อทิสมานกาย ๑๐๒

แก้วประเสริฐ


                         อทิสมานกาย ๑๐๒
   ข่าวการตายของกำนันมั่นกระจายไปทั่วบรรดาพวกพ่อค้ายา
เสพย์ติดทั้งหลาย  เสี่ยเม้งงุนงงสงสัยจนกระทั่งเมื่อเสี่ยเล้งมา
พบและได้สนทนากันถึงรู้สาเหตุการตายของกำนัน แต่ส่วน
เรื่องลูกชายนั้นกำนันเล้งบอกว่า คนของเขาไม่ได้ทำแต่ไม่รู้สาเหตุ
การตายของลูกกำนันและพวกเกิดขึ้นได้อย่างไรของก็ถูกทำลายไป
หมดแล้วด้วย พบแต่รอยระเบิดและบรรดาศพเท่านั้นเอง
   “อั้วสงสัยตอนที่มันมาแจ้งแล้วว๊ะไอ้เม้ง  กูอ่านคนไม่ผิดหรอกว่า
หากกูจะนำไปแล้วมันจะเอาของมาขายให้ลูกค้ามันได้อย่างไร  กูผ่าน
เรื่องนี้มามากต่อมากแล้วว๊ะ”
   “แล้วไอ้กำนันมันเอาไปเก็บซ่อนที่ไหนล่ะก็มันถูกยึดไปหมดแล้ว
นี่นา  กูบอกว่าให้มันเหลือไว้เพียงจำหน่ายเท่านั้นเอง แต่ในหนังสือ
มันบอกว่าพวกใครก็ไม่รู้ขนไปหมดแล้ว ก็เลยไม่สงสัยอะไรกำนัน
มันว๊ะ  แล้วเอ็งให้ใครไปทำงานล่ะ???...”
   ไอ้เล้งไม่ตอบพลางยกเหล้าขึ้นกระดกจนหมดแก้ว สาวๆก็เข้ามา
เติมให้จนเต็มอีก  พลางคีบอาหารใส่ปาก แล้วแหกปากหัวร่อลั่น
   “ก็มึงมันทำงานแบบนี้นี่หว่า ไว้ใจคนจนเกินไป ไอ้ห่ารากทำงาน
มาจนหัวหงอกแล้วไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมคนบ้างเลยหรือว๊ะ”
   “กูกับกำนันมันก็ทำงานมาจนไว้เนื้อเชื่อใจได้แล้วจึงไม่สังหรณ์
ใจว๊ะ  ว่ามันจะคิดหักหลังกู” 
   “อันที่จริงกูก็ไม่สงสัยอะไรมันหรอก แต่เห็นอาการลุกรี้ลุกรนของ
มันนี่แหละ   จึงลอบใช้คนไปสังเกตุการณ์เท่านั้นหากมันปกติก็ให้
กลับมา  แต่หากสงสัยก็ให้เก็บเสียก็เท่านั้นเองว๊ะ”
   “แล้วเรื่องที่มึงจะไปนำของมามึงคิดแผนการณ์ไว้หรือยังล่ะ”
   “กูวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ  โดยกูจะแบ่งกำลังฝ่ายกูออกเป็น
สี่ส่วน เป็นคนที่กูไว้วางใจได้  ส่วนมึงก็สั่งให้คนของมึงนำทางไป
ก็แล้วกัน   เราไม่ต้องไปดูมันคอยฟังข่าวที่นี่ก็พอว๊ะ  มึงเห็นว่าเป็น
อย่างไรว๊ะไอ้เม้ง”
   “อืมม!!!!!!....ก็ดีเหมือนกันว๊ะ  กูได้ข่าวมาจากคนของผบก.ว่า
คนที่เคยร่วมทำงานกับกูถูกคำสั่งย้ายด่วนว๊ะทั้งสองคนเลย ฝ่ายปราบ
ปรามและฝ่ายสอบสวนภายใน 3 วัน  แต่ว่ากูได้ข่าวว่าทางกรุงเทพฯ
กำลังมีเรื่องวุ่นวายจริงหรือว๊ะไอ้เล้ง???...”
   “อือ???...กูก็ได้ข่าวจากเด็กเหมือนกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่
หมดว๊ะ  ตอนนี้ให้ระวังการขนของเอาไว้ด้วย   เห็นว่าจะมาทั้งสอง
ทางโว้ย  แล้วค่อยลำเลียงเข้ากรุงเทพฯแถบชานเมืองว๊ะ”
  “นี่ก็ใกล้ๆจะเกษียณอายุท่านรองผู้กำกับการแล้วคงจะได้รู้
เหมือนกันว่า  เป็นใคร  อ้อๆๆๆกูเองก็สงสัยยังไม่ถึงฤดูย้ายหรือ
แต่งตั้งตำแหน่งเหตุใดจึงทำได้ว๊ะ”
   “อันนี้กูก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ  ถึงแม้ว่าทางการเมืองกูจะเส้นไว้
ก็ตามแต่ลึกๆนั้นมันไม่ได้บอกกับพวกกูว๊ะ  ทางกลุ่มกูก็ยังสงสัย
เหมือนกันว๊ะ”
   เมื่อไอ้เล้งตอบไอ้เม้งก็ไม่รู้จะถามอะไรดีอีก  ต่างคนต่างนั่งดื่มกัน
คุยกันเรื่องสัพเรเหระไป  ไอ้เม้งก็เอ่ยขึ้นว่า
   “ทางศาลออกหมายศาลประกาศยึดบ้านที่ดินเป็นของหลวงไปว๊ะ
ด้วยไม่มีญาติคนใดมารับสมอ้างเลยสักคนเดียว หรือว่าจะกลัวก็ไม่รู้
เพราะไอ้กำนันมันทำสัญญากู้เงินและยึดโฉนดล้วนแล้วแต่ไม่ถูกต้อง
ทั้งสิ้นเลย  เห็นทางนายอำเภอจะให้คนที่จำนองไว้นำใบสัญญามารับ
โฉนดที่ดินคืนไป ส่วนที่ขายไม่ถูกกฏหมายก็จะทำการทำการ
แบ่งแยกกันให้คนที่ไม่มีที่ทำกินแบ่งกันต่อไป”
   “เออ????...เรื่องของมัน  มึงไม่ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวหรอกเพราะมันมีข่าว
ว่ามีอาวุธร้ายแรงไว้มากมายพร้อมถุงยาเสพย์ติดอีกด้วย ช่างมันเถอะ
เอ็งมาพูดเรื่องของเราดีกว่า  ก็ชักไม่ไว้วางใจถิ่นแถบนี้เสียแล้วว๊ะ”
   “ทำไมหรือว๊ะไอ้เล้ง  กูก็เห็นไม่มีอะไรนี่นา”
   “ไอ้ห่าเอ๋ย!!!!!.....มึงไม่สังเกตุบ้างหรือว่า กำนันที่ตั้งขึ้นมา
ใหม่ๆนั้น  ล้วนแล้วเป็นคนของทางการทั้งนั้น แล้วอย่าเสือกไป
ติดต่อกับพวกมันล่ะ มันจะเข้าตัวมึงและพวกว๊ะ”
   เมื่อไอ้เล้งกล่าวเช่นนี้ทำเอาไอ้เม้งถึงกับอ้าปากตาค้างไปทั้งๆที่มัน
คุมในบริเวณแถบนี้เรียกได้ว่าเกือบทั้งหมด  ไอ้ห่าเล้งมาไม่เท่าไหร่
กับรู้เหตุการณ์มากกว่ามันเสียอีก  สมแล้วที่มันเป็นเจ้าพ่อที่ทรง
อิทธิพลทางกรุงเทพฯ
   “เออ???...กูจะทำตามคำสั่งและสั่งให้ลูกน้องกูระวังตัวไว้ด้วยนะ
แล้วมึงจะเอาคนไปกลุ่มล่ะเท่าไหร่ล่ะ???....”
   “กูคิดว่าทั้งฝ่ายจนและป้องกันคงกลุ่มล่ะ 50 คนก็พอว๊ะ ต้อง
กระจายกันไปตรวจสถานที่อีกด้วย ทำงานทั้งที่อย่าไว้วางใจอีกไม่ใช่
ถิ่นของกูเสียด้วย ขนาดถิ่นของมึงยังพลาดได้นี่นา”
   คราวนี้ไอ้เม้งเงียบกริบทันที  ไม่อาจจะโต้เถียงไอ้เล้งได้อีกจริงของ
มันที่ถูกจริงๆ   พลางยกเหล้าขึ้นจิบแล้วก็ได้ยินไอ้เล้งกล่าวว่า
   “แล้วคนของมีล่ะจะไปกลุ่มล่ะกี่คนล่ะ สถานที่นั้นให้ทำแผนที่มา
ให้กูด้วยนะอาณาเขตรอบๆไว้ด้วยตลอดเส้นทางทั้งหมดด้วยนะ เผื่อ
เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น  ยิ่งกูเห็นหนังสือลายเซ็นต์ด้วยแล้วยิ่งไม่ค่อย
ไว้วางใจเท่าใดนักว๊ะ”
   “เรื่องนี้เดี๋ยวกูเขียนให้ก็ได้ทางหนีทีไล่นะ  แถบนี้กูชำนาญด้วยซิ
เพราะหัวหน้ากลุ่มกูมันทำไว้ให้กูเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเพื่อไม่ให้เสีย
เวลากูจะให้คนของกูไปนำมาให้นะ”
   “เออ????...ก็ดีว๊ะ  จะได้ไม่ต้องเสียเวลามากนัก  เอามาให้กูตอนนี้
เลยก็ยิ่งดีว๊ะไอ้เม้ง”
    เมื่อไอ้เม้งได้ยินเช่นนั้นก็หันไปเรียกเด็กที่ยืนอยู่ข้างหลังมันมา
พร้อมกระซิบสั่ง พลางล้วงกุญแจส่งให้มัน บอกให้รีบไปรีบกลับ
เด็กของไอ้เม้งก็พยักหน้า พลางรับกุญแจมาแล้วก็ออกไปพร้อมคน
อีกคนที่เฝ้าหน้าห้องไว้ 
 
