ข้าพเจ้า นำของเก่ามาเป็นเครื่องเตือนสติแด่ ผู้ที่สนใจ ทางอันเป็นมวลหมู่ของ อวิชชา ปฏิจจสมุปบาท มีเวรก็ย่อมเกิดกรรม มีเหตุย่อมมีผล การเวียนว่ายตายเกิดด้วยสาเหตุดังนี้แล ************** สาเหตุของการเกิดปฏิจจสมุปบาทเพราะว่า อวิชชา เป็นปัจจัยจึงมี สังขาร สังขาร เป็นปัจจัยจึงมี วิญญาณ วิญญาณ เป็นปัจจัยจึงมี นามรูป นามรูป เป็นปัจจัยจึงมี สฬายตนะ สฬายตนะ เป็นปัจจัยจึงมี ผัสสะ ผัสสะ เป็นปัจจัยจึงมี เวทนา เวทนา เป็นปัจจัยจึงมี ตัณหา ตัณหา เป็นปัจจัยจึงมี อุปาทาน อุปาทาน เป็นปัจจัยจึงมี ภพ ภพ เป็นปัจจัยจึงมี ชาติ ชาติ เป็นปัจจัยจึงมี ชรา มรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัส อุปายาส ความเกิดของกองทุกข์ทั้งหมดนี้เรียกว่า " ปฏิจจสมุปบาท " ปฏิจจสมุปบาทจะดับได้เพราะ อวิชชา ดับ สังขาร จึงดับ สังขาร ดับ วิญญาณ จึงดับ วิญญาณ ดับ นามรูป จึงดับ นามรูป ดับ สฬายตนะ จึงดับ สฬายตนะ ดับ ผัสสะ จึงดับ ผัสสะ ดับ เวทนา จึงดับ เวทนา ดับ ตัณหา จึงดับ ตัณหา ดับ อุปาทาน จึงดับ อุปาทาน ดับ ภพ จึงดับ ภพ ดับ ชาติ จึงดับ ชาติ ดับ ชรา มรณะ โสกะปริเทวทุกขโทมนัสอุปายาส จึงดับ ความดับของกองทุกข์ทั้งมวลนี้ คือ การเดินออกจากบ่วง ของปฏิจจสมุปบาท สฬายตนะ คือ ความรับรู้ ความรู้สึก ผัสสะ คือ รับรู้ถึงประสาทต่างๆของร่างกาย ภายในและภายนอก สองอย่างนี้จะเกิดขึ้นคู่กันอย่างใดอย่างหนึ่งพร้อมๆกัน เช่น จิต และ เจตสิก เป็นต้น ใช่ว่าจะเอามะพร้าวมาขายสวน เป็นเครื่องเตือนสติเท่านั้น "ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท รู้ธรรมยิ่ง ผู้นั้นได้ชื่อว่าแลเห็นพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า" * แก้วประเสริฐ. *
7 กันยายน 2555 21:47 น. - comment id 130251
เมื่อรูป เสียง กลิ่น รส หรือ สิ่งใด มาสัมผัส ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้วปรุงต่อเนื่องไปอาการสิ่งหนึ่งปรุงต่อไปเป็นสิ่งหนึ่งและอาศัยสิ่งนั้นปรุงต่อไปเป็นอีกสิ่งหนึ่งจนเกิดทุกข์เป็นเรื่องของธรรมชาติไม่ใครจะห้ามได้แม้แต่ศาสดาองค์ใดก็ไม่สามารถ นอกจากตัวเราเองคือค้องหยุดให้ได้ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง พระถึงเทศน์กันว่า ให้เห็นสักแต่ว่าเห็น อิอิ แต่เราก็อดไม่ได้ เห็นสาวสวยและก็อดจินตนาการต่อไม่ได้ก็เกิดอาการที่เรียกว่า ปฎิจจสมุปบาท อาการอย่างนี้จะเกิดขึ้นใช้เวลาเพียงนิดเดียวก็ถึงที่สุดคือทุกข์ แต่ โรงเรียนนักธรรมกลับเอาเรื่องนี้มาสอนพระ สอนเณร เรื่องนี้คร่อม ถึงสามชาติ ท่านพุทธทาส ภิกขุท่านก็เคยเทศน์ว่า สับสนเรื่อง ภาษาคน กับ ภาษาธรรม ชาติ ภาษาคน นี้ต้องตายแล้วเกิดใหม่ แต่ชาติภาษาธรรม ซึ่ง หมายถึง ความเกิด ไม่ใช่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ อิอิ
