ไกลเกินศรัทธา - ไกลกว่าความคิด

อัลมิตรา

ไม่ใช่เรื่องไก่กับไข่ ไม่ใช่เรื่องโลกจะแตก แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อ
ในสิ่งที่ฉันจะบอกเล่าผ่านตัวหนังสือนี้ 
ขอบอกตามตรงว่า .. 
ฉันยังไม่มีความคิดที่จะเชื่อ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่ได้เก็บมาคิด
เขาว่ากันว่า ผู้หญิงชอบให้หมอดูทำนายดวงชะตา ยิ่งเวลาที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจ
ก็จะขวนขวายหาหมอดูแม่นบ้าง ไม่แม่นบ้าง มาทำนายทายทักตัวเอง
จริงหรือไม่จริง ?  คุณผู้หญิงทั้งหลายเก็บคำตอบไว้ในใจก็ได้				

เมื่อปีกลาย
 ตอนที่ฉันสงสัยถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเอง จนต้องไปเจาะตรวจ
ฉันนำข้อสงสัยไปปรึกษารุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการแนะนำให้ไปสถานที่หนึ่ง
สถานที่นั้นอยู่แถวพัฒนาการ  รุ่นพี่พาไปหาอาจารย์พ่อ (คนที่รุ่นพี่ศรัทธา)
ทำไงได้ ถูกคะยั้นคะยอซะขนาดนั้น ไม่กล้าปฏิเสธ  ไปก็ไปวะ

ฉันซึ่งถือว่าเป็นคนใหม่ ย่อมไม่รู้ว่า ที่นั่น ทำอะไร ยังไงกันบ้าง
ไปแล้ว จะส่งผลอะไรกลับมา ที่เพิ่งรู้ในตอนนั้น คือ ต้องเสียค่าครู 212 บาท สำหรับ 5 คำถาม

จะถามอะไรดีนะ 5 คำถาม ? นั่งบื้ออยู่ตั้งนาน 
จนรุ่นพี่ต้องมาบอกบทเขียนให้ทีละข้อ ซึ่งก็ได้แค่ 4 ข้อ เท่านั้น

1.ในสังขารร่างกายของลูกมีสิ่งดีหรือไม่ดีอย่างไร
2.สุขภาพเป็นเช่นไร 
3.หน้าที่การงานก้าวหน้าไหม เหมาะสมหรือยัง
4.ที่อยู่อาศัยเป็นอย่างไร
 
ขณะที่รอคิวเข้าหาอาจารย์พ่อ 
(ขออนุญาตเรียกให้เหมือนรุ่นพี่ อ่านแล้วจะได้ไม่งง)
เขาก็เปิดซีดีให้ดู เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม คนตั้งแยะ น่าจะ 2-3 พัน คนกระมัง
ภาพฉายถึงคนที่มีผีเข้า โหวกเหวก คร่ำครวญ ร้องไห้โหยหวน เห็นแล้วสังเวชยังมีภาพที่แสดงถึงคนที่มีเทพมาประทับ แสดงอาการประหลาด ดูแล้วตื่นเต้นดี

อ่า ... ถึงคิวฉันแล้ว อาจารย์พ่อหยิบใบคำถามที่ฉันเขียน แล้วก็บอกว่า
**  มีเทพรักษาอยู่ 2 องค์ คือ เจ้าแม่ทับทิม และเทพเจ้ากวนอู
  สุขภาพร่างกายดี ฉันบอกว่าไปเจาะตรวจชิ้นเนื้อยังไม่ทราบผล
  ก็ได้รับคำตอบยืนยันว่า ไม่เป็นไร มันเป็นธรรมชาติ !!!! 
  หน้าที่การงานเหมาะสมแล้ว จะเจริญก้าวหน้า
  ที่อยู่อาศัยก็ดี มีพระพรหมเป็นผู้อารักษ์ ** 

ฉันกลับบ้านแบบสบายใจขึ้นหน่อยเดียว แต่ติดค้างตรงที่ "มันเป็นธรรมชาติ"
รุ่นพี่บอกกับฉันว่า ไม่ต้องกังวล ที่เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ มันไม่มีอะไร 
มันเป็นซีสต์ไง คือมันเป็นธรรมชาติที่ผู้หญิงทุกคนมีอยู่ 
เอาไว้ถึงวัยหมดรอบเดือนมันก็จะหายไปเอง

หลังจากนั้น 3 วัน ฉันไปฟังผลตรวจชิ้นเนื้อที่เจาะเต้านม ผลคือ เป็นมะเร็ง
และได้รับการผ่าตัดทันทีในวันรุ่งขึ้น ฉันโทรหารุ่นพี่และบอกว่า "เป็นมะเร็ง"
มะเร็งก็มะเร็งสิวะ ทำไงได้ ก็มันเป็นไปแล้วนี่หว่า ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก
แถมก่อนผ่าตัด ฉันยังแอบขำกับคำว่า "มันเป็นธรรมชาติ" อยู่เลย				

.
รุ่นพี่ก็ยังคงทำหน้าที่ของรุ่นพี่ที่แสนดีต่อไป
โดยการพยายามชักชวนให้ฉันไปสถานธรรมของอาจารย์พ่อ 
ให้ไปปฏิบัติธรรมที่อยุธยา เจอหน้ากันทีไร ชวนทุกที 
ฉันก็ผลัดผ่อนไปทุกทีสินั่น ตอนช่วงคีโมก็ยังจะชวนอีกนะ
หัวก็เหม่ง ร่างกายก็อ่อนเปลี้ยซะขนาดนั้น 
เกรงว่าคนที่บ้านเขาจะเอ็ดว่า "ไม่เจียมบอดี้นะพี่" อ้างไปเรื่อยล่ะ

พอดูชวนบ่อยเข้า ก็ทำให้ฉันนึกกระดากซะงั้น 
ทำไงดีว๊า เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ คิด คิด คิด ..

จนกระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมา 
ฉันก็ถูกชวนให้ไปยังสถานปฏิบัติธรรมอีก ไม่รู้จะเลี่ยงยังไงดี
พอดีว่ามีนัดกับรุ่นน้อง แต่ยังไม่ได้กำหนดสถานที่ เอาล่ะวะ ลองถามดู 
เผื่อรุ่นน้องจะสนใจ อย่างน้อยก็หาที่ลงได้ล่ะ
รุ่นน้องก็แสนดี บอกว่า ไปไหนก็ได้พี่ .. เอาล่ะ  ปลดห่วงจากคอได้สักที				

.
คราวนี้รุ่นพี่พาฉันและรุ่นน้องไปยังสถานปฏิธรรมที่อยุธยา (ไกลเนอะ)
รุ่นน้องถือว่าเป็นคนใหม่เอี่ยมอ่อง 
ส่วนฉันเป็นคนใหม่แตะขอบ(แต่ยังไม่ได้เป็นศิษยานุศิษย์)
ทว่า เราทั้งคู่ ต้องมีค่าใช้จ่ายคนละ 212 บาท ... 

เอาอีกล่ะ ให้เขียนคำถาม 5 ข้อ ซึ่งก็เหมือนเดิม ไม่รู้จะถามอะไรดี 
แต่พอจะคุ้น ๆ ว่า เคยถาม ก็เลยลอกคำถามเดิมมาถามสักหน่อย ฮา ... คิดง่ายดี

โอ้โห คนไปเข้าคิวรอแถวที่จะพบอาจารย์พ่อมากมาย นับได้หลายสิบทีเดียว
ฉันเองยังไม่ถูกเรียกชื่อสักที เอ.. ยังไงดีนะ
ช่วงที่รอ ง่วงก็ง่วง นั่งบิดไปกะบิดมา หาวจนดาวเดือนเต็มท้องฟ้าไปหมด 
เขาเปิดซีดี เรื่องแบบเดียวกับปีที่แล้วให้ดู 
 ( มีผีเข้า ผีออก องค์ประทับ ... เหมือนเดิมเป๊ะ )

ในที่สุดรุ่นน้องที่เป็นคนใหม่เอี่ยมอ่อง ถูกเรียกชื่อให้ไปอยู่อันดับสอง 
นั่งแถวหน้า  เขาเรียกชื่อทั้งหมด 12 คน น่าจะเป็นกลุ่มคนใหม่ทั้งหมด

ฉันก็เลยไปเสนอหน้า แจ้งว่า มาด้วยกัน  จะรีบกลับด้วย
เพราะจะไปธุระกันต่อ แหะ แหะ  
ฉันก็เลยได้ไปนั่งแถวหน้าเหมือนกัน อันดับสาม

ลองนึกภาพตามนะ 
นั่งสามแถว แถวแรก 5 คน แถวที่สอง 4 คน และ แถวที่สาม 4 คน
ฉันกำลังคิดว่า รวมแล้ว 13 คน เป็นตัวเลขที่ดีจัง ลัคกี้นัมเบอร์
แต่ไม่ทันไร ก็ต้องตกใจกับคำที่อาจารย์พ่อบอกว่า

"ในนี้ คนที่มีผีมาด้วย มีจำนวน 9 คน"  

เอาล่ะสิ ใครเป็นผู้โชคดีเนี่ย แล้วอาจารย์พ่อก็ชี้ คนนั้นมี คนนี้มี 
สำหรับฉัน..ไม่มี
บรรยากาศในตอนนั้นชวนขนลุกนิด ๆ 
ป๊าดธ่อ ที่ฉันนั่งเบียดอยู่กับผีหรือนี่ มีกันอื้อซะขนาดนั้น ตกใจหมดเลย

อาจารย์พ่อให้คนที่นั่งคนแรก เป็นคนยกพระ
 ( หนัก เบา แล้วแต่ตั้งจิตอธิษฐานว่า ใช่หรือไม่ใช่)
เอาแถวแรกก่อนนะ  5 คนเนี๊ยะ ชาติที่แล้วเป็นผู้ชายทั้งหมด

คนแรกรวย (หมายถึงคนยกพระ)  
คนนี้มีเทพรักษา เจ้าพ่อกวนอู และเจ้าแม่ทับทิม

คนที่สองจน (รุ่นน้อง)  
อดีตชาติเป็นคนเจ้าชู้มาก ที่สำคัญ มีผีมาด้วย ผูกกรรมกันไว้ 3 ตัว 

คนที่สามรวย (หมายถึงฉัน) คนนี้มีเทพรักษา เจ้าแม่ทับทิม เจ้าแม่กวนอิม 

คนที่สี่และคนที่ห้า มีผีมาด้วย ยากจน 
โดยเฉพาะคนที่ห้า จนกว่าใครเพื่อน จนสุด ๆ 

ทีนี้มาลงรายละเอียดดีกว่า ฉันจะเล่าในส่วนที่เกี่ยวกับฉัน 
เพราะว่า ที่เกี่ยวกับคนอื่น ไม่สมควรเล่า จริงมั๊ย

**  มีเทพรักษาอยู่ 2 องค์ คือ เจ้าแม่ทับทิม และเจ้าแม่กวนอิม
  สุขภาพร่างกายดี อายุขัย 70 ปี
  หน้าที่การงานเหมาะสมแล้ว จะเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ 
  ครอบครัวก็ดี บริวารก็ดี  **

อะไร ๆ ก็ดีนะ ทว่าฉันถามไปอีกหนว่า  แล้วโรคที่เป็นอยู่ล่ะ จะยังไง
อาจารย์พ่อถามว่า .. ป่วยป็นอะไร 
ฉันตอบว่า .. เป็นมะเร็งเต้านม
อาจารย์พ่อบอกว่า .. มันเกิดจากธรรมชาติ ไม่มีผี ไม่มีกรรมมาทำให้เป็น
                                ต้องรักษาด้วยแพทย์ปัจจุบัน  อย่าผ่าตัด อย่าคีโม
                                เพราะผีจะได้กลิ่นคาวเลือด ผีจร จะมาเกาะ
                                ถ้าจะให้ดี ต้องมาหาอาจารย์พ่อบ่อย ๆ 

ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ รีบร่ำลาออกมา ในใจน่ะ แอบพกความสังสัยว่า ..
โธ่ถังกาละมังรั่ว ไหนบอกว่ามีเทพรักษา แล้วผีมันจะมาเกาะได้ยังไงกันว๊า ..

ไม่เข้าใจจริง ๆ พับผ่าเหอะ