   ครั้นเมื่อเด็กไปแล้วทั้งสองก็หาความสนุกสนานกับบรรดาสาวๆ
ไอ้เล้งมันเป็นคนมากราคะดังนั้นมันจึงบอกไอ้เม้งว่า
   “งั้นเดี๋ยวกูเอาเด็กสาวมึงสองคนนี่แหละว๊ะไปห้องทำธุระหน่อย
นะโว้ย  แล้วอย่าเสือกแอบดูเสียล่ะ มึงติดกล้องไว้หรือเปล่าแต่กูว่า
มึงติดแน่นอน  ให้มึงสั่งให้ปิดกล้องวงจรไว้ด้วยนะ”
   ไอ้เม้งพลางแหกปากหัวร่อลั่น  พร้อมร้องว่า
  “ไอ้ห่าเรื่องของมึงกูไม่อยากดูหรอกว๊ะ”
   พลางเรียกเด็กหน้าห้องมากระซิบสั่งไว้แล้ว แล้วหันมาบอกไอ้เล้ง
ว่า  มึงต้องการเลือกเอาว๊ะใครก็ได้หรือมากกว่านี้ก็ได้ว๊ะตามสบาย
โว้ย   กูไม่ไม่ยุ่งหรอกว๊ะไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเรื่องนี้นะ”
   “เออ???...ขอบใจว่าวีดีโอก็ห้ามด้วยนะโว้ย หากวันหลังกูรู้มึงเอ๋ย
อย่าหาว่ากูใจร้ายก็แล้วกันนะไอ้เม้ง”
   “เออนะมึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก  กูไม่ชอบดูใคร หากต้องการกู
แสดงเองดีกว่าว๊ะ แต่ไม่ใช่ที่นี่ว๊ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ......”
    “กูรู้ว่าอย่างไรมึงก็ต้องมีแน่นอนเพราะกูก็ทำเหมือนกันว๊ะ”
       แล้วไอ้เล้งก็ดึงมือสองสาวที่คอยปรนนิบัติมันเดินออกไปนอก
ห้อง  หล่อนทั้งสองรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นและที่ไหนจึงนำหน้าเสี่ยเล้ง
เดินออกไปทันที
       ครั้นไอ้เล้งหายไปพร้อมกับบรรดาสาวๆแล้ว  ก็ยกมือถือส่ง
สัญญาณไปให้  ไอ้เซี๊ยะ ไอ้เช้ง ไอ้มุ้ย และไอ้สุย เตรียมคนไว้ว่า  
ไอ้เล้งจะส่งคนไปสมทบเพื่อขนของตามที่ได้เคยบอกไว้แล้วล่ะ
     เวลาผ่านไปสักชั่วโมงกว่าๆเด็กของไอ้เม้งก็นำเอกสารทั้งหมดมา
มอบให้ทันที 
   “แล้วมึงยุ่งกับเซฟหรือเปล่าว๊ะ  ไอ้หว่า ไอ้เจียง”
   “โถๆๆๆเสี่ยก็รู้นิสัยผมแล้วนี่มีหรือจะกล้า สู้ขอเสี่ยไม่ดีกว่าหรือ”
   “เออ????กูก็ถามไปอย่างนั้นแหละว๊ะ  มึงนั่งกินเป็นเพื่อนกูหน่อย
ไม่รู้ไอ้ห่าเล้งมันเกิดคึกอะไรขึ้นมา  มันพาเด็กๆไปล่อเสียแล้วล่ะโว้ย
ป่านนี้ยังไม่เห็นลงมาเลยว๊ะ”
    เสี่ยเม้งพูดไม่ทันขาดคำเท่าใด  ร่างเสี่ยเล้งก็เดินเข้ามาคนเดียวแล้ว
มานั่งข้างเสี่ยเม้ง   มันมองไปที่บริเวณโต๊ะอาหารเห็น ไอ้หว่า ไอ้เจียง
ซึ่งกำลังลุกขึ้น จะเดินออกไป  แต่ไอ้เสี่ยเล้งยกมือห้ามไว้
   “พวกมึงนั่งกินตามสบายเถอะว๊ะไม่ต้องลุกไปแล้วล่ะ เรียกอีกสอง
คนมานั่งกินเป็นเพื่อนก็ได้ว๊ะกูไม่ถือหรอกโว้ย”
    ดังนั้นไอ้หว่าจึงหันไปเรียก ไอ้เม้งจ่าย กับไอ้ใช้มาร่วมกินกันด้วย
คงปล่อยให้ลูกน้องทั้งสี่คอยดูแลแทน
    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเสี่ยเม้งก็ยืนหนังสือแผนที่ทั้งหมดที่
ลูกน้องมันทำไว้ให้ส่งให้ไอ้เล้งทันที  ไอ้เล้งนำมาดูทีละแผ่นๆก็เก็บ
ไว้ในกระเป๋าเอกสารมันทันที  พลางกล่าวขึ้นว่า
   “อย่างนั้นพรุ่งนี้ใกล้ค่ำๆหน่อยสักทุ่มกว่าๆให้ไปรอพบกันนอก
เมืองก็แล้วกันะ   ให้หัวหน้ากลุ่มมึงนำทางไปส่งเด็กกูจะแยกออก
กลุ่มล่ะสองพวก คอยระวังหลังให้ด้วย”
   “อย่างนั้นตามใจมึง กูโทรฯไปบอกพวกมันให้เตรียมตัวไว้แล้วว๊ะ
เดี๋ยวจะโทรฯไปกำชับเวลามันอีกทีหนึ่ง”
   “เออ????...ดีว๊ะ  งั้นเท่านี้กูรบกวนมึงเท่านี้แหละว๊ะจะได้ให้
หัวหน้ากลุ่มกูดูแผนที่แต่ละแห่งของใครของมันว๊ะจะได้เตรียม
ตัวและรถไว้พร้อมจะได้ไม่หลงกัน  อย่างนั้นกูไปก่อนล่ะอ้อๆๆ
ขอบใจเด็กมึงเจ็งจริงๆว๊ะ เยี่ยมโว้ย”
       ไอ้เล้งกล่าวพลางลุกขึ้นไปพยักหน้ากับเด็กที่อยู่ด้านหลังสี่คน
ต่างก็เดินกันออกไปจากร้านอาหาร  คงเหลือไอ้เม้งและพวกเท่านั้น
ไอ้เม้งก็โทรฯไปย้ำหัวหน้ากลุ่มมันทันที  จวบจนดึกๆดื่นๆมันจึงได้
ออกเดินทางกลับบ้านพร้อมด้วยมือปืนทั้งสี่คนไป
     ที่สถานีตำรวจหลังจากที่ พตต.อำนวยและ พตต. วิเชียรย้าย
ไปประจำการพ้นจากหน้าที่แล้ว การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นภายใน
สถานีนั้น  พตต. สังวาลย์หัวหน้าธุรการซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น
พตท.แต่ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายธุรการตามเดิม ส่วนผู้กอง
จำลองและผู้กองจรัสก็ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นสารวัตรพร้อมๆกันด้วย
ส่วนสารวัตรชัชวาลย์ก็เลื่อนขึ้นเป็น พตอ.พร้อมด้วยข้าราขการ
ตำรวจบางนายที่ได้เลื่อนยศขึ้นไปด้วย จากจ่าก็เป็นนายร้อยไปด้วย
ที่มีผลงานจากการปราบปรามป่าไม้เถื่อนและยาเสพย์ติดที่จับได้มา
เป็นจำนวนมาก  ตำรวจทั้งหมดต่างได้เลื่อนยศทั้งสิ้น
    ดังนั้นจึงได้มีงานฉลองยศและเป็นการอำลาท่านรองวาสนาที่
รักษาการณ์แทน พล.ต.ต. วีระโชติ  ที่ลานบริเวณหน้าสถานีได้ถูกจัด
งานขึ้นอย่างเรียบง่ายๆ  ไม่ครึกครื้นแต่อย่างไรแต่เหล่าร้านค้าต่างๆก็
เข้ามาร่วมแสดงความยินดีและงานเลี้ยงส่งที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ซึ่ง
คิดว่าจะทำแบบเรียบๆง่ายๆ บรรดาพ่อค้าในเมืองต่างช่วยกันหาสิ่ง
ต่างๆมาอำนวจความสะดวกโดยจัดมีการเลี้ยงค่อนข้างจะยิ่งใหญ่
เพราะจะมีเวทีปราศัยและวงดนตรีลูกทุ่ง พร้อมอาหารโต๊ะจีนจาก
บรรดาพ่อค้าที่ต่างเสนอหน้าออกมารับหน้าที่แทน   ครั้นเวลาตก
บ่ายๆจวนจะใกล้ค่ำ  บริเวณงานก็เต็มไปด้วยแสงไฟสีต่างๆเต็มไป
หมดหลายหลากสี  บนเวทีก็เริ่มมีการแสดงร้องเพลงดนตรีลูกทุ่ง
   เหตุนี้บริเวณหน้าสถานีก็เต็มไปด้วยโต๊ะต่างๆจนล้นออกมาบน
ถนนบริเวณหน้าเวทีก็ประกอบไปด้วยตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต่างนั่งบน
โต๊ะคุยกัน  และบรรดาพ่อค้าที่มาช่วยงานก็เข้ามานั่งสนทนากันด้วย
ความสนุกสนานครึกครื้น   เสี่ยเม้งก็นำของขวัญเข้ามามอบให้แก่
ท่านรองวาสนาที่จะพ้นอายุราชการในวันสองวันนี้และก็เข้ามานั่ง
คุยด้วย  เหตุที่มาเพราะได้ข่าวว่าจะหัวหน้าผู้กำกับสถานีมาแสดงตน
ด้วย  ดังนั้นเสี่ยเม้งจึงเหลียวซ้ายแลขวาตลอดคล้ายจะค้นหาใครคน
หนึ่ง   มีชาวบ้านบางคนก็เข้ามาแสดงความยินดีกับท่านรองด้วยสิ่ง
เล็กๆน้อยๆที่หามาได้ตามอัธยาศัยเท่านั้น แต่ท่านรองยิ้มพลาง
ขอบคุณผู้ที่นำมามอบให้ด้วยสีหน้าแย้มยิ้มตลอดเวลา
   