7 กันยายน 2555 22:32 น. - comment id 130252
คุณ ฤกษ์ (รูปหล่อ) ผมไม่คิดและนึกเลยว่าคุณจะเข้าใจ ในธรรมได้ดีคนหนึ่ง รู้แต่ว่าคุณมีแต่สาวๆ เป็นที่ยึดเหนี่ยวเท่านั้น หากมองดูปฏิจจสมุปบาท ตามที่ผมกล่าว มานั้นอาจจะสับสนกันได้ เราต้องตั้งหลัก ที่สำคัญไว้เป็นเหตุ เมื่อรู้เหตุผลก็จะตามมา เหตุืที่สำคัญ คือ ตัณหาคือความอยากมี ๓ คุณคงจะรู้แล้วอะไรบ้าง ตัณหานี่แหละคือราก เง่าใหญ่ของ โลภะ โทสะ และโมหะ ดังนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า การจะเกิด ภพ ชาติ ก็ล้วนจากตัณหาทั้งสิ้น อันมี สังขารเป็น เครื่องปรุงแต่ง ของรูปและนาม อันมี อายตนะนอกในเวทนาเป็นปัจจัย เมื่อมีรูปนาม ก็เกิด สฬายตนะ สัมผัส จากอยาตนะ 6 ทั้งนอกใน เมื่อเกิดแล้ว เวทนาก็เกิดจาก ตัณหา สังขารก็ปรุงแต่งตามอยาตนะที่ เวทนาต้องการ และไปยังวิญญาณ เกิด อุปาทานคือความยืดมั่นถือมัน เมื่อยึดมั่น ถือมั่นต่อตัณหา ภพจึงเกิด อุปมาเช่น ดอกไม้ อันมีเกสรปรุงแต่ง และภพก็เกิด เป็นชาติของต้นไม้ก็เหมือนคนนั่นแหละ เมื่อความไม่รู้คืออวิชาเกิด ภพ ก็เกิด ชาติ ก็ตามมา เกิด การเกิดแก่เจ็บตายขึ้น เมื่อเราดับตัณหาไม่ปรุงแต่งทุกๆอย่างก็ ทะยอยกันดับไป นี่ผมเกริ่นคร่าวๆให้ฟัง การสู่นิพานได้ต้องละอวิชาให้หมดสิ้น เมื่ออวิชาดับไป ตัณหา ที่มีรูปเวทนาเสวย อยู่จากอยาตนะด้วยไม่มีการปรุงแต่งของ สังขารดับไปด้วยขันธ์ 5 วิญญาณก็ดับ วิญญาณนี่ประกอบด้วย จิต เจตสิก ใจ ดับไปสิ้น ภพ ชาติ วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัุณหา อุปาทาน ภพและชาติก็ดับไปจึงไม่มี การเกิดแก่เจ็บและตาย ไม่ต้องเวียน ว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสาร ฉนี้แล การที่พุทธองค์ตรัสไว้ว่าเมื่อได้ อรหันต์ผลแล้วจะมีอายุยืนยาวเท่า ไหร่ก็ได้ คือ ฉันทะ วิริย จิตตะ วิมังสา คือได้ฌานขั้นโลกุตระธรรม ก็อธิษฐานจิต ในฌาน ที่ อุปาจารสมาธิ ไล่ตั้งแต่ฌาน ชั้นสูงลงมาที่นี่อันเป็นแดนกลางของ ฌานทั้งหมด แล้วใช้อำนาจฌาน ปรุง แต่งธาตุขันธ์ต่างๆ ที่ขาดตกบกพร่อง โดยใช้ฌานตบแต่งธาตุที่บกพร่องที่ มีอยู่ในอากาศธาตุคอยค้ำจุนธาตุที่ อ่อนแรงขาดหายไป ให้คงสภาพเดิม ก็จะยืดอายุยาวนานเท่าไหร่ก็ได้ เช่น ขาดธาตุไฟ ก็ใช้อำนาจฌานซึมซับ ธาตุไฟจากอากาศธาตุมาปรุงแตง ธาตุไฟของรูปนั้นๆ ให้สมดุลย์กันและกัน เป็นต้น มิฉะนั้นพระพุทธเจ้าเราเคย ตรัสว่าจะอยู่เท่าไหร่ก็ได้ 120 ปีก็ได้ แก่พระอานนท์เถระเจ้า แต่ตอนนั้น พระอานนท์ยังไม่ได้อรหันต์ผล ถูก กิเลสปิดกั้นการขอต่ออายุของพระ พุทธเจ้า เหตุดังนี้แลจึงต้องนิพพาน เท่านี้นะครับ พ่อรูปหล่อก็ต้องดับ ไปเหมือนกัน อิอิ รักมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2555 14:31 น. - comment id 130257
