อทิสมานกาย ๙๐ บริเวณบ้านของกำมั่น ยามสายๆก็มีรถบรรทุกที่ปิดประทุนคลุมไว้ โดยมีรถเก๋งสองคันนำหน้าวิ่งเข้ามาในบริเวณลานบ้าน แต่ต่างแยก ย้ายกันไปจอดคนละมุมบ้านกำนันในบริเวณหน้าบ้าน ทุกๆคนพวก เจ้าแม้นหันไปมองแต่ไม่สงสัย ด้วยรู้แล้วว่าวันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น จึงเพียงหันไปมองแล้วต่างก็แอบซุบซินในเรื่องต่างๆต่อไป ร่างชายกายภายในรถเก๋งที่กว้างใหญ่คันหน้า ก็ก้าวลงมาพร้อมชาย ร่างใหญ่สี่คนโดยทิ้งคนขับรถไว้ในรถเพียงคนเดียว ชายที่นำหน้า มาใบหน้าค่อนข้างยาวแต่ออกจะทะมึนอยู่บ้าง ก็เดินนำไปก้าวขึ้น ไปบนบ้านกำนันทันที หน้าเรือนชานกำนันมั่นกำลังคอยอยู่แล้ว เมื่อทั้งสองคนพบกัน โดยชายฉกรรจ์ทั้งสามต่างแยกย้ายกันคุมที่ หน้าบรรไดหนึ่งคน และเดินไปสมทบกับพวกเจ้าแม้นที่จับกลุ่ม สนทนากันอยู่ถึงการทำงานที่จะมีในไม่ช้านี้ อีกคนไปยืนอยู่ไม่ห่าง ไกลจากบรรดากลุ่มเจ้าแม้นเท่าใดนัก ทั้งสามต่างพากันชำเลืองสายตา มามองเท่านั้น บางคนก็นำบุหรี่ออกมาสูบกันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งสิ้น ทำให้กลุ่มเจ้าแม้นหยุดเงียบเสียงหันไปมองร่างชายฉกรรจน์นั้น ซึ่งไม่ได้ก้าวเข้าร่วมวงเพียงแต่ยืนห่างๆไว้ ควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ พลางหันหน้าไปมองโน่นมองนี่โดยไม่สนใจต่อกลุ่มของเจ้าแม้น ครั้นเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ร่างชายฉกรรจน์ที่ขึ้นไปสนทนากับ กำนันนั้นก็ก้าวลงมาโดยมีร่างกำนันมั่นนำหน้า ครั้นทั้งสองลงมา ยังพื้นเรียบร้อยโดยมีร่างชายฉกรรจน์สูงใหญ่คุมเชิงก็เดินเข้าร่วม สมทบด้วยทันที หนึ่งในชายฉกรรจน์สามคนก็พลันถามขึ้น “พี่มุ้ยเรียบร้อยแล้วหรือ กำนันว่าอย่างไรบ้าง???.....” “เออๆๆๆกำนันบอกว่าครบเรียบร้อยเดี๋ยวเราไปดูกัน เอ็งไปบอก พวกในรถประทุนนั้นให้ต่างลงมาช่วยก็แล้วกันนะ” “ครับพี่เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” “ไม่ต้องลงจากรถมาหรอกเพราะของไม่ได้อยู่ที่บ้านนี้นะ ต้องไป เอายังที่อื่นไม่ไกลเท่าใดนักหรอก” “เฮ้ย!!!ๆๆกำนันบอกว่าต้องไปรับของที่อื่นๆไม่ใช่ที่นี่ ไม่ต้องไปบอกพวกเราหรอก รอจนพวกเขาจะนำทางไปเท่านั้นเอง” เสียงกำนันมั่นตะโกนร้องบอกเจ้าแม้นลูกชายทันที “แม้นโว้ยๆ เอ็งบอกพวกให้พาคุณมุ้ยเขาไปดูของแล้วก็ช่วยเขา ขนของด้วยนะ” “จ๊ะพ่อ....