   จนกระทั่งเวลางานใกล้ที่จะได้เวลาที่ท่านรองผู้กำกับจะขึ้นไป
กล่าวคำอำลาชีวิตราชการนั้น  แต่หามีใครสนใจชายสามคนไม่เพราะ
แอบเข้ามานั่งอยู่ทางด้านหลัง  การแต่งตัวเรียบง่าย หนึ่งในนั้นไว้
หนวดครึ้มนั่งกระขนาบข้างด้วยชายสองคน  ทั้งหมดได้แต่ดื่มน้ำส้ม
เท่านั้น  บรรดาคนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างมองหน้ากันเพราะไม่รู้จักว่าใคร
เป็นใคร  ชายทั้งสามนั่งเงียบไม่สนทนากับใครๆเพียงแต่ตาจ้องไปดู
การละเล่นของวงดนตรีเท่านั้นเอง
 
    ครั้นได้เวลาพิธีกรก็ขึ้นไปจับไมค์โครโฟนแสดงถึงงานในวันนี้
เป็นการอารัมบทต่างๆนาๆ ขอบใจผู้ที่มาช่วยเหลืองานนี้ทั้งสิ้น
ครั้นกล่าวอารัมบทเรียบร้อยแล้ว ก็เชิญท่านรองผู้กำกับการมากล่าว
คำเปิดงานแล้วกล่าวคำอำลาหน้าที่ราชการทันที
    “ด้วยบัดนี้เป็นเวลาอันสมควรแล้วที่จะขอเรียนเชิญท่านรองผู้
กำกับมากล่าวเปิดงานและเป็นการอำลาชีวิตราชการตำรวจ  ข้าพเจ้า
ขอเรียนเชิญ ท่านพล.ต.ต.วาสนา เอี่ยมละออ มาเปิดงานด้วยขอรับ
ท่านตลอดจนจะมีผู้มามอบของที่ระลึกแก่ท่านด้วยครับ”
   ท่านรองหันไปทางสารวัตรชัชวาลย์ทันทีพร้อมกล่าวว่า
   “เห็นคุณบอกว่า  ท่านหัวหน้าจะมาป่านนี้ยังไม่เห็นท่านเลยผม
อยากจะพบหน้าท่านสักหน่อยจริงๆนะคุณ”
   “ท่านเรียนว่าท่านมาแน่ๆครับท่านรองไม่ต้องห่วง ผมคิดว่าท่าน
คงจะมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนครับท่าน”
   “หากขณะผมกล่าวผมพยายามจะพึงคำพูดไว้  หากท่านมาขอให้
สารวัตรช่วยนำขึ้นมาพบผมด้วยนะ”
   “ครับผ๊ม  ผมคิดว่าท่านคงจะมาแล้วล่ะครับเดี๋ยวผมจะให้สารวัตร
จำลองกับสารวัตรจรัส ออกค้นหาดูครับ”
   “ขอบใจมากครับ ช่วยผมด้วยนะครับ อย่างไรก็ตามก่อนวันเกษียณ
ผมตั้งใจมากอยากจะพบหน้าท่านสักครั้ง  มิฉะนั้นหากไม่ได้ท่านผม
คงไม่มีโอกาสเช่นนี้หรอก  คุณช่วยเหลือผมด้วยนะครับ”
   “ครับผ๊มท่านไม่ต้องห่วงหรอกครับ”
   แล้วสารวัตรชัชวาลย์ก็หันไปทางสารวัตรจำลองและสารวัตรจรัส
ให้ช่วยออกตรวจตามโต๊ะต่างๆทันที   เมื่อสารวัตรทั้งสองได้ยิน
เช่นนั้นก็ต่างรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมออกเดินค้นหาทันที
  เมื่อท่านรองเห็นสารวัตร จำลอง จรัส ออกค้นหา ก็ค่อยๆเดินขึ้นไป
บนเวที พลางของคุณพิธีกร แล้วหันไปทางหน้าเวที พลางทำความ
เคารพแขกผู้มาในงานทุกๆคน แล้วก็ค่อยๆกล่าวอารัมบทตั้งแต่รับ
ราชการมาจนมาถึงตำแหน่งนี้  หากสิ่งใดผิดบกพร่องก็กล่าวขออภัย
ทุกๆคนด้วย  เสียงปรบมือกันลั่นไปทั่วบริเวณงาน ด้วยงานนี้ทุกๆ
คนไม่ได้แต่ยศเครื่องแบบ  แต่ทุกๆคนอยู่ในชุดไปรเวททั้งสิ้น ท่าน
รองพยายามดึงโน้มน้าวงานในหน้าที่การงานและอารัมบทต่างๆ
   เวลาไม่นานนัก สารวัตรทั้งสองก็มาพบชายหนุ่มนั่งแอบอยู่ในแนว
มืดๆแต่  สารวัตรจรัสจำเจ้าแสงสีได้ ก็ ทำเป็นเดินเลี่ยงไปแล้วไปหา
สารวัตรจำลองทันทีว่าพบแล้วหัวหน้าเรา  ดังนั้นทั้งสองรีบมายังที่
โต๊ะนั้นทันที แต่เขามิอาจจำหน้าชายหนุ่มได้เนื่องจากไว้หนวดเครา
ครื้มและอยู่ในที่ค่อนข้างสว่างน้อยที่สุด  ดังนั้นสารวัตรทั้งสองจึงไป
ตบไหล่เจ้าแสงสี สินชัยทันที  ทั้งสองสะดุ้งพลางเหลียวมามองดูครั้น
เห็นสารวัตรทั้งสองก็ยกมือไหว้ ส่วนชายหนุ่มนั้นก็เงยหน้าขึ้นยิ้มกับ
สารวัตรทั้งสอง   ทำเอาสารวัตรทั้งสองตลึงทันที  ที่ใบหน้าของ
หัวหน้าได้เปลี่ยนไป  พลางยกมือขึ้นไหว้แล้วร้องด้วยความดีใจ
   “หัวหน้าครับทำไมมารูปแบบนี้ล่ะครับ ผมแทบจำไม่ได้เลยล่ะ”
   “ผมไม่อยากให้เป็นที่เอิกเกริกไปนะซิสารวัตร  สบายดีอยู่หรือ”
   “ครับหัวหน้าท่านรองท่านอยากพบหน้าหัวหน้าอยู่ท่านพยายามดึง
เวลาให้ช้าๆครับ   หากพบให้พาหัวหน้าไปพบด้วยครับ”
    ชายหนุ่มหันมายิ้มพลางลุกขึ้นติดตามด้วยเจ้าแสงสีสินชัย  ก็ออก
เดินตามสารวัตรทั้งสองไป แต่อยู่ทางด้านหลัง  ทำเอาบรรดาตำรวจที่
นั่งสนทนากันต่างมองดูกันเป็นแถวด้วยความแปลกใจเสียงสนทนา
กันเงียบกริบทันที   สารวัตรจำลองก็ชี้ไปยังโต๊ะของสารรวัตร
ชัชวาลย์ทันที แล้วถอยออกมา  ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินไปหาสารวัตร
ชัชวาลย์ทันที   ครั้นสารวัตรชัชวาลย์เห็นชายหนุ่มเดินเคียงข้างมากับ
สารวัตรจำลองและจรัสก็รู้ทันที  ด้วยความเผลอตัวทั้งๆที่แต่ง
ไปรเวทอยู่ก็ตะเบ๊ะพรืบ พลางกระพริบตาถี่เหมือนจะไม่เชื่อสายตา
ตัวเอง   ด้วยลักษณะการแต่งกายของชายหนุ่มผิดปกติไปมากทีเดียว
   “คุณชัชวาลย์นี่นอกเครื่องแบบนะ”
เสียงชายหนุ่มกล่าวพลางหัวร่อ   ดังนั้นสารวัตรชัชวาลย์รีบเข้าไป
สวมกอดชายหนุ่มทันที  ชายหนุ่มรีบกระซิบให้สารวัตรชัชวาลย์
ทราบอีกว่าหลังผ่าน กตร.จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งของคุณด้วย
แต่ยังไม่บอก ด้วยผมไม่ไว้วางใจ จะให้คุณเป็นรองผมจึงจำเป็นต้อง
ปรับแผนการณ์ใหม่ มิฉนั้นหากตำแหน่งท่านรองว่างลง ทาง
กรุงเทพฯจะส่งคนมาใหม่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรจำเป็นต้องเสนอ
คุณไว้ก่อน  ซึ่งท่านก็รับปากไว้แล้วเสนอไปยังนายกฯท่านแล้วด้วย
คุณอาจจะโชคดีสองชั้น ขอให้เก็บเป็นความลับไว้ด้วยนะ  ทำเอา
สารวัตรชัชวาลย์ถึงกับปากอ้าตาค้างไปทันที
    ส่วนบนเวทีท่านรองกำลังรอรับของขวัญอย่างเชื่องช้า  จนกระทั่ง
สารวัตรจรัสไปข้างหน้าเวทีบอกว่า หัวหน้ามาแล้ว นั่นแหละท่าน
รองจึงรีบรับของขวัญ ซึ่งมีคนมารับต่ออย่างรวดเร็ว พลาง ก้มลงถาม
สารวัตรจำลองทันทีว่า
   “สารวัตรแน่นใจนะว่าหัวหน้าเรา”
   “ไม่ผิดหรอกครับท่านรอง  ท่านมานานแล้วล่ะแต่ไปนั่งแอบๆที่
มืดๆไม่ได้เข้ามาครับ”
   “อย่างนั้นเชิญท่านขึ้นมาบนเวทีได้เลย   ผมจะได้รีบกล่าวสรุปเสีย
ทีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปนาน”
   “ครับท่านรอง ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
  แล้วท่านรองก็ไปยังไมโครโฟนกล่าวสรุปผลงานของท่านจนจบ
แล้วกล่าวขึ้นว่า
   “แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายและบรรดาตำรวจทั้งหลาย บัดนี้หัวหน้า
สถานีของเราท่านได้มาปรากฏตัวแล้วเพื่อจะได้ทำหน้าที่จากผม
ต่อไป และจะขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับ พล.ต.ท. วีระโชติ วิเชียรเข็ม
สกุล  ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีนี้และให้ผมรักษาการณ์แทนเสีย
เป็นเวลานาน   บัดนี้สมควรที่ท่านทั้งหลายจะได้รู้จักหัวหน้าสถานีที่
แท้จริงเสียที”
     บรรดาแขกและตำรวจทั้งหลายต่างเงียบกริบไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น
เลยทุกๆคนต่างมองดูว่าหัวหน้าของสถานีตำรวจที่แท้จริงคือใครกัน
แน่   แม้แต่เสี่ยเม้งเองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยที่จะได้รู้จักเสียทีว่าเป็น
ใครกันแน่  แตทว่าการแต่งตัวหนวดเคราบดบังใบหน้า
อันเท้จริงทำให้เสี่ยงเม้ง ฉงนมันนึกในใจว่านี่หรือหัวหน้าสถานี
ตำรวจไหงดูไปคล้ายๆมหาโจรดีๆนี้เอง ใช่หรือว๊ะมันนึกในใจ
แต่เมื่อท่านรองผู้กำกับการสถานีรับรองเช่นนี้มันถึงแน่ใจ