ศิษย์ได้อ่านตามไปคิดไปช้าๆค่ะครู เป็นอะไรที่ละเอียดลึกซึ้งต้องใช้เวลาศึกษาอีกมากนะคะครู เหมือนว่ายังไม่พ้นกิเลสที่มาเกาะกุมเลยค่ะ
8 กันยายน 2555 14:38 น. - comment id 130258
คุณ อนงค์นาง ธรรมนี้คือธรรมที่พระพุทธเจ้าเราทรง รำพึงว่ายาก แก่การสั่งสอนเวไนยสัตว์ จนกระทั่งพรหมท่านท้าวสหัมบดีพรหม มาขอร้องและเนรมิตรดอกบัวให้นั่นแหละ ธรรมนี้ถึงได้ออกมา ตามด้วยอริยสัจจ์สี่ เพราะขจัดทุกข์ทั้งปวงจ้า รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 กันยายน 2555 10:22 น. - comment id 130298
โธ่เอ๋ยป๋า เรื่องปฎิจจสมุปบาม ไม่ได้เกี่ยวกับ เกิดแก่เจ็บตาย จากท้องพ่อท้องแม่เลย มันเป็นวงจรของธรรมชาติ ตั้งแต่กระทบ จนถึงผล ถ้าหยุดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไม่ได้ ก็เกิดเป็นลูกโซ่จนถึงที่สุด
16 กันยายน 2555 10:46 น. - comment id 130299
ป๋าเชื่อไม๊ว่า ศาสนาพุทธ ได้สูญไปจากอินเดียเพราะตำราวิสุทธิมรรค ที่ท่านธรรมโกษาจารย์เขียนขึ้น อาศัยที่เป็นพราห์มเก่ามาบวชเขียนเรื่องปฎิจจสมุปบาทสอดแทรกความเชื่อของพราห์มเข้าไป เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขาเชื่อเรื่องที่เขียนนี้แล้ว นางมารมายั่วยวนพุทธเจ้าอย่างไรก็ไม่สำเร็จเพราะท่านตัดขั้นตอนของปฎิจจสมุปบาทลงได้โดยสิ้นเชิงตั้งแต่กระทบที่ตาเห็นไม่เกิดอาการลูกโซ่ต่อไป ถ้าอย่างพวกเราเห็นร่างแอ้นอ้อนเปลือยมาเต้นต่อหน้าสกดอาการของปฎิจจสมุปบาทไม่ได้จะไปถึงไหน ภาษาไทย เรื่องภพ เรื่องชาติ กับภาษาธรรม คำว่าภพ กับชาติ มันต่างกับภาษาคน พูดกัน จึงเข้าใจไขว้เขวไปกันยกใหญ่
16 กันยายน 2555 10:59 น. - comment id 130300
ป๋าเชื่อไม๊ว่า ศาสนาพุทธ ได้สูญไปจากอินเดียเพราะตำราวิสุทธิมรรค ที่ท่านธรรมโกษาจารย์เขียนขึ้น อาศัยที่เป็นพราห์มเก่ามาบวชเขียนเรื่องปฎิจจสมุปบาทสอดแทรกความเชื่อของพราห์มเข้าไป เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขาเชื่อเรื่องที่เขียนนี้แล้ว นางมารมายั่วยวนพุทธเจ้าอย่างไรก็ไม่สำเร็จเพราะท่านตัดขั้นตอนของปฎิจจสมุปบาทลงได้โดยสิ้นเชิงตั้งแต่กระทบที่ตาเห็นไม่เกิดอาการลูกโซ่ต่อไป ถ้าอย่างพวกเราเห็นร่างแอ้นอ้อนเปลือยมาเต้นต่อหน้าสกดอาการของปฎิจจสมุปบาทไม่ได้จะไปถึงไหน ภาษาไทย เรื่องภพ เรื่องชาติ กับภาษาธรรม คำว่าภพ กับชาติ มันต่างกับภาษาคน พูดกัน จึงเข้าใจไขว้เขวไปกันยกใหญ่
16 กันยายน 2555 14:47 น. - comment id 130301