เฮ้ยพวกเราทั้งหมดนี่แหละนำทางไปให้เขาขนของได้แล้ว เอ็งทั้งหมดเอารถกะบะออกไปยังที่เก็บของและช่วยเขาด้วยนะ” “เออ!!!!!ๆๆๆ....เฮ้ยๆๆๆ...ไอ้เจี๊ยบ ไอ้หาญ ไอ้ผัน ส่วนไอ้แช่มให้ มันอยู่ที่นี่เพราะมันยังไม่หายดีว๊ะ” เสียงไอ้หาญบอกแก่เพื่อนๆ ซึ่งทุกๆคนก็รีบไปทำงานเพื่อจะได้ หมดหน้าที่กัน ด้วยพวกมันมาแต่เช้าๆดีอาศัยพวกสาวๆทำอาหารไว้ ให้จึงค่อยยังชั่วไม่ต้องเดือดร้อนอาหารอีก “อีลัดดา อีนวลและอีชบา มึงทำอาหารรอไว้นะเดี๋ยวพวกกูกลับมา ก็จะได้ฉลองกัน หมดเรื่องกันเสียที” “เอาให้เขาให้หมดหรือพ่อ????....” เมื่อมันสั่งทางนี้แล้วก็หันไปตะโกนถามพ่อมันอย่างสงสัย “ เหลือไว้นิดหน่อยก็พอแค่ขาย เขามีหนังสือมาด้วย เดี๋ยวคุณมุ้ย เขาก็จัดการเองแหละ เขาจะเอาเท่าไหร่ก็ตามใจเขานะโว้ย...อ้อๆอีก อย่างหนึ่ง เมื่อขากลับเอ็งผ่านบ้านบางโคก็หาอะไรมากินบ้างนะได้ ข่าวว่า ร้านแม่ลัดดาคนสวยทำอาหารอร่อยว๊ะ” “นั่นมันถิ่นของพระหวนนี่พ่อตอนนี้มันกับพวกเราก็ไม่ถูกกันอยู่ กินใจกันอยู่นะพ่อ????......” “เออๆๆข้อนั้นกูรู้ว๊ะแต่ว่าร้านนี้เป็นทางผ่านมีคนแยะคงไม่มีอะไร หรอกเว้นแต่พวกมึงแค่ซื้ออาหารเท่านั้นนะ ไม่ต้องแวะเสือกไปนั่ง กินในร้านก็แล้วกัน กูไม่ค่อยอยากให้มีเรื่องจะเดือดร้อนกัน” “ข้อนั้นข้ารู้ดีพ่อระยะนี้มีคนแปลกหน้ามานั่งบ่อยๆ ไม่น่าไว้วางใจ ด้วยไม่เคยเห็นมาก่อน เด็กๆมันมาบอกฉันจ๊ะ” “เออๆๆๆดีแล้วให้ไอ้เจี๊ยบกับใครก็ได้อีกคนไปซื้อหมูป่าผัดเผ็ด กับเก้งผัดมาด้วยนะ อย่าลืมเสียล่ะ ร่ำลือกันมานานแล้วโว้ย??...” “จ๊ะพ่อไม่ลืมหรอก แล้วคุณมุ้ยและพวกจะมาร่วมหรือเปล่าล่ะจะ ได้ทำความรู้จักไว้” “ไม่หรอกแม้น หากเสร็จงานพวกข้าก็จะรีบกลับกันเลยด้วยเสี่ย คอยอยู่ รู้สึกว่าจะมีคนในกรุงเทพฯเดินทางมาคอยรับด้วยนะ แต่ ว่าของนั้นครบแน่นะ” “รับรองคุณมุ้ย แต่ต้องไปลึกหน่อยนะทางลำบากเพราะซ่อนไว้ ในกระท่อมในป่าลึกหน่อยริมตีนเขาโน่นแน๊ะ” พลางชี้มือประกอบคำพูด มุ้ยหันไปมองเห็นแต่ภูเขาห่างไปไกลๆ “ข้อนั้นไม่เป็นปัญหาหรอก พวกข้าผ่านมามากแล้วล่ะ งั้นกำนัน เพื่อไม่ให้เสียเวลาข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์” “ครับคุณมุ้ย