   “ข้าพเจ้าขอเรียนเชิญท่านหัวหน้าขึ้นมากล่าวกับบรรดาแขกผู้มี
เกียรติและผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยครับท่าน”
   ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากโต๊ะของสารวัตรชัชวาลย์พลางเดินขึ้นไปบน
เวทีอากัปกิริยาเปลี่ยนไปทันที ร่างที่งองุ้มกับผึ่งผายทันที ทั้งสาม
สารวัตรก็เดินตามหลังก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วย ส่วนเจ้าแสงสีสินชัยก็
รีบเข้าไปประกบเสียเม้งมิให้รอดสายตา ด้วยเจ้าเม้งนั้นมีคนนั่งอยู่
ด้วยสี่คน กระจายกันมันรู้ด้วยฌานทันทีว่าย่อมไม่ดีแน่จึงไม่วางใจ
    เมื่อชายหนุ่มก้าวขึ้นไปบนเวทีแล้วก็ตรงเข้าไปยกมือไหวท่านรอง
ทันที  ทำเอาท่านรองทรุดตัวลงทันทีพร้อมทั้งกราบไปยังชายหนุ่ม
จนชายหนุ่มต้องรีบพยุงร่างท่านรองให้ขึ้นมา บนใบหน้าท่านรองนั้น
เต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งลูกผู้ชายด้วยความปิติยินดียิ่ง นึกว่าจะไม่
มีโอกาสพบผู้มีพระคุณอีกแล้ว  แล้วดึงร่างชายหนุ่มเข้ามาสวมกอด
  “หากผมไม่ได้หัวหน้าผมคงคิดว่าจะไม่ได้นายพลกับเขาแล้ว ท่าน
หัวหน้ามีเมตตาบุญคุณกับผมมากครับ ขอบคุณอย่างสูงครับท่าน”
 ชายหนุ่มหัวร่อเบาๆแล้วกล่าวขออภัยท่านรองที่ทำให้ต้องลำบากมา
นานแสนนาน  แล้วชายหนุ่มก็ก้าวไปที่ไมโครโฟนพลางกล่าวขึ้นว่า
   “ก่อนอื่นข้าพเจ้าต้องขออภัยต่อพี่น้องทุกๆคนที่ให้เกียรติสร้างงาน
นี้เป็นการไว้อาลัยแก่ท่านรองที่จะพ้นหน้าที่จากการเป็นตำรวจตาม
วาระไป ทำให้นึกเสียดายนายตำรวจดีๆหายากยิ่ง ในยุคนี้  น้อยคน
นักที่จะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่เห็นแก่อามิสสินจ้างใดๆ
นับได้ว่าเป็นนายตำรวจ่ที่ดีเด่นคนหนึ่งทำหน้าที่สมกับคำว่า
ผู้พิทักษณ์สันติราษฎร์ ปกป้องกำหราบคนชั่วปกป้องคนดีไม่ถือว่า
มีอำนาจกฏหมายอยู่ในมือจะใช้ในทางอันมิชอบ คอยช่วยเหลือชาว
ประชาให้ร่มเย็นเป็นสุข จนเมืองนี้ลดน้อยถอยพวกมิจฉาชีพลงไป
มาก มิได้เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อยด้วยคิดเสมอว่ากินเงินเดือนจากชาว
ประชาชนทั้งหลาย  และข้าพเจ้าขอฝากไปถึงพวกตำรวจทั้งหลาย
ด้วยว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปที่ข้าพเจ้าเข้ามารับหน้าที่โดยตรง ซึ่ง
ข้าพเจ้ารู้ว่ายังมีตำรวจบางคนยังขูดรีดประชาชนอยู่ หากข้าพเจ้าเข้า
มาแล้ว สิ่งใดทำไปก็ขอให้หยุดเลิกเสีย  ข้าพเจ้าจะไม่ไว้แม้หน้า
อินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น ให้ตำรวจทุกๆนายที่อยู่ ณ ที่นี้ทราบด้วย
ว่าเราเป็นคนของประชาชนก่อนมาเป็นตำรวจก็เป็นประชาชนมา
ก่อนเพียงแต่เรามีหน้าที่รักษากฏหมายไว้  อย่าคิดว่าตัวเองอยู่เหนือ
ประชาชน กินเงินเดือนเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียก็เงินของประชาชน จงคิด
เสมอว่าเราคือประชาชนคนหนึ่ง  ไม่ได้เหนือไปกว่าประชาชนใดๆ
ทั้งสิ้นเพียงแต่เราเขามอบให้มาทำหน้าที่รักษากฏหมายเพื่อปกป้อง
เขาไว้เท่านั้น   หากวันใดข้าพเจ้าทราบว่ายังมีการรับส่วยจากบ่อน
การพนันหรือพวกผิดกฏหมายใดๆทั้งสิ้นอย่ามาหาว่าข้าพเจ้าใจร้าย
เพราะข้าพเจ้าคือประชาชนคนหนึ่ง ย่อมต้องปกป้องคนดีคอยช่วย
เหลือประชาชน   หากตำรวจคนใดที่ทำไว้ก็จงเลิกเสียประพฤติตน
ใหม่  ข้าพเจ้าขอกล่าวไว้เพียงเท่านี้  และขออวยพรให้ท่านรองท่าน
จงมีชีวิตยั่งยืนสุขภาพแข็งแรงเป็นมิ่งขวัญของครอบครัวต่อไป”
            แก้วประเสริฐ.