ป๋าเชื่อไม๊ว่า ศาสนาพุทธ ได้สูญไปจากอินเดียเพราะตำราวิสุทธิมรรค ที่ท่านธรรมโกษาจารย์เขียนขึ้น อาศัยที่เป็นพราห์มเก่ามาบวชเขียนเรื่องปฎิจจสมุปบาทสอดแทรกความเชื่อของพราห์มเข้าไป เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขาเชื่อเรื่องที่เขียนนี้แล้ว นางมารมายั่วยวนพุทธเจ้าอย่างไรก็ไม่สำเร็จเพราะท่านตัดขั้นตอนของปฎิจจสมุปบาทลงได้โดยสิ้นเชิงตั้งแต่กระทบที่ตาเห็นไม่เกิดอาการลูกโซ่ต่อไป ถ้าอย่างพวกเราเห็นร่างแอ้นอ้อนเปลือยมาเต้นต่อหน้าสกดอาการของปฎิจจสมุปบาทไม่ได้จะไปถึงไหน ภาษาไทย เรื่องภพ เรื่องชาติ กับภาษาธรรม คำว่าภพ กับชาติ มันต่างกับภาษาคน พูดกัน จึงเข้าใจไขว้เขวไปกันยกใหญ่
16 กันยายน 2555 15:25 น. - comment id 130302
คุณ ฤกษ์(รูปหล่อ) ก็ป๋าแก่นี่นาจะเอ่ยไม่ได้เลยหรือ หรือว่าจะเอ่ยสาวๆเพื่อเป็นกำลังใจ ฮ่าๆๆๆ รักรูปหล่อมากๆๆเสมอ เฮ่อะๆๆ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2555 13:08 น. - comment id 130305
คุณ ฤกษ์ (รูปหล่อ เมื่อก่อนสองวันจะตอบเข้าเวปฯไม่ได้ สงสัยจะไวรัสเข้าแทรกอย่างหนักพอดีก็ มาตอบให้จ้า รักพ่อรูปหล่อมากๆ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2555 13:17 น. - comment id 130306
คุณฤกษ์ (รูปหล่อมากๆ) ว่าจะตอบลืมไปจ้า เพราะไวรัสของเวปฯทำ ให้ผมต้องสแกนไวรัสใหญ่เลยล่ะ เรื่องคำภีรค์ที่เกี่ยวกับวิสุทธิมรรคนั้้นมา เขียนภายหลัง ผมเชื่อทีึ่คุณกล่าวมา อันที่จริง ปฏิจสมุปบาท มีนาน แต่ท่านมาเขียนขึ้น ทำให้คุณเข้าใจผิดไปมากๆ เรื่องนี้เป็ฺนเรื่องที่ค่อนข้างจะสับสนมาก หากไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนจะ เกิดอาการงงขึ้น การตัดวงจรนี้ที่ผมศึกษา มาและได้จากฌานที่ผม อิอิ ตอแหลมั๊งได้ มาระหว่างจิตกับเจตสิก ในเอกัคคตารมณ์ นั้นว่า การจะเข้าสู่นิพพานนั้นมีเพียง หนึ่งเดียว คือ ตัด สังขาร หยุดการปรุงแต่ง ให้สิ้น เมื่อทุกอย่างไม่ปรุงแต่งแห่งอวิชชา แล้ววงจรนั้นก็จะสะบั้นไป ไม่ว่า อวิชชา อุปาทาน ตัณหา เวทนา ฯลฯ ทั้งหลาย เมื่อตัดให้หมดตั้งอนุสัยจิตไปจนใหญ่ ด้วยหยุัดการปรุงแต่งนี้ก็จะถึงซึ่งนิพพาน อธิบาท ภพ ชาติหน่อยนะพ่อทูนหัว ภพ คือแดนเกิดอันมีกรรมเป็นตัวสร้าง ชาติคือการเกิด ก็ด้วยเหตุหลงใหลใน อวิชชานั้นๆ ไม่รู้นะผมรู้เท่านี้ก็บอกเท่านี้ผมได้ มานานแล้วตั้งแต่สมัยเจริญสมาธิจน ได้ฌานถึงขั้นนี้กว่าจะได้แทบตาย แต่ก็ต้องปล่อยวางเพราะครอบครัว เป็นเหตุลูกๆยังเล็กๆอยู่ เจริญจนจิต จะละเลิกแล้วหนีไปบวชเข้าป่าไปนะ อย่าเชื่อโม้ทั้งนั้นแหละจ้า อิ อิ รักพ่อรูปหล่อมากๆจ้า บัดนี้ฌานเสื่อม ไปหมด เริ่มต้นใหม่ตอนแก่ก็ไม่เหมือน ตอนหนุ่มๆจ้า อิอิ ผู้หญิงกระมัง ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2555 13:18 น. - comment id 130307
อย่าเชื่อผมนะพิสุจน์เอาเองจ้า รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.