหลัง จังหวะนั้นมี นร.กลุ่มหนึ่งเดินมา โดยที่ นร.ก็ยังเดินมาแค่เกือบถึงที่แขวน ต่างคนต่างตกใจ ยืนมองหน้ากัน ยังไม่มีใครเก็บตั้ง สุดท้ายเราก็เลยจับตั้งให้ร้านซึ่งคนขายไม่อยู่ ช่วงที่เราเก็บให้ คนขายเดินมา เราก็บอกว่ามันล้มลงมาไม่มีใครชน...คนขายพูดว่า ไม่มีคนชนจะล้มมาได้ไง.. นี่นะ..เราเก็บให้ยังเหน็บใส่...ก็เลยมาสอนลูกว่าเหตุที่คนในสังคมเราเพิกเฉยกับสถานการณืบางสถานการณ์ก็คงเพราะคนแบบนี้นี่เอง
19 พฤศจิกายน 2555 15:16 น. - comment id 131057
ดีจร้า...อาคุงพี่ดิน... ดีนะ...ไม่มีเรื่องร้ายมากว่านี้อ่ะ.... ในเวลาที่เกิดเหตุอะไรที่คับขันขึ้น... ให้ประเมิณสถานการณ์ว่าอาจจะรุนแรงโดยไม่มีเหตุอันควรได้...เสมอ.... ให้เดินเข้าหากลุ่มคน...จนท.หรือ พนักงานผู้ชายแบบมาดเข้มๆก่อน.... อย่าโต้เถียง...ตอบโต้... คิดในใจ เพียง วันนี้...โดนหมาเห่า...ต้องไม่โดนมันกัด... เคยมีข่าวหลายๆข่าว...บางข่าวจับภาพ บันทึกภาพได้... เป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้...แต่ดันเกิดขึ้น จนได้... หากเราใช้อารมณ์ไปในการตอบโต้ ไปกับสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องกว่า... อาจไม่เป็นผลดีต่อเราได้... "ปล่อยให้เหตุการณ์มันแค่ "ผ่านไป" ดีกว่าให้เหตุการณ์นั้นมันกลายเป็นบทเรียน หรือ ประสบการณ์อันเลวร้าย" ส่วนการแก้ไขระยะยาว...ต้องเน้นไปที่คนรุ่นเยาว์... จร้า...
20 พฤศจิกายน 2555 09:51 น. - comment id 131063
อืมมม....น่าใจหายนะคะที่เดี๋ยวนี้คนเราสามารถด่าทอกันได้ด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ อ่านไปก็คิดไปว่าถ้าเป็นตัวเองจะเป็นยังไงเนี่ย เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลย...
20 พฤศจิกายน 2555 16:06 น. - comment id 131064
พุทธศาสนาสอนว่า ในสังคมมีคน 2 ประเภทคือ คนพาลกับบัณฑิต หรือดีกับชั่ว จะอยู่ในสังคมให้เป็นสุขและพ้นอันตรายก็ต้องรู้ให้ทันจิตของเรา และหลบหลีกสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ให้ได้ เหมือนลิ้นงูในปากของงู
21 พฤศจิกายน 2555 12:52 น. - comment id 131085
สมัยนี้คนแบบนี้มีเยอะจ้ะคุณจวว ไม่อยากมีเรื่องก็ต้องเลี่ยงๆ ไป
21 พฤศจิกายน 2555 13:04 น. - comment id 131086
ถ้าจะว่าไป ประสพการณ์อย่างนี้ก็เยอะนะจ๊ะคุณเชิงเขา เคยเข้าไปเดินในห้างฯ ทีนี้เขาตั้งของไว้สูง พอเราเดินผ่านของก็ล้มลงมาทั้งตั้ง โชคดีที่พนักงานในห้างเห็นกันหลายคน ไม่อย่างนั้นก็คงตกที่นั่งเดียวกันกับคุณเชิงเขาประสบมา
21 พฤศจิกายน 2555 13:09 น. - comment id 131087
การแก้ไขต้องเน้นที่คนรุ่นเยาว์ เคยคิดอย่างนั้นเหมือนกันคุณกีร์ แต่เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ต้องรอให้คนรุ่นนี้ตายให้หมดก่อน ทุกวันนี้ก็พยายามเลี่ยงจ้ะ อะไรยอมได้ก็ยอมๆ กันไป นอกจากสุดวิสัยจริงๆ
21 พฤศจิกายน 2555 13:14 น. - comment id 131089
หลายเรื่องที่เกิดขึ้นในที่สาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวเราทั้งนั้นจ้ะคุณฝน ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการโต้ตอบด้วยความรุนแรง ประสพการณ์ของคนอื่น บางทียังต้องจำไว้เตือนตัวเองเลย
21 พฤศจิกายน 2555 13:20 น. - comment id 131090
คุณลูกชาวนา เป็นสุภาษิตที่เข้าท่ามาเลยจ้ะ หลบหลีกสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ให้ได้ เหมือนลิ้นงูในปากของงู ทุกวันนี้ผู้คนวู่วามมาก ทำร้ายกันได้ แม้ไม่เคยมีเรื่องเจ็บแค้นมาก่อน หลีกเลี่ยงจากคนประเภททนี้ได้ ก็ต้องทำน่ะจ้ะ
21 พฤศจิกายน 2555 15:40 น. - comment id 131092
อากาศเป็นพิษ เมืองร้อน คนร้อน รถติด หงุดหงิด เงินน้อย งานเยอะ อดีตเราเป็นสยามเมืองยิ้มสัก30ปีที่แล้ว ปัจจุบันเป็นเมืองไทยอันดับหนึ่ง ฆ่ากันตายโดยไม่มีเหตุผล ซะงั้น
21 พฤศจิกายน 2555 16:32 น. - comment id 131095
หวัดดีคุณดิน... ปัจจุบันมักมีผู้คนแบบนี้เยอะครับ ผมก็เจอมาเหมือนกับ ขับช้า ถูกเปิดไฟ ขอทาง เราก็หลบให้.. พอมันขับผ่านเรา มันชะลอรถ เคียงรถเรา ทำเป็นส่ายหน้า....(ฮึม แหม้...ตรูก็ใช่ใจเย็นอย่างเดียวนะเฟ้ย ใจร้อนก้อเปน อิอิอิ ....ต้องเตือนตัวเอง เย็นไว้โยมๆๆๆๆ)
23 พฤศจิกายน 2555 10:22 น. - comment id 131100
ใช่จ้ะคุณยาฯ ก็ไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง หรือกฎหมายเราไม่แรงพอ พกอาวุธกันได้ง่ายๆ การฆ่ากันโดยขาดเหตุผลก็เกิดขึ้นแทบจะเรียกได้ว่ารายวัน
23 พฤศจิกายน 2555 10:27 น. - comment id 131101
ถูกต้องแล้วจ้ะตาคำ เย็นไว้ดีที่สุด ขืนร้อนไป บางทีได้ไม่คุ้มเสีย
25 พฤศจิกายน 2555 15:41 น. - comment id 131113
บางวันเป็นวันที่อับโชค ของเราจริง ๆ แต่ในความโชคร้าย อาจมีเรื่องดี ๆ ด้วย นะคะ
29 พฤศจิกายน 2555 12:56 น. - comment id 131165
เดี๋ยวนี้ต้องยอมรับว่าคนใจร้อนขึ้นเยอะ ดีนะที่น้องยังใจเย็น ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่เลย
29 พฤศจิกายน 2555 17:50 น. - comment id 131180
เขาว่าเดือนธค.นี้ปี 2012 จะเกิดกลียุค ทั่วไป โลกจะถล่มทลาย เน๊อะ เตรียมตัว หรือยัง ผมว่าถูกแหกเนตรเสียกระมัง ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
30 พฤศจิกายน 2555 10:38 น. - comment id 131204
ในความโชคร้ายอาจมีเรื่องดีๆด้วย รู้สึกเขาจะเรียกทุกขลาภใช่ไหมจ๊ะคุณร้อยฝัน
30 พฤศจิกายน 2555 10:46 น. - comment id 131205
ถือว่าเลี่ยงการปะทะกันได้ก็จะเลี่ยง กลัวการมีเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องจ้ะคุณผูหญิงไร้เงา
30 พฤศจิกายน 2555 10:54 น. - comment id 131206
ดินก็ได้ยินมาอย่างนั้นจ้ะครู แต่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดกลียุคเป็นบางที่ เช่นเกิดสึนามิที่ประเทศโน้น เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศนี้ อันนี้เป็นไปได้ แต่ถึงขนาดที่ว่าโลกถล่มนี่ ก็ฟังขำๆเสียมากกว่า