1139348gm3744qpip.gif				
comments powered by Disqus
  • แก้วประภัสสร

    5 กันยายน 2554 11:25 น. - comment id 126144

    เข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบันดีค่ะครู 11.gif
    
    ครูสบายดีนะคะ
    
    29.gif29.gif36.gif16.gif
  • กิ่งโศก

    5 กันยายน 2554 14:47 น. - comment id 126157

    มาติดตามอ่านต่อครับ ..ช่วงนี้มีละครบู๊ คงกะพัน ในทีวีด้วยครับครู
  • ทางแสงดาว

    5 กันยายน 2554 14:48 น. - comment id 126158

    สุขภาพมาที่1...   57.gifมาส่งรอยยิ้มครับ
  • แก้วประเสริฐ

    5 กันยายน 2554 15:04 น. - comment id 126161

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แก้วประภัสสร
    
          ศิษย์รักครูเอ๋ย เหงาๆอยู่คนเดียวก็นึก
    ได้ว่านิยายไม่ได้เขียนไว้นี่เองตามวิสัย
    ของคนแก่ก็แบบนี้แหละ ครูเขียนไปเรื่อยๆ
    แต่มันจะยาวหน่อย เพราะเขียนเพลินไปพอ
    มานึกได้ว่าอ้าวเกินกำหนดไปตั้งสามตอน
    ก็เลยส่งมา คนอ่านคงจะรำคาญด้วยยาวไป
    นะ  งานเขียนครูจะนำสิ่งต่างๆมาประกอบ
    เข้ากันเสมอๆจนึงไม่ค่อยเหมือนใครๆเขา
    จ้า  รักศิษย์เรามากเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    5 กันยายน 2554 15:07 น. - comment id 126163

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
          ศิษย์รักเรา  ลครทีวีครูไม่ได้ดูมานาน
    นับปีได้แล้วล่ะจ้า มันจะเหมือนๆกันหมด
    แหละจะยกเว้นบางเรื่องเท่านั้นที่รู้เพราะ
    เวลาอาบน้ำเสร็จไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แฟนครู
    มักชอบและติดลครก็เลยดูนิดๆหน่อยๆ
    เท่านั้นเองแล้วก็ออกมาเล่นคอมฯต่อจ้า
             รักศิษย์เรามากๆเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    5 กันยายน 2554 15:10 น. - comment id 126166

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ทางแสงดาว
    
          สมัยทำงานเข้าเวรเสียนานหลายปีเลย
    จนติด ทำให้ประสาทแข็งไป พอมาทำงาน
    กลางวันก็ยังติดอยู่แหละ ยิ่งแก่คล้ายเหมือน
    จะเป็นเด็กเข้าไปทุกๆที เอ้อนี่แหละหนา
    ชีวิตของคนมีอายุก็แบบนี้แหละ ทดลองแล้ว
    กลับทรมานมากๆ เลยต้องลุึกขึ้นมาเปิด
    คอมฯเล่นต่อจ้า  รักมากเสมอๆจ้า
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน