ใช้ปัญญาในทางที่เป็นประโยชน์...
คีตากะ
ปราศรัยโดย ท่าน Suma Ching Hai ฟอร์โมซา
๓๐ สิงหาคม ๑๙๘๙ (เดิมเป็นภาษาจีน)
มีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง ในอินเดียมีคนคนหนึ่งได้ปฏิบัติดีมาก อยู่มาวันหนึ่งเขาลงไปในนรกและเห็นปีศาจถูกเผาอย่างทุกข์ทรมานด้วยไฟนรก บุคคลนั้นได้ถามพระกษิติครรภโพธิสัตว์ว่า “ทำไมเขาจึงอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมานอย่างนั้น ทำไมเขาจึงถูกเผาอย่างรุนแรงด้วยไฟนรก ซึ่งเผาเท่าไรก็ไม่ตายสักที จะเป็นอย่างนี้เป็นร้อยๆ ครั้งของชีวิต” พระกษิติครรภโพธิสัตว์กล่าวว่า “ความดุร้ายภายในจิตใจจะต้องถูกเผาผลาญให้หมด เพื่อความดีในตัวเขาจะได้เปิดเผยออกมาได้” เมื่อเห็นว่าปีศาจยังเยาว์วัยและถูกลงโทษอย่างสาหัสมาก ผู้บำเพ็ญคนนี้ก็รู้สึกสงสารมากและพูดว่า “ขอให้ฉันดูแลเขาที่บ้าน เขาจะไม่ต้องการอะไรอีกถ้าเขาอยู่ใกล้ๆ ฉัน เพราะว่าฉันจะให้เขาทุกอย่าง ฉันคิดว่าเขาคงจะไม่ทำสิ่งที่เลวร้ายแน่นอน หัวใจที่กระหายด้วยความโลภของเขาจะไม่ออกมาและไม่มีความปรารถนาใดๆ ขอให้ฉันได้ลองดูเถอะ” เขาขอร้องพระกษิติครรภโพธิสัตว์อย่างจริงใจที่จะให้ปล่อยปีศาจและอนุญาตให้เขานำเจ้าปีศาจกลับไปดูแลที่บ้าน “ตกลง” พระกษิติครรภโพธิสัตว์ตอบ “ที่จริงฉันไม่อยากทำอย่างนี้หรอก เพราะเธอจะทำให้ตัวเองลำบาก เมื่อเธอมีความจริงใจ ฉันจะให้เธอพาเขากลับบ้าน” ในวันสองวันแรก หลังจากที่กลับบ้านแล้ว ก็ไม่มีปัญญหาอะไร เพราะว่าอาจารย์ได้บอกให้เจ้าปีศาจน้อยช่วยเขาทำงานมากมาย ปีศาจน้อยมีความสุขมากและไม่สร้างความเดือดร้อนมาให้ตราบเท่าที่มันยังมีงานทำ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาเป็นผู้บำเพ็ญและไม่มีทรัพย์สินเป็นของตัวเองมากนัก ประกอบกับเจ้าปีศาจน้อยมีพลังมาก มีเวทมนต์คาถาที่จะเคลื่อนย้ายสิ่งของได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำงานให้เสร็จได้ในเวลาเพียง ๒-๓ วัน เมื่อไม่มีอะไรจะทำ มันก็เฝ้าคอยอยู่ที่นั่นและถามอาจารย์ว่า มีงานอะไรให้ทำอีกบ้าง ถ้าไม่มีงานให้ทำละก็ มันอยากจะฆ่าอาจารย์เสีย ทั้งนี้เพราะมันมีพลังมาก ถ้าไม่มีอะไรทำ มันก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมพลังไว้ได้อย่างไร เจ้าปีศาจน้อยทะเลาะกับอาจารย์และอยากจะฆ่าเขา อาจารย์ก็วิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดลงไปที่นรกและขอให้พระกษิติครรภโพธิสัตว์ช่วย
พระกษิติครรภโพธิสัตว์กล่าวกับเขาว่า “เราได้บอกเธอแล้วว่าความดุร้ายของเขายังไม่ได้ถูกขับออกไป เขามีความดีน้อยเหลือเกิน เธอก็ยังนำเขาไปบ้าน ก็แน่นอน เธอก็จะลำบากเอง” แต่ถึงอย่างไรพระกษิติครรภโพธิสัตว์ก็ยังบอกวิธีที่จะควบคุมปีศาจน้อยนี้ให้ ท่านบอกว่า “เมื่อเธอกลับบ้าