เมื่อก้าวเท้าลงบันใด จุดหมายคือบ้านพี่สาว เพื่อพบปะ ระหว่างญาติพี่น้อง อาทิตย์นี้ เรามีแขกพิเศษมาร่วมโต๊ะอาหารและวงสนทนาเพิ่มขึ้น สองท่าน เพื่อมาคุยเรื่องงานแต่งงานของหลานชาย เมื่อทั้งสองฝ่ายแนะนำตัวกันเรียบร้อย พวกเราให้เกียรติสำหรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งอีกไม่นานก็จะมาเกี่ยวดองกัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แรกๆ การคุยเหมือนยังเกรงๆ ไว้เชิงกัน เนื่องจากเป็นการพบปะญาติฝ่ายหญิงครั้งแรก เมื่อการสนทนาเริ่มขึ้น ความเป็นกันเองก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่ง รู้สึกสัมผัสได้ว่า เขาและเราไว้ใจและเชื่อใจกัน หลังจากคุยเวลาและสถานที่ หาฤกษ์หายามแต่งงานเรียบร้อย คุณแม่ของว่าที่หลานสะไภ้ก็ได้เล่าย้อนประวัติของตนเองให้ทุกคนๆฟัง ชีวิตของเธอ ไม่ต่างกับนิยาย หรือละครหลายเรื่องที่เราๆ ท่านๆได้ชมกัน จากหญิงสาว ที่มีชีวิตอยู่ในรั้ว ในวัง เป็นลูกหลานข้าราชการบริวารมาก่อน เธอเล่าว่า ชีวิตที่ผ่านมา หาโรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องทำงานทุกอย่าง ไม่ต่างกับคนรับใช้ มีช่วงหนึ่งที่เธอเล่าพร้อมน้ำตา ว่าจะไปงานเลี้ยงแต่ไม่มีชุดสวยๆใส่ ลูกสาวของญาติให้เธอยืมชุด เธอสวมชุดนั้นอย่างมีความสุข แต่ความสุขก็อยู่กับเธอได้ไม่นานนัก เมื่อแม่ของญาติที่ให้เธอยืมชุดใส่มาเห็นเข้า และสั่งให้เธอถอดชุดนั้นออก เธอเล่าพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา ..ฉันหยิบกระดาษทิชชู่ให้เธอแล้วบอกว่า พวกเรายินดีรับฟังทุกอย่างที่เธออยากจะเล่า " หนูคิดว่าพี่รับสัมผัสพวกเราได้ พี่ระบายออกมาเถอะค่ะ อย่าเก็บไว้คนเดียว " ฉันยื่นมือไปจับมือของเธอ มือที่ยังเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาอยู่ เธอเคยเดินทางด้วยเท้าเปล่า เพื่อไปขอพักอาศัยชั่วคราวบ้านญาติ เมื่อคราที่ชีวิตเจอมรสุม เนื่องจากแยกทางกับสามีและลูกยังเล็ก เธอไม่มีทางออก ถึงขนาดคิดสั้น เอาลูกและตัวเองแขวนคอ หวังลาโลกไปพร้อมกัน แต่แล้วสติก็ทำให้เธอหยุดคิดสั้น เมื่อมองเห็นรอยยิ้มของเด็กไร้เดียงสา ผู้ที่ขึ้นชื่อว่า"ลูก" เธอลุกขึ้นมาสู้ชีวิตอีกครั้ง เดินหางานทำจนมีคนเมตตาให้ทำงาน แต่รายได้ก็ไม่พอใช้จ่าย ต้องอาศัยทำงานกลางคืนเพื่อเพิ่มรายได้เลี้ยงลูก ด้วยการทำงานเป็นพีอาร์เชียร์แขกในร้าน และก็ได้พบกับสามีคนปัจจุบัน