อทิสมานกาย ๙๒

แก้วประเสริฐ

2145537od3bkrob2x.gif
              อทิสมานกาย ๙๒
     เมื่อเดินทางมาถึงบ้านแล้ว เขาก็แลเห็นพ่อแม่น้องและน้องสไภ้กับ
แม่นางชบา กำลังนั่งทานอาหารร่วมกันอยู่    เมื่อพ่อเชียรแม่เข็มเห็น
ดังนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า
   “อ้าวกลับมาแล้วหรือพ่อนึกว่าจะไปหลายๆวันเสียอีก   ทางโน้นมี
เรื่องอะไรบ้างหรือ  มาๆมากินข้าวพ่อแม่น้องๆก็พึ่งจะกำลังและคุยถึง
เจ้าอยู่พอดีเชียวล่ะลูก”
   “เรื่องสำคัญมากจ๊ะพ่อ พ่อและน้องๆทานก่อนเถอะผมยังไม่หิวเลย
ด้วยกินกันมาแล้วล่ะครับ  อ้อๆๆหลวงพ่อทองท่านได้มรณะภาพแล้ว
ครับ  ผมไปเยี่ยมมาพอดีทราบว่าท่านละสังขารไปแล้วแต่ร่างกายยัง
ทำงานอยู่คงจะประมาณพรุ่งนี้แหละครับ”
   “เมื่อสองสามวันพ่อก็ไปเยี่ยมท่านมาเห็นท่านไม่พูดจาแต่อย่างไร
และเข้าสมาธิตลอด แต่ก็ทราบด้วยฌานเหมือนกันว่าคงจะเร็วๆนี้แหละ
แต่ท่านไปดีของท่านแล้วล่ะ”
   “ครับท่านไปอยู่ชั้นสูงๆแล้วครับ   ผมบอกหลวงพ่อหวนว่าให้เก็บ
ร่างท่านไว้ไม่ต้องเผาหรอก ใส่ในโลงแก้ว และจะทำรูปหล่อท่านไว้
ที่หน้าศพท่านด้วยครับ  พ่อเห็นว่าดีไหมเพราะว่าท่านอธิษฐานจิตไว้
ร่างท่านจะไม่ไหม้ไฟเด็ดขาด หากไปเผาจะทำให้เสียสภาพไปครับ”
   “เรื่องนี้ก็ดีเหมือนกันแหละลูก ด้วยท่านเป็นผู้สร้างวัดโคกอีแร้งมา
ตอนนั้นเป็นวัดร้างไม่มีพระเณรอยู่เลย ท่านธุดงค์มาปักกลดแล้วก็เริ่ม
บูรณะเป็นวัดจนท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสไปนะลูก”
   แม่เข็มอธิบายแทนพ่อเชียรต่อทันที
   “แม่ว่าเก็บไว้ก็ดีเหมือนกันจะได้เป็นที่ ด้วยหลวงพ่อทองท่านเป็น
เจ้าอาวาสที่สร้างคุณูปการแก่วัดนี้ไว้มาก   ควรจะเก็บไว้ให้เป็นที่
รำลึกถึงคุณงามความดีและยังทำให้เจ้าอาวาสต่อๆไปจะได้สังวรณ์ไว้
ด้วยล่ะ”
  
