51
สะพั่งสะท้านไมภพ
ผมออกเดินทางไป จังหวัดพิษณุโลก ในตอนเช้า ปรากฏว่ารถวิ่งเพียงห้าชั่วโมงก็มาถึง มน.
มน.นั้นผมเรียกว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร แต่พวกคอลเซ็นเตอร์ของแท๊กซี่พิษณุโลก กระแดะเรียกว่า มอนอก ผมยืนยันว่า ม.นเรศวร แต่เจ้าหล่อนก็พยายามจะให้ผมเรียกว่า ม.นอก แต่ผมยืนยันว่าผมไม่รู้จัก ม.นอก รู้จักแต่ ม.นเรศวร เพียงเท่านี้ เวลาเรียกรถแท็กซี่ที่ พิษณุโลก ท่านก็จะได้รอแบบไร้ความหวังเพียงเพราะว่าคอลเซ็นเตอร์แท็กซี่โกรธที่คุณไม่ยอมเรียกตามมัน
เรื่องนี้ช่วยไม่ได้ ผม สะพั่ง สะท้านไมภพ ยักไหล่
ในมุมระดับครึ่งชั้น อ่างน้ำแคบๆ น้ำอุ่นๆ และการสระผมและขัดตัวอย่างเกลี้ยงเกลาดำเนินไปในรอบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
ร้านข้าวต้มริมน้ำน่านเมื่อผมสั่ง ปลาสองสีทอดน้ำปลา ยำปลาหมึก และยำสามกรอบ และข้าวสวยหนึ่งหม้อ เด็กสาวเชียร์เบียร์จะให้ผมดื่มเบียร์ แต่ทว่ามื๊อนั้นผมกลับปฏิเสธ หลังจากที่กินเสร็จ มีคนแก่เดินมาขายกล้วยหอม ผมปฏิเสธด้วยความโกรธ อันเนื่องมาจากอาหารไม่อร่อย เมื่อเช็คตังส์เสร็จ ผมก็เห็นว่าแม่ค้าเขายิ้มแย้มดี จึงบอกว่ารู้สึกว่าอาหารจะจืดชืดไปหน่อย เมื่อแม่ค้ากลับมาทอนตัง ยิ้มแบบเจ้าของร้านค้า ยังไม่ถึงเวลาขาย เอาไว้มาใหม่ ถ้าไม่ดีจริงไม่อยู่ถึงห้าสิบปี พูดในขณะยิ้มเสียด้วย
เมื่อเดินกลับมาลูกชายขอให้เลิกสูบบุหรี่ ก็ทำให้ผมโกรธเหมือนกัน
แต่ทว่าเมื่อผ่านไปสักนิด เมื่อคิดได้ว่ามันเป็นความหวังดี มันก็ไม่สมควรต้องใช้ความโกรธ ผมก็บอกกับลูกชายว่า ตกลง การขอได้รับตามนั้น และก็คิดไปถึงเรื่องที่ผ่านมาในเรื่องของความหวังดี
นี่ถ้าหากเราสามารถรู้ได้ว่าใครหวังดีกับเราบ้างแล้วละก็ก็คงจะต้องไม่มีความโกรธเกิดขึ้นแบบไม่มีเหตุผล
สุดท้ายขากลับ เมื่อคนพากันเฮโลกลับกรุงเทพในวันหยุดยาว แน่นอนรถเมล์เต็ม รถตู้พยายามถูกเสนอเข้ามารับคนโดยสารจากความเขี้ยวที่พยายามยัดคนเข้าไปจนแน่นแบบทุเรศมากกว่า หากปลากระป๋องแน่นแบบเนี้ยะจะชอบมากเลย
ผมลองไปขึ้นรถไฟ ทีแรกรถเร็วขึ้นฟรี ตีตั๋วเสร็จไปนั่งคิด บนชานชลาสองเพื่อกลับกรุงเทพ คิดไปคิดมามองดูคนรอ เยอะและผมไม่อยากแย่งชิงที่นั่ง และหากมีคนแก่ หญิงท้อง เด็ก มาจะไม่ลุกให้นั่งก็จะถูกประนาม และถึงกรุงเทพเกือบสามทุ่ม เจ็ดชั่วโมง ไม่นับหากมีการช้าของรถไฟตามปกติ
ผมบอกกับคนขายตั๋วรถไฟว่าเปลี่ยน ขอเป็นปิ๊นเต้อแทน สองที่โดนไป แปดแปดสี่บาท และกลับมาสามโมง ช้าอีกสีสิบนาที และถึงตรงเวลาทุ่มครึ่ง บวกเกินอีกสี่สิบนาทีของแถม และในระหว่างทางมันเหมือนกับรถที่มีคอนเสริทแรฟดังสนั่นตลอดทางสนุกดี
เมื่อรถมาถึงดอนเมือง
ความรู้สึกของเราก็คือ คิดถึงบ้าน
เมื่อก่อนคิดจะพเนจร จากการเดินไปคราวนี้ก็พอไปได้ในแบบประหยัดๆ
แต่ตอนนี้คิดถึงบ้านมากกว่า
ว่าแล้ว
สะพั่ง สะท้านไมภพ ก็นั่งแท๊กซี่กลับบ้านด้วยความสุข