แรกๆทั้งสองก็ต้องทำงานหนักเนื่องจากมีลูกคนที่สอง เธอเล่าถึงตอนที่ เหลือเงินในกระเป๋าอยู่ห้าบาท ไม่มีเงินซื้ออาหารให้ลูกกิน เอาเงินห้าบาทนั้นไปซื้อผักคะน้ามาผัด ผัดทั้งน้ำตา เพราะสงสารลูก เมื่อลูกสาวคนโตพูดกับเธอว่า " คุณแม่ขา อาหารมื้อนี้อร่อยและวิเศษที่สุดเท่าที่ลูกเคยกินมา" เธอและสามีถึงกับอึ้ง และแอบกอดคอกันร้องไห้ คำพูดของลูกทำให้มีกำลังใจมาถึงทุกวันนี้ น้ำตาที่ไหลออกมา ด้วยเธอเก็บไว้มานานหลายปีกับความลับที่เธอบอกว่า ไม่เคยเล่าให้ญาติๆฟังเพราะกลัวการดูถูก เหยียดหยามจากวงค์ตระกูล น้ำตาของผู้หญิงคนหนึ่ง กับเรื่องเล่าเพียงบางเสี้ยวของชีวิต ทำให้ฉันรู้สึกว่า หัวใจอ่อนล้าที่ไร้เหตุผลของฉันทุกวันนี้ มันไม่ได้ทุกข์เท่ากับเศษเสี้ยวชีวิตของคนอีกหลายคน วันนี้เขาและเธอ โชคดีมากค่ะ ที่มีลูกสาวคนละสามี แต่เด็กทั้งสองรักกันมาก เธอยื่นมือไปบีบมือสามีและเอ่ยปากขอบคุณเขา ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่เธอกับลูกสาว ขอบคุณที่ให้ลูกสาวที่น่ารักอีกคน ขอบคุณที่อยู่ข้างๆกันและคอยเป็นกำลังใจ จากวันที่ไม่มีข้าวกิน จากวันที่หัวใจอ่อนล้า มาเป็นผู้ญิงที่แข้มแข็งในวันนี้ ฉันฟังเรื่องราวจนจบแล้วลุกขึ้นไปยืนมองท้องฟ้าในเวลาค่ำคืน ท้องฟ้าวันนี้ไม่สว่าง เพราะสายฝนกำลังโปรยปรายลงมากระทบหลังคาดังเปาะแปะ ฉันหันไปมองต้นชวนชมที่กำลังออกดอกบานเต็มต้นในกระถาง ฉันหันไปมองปลาที่กำลังว่ายอย่างช้าๆอยู่ในสระเล็กๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอีกครั้ง... วันนี้ท้องฟ้าปิด มองไม่เห็นเดือน และดาว แต่ความสว่างกลับเกิดขึ้นที่ใจฉัน และเกิดขึ้นกับแขกใหม่ผู้มาเยือนบ้าน ความสว่างที่เกิดขึ้นถึงแม้ต่างเหตุผล แต่ฉันเชื่อว่า เราต่างเข้าใจความหมายของคำว่า "แบ่งปันความรู้สึก"ได้ดี ขอขอบคุณ ..จากฉันผู้รับฟัง .. ขอขอบคุณ..เธอผู้ถ่ายทอดเรื่องราว ... แก้วประภัสสร 19/07/2011
19 กรกฎาคม 2554 15:52 น. - comment id 125104
ขอบคุณเธอผู้ถ่ายทอดเรื่องราวค่ะ
19 กรกฎาคม 2554 16:20 น. - comment id 125106
มาปรึกษาเรื่องงานแต่ง ตอนแรกคิว่าจะมีแต่เรื่องความสุข แต่กับได้ฟังเรื่องดราม่า ว่าแต่หลานทำไมชิงแต่งก่อนล่ะ ไม่เรียงตามลำดับไหล่หรือไง หลานสะใภ้ คนนี้ มาจากครอบครัวที่หัวใจเต็มร้อย หวังว่าเธอได้รับอิธิพลจากครอบครัว ไม่มากก็น้อย น่ายินดีครับ วันที่ท้องฟ้าปิด มองไม่เห็นเดือนและดาว แต่ความสว่างเกิดขึ้นที่ใจ แหมๆ สำนวนยังกับนักเขียนรุ่นลายคราม ขอบคุณสำหรับเนื้อหาที่อ่านแล้ว เหมือนแบ่งปันความรู้สึก ให้กันครับ
19 กรกฎาคม 2554 16:39 น. - comment id 125107
1 คุณจอบอ นานๆพวกเราจะได้รับฟังเรื่องราวแบบนี้ มันทำให้สะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆอย่างค่ะ คุณพ่อของว่าที่หลานสะไภ้ ปัจจุบันมีชื่อเสียง และเป็นที่เคารพในค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยนามนะคะ ขณะที่ภรรยากำลังเล่าเรื่องอดีต เขานั่งอยู่ข้างๆ และแซวตลอดว่า ชีวิตเธอน่าจะไปเขียนนิยายขายแข่งกับแฮรี่พอตเตอร์ อิ ขอบคุณค่ะ สบายดีน๊า
19 กรกฎาคม 2554 16:45 น. - comment id 125108
ขอบคุณคุณแบมที่ถ่ายทอดออกมา ได้อย่างดีเยี่ยมเลย
19 กรกฎาคม 2554 16:49 น. - comment id 125109
2 พี่สืบ ก่อนอื่น ขอบคุณค๊า ที่ชมหนู ว่าสำนวนเหมือนนักเขียนรุ่นลายคราม ตกลงอาเฮียกำลังจะว่า หนูแก่แล้วชิมะ บอกมาๆๆ เอ้อ ..ก็เขียนออกจากความรู้สึกล้วนๆจ้า นี่เล่าพอสังเขปนะคะ ในฐานะว่าที่ญาติ แฮะๆ พี่สืบสบายดีมั้ยคะ หยุดหลายวันพาเจ้ไปเที่ยวไหนคะ .. ขอบคุณจ้า
19 กรกฎาคม 2554 16:58 น. - comment id 125110
4 คุณกิ่งโศก ก่อนจะเขียน หลานๆ แซวว่า "น้าปากกาสมุดละ เตรียมหรือยัง ดราม่าเต็มๆเลยนะ" แบมหัวเราะ แล้วบอกหลานๆว่า ทุกอย่างเก็บไว้ในหยักเล็กๆของสมองแล้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถ่ายทอดให้ฟัง แบมเชื่อว่า ความสุข ไม่ได้อยู่แค่เราหัวเราะ ดังๆ แต่ความสุขอยู่ที่การแบ่งปันความรู้สึกนั้นๆค่ะปู่ หายไข้ไวๆนะคะคนเก่ง
19 กรกฎาคม 2554 17:07 น. - comment id 125111
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ขอบคุณที่มีวันนี้ค่ะคุณแบม
19 กรกฎาคม 2554 18:13 น. - comment id 125113
เล่าได้น่าอ่านมากคับ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์และความเพียรเป็นเครื่องตัดสิน ทุกคนล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร อันนี้ลอกจากพุทธวัจนะชัวย์
19 กรกฎาคม 2554 18:16 น. - comment id 125114
19 กรกฎาคม 2554 22:37 น. - comment id 125117
พี่แบมเล่าซะ คนอ่านน้ำตาซึม ขอชิ่นชมเธอคนนั้น ด้วยหัวใจจริงๆ ขอชื่นชมเจ้แบมที่เขียนได้ดี น่าอ่านนะคะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆนะเจ้แบม....
20 กรกฎาคม 2554 01:02 น. - comment id 125128
:)
20 กรกฎาคม 2554 09:42 น. - comment id 125133
ร่องรอยของชีวิต..... รายทาง...ที่มากไปด้วยความทุกข์ ที่โถมกระหน่ำ........ ผ่านตรงนั้น...มาได้.... ต้องหัวเราะจิ...บอกพี่เค้าใหม่... วันหลังต้องมานั่งหัวเราะกันจิ... แม่แก้มแบ๊ว... ชีวิตปัจจุบัน ต้องรันบนฟามสุข
20 กรกฎาคม 2554 10:37 น. - comment id 125134
เล่าเรื่องราวได้ซึ้งกินใจมากเลย ค่ะ พี่แบม ชีวิตเหมือนนิยาย เลย ถึงชีวิตจะพบความทุกข์มามากมายแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดก็จะพบความสุข แค่มีใจที่ไม่ท้อต่อโชคชะตาและ ยินดีด้วยค่ะที่ครอบครัวกำลังจะมีเรื่องดีที่เป็นมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้น
20 กรกฎาคม 2554 17:12 น. - comment id 125136
เรื่องมันซึ้งอมเศร้า
20 กรกฎาคม 2554 20:54 น. - comment id 125139
7 คุณพิม น้ำตาลหวาน สวัสดีค่ะคุณพิม แบมเคยเป็นนะคะ ที่มีเรื่องไม่สบายใจ แต่ก็ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง เพราะไม่อยากเอาทุกข์ไปให้คนอื่นค่ะ จึงชอบเขียนบันทึกเพื่อผ่อนคลายแล้วเก็บไว้กับตนเอง แต่ยังไงเราก็ต้องมีเพื่อน มีใครสักคนไว้คอยรับฟังและเป็นกำลังใจให้เรา การแบ่งปันความทุกข์ถือว่าเป็นการให้อย่างหนึ่ง แบมเชื่อเช่นนั้นค่ะ นอนหลับฝันดีนะคะ
20 กรกฎาคม 2554 21:01 น. - comment id 125140
8 คุณวิทย์ วันนี้ท่านผจก มาแบบทางการเลยนะคะ การที่เรารับฟัง และเข้าใจความรู้สึกคนอื่น ถือเป็นการให้ด้วยหรือเปล่าคะคุณวิทย์ พวกเราโชคดีที่ได้น้องเขามาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ว่าที่หลานสะไภ้เป็นคนมองโลกในแง่ดีค่ะ น้องเขาคิดบวกตลอดเวลา เวลาอยู่ใกล้แล้วมี ความสุข มีรอยยิ้ม อ้อ น้องเขาพากษ์เสียง รายการที่ช่องห้าด้วยน๊า " อุ หลั่นล้า" ช่วงพากษ์บรรยายภาพต่างๆ คือหลานคนนี้ละค่ะ อิ ภูมิใจจังเรา
20 กรกฎาคม 2554 21:03 น. - comment id 125141
9 คุณกลั่นแก้ว ขอบคุณมากค่ะ ฝันดีนะคะ
20 กรกฎาคม 2554 21:06 น. - comment id 125142
10 น้องวา ฉางน้อย ขอบคุณมากจ้าวา พี่พยายามเขียนแบบย่อๆค่ะ เพราะหากเขียนบรรยาย รายละเอียดมากกว่านี้ กลัวว่า ทั้งคนเขียนและคนอ่าน จะต้องใช้ทิชชู่หมดกล่องเลยละ อิ ราตรีสวัสดิ์จาน้องสาว
20 กรกฎาคม 2554 21:08 น. - comment id 125143
11 คุณ Tiki ขอบคุณมากที่แวะมาอ่านค่ะ นอนหลับฝันดีนะคะ
20 กรกฎาคม 2554 21:09 น. - comment id 125144
แวะกลับมาอ่านคำตอบทันเวลาแบบมาตามนัด ดีใจด้วยที่มีหลานสะใภ้ที่มีความสามารถและเป็นที่ชื่นชมของครอบครัวท่านประธาน ขอลงท้ายว่า ยินดีด้วยหลายๆๆๆคับ (ดูซิยิ้มสวยไหมคับ)
20 กรกฎาคม 2554 21:14 น. - comment id 125145
12 คุงตาทอง พี่เขาเล่าจบ ก็นั่งหัวเราะ ทั้งน้ำตาแหละจร้า ตาทองน้องตาคำ แต่สิ่งหนึ่งที่แบมมองเห็น ขณะที่พี่เขานั่งเล่า สายตาก็มองไปที่ลูกทั้งสอง ดูเหมือนว่า ฟ้าประทานของขวัญอันล้ำค่ามาให้พี่เขา ลูกทั้งสอง น่ารักมากค่ะ คนโต ทำงานแล้ว ส่วนคนที่สอง กำลังจะจบมหาวิทยาลัยเช่นกัน นี่แหละนะ ที่เขาเรียกว่า ชีวิต หลากหลายเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา บ้างทุกข์กระหน่ำ บ้างสุขจนล้น บ้างต้อแต้ อิ แต่สุดท้าย ทุกคนก็ต้องยืนอยู่ด้วยลำแข้ง ตนเองทั้งนั้น ฝันดีจร้ากีรฯ
20 กรกฎาคม 2554 21:24 น. - comment id 125146
13 น้อง kero หลายครั้งที่เราคิดว่า เรื่องที่ผ่านพบมา หนักหนาสาหัส อากาศเปลี่ยนจากร้อนเป็นหนาว จากหนาวเป็นร้อน ก็ปรับสภาพไม่ได้ หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า อาหารมื้อนี้ มันจืดชืดสิ้นดี พาลไม่อยากทาน หลายต่อครั้ง ที่เราหันไปมองคนอื่น แล้วเกิดการเปรียบเทียบ ว่า ทำไม เราไม่เป็นเช่นเขา ทำไมต้องเป็นเรา บางสิ่งภาพที่เรามอง คนอื่น เห็นเขาหัวเราะ เห็นเขายิ้ม แต่เบื้องลึก เขาอาจจะไม่ได้สวยงาม หรือมีความสุข เท่ากับเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มที่เรามี พี่เพียงอยากจะบอกว่า ทุกอย่างอยู่ที่ใจตัวเดียว ใจและสมองเราเท่านั้น ที่จะรู้สึก "สร้าง" และ ทำตนเองให้ดียิ่งๆขึ้น พี่เขียโคลงไว้บทหนึ่ง ฝากให้น้องไว้อ่านเล่นๆนะคะ เผื่อน้องแวะมาอีกครั้ง ใจดีทุกอย่างนั้น.........ดีตาม ใจคิดแต่เลวทราม.......ย่อมสิ้น ใจดีทุกอย่างงาม.........ดีหมด จริงนา แม้โลกดับแดดิ้น.......จิตนั้นยังงามฯ ฝันดีจ้าน้องสาว
20 กรกฎาคม 2554 21:27 น. - comment id 125147
14 คุงยาแก้ปวด เหมือนหนัง ข้ามสีทันดร เลยอะค่ะน้องยา เอ หรือว่า เรื่อง บ้านทรายทอง คะ เรื่องประมาณนี้แหละค่ะ นอนหลับฝันดีน๊า
20 กรกฎาคม 2554 21:35 น. - comment id 125149
20 อาคุงวิทย์ กำลังจะไปนอนแล่วว เห็นแวบๆ อะจ้า..ยิ้มสวยย มากๆๆค่ะ เอ..ยิ้มแบบนี้ สวยเหมือนผู้หญิงนา... แบมทำกิ่งมะลิที่กำลังออกดอกหักผลั๊วะ เลยเอามาใส่ขวดแก้ว แช่น้ำไว้ สามวันแล้วนะคะ ดอกตูมยังค่อยๆบาน ใบก็ยังไม่เหี่ยว เอ้อ...กำลังจะบอกว่า ชูรสเขาดีจริงๆ อิ ปล.ฝากบอกทุกคนด้วยว่า ไม่แนะนำให้ทำตาม เพราะนี่เป็นการทดลองเฉยๆค่ะ ไม่ได้รดน้ำด้วยชูรสแล้วน๊า ฝันดีอีกครั้งคราบบ
22 กรกฎาคม 2554 09:52 น. - comment id 125164
มาอ่านยามฝนพรำค่ะ
22 กรกฎาคม 2554 13:44 น. - comment id 125167
อดีตเป็นส่วนทำให้ปัจจุบันเข้มแข็งและทำให้เราเลือกที่จะทำด้วย ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ แบมร้อยเรียงได้น่าติดตามค่ะ คิดถึงมากมาย
24 กรกฎาคม 2554 12:07 น. - comment id 125171
25 ห้าเจ้าจอม วันนี้ท้องฟ้าสว่าง แจ่มใส นอนตื่นสายเลยค่ะ
24 กรกฎาคม 2554 12:10 น. - comment id 125172
27 คุณแจ้นเอง สวัสดีค่ะพี่แจ้น คิดถึงเช่นกันค่ะพี่ แต่ตอนนี้ เศร้าใจกับข่าวเครื่องบินตก เป็นลำที่สามแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ สงสัยถูกยิงป่าวน้อ พี่แจ้นสบายดีนะคะ