   “อ้อๆแล้วใครจะมาเป็นเจ้าอาวาสแทนท่านล่ะ”
   “เห็นพระในวัดท่านพูดว่าคงจะไม่พ้นหลวงพ่อหวนหรอกจ๊ะแม่ด้วย
ท่านมีหนังสือแจ้งไปยังคณะสงฆ์ไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ คงจะมีคำสั่งมา
ในไม่ช้านี้แหละครับ”
   “ก็เหมาะดีนะถึงแม้ว่าท่านหวนจะเป็นพระใหม่ก็จริงแต่  ท่านเรียน
สอบนักธรรมเอกได้ ส่วนพระรูปอื่นไม่มีใครมีความรู้ถึง คงจะไม่พ้น
ท่านไปได้หรอก  และท่านเองก็เก่งทั้งทางโลกและทางธรรมอีกด้วย
พระหวนนี่แหละลูก อีกทั้งยังมีวิชาอาคมไม่แพ้หลวงพ่อทองอีกด้วย
หรือว่าพ่อคิดว่าคงจะเก่งกว่า......  ด้วยได้รับความรู้จากลูกและไป
เพิ่มเติมจากอาจารย์เลื่อมซึ่งเป็นรุกขเทวาอีก   ทั้งทางโลกก็เชี่ยวชาญมา
มากๆอีกด้วยตลอดจนมีเงินทองก็มากมาย  ที่ใช้บำรุงวัดเจริญรุ่งเรือง
กว่าเก่าเช่นทุกวันนี้อีกด้วยล่ะ”
    “ครับผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันครับพ่อ  อย่างนั้นกินข้าวไปเถอะ
ครับผมจะไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวและต้องออกไปอีกข้างนอกด้วยล่ะ”
   “อ้าวๆๆๆ????....จะไปไหนอีกล่ะลูกโชติ”
   แม่เข็มเอ่ยด้วยความสงสัย  ส่วนเจ้าชัยและบงกชและชบาก็หันมามอง
ดูด้วยความสงสัยเหมือนกัน
   “ผมจะไปหาเจ้าเปล่งเสียหน่อยครับ  ด้วยมีเรื่องงานจะสั่งให้มันทำ
อีกด้วยครับพ่อ”
   ในระหว่างการสนทนานั้นทันใด สายตาของชายหนุ่มเหลือบมอง
ไปทางลานชานเรือน ในยามสนธยานั้นที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันมาก
มาย ทอแสงประกาย  ครั้นแล้วเขาก็แลเห็นดาวใหญ่ดวงหนึ่งพลันพุ่ง
จากท้องฟ้าลับหายไปทางทิศตะวันตก ก็เกิดคามฉงนพลันหลับตาลง
ก็ทราบเหตุการณ์นั้นทันที พลางหันไปทางพ่อแม่และเอ่ยว่า
   “สงสัยวันนี้ผมจะไม่ออกไปข้างนอกแล้วล่ะครับคุณพ่อคุณแม่ด้วย
สังหรณ์ใจว่าเรื่องในเมืองคงจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นเสียแล้ว คงจะไป
ในวันรุ่งขึ้นดีกว่าครับ”
   “ก็ดีเหมือนกันลูกจะได้พักผ่อนให้หายเหนื่อยเสียก่อนนะ”
   ชายหนุ่มกล่าวพลางขยับตัวหมายจะเข้าห้องเขาไปแต่แล้วก็ต้องชะงัก
เมื่อได้ยินพ่อของเขากล่าวขึ้นว่า
   “ลูกยังไม่ได้บอกเลยว่าในกรุงเทพฯนายเรียกไปมีเรื่องสำคัญมาก
อย่างไรเลยล่ะ  อ้าวๆมีเรื่องอะไรอีกหรือลูก”
   ชายหนุ่มอ้ำอึ้งไปสักพักหนึ่งครั้นจะบอกเหตุลางร้ายก็จะมีเรื่อง
ต้องอธิบายมากขึ้น  จึงเพียงกล่าวเพียงคร่าวๆเท่านั้น
   “มันเป็นความลับทางราชการจ๊ะพ่อแม่  ขอเพียงพ่อรู้ได้ว่าจะมีการ
เปลี่ยนแปลงการปกครองในเมืองเราใหม่และจะเกิดความวุ่นวาย
ไม่สิ้นสุด  นายเรียกตัวไปกำชับให้ปฏิบัติตัวอย่างไรครับ”
   “ฮ่าๆๆๆ!!!!!????.....อะไรจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเลยหรือ???...”
   “เรื่องนี้ก็ต้องดูกันต่อไปครับพ่อ  อ้อๆๆนายใหญ่ตอนนี้จะต้อง