เชิญตามสบายหากว่างๆก็แวะมาทานอะไรที่นี่ได้นะมี ทั้งสุรานารีให้เลือกด้วยล่ะ” “ขอบใจกำนันเห็นจะไม่แล้วล่ะในเมืองมีให้เลือกอีกมากมายนะ แล้วแต่เสี่ยเขาจะใช้ เรื่องนารีในเมืองก็มีมากๆด้วย ล้วนแต่งตัวสวยๆเฉว้งฉวาบทั้งนั้นหน้าตาก็สวย ข้ามองดูที่กำนัน บอกแล้วไม่ครึ่งหนึ่งหรอก แต่ก็ขอบใจกำนันที่มีน้ำใจ ไปล่ะ” แล้วร่างนั้นก็นำพวกอีกสามเดินไปเข้ารถเก๋งทั้งสอง พลางสนทนา กันแต่ทางกำนันมั่นไม่ได้ยินอะไร เพียงแค่รู้ว่าพวกมันสนทนากัน เท่านั้นแต่ไม่รู้เรื่องราวอะไรกันเลย สักพักรถเจ้าแม้นนำกะบะรถบรรทุกพวกขับออกจากบ้านมันไป พร้อมก็มีรถอีกสามคันทางในเมืองตามหลังมันมาอย่างติดๆ รถได้วิ่งเข้าสู่ทางที่ขรุขระ อากาศร้อนจึงเต็มไปด้วยฝุ่น เลี้ยวระเข้าซอย เล็กๆที่คดเคี้ยวไปๆมาๆลึกเข้าไปในป่าใหญ่ สลับซับซ้อนวนไปมา “เฮ้ยเมื่อเสร็จงานแล้วแวะที่ร้านแม่ลัดดาคนสวยแห่งบางโคซื้อของ ให้พ่อกูหน่อยนะโว้ยอย่าลืมเตือนกูด้วยล่ะ” “เออๆๆๆไม่ลืมหรอกเจี๊ยบตอบ อยากดูหน้าเจ้าของร้านเหมือนกัน ที่บอกว่ายังโสดและสวยเสียด้วยซิ???...” “แล้วพวกเราไม่ซื้อมากินกันบ้างหรือได้ยินเด็กๆมันพูดว่า อร่อยมากๆด้วยนะไอ้แม้น” ไอ้หาญซึ่งทำหน้าที่ขับรถเอ่ยขึ้น “ไอ้ห่า!!!!....ไม่ซื้อก็โง่ซิว๊ะ กูก็ได้ยินเหมือนมึงนั่นแหละแต่ไม่ อยากจะมีเรื่องกับไอ้ชวนลูกพระมันว๊ะ และเพื่อนๆมันล้วนกิติศัพท์ ขึ้นชื่ออีกด้วยโว้ย กลัวนะไม่กลัวหรอกแต่ไม่อยากให้พ่อกูเดือดร้อน เพราะคดีความแกยังคารังคาซังอยู่ว๊ะ” ไอ้แม้นหันไปตอบไอ้หาญ รถวิ่งทางลูกรังสีแดงฝุ่นตลบไปทั่วมัน หันหลังไปมองรถที่ติดตามมัน แต่ไหงมองไม่เห็น หรือว่ามันหลง ทางด้วยมีทางแยก แต่ก็ไม่น่าหลงทางนี่นาด้วยฝุ่นมันบอก พอนึก เสร็จก็แลเห็นรถทั้งสามแล่นไล่เข้ามาแล้ว ไอ้ห่า!!!...นึกว่าหลงทาง เสียแล้วด้วยมันเป็นคนในเมือง ไอ้แม้นนึกในใจ เวลาผ่านไปสักครู่ ใหญ่ๆ รถก็วิ่งมาถึงกระท่อมที่ซ่อนอยู่ในใต้ต้นไม้คลื้ม หากจะมอง ข้างนอกจะไม่มีทางรู้เลยว่ามีกระท่อมอยู่ เพราะเหลือบเขาบดบังไว้ หากพวกหาของป่าเข้าไปในกระท่อมก็คงจะไม่พบอะไร ด้วยของที่ มันนั้นซุกไว้ที่ห้องใต้ดินอีกที่หนึ่งซึ่งต้องรู้ทางเข้าถึงจะเข้าไปได้ ครั้นทั้งหมดจอดรถเรียบร้อยแล้ว ไอ้แม้นกับพวกก็นำหน้าชายชื่อ มุ้ยกับพวกเดินเข้าไปในกระท่อม ซึ่งมองดูก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจาก แคร่ไม้ไผ่ใช้สำหรับพักผ่อน พร้อมเครื่องทำอาหารจำเป็นเท่านั้น ไอ้แม้นก็เดินนำทางเข้ากระท่อมแล้วออกไปหลังกระท่อมซึ่งเป็น ป่าหญ้าขึ้นเต็มสูงเท่าค่อนเอว มันกับพวกพากันแหวกทางเข้าไป จนถึงที่มันซุกซ่อนของห่างจากกระท่อมเล็กน้อย มันยกฝาไม้ที่ทำ ด้วยกระดานสี่เหลี่ยมแต่เต็มไปด้วยต้นหญ้า ไอ้ผันก็ใช้ด้ามชะแลงที่ มันถือติดตัวมางัดฝากระดานขึ้นมามีบันไดทอดสู่เบื้องล่าง ส่วนไอ้ หาญก็จุดคบสองอันส่งให้ไอ้ผันถือไว้ พลางหันหน้ามาทางพวกรับ ของที่คอยติดตามทุกย่างก้าว ซึ่งมีจำนวนหลายๆคนพลางเอ่ยว่า “เดินกันดีๆหน่อยนะ เพราะบันไดไม่จะดีทำชั่วคราวเท่านั้น” “ไม่เป็นไรหรอกขอให้ของครบก็แล้วกัน” เสียงคนของไอ้มุ้ยตอบพลางก้าวตามพวกเจ้าแม้นลงไป ภายในห้องที่เก็บ ค่อนข้างอับชื้นแต่การเก็บของพวกนี้ทำกันอย่างดีด้วยมีพลาสติครอง ไว้พร้อมหุ้มห่ออย่างดี อีกอย่างภายในห้องบุไปด้วยพลาสติคกันน้ำไว้ คนที่ชื่อมุ้ยก็ไปเปิดห่อที่แพ๊คไว้พร้อมใช้มีดกรีดนำมาขึ้นชิมและ ดม ซึ่งของมีจำนวนมากพอประมาณ หันไปพยักหน้ากับพรรคพวก ต่างคนก็ตรงเข้าไปขนของทันทีทะยอยโดยมีพวกเจ้าแม้นช่วยเหลือ ด้วย ไม่นานนักของก็ถูกขนจนเรียบไม่เหลือหรอ ทิ้งเอาไว้เลย “อ้าวๆๆๆไม่เหลือไว้เลยหรือคุณมุ้ย” ไอ้แม้นถามด้วยความสงสัย “ของสงสัยจะไม่พอเพราะว่าต้องใช้เป็นจำนวนมากเสียด้วย แล้ว จะส่งของมาให้ภายหลัง เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวข้าจะทำ หนังสือรับของแล้วก็แจ้งไว้ด้วยนะ ของแค่นี้จะพออะไรสงสัย จะต้องไปหาเอาที่อื่นสบทบไว้อีก เสี่ยสั่งเอาไว้หากมากก็เหลือหาก ไม่พอก็เอามาให้หมดนะ” ไอ้มุ้ยพลันหันกลับมาถามขึ้นอีกว่า “มีเพียงแค่นี้หรือไม่มีอีกแล้วหรือ หรือว่าซุกซ่อนไว้ที่อื่นอีก หาก เสี่ยเม้งรู้จะมีเรื่องกันนะ “มีเพียงเท่านี้แหละ เพราะนำมารวมๆกันไว้ที่นี้ที่เดียวเพราะแจ้งมา ว่าจะมารับของก็เลยนำมาไว้ที่นี่ทีเดียวเท่านั้น” ไอ้แม้นเอ่ยขึ้น แล้วก็ย้อนถามไอ้มุ้ยว่า “ก็พ่อกำนันบอกว่าให้เก็บไว้หน่อยหนึ่งเพื่อจะให้พวกมาซื้อหรือ ไปส่งให้เขานะ????......แต่มีหนังสือยืนยันเช่นนี้ก็สบายใจ” “งั้นก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวพ่อจะโกรธผมเอาจะได้มีหลักฐานยืนยัน “เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกแม้น คงเร็วๆนี้แหละจะส่งของมาสมทบ ให้เพราะกำลังรอฝั่งโน้นส่งมาอีก คงจะไม่นานนักหรอกคงสักวันสองวัน ไม่กระทือนการค้ากำนันเท่าใดนัก” “อย่างนั้นข้าก็สบายใจไม่ต้องถูกพ่อด่า เชิญตามสบายเถอะคุณมุ้ย” เพียงไม่นานของทั้งหมดก็ลำเลียงขึ้นรถบรรทุกที่มีผ้าใบคลุมจน หมด แล้วทั้งหมดก็ออกเดินทางกลับทันที พอรถออกมาถึงถนนใหญ่ ได้ รถเก๋งคันหนึ่งก็แล่นแซงเข้ามาเทียบรถเจ้าแม้นทันที พลางเอ่ยว่า “เอาล่ะแยกกันนะข้าจะไปทางลัดโน่นแยกหน้าโน่นแล้ว เห็นว่าจะ ไปซื้อของที่หมู่บ้านบางโคไม่ใช่หรือ ข้าไม่เข้าทางนั้นนะ” “ตามสบายเถอะเพราะเป็นทางผ่านเดี๋ยวผมก็จะแวะซื้อของให้พ่อ สักหน่อยก็จะกลับเหมือนกัน กำลังเปรี้ยวปากอยู่” เจ้าแม้นตอบพร้อมหันไปสั่งให้ไอ้หาญเลี้ยวเข้าทางหมู่บ้านบางโค ซึ่งก่อนจะถึงตัวหมู่บ้านมีร้านค้าของของเต็มทั่วไป มีร้านหนึ่งซึ่ง ค่อนข้างจะหรูหราหน่อย คนนั่งกันเต็มร้านเสียงดังเซ็งแซ่กันนั่น หมายถึงว่าอาหารคงจะอร่อยแน่ เจ้าแม้นคิดหากไม่อร่อยจริงทางก็ ไกลกว่าในหมู่บ้านถึงจะมีร้านค้าอื่นๆขายก็ตามแต่ก็สู้ร้านนี้ไม่ได้ ครั้น นำรถจอดหน้าร้านแล้วไอ้แม้นก็สั่งให้ไอ้ผันลงไปซื้อคนเดียว ให้พอตามคำสั่งสั่ง และสั่งให้ซื้อเพิ่มแก่พวกมันอีกเกือบๆทุกอย่าง จนครบจึงได้ขับรถออกเดินทางกลับบ้านทันที ทางด้านบ้านกำนันซึ่งกำลังเดินตรวจชมต้นไม้อยู่กับเด็กสาววัยรุ่น ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงรถดังขึ้นอีกและกำลังวิ่งเข้ามาในบ้านด้วย ก็เกิดความสงสัย หันหน้าไปดูแต่ไม่ทันสั่งให้เด็กๆไปดูซิว่าเป็นใคร กัน รถสามคันเหมือนตอนแรกที่มารับของเปี๊ยบเลยชายฉกรรจน์ก็ ก้าวลงจากรถ กำนั้นเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปถามทันที เมื่อแลเห็น ร่างของมุ้ยซึ่งขับรถออกไปนานแล้ว เหตุใดจึงย้อนกลับมาบ้านอีก ก็ให้สงสัยนักหรือว่าของจะไม่ครบถ้วน “ข้ามารับของให้เสี่ยเม้งตามสัญญากำนันพร้อมหรือยังล่ะ” เสียงไอ้มุ้ยเอ่ยขึ้นแต่เสียงไอ้มุ้ยตอนแรกกับตอบนี้ไม่เหมือนกัน เสียง นี้มันห้าวๆทุ่มๆใหญ่ ก็สงสัยพลางเอ่ยว่า “อ้าวๆๆๆ!!!!!??????....คุณมุ้ยหรือว่าของที่ไปรับไม่ครบหรือไง ล่ะ????....” “เฮ้ยๆๆๆกำนันอย่าเล่นตลกกับข้านะโว้ย!!!!???....ก็ข้าพึ่งจะมาถึง นี่แหละ ด้วยรถในเมืองเป็นวันอะไรว๊ะ???...ติดฉิบหายเลยล่ะ” “ก็เมื่อกี้นี้คุณมุ้ยก็ไปรับของแล้วนี่นา ข้ายังใช้ให้ลูกชายข้ากับพวก นำทางไปเลย สงสัยเหมือนกันว่าทำไมกลับมาเร็วนัก” “กำนันพูดเป็นหมาๆไปได้????... ก็ข้าบอกว่าข้าพึ่งมาถึงรับเพื่อของ อะไรกันว๊ะ!!!!!!.........อย่ามาเล่นแง่กับข้านะโว้ย!!!!!???....” “ข้าจะไปโกหกคุณมุ้ยได้อย่างไรกัน ยังมีหนังสือจากเสี่ยมายืนยัน ข้านี่นาเดี๋ยวข้าจะไปเอามาให้ดูนะ” ไอ้มุ้ยกับพวกพากันชักปืนออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำกำนันเช่นนั้น ทำให้กำนั่นมั่นตกใจน่าซีดเผือดยิ่งนัก ก็รีบเอ่ยปากขึ้นทันที “ใจเย็นคุณมุ้ยคงจะเข้าใจผิดอะไรบ้างอย่างแล้วล่ะ ข้ามีพยานรู้เห็น ด้วยนะ” “เฮ้ยๆๆนางสาวๆทั้งหลายมีนี่แน๊ะ ไอ้แช่มด้วยมาเป็นพยานให้ข้าที” ไอ้แช่มกับสาวๆก็แลเห็นต่างตกใจกัน คนที่ทำอาหารอยู่ก็รีบออก มาหาเพื่อเป็นพยานทันที ด้วยเห็นพวกนี้ต่างชักปืนสั้นและปืนยิง เร็วหันปลายมาทางกำนันและพวกด้วย ตัวกำนันร่างสั่นงันงกกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณมุ้ยตามข้าขึ้นมาด้วยกันมาดูหนังสือของเสี่ยที่มีมา บอกให้ข้าส่งของให้ กลัวข้าจะจำคุณมุ้ยและพวกไม่ได้นะ” “หนังสือหาห่าอะไรว๊ะ???.....เสี่ยเพียงบอกให้ข้ากับพวกมารับ เท่านั้นเองนี่นาไม่มีหนังสืออะไรเลย ไหนๆเอามาให้ดูหน่อยซิ????....” ว่าแล้วก็ก้าวตามขึ้นบันไดไปครั้นมันได้รับหนังสือมาอ่านยืนยัน จากกำนัน และจำลายเซ็นต์เสี่ยเม้งได้อย่างแม้นยำด้วยเคยเซ็นต์เช็ค ให้แก่พวกมันเสมอๆ ครั้นดูลายเซ็นต์ก็เหมือนกันยิ่งนัก แล้วพลัน ก็ร้องลั่นสนั่นบ้าน จนพวกมันต่างมองจ้องเป็นตาเดียวกันหมด “กำนันโดนหลอกแล้วใครกันว๊ะ??? กำนันรู้หรือเปล่าล่ะ???” “ข้าจะไปรู้เหรอรูปร่างหน้าตาก็เหมือนกับคุณมุ้ยนี่แหละข้าถึงให้ ไปทั้งยังมีหนังสือยืนยันอีกด้วย ไหนเลยทำงานด้านนี้จะไม่ระวังตัว ไว้ด้วยมันเรื่องใหญ่สำคัญทั้งนั้นนะ” กำลังตอบเสียงสั่นเทา ไอ้มุ้ยเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าต้องมีใครมาเล่นกล กับพวกมันเข้าแล้วแต่ไม่วายแปลกใจอดถามว่า “กำนันจำไม่ผิดคนนะว่ารูปร่างหน้าตาเหมือนกับข้านะ????...” พูดเสร็จมันก็เอามือลูบใบหน้ามันเองด้วยความสงสัยใครว๊ะช่างเหมือนกู กูหรือก็ไม่เป็นฝาแฝดกับใครด้วย มันนึกในใจตัวเองสงสัยตะหงิดๆ “เหมือนกันยังกับแกะเลยคุณมุ้ย พร้อมทั้งมีคนมาพร้อมรถสามคัน รถบรรทุกหนึ่งคัน เหมือนกับรถของคุณมุ้ยและพวกตรงกันเชียวล่ะ” กำนันตอบด้วยเสียงสั่นเครือ ด้วยเห็นปากกระบอกปืนจี้มาทางเอว “เดี๋ยวข้าจะลงไปถามคนเห็นด้วยไปๆๆๆไปด้วยกัน” สี่หน้ามันตอนนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนักทะมึงตึง มันรีบก้าวนำหน้ากำนัน ลงไปซึ่งก้าวตามติดๆ ครั้นถึงยังพวกกำนุน ไอ้มุ้ยร้องถามทันใด “ใครๆๆที่เห็นว่ามีคนเหมือนข้ามาโว้ย???...ตอบมานะหากไม่ แน่ใจอย่าเสือกตอบล่ะ บอกก่อนกูยิงไม่เลี้ยงเชียว” “ข้าเห็น ข้าก็เห็น เหมือนเสี่ยมุ้ยไม่ผิดและรถก็เหมือนกันอีกด้วย สีเดียวกันเลยล่ะ มีอะไรหรือเสี่ยมุ้ย???...” เสียงบรรดาสาวๆแย่งชิงตอบกันเซ็งแซ่รวมทั้งไอ้แช่มด้วย เล่นเอา ไอ้มุ้ยปากอ้าตาค้างไปทีเดียว มันเชื่อแล้วว่าต้องการมีการเล่นกล มาหลอกกำนันก่อนมันเสียแล้ว จึงเก็บปืนเข้าเอว แล้วหันไปสั่งพวก ให้เก็บปืนได้แล้ว ด้วยทางกำนันมีทั้งหนังสือและพยานพร้อม จึง หันไปทางกำนันกล่าวว่า “ไปนานหรือยังล่ะกำนัน เดี๋ยวข้าจะออกไปตามมีคนนำทางไปมี หรือไม่ล่ะ????.....” “ออกไปนานเป็นชั่วโมงแล้วคุณมุ้ย ป่านนี้คงจะกลับกันแล้วล่ะ” กำนันมั่นใจชื้นขึ้นมาหน่อย ที่เห็นสีหน้าไอ้มุ้ยคลายเครียดลงที่เชื่อ ถือหลักฐานคำพูดมัน “ฉิบหายกันแล้วล่ะคราวนี้!!!!!ถ้าอย่างนั้นให้ใครนำทางข้าไปก็แล้ว บางทีอาจจะได้วี่แววบ้างก็ได้” “ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้คนรู้ทางนำไปก็แล้วกันนะคุณมุ้ย” “เออๆๆๆกำนันหาคนมาก็แล้วกัน” พลางตะโกนไปบอกพรรค พวกคนหนี่งให้เข้ามา แล้วกระซิบสั่งการทันที ครั้นลูกน้องของเจ้ามุ้ยก็กลับไปสั่งให้บรรดาพรรคพวกเตรียมตัว ออกเดินทาง แล้วนำไอ้แช่มนั่งคู่ไปกับไอ้มุ้ยออกเดินทางจากบ้าน กำนันอย่างรีบเร่งทันที ทำเอากำนันมั่นถอนหายใจอย่างเฮือกใหญ่ พลางลูบหน้าอก ต้นไม้อะไรไม่ดูอีกแล้วรีบขึ้นไปบนบ้านเพื่อรอฟัง ดูเหตุการณ์ต่อไป.............. แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2554 15:27 น. - comment id 123843
หวัดดีครับ มาอ่านในยามบ่ายด้วยความระทึกในดวง หทัยพลัน...บรรยากาศยามบ่ายที่ว่าง่วงนอน หายเปนปลิดทิ้งเลยครับ...อ่านแล้วอยากอ่าน ต่อชวนให้ติดตามจริงๆครับ ขอบคุณครับ
18 พฤษภาคม 2554 15:53 น. - comment id 123850
มาติดตามต่อครับครู
18 พฤษภาคม 2554 20:41 น. - comment id 123855
คุณ เอื้องอังกูร สวัสดีครับงานเก็บตกนั้นคงจะเหลือ ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะครับ คงจะเกินร้อยกระมัง ครับหรืออาจจะไม่ถึงก็ได้ ตอนนี้กำลังสร้าง จินตนาการเรื่องใหม่ๆอยู่ครับ วาดฝันให้เป็น เรื่องสนุกสนานสอดแง่มุมต่างๆไว้ครับส่วน เรื่องอทิสมานกาย จินตนาการผมจบลงกับ ตัวผมไว้แล้ว เขียนต่อก็ไม่ยากวางพอร์ต เรื่องไว้เรียบร้อยแล้วในสมองผมครับ ขอบคุณที่ให้การติดตามมาด้วยดีเสมอ รักเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2554 20:43 น. - comment id 123856
คุณ กิ่งโศก เรื่องอทิสมานกายหากบอกว่าอีกมาก ก็จัดได้ว่าใช่แล้วครูจะพยายามลงตัวให้พอ ดีไว้ จินตนาการเรื่องนี้มันจบลงแล้วในสมอง ของครู ตอนนี้กำลังวางแผนจินตนาการ เรื่องใหม่ๆอยู่ รับรองสนุกแน่ๆนะ คอยติด ตามก็แล้วกัน รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
19 พฤษภาคม 2554 08:43 น. - comment id 123868
แวะมาสวัสดีค่ะครู
19 พฤษภาคม 2554 09:28 น. - comment id 123869
ส่งดอกไม้มาคาระวะครับผม
19 พฤษภาคม 2554 16:02 น. - comment id 123880
คุณ เทียนหยด ศิษย์รักเราด้านกลอนก็นับว่าดีมาก แล้ว ลองหันมาร้อยแก้วบ้างซินะ สนุกหรือ ก็สนุกทั้งยังใช้สมองวาดวางแผนการณ์ได้ดี มากอีกด้วย แต่ว่าใหม่ๆนั้นจะหนักสมองมาก นะ ลองหันเขียนสิ่งรอบๆตัวเราก่อนฝึกเอา ไว้ เมื่อเขียนได้ถนัดคล่องดีแล้วก็หันมา เขียนเรื่องสั้นๆไปก่อน ครั้นได้เรื่องสั้นแล้ว ก็ถึงจะมาเขียนเรื่องยาวๆ แต่สิ่งสำคัญ นั้นคื้อการจำตัวลคร หากแรกๆยังไม่เข้า ใจก็ควรหาสมุนบันทึกจดตัวลครไว้เอา เฉพาะตัวที่ต้องแสดงในเรื่องมากเท่านั้น ก็เพียงพอจ๊ะ ตัวลครสำคัญๆนะ ทดลอง ดูซิสนุกจริงๆล่ะ รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริ้ฐ.
19 พฤษภาคม 2554 16:04 น. - comment id 123881
คุณ ทางแสงดา่ว ขอบใจมากจ้าคุณหญิงผมฝึกสมองไว้ ในจินตนาการฝันเฟื่องฮ่าๆๆ รักคุณหญิง มากๆเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.