รีบทำก่อนที่ท่านจะไม่ได้อยู่  และผมได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอีกด้วย
ตลอดจนลูกน้องที่สนิทผมด้วยและจะมีการโยกย้ายกันอีกระลอก
ครับก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงไป  พ่อรู้แค่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ”
   “เออๆๆๆ.....ไม่ต้องเล่าหรอกพ่อแม่และน้องๆไม่รู้เรื่องหรอกนะ”
  พ่อเชียรแม่เข็มเอ่ยขึ้น  พลางล้างมือในชามล้างพร้อมเช็ดมือกับผ้า
ข้าวม้าไปในตัวเสร็จ  ก็พอดีบรรดาลูกเมียต่างก็กินอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว
สาวบงกชและสาวชบาต่างช่วยกันลำเลียงข้าวของเข้าไปเก็บในครัว
   “ก็ด้วยเรื่องอย่างนี้แหละผมถึงจะรีบตัดไฟแต่ต้นลมเสียก่อนจ๊ะพ่อ”
   “คราวนี้ลูกก็ต้องเผยตัวเองแล้วล่ะซินะ????....”
  แม่เข็มเอ่ยขึ้น
   “ครับคงจะเดือนหน้านี้แหละผมจะไปๆมาๆครับ  ไม่พักที่โน่นหรอก
 เพราะผมต้องทำงานทั้งสองด้านครับ ทางด้านนี้จะให้เจ้าเปล่งมันทำ
และดำเนินการเองทั้งหมด ส่วนผมจะไปทำงานทางโน้นแต่ในทางกลับ
กันก็จะมอบหมายคำสั่งลับให้มันดำเนินการกวาดล้างให้หมดครับ”
   “นี่ก็จวนจะค่ำมากแล้วล่ะ ไว้พรุ่งนี้ไม่ดีหรือ”
   แม่เข็มเอ่ยด้วยความเป็นห่วงใยลูกชายนัก  พลางหันไปทางพ่อเชียร
ด้วยหวังจะให้ช่วยพูดให้ด้วย  แต่พ่อเชียรทำเฉยๆสูบบุหรี่พ่นปุ๋ยๆๆๆ
   “ครับดีเหมือนกันครับ ผมเปลี่ยนใจแล้วล่ะครับสงสัยในกรุงเทพฯจะ
มีเหตุการณ์ผิดปกติอะไรบ้างอย่างเสียแล้วล่ะครับ”
   “เออๆๆๆ...ดีแล้วล่ะลูกไปอาบน้ำอาบท่าพักผ่อนไว้พรุ่งนี้ค่อยไปก็ดี
เหมือนกันนะ  ส่วนทางนี้จะได้วางแผนการณ์ก่อนจะดำเนินการ
ต่อไป ด้วยงานนี้สำคัญมากเสียด้วยต้องทำให้เรียบร้อยก่อนเหตุการณ์
ที่จะตามมาภายหน้า ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรทำก่อนที่จะเปลี่ยนแปลง”
   พ่อเชียรไม่ให้ความความคิดเห็นแต่อย่างใด  ส่วนแม่เข็มก็หันไปมอง
ทางสาวชบาซึ่งทั้งพ่อเชียรแม่เข็มหวังหมายปองสไภ้ในอนาคตไว้
พร้อมกล่าวว่า
   “เรื่องในห้องเจ้าโชติเรียบร้อยแล้วหรือยังล่ะลูก”
   “เรียบร้อยแล้วจ๊ะ หนูไปดูแลทุกๆวันแหละแม่ไม่ต้องห่วงหรอกจ้า
แต่หากพี่เขาไปในเมืองก็จะดูแลอยู่เสมอๆแหละเพื่อเขาจะกลับมาพัก
จ๊ะแม่   เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหนูจัดการเรียบร้อยทุกๆวันแล้วจ้า
   “พี่เองไปเช้าเย็นกลับจ้าแม่ชบา ไม่ได้พักที่นั่นหรอกนอกจากมีเหตุ
จำเป็นเท่านั้นแหละ  จะได้ไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่และน้องๆเป็นห่วง”
   “ก็ดีเหมือนกันแหละลูก  งานของลูกมันเสี่ยงภัยน่าดูเหมือนกันนะ”
   แม่เข็มเอ่ยขึ้น พลางหันไปทางพ่อเชียรถามความคิดเห็นบ้าง”
   “ก็จริงอยู่หรอกแม่เข็ม แต่ลูกเรามันโตแล้วและงานมันก็ไม่เหมือน
งานทั่วๆไปด้วยล่ะ  หากมาพักที่นี่จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไรกันบ้างนะ??..”
   “จริงของพี่จ๊ะ งั้นตามแต่ใจเขาก็แล้วกันดีกว่า เราเป็นพ่อแม่ก็คอยดูๆ
กันไปเท่านั้นเอง สิ่งเดียวที่ฉันกังวลคือการแต่งงานของลูกโชติเท่านั้น”
   “แม่มองผู้หญิงให้พี่เขาแล้วหรือครับ???....”
   เจ้าชัยเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย  ส่วนเจ้าบงกชก็มองหน้าสงสัยเช่น
เดียวกันด้วยไม่เคยได้ยินพ่อแม่กล่าวเรื่องนี้ให้ฟังเลยว่าหาสาวให้พี่เขา
แล้ว   มันจึงยิ่งเกิดความสงสัยมาก  ครั้นจะถามมากไปก็ไม่ดีด้วยเป็น
หน้าที่ของพ่อแม่   จนกระทั่งพ่อเชียรแม่เข็มเอ่ยขึ้น
   “พ่อแม่มองไว้นานแล้วล่ะเจ้าชัยเอ๋ย  เพียงแต่ว่าคอยจังหวะที่
เหมาะสมเท่านั้นเองแหละ  คิดว่าพี่เขาคงจะไม่ปฏิเสธหรอกนะสำหรับ
เรื่องนี้  เห็นว่าเหมาะสมกันนักด้วยประการทั้งปวง”
   “พ่อจะเผยเล็กๆน้อยๆได้ไหมล่ะ  แล้วเป็นคนที่หมู่บ้านไหนล่ะแม่”
   “ก็คนในหมู่บ้านเรานี่แหละและก็ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอก  แม่คิดว่าเอ็ง
ต้องรู้จักดีเสียด้วยซิ”
   แม่เข็มกล่าวทิ้งท้ายไว้  เล่นเอาเจ้าชัยเกาหัวแกร๊กๆทันทีหันไปมอง
หน้าเมียมัน  ไม่ใกล้ไม่ไกล ใครหว่า????...มันนึก  ครั้นจะถามเมียมัน
หรือก็คงจะไม่รู้หรอกเรื่องนี้
   “ผมรู้จักมักจี่ด้วยหรือจ๊ะแม่”
  “เออๆๆๆ.....เอ็งรู้เสียยิ่งกว่ารู้อีกล่ะโว้ย  เอาเพียงเท่านี้ก่อนนะแล้ว
เมื่อเหตุการณ์มาถึงเอ็งก็จะรู้เองแหละ และจะดีใจเสียอีกด้วยซิ”
   ครั้นสาวชบาได้ฟังแม่เข็มกล่าวเช่นนี้นางก็พลอยจะรู้แล้วว่าอะไร
เป็นอะไรถึงกับใบหน้าแดงกล่ำแล้วรีบ หนีเข้าไปในห้องหล่อนทันที
ด้วยไม่อยากจะให้ใครจับว่าหล่อนก็รู้เหมือนกันที่แม่เข็มกล่าวนั้นเป็น
ใครกัน   จึงหันหน้าไปมองหน้าชายหนุ่มด้วยใบหน้าเขินอายและยิ่งเจ้า
ชัยด้วยแล้วมันยิ่งไปกันใหญ่ถึงแม้ว่ามันจะสนิทสนมกับหล่อนก็ตามที
เถอะ  มันถึงเป็นคนไม่พูดมากก็คงจะพูดคราวนี้เองแหละ
 หล่อนคิดเช่นนั้น ก็ยิ่งเกิดความเอียงอายมากยิ่งขึ้นตามวิสัยสาวๆทั้งๆที่
ภายในห้วงใจหล่อนนั้นมีเขามาตั้งนมนานแล้ว  ทั้งหลงรักและบูชายิ่ง
นัก  ไม่ใช่ด้วยตำแหน่งของเขาแต่ความเป็นคนเรียบร้อยพูดจาไพเราะ
ให้เกียรติหล่อนทุกๆเวลา  ไม่เคยเลยที่จะทำให้หล่อนเสียใจสักครั้ง
เดียว   ส่วนยศฐานะตำแหน่งมิได้อยู่ในความคิดหล่อนเลย
    ครั้นแล้วชายหนุ่มก็ขอตัวกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับแม่นางรัตนา
วดีซึ่งไม่มีใครแลเห็นร่างหล่อนนอกจากชายหนุ่มเท่านั้น ก็ยิ้มพรายด้วย
นางกับแม่อ้อยนั้นต่างก็ช่วยกันวางแผนไว้  ครั้นตกลงในแผนการต่างๆ
เรียบร้อยแล้ว   เขาก็ส่งเสียงเรียกแสงสีสินชัยเอ๋ยเสียงเบาๆทันที
   “เจ้าแสงสีสินชัยออกมาพบข้าหน่อยจะมีเรื่องให้ทำงานนะ”
   ทันใดนั้นร่างของทั้งสองก็ปรากกฏกายขึ้นทันที พลางเอื้อนเอ่ยว่า
   “นายมีเรื่องอะไรหรือครับ กลับมาคราวนี้เร่งด่วนจริงๆ”
เจ้าแสงสีเอ่ยถาม???...
   “เป็นเรื่องสำคัญมากด้วย ต้องรีบทำให้รวดเร็วที่สุดด้วยล่ะ เมื่อกี้นี้
ก่อนเข้ามาข้าเห็นดวงดาวดวงใหญ่ตกไปทางทิศตะวันตก  ก็เข้าฌานดู
และตรวจสอบตามโหราศาสตร์ว่าภายในกรุงเทพฯมีการเปลี่ยนแปลง
เกิดขึ้นแล้วล่ะ   ที่เรียกมานี้ต้องการให้เอ็งทั้งสองรีบออกเดินทางไป
แจ้งแก่น้องชวนและพรรคพวกตลอดจนหัวหน้าหน่วยงานลับต่างๆ
ให้มาประชุมในวันพรุ่งนี้  หัวหน้าหน่วยลับนั้นให้มาเฉพาะหัวหน้า
เท่านั้นนะ  และขากลับไปบอกเจ้าเปล่งด้วยว่าข้าจะจัดประชุมใหญ่
อ้อๆๆๆอีกเรื่องหนึ่ง ให้ไปแจ้งแก่สารวัตรชัชวาลย์ ผู้กองจำลองและ
ผู้กองจรัสให้มาแค่สามคนมาประชุมร่วมด้วย  ให้ไปพบเจ้าเปล่งให้
เจ้าเปล่งให้คนออกมารับตัวทุกๆคนเข้าไป  มิฉนั้นจะติดอยู่ในค่ายกล
เสีย   แล้วข้าจะตามไปทีหลัง ให้เจ้าเปล่งจัดเตรียมน้ำท่าอาหารไว้ด้วย
เพื่อการประชุมอาจจะยืดเยื้อก็ได้นะ”
   “ครับนาย  ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ จะแยกย้ายกันไปแจ้งให้ทุกๆ
คนทราบไว้ให้มาประชุมในตอนเย็นจนครบครับนาย”
   “เออดีแล้วล่ะ....และให้เจ้าเปล่งเตรียมเรื่องไฟฟ้าไว้ด้วยนะไม่ใช่ใช้
เทียนหรือไต้ล่ะ”
   “ครับนาย ถ้าอย่างนั้นผมจะไปบอกเจ้าเปล่งก่อนก็แล้วกันแล้วค่อย
ทะยอยกันแยกย้ายไปแจ้งทางอื่นครับ”
   “เอาล่ะ!!!ๆๆๆ.....ไปได้แล้วเดี๋ยวจะดึกกว่านี้อีก
   “ครับนาย”
   แล้วร่างเจ้าแสงสีและเจ้าสินชัยก็หายวับไปทันที   ชายหนุ่มก็หันมา
ปรึกษาเรื่องราวกับแม่นางอัปสรทั้งสองพร้อมเล่าเรื่องให้แม่นาง
อ้อยวิลาวัลย์ทราบเหตุการณ์ทั้งหมดอีกด้วย   หลังจากนั้นชายหนุ่ม
ก็นำเอากระดาษออกมาวาดแผนที่ต่างๆพร้อมหนทางที่จะทำงาน
โดยแบ่งแยกกำลังออกเป็นหลายๆสายทันที......................
         ๐ แก้วประเสริฐ. ๐

1139348gm3744qpip.gif600297y8krvnyajz.gif				
comments powered by Disqus
  • เอื้องอังกูร

    4 มิถุนายน 2554 05:40 น. - comment id 124165

    หวัดีครับ
    มาหาความสำราญ..ในยามเช้าๆตรู่ครับผม16.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    4 มิถุนายน 2554 12:24 น. - comment id 124184

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เอื้องอังกูร
    
         ผมคอยมองดูว่าหากหลุดหน้าเมื่อไหร่
    ก็จะแต่งเมื่อนั้นแหละครับ  อีกไม่เท่าไหร่
    แต่ระยะนี้อยากจะเขียนให้ยาวๆสักหน่อย
    แต่มาติดที่เรื่อง แดนพิศวง ครับ อิอิ 
    ขอบคุณ รักเสมอ เบอร์หนึ่งนะครับ ฮ่าๆๆๆ
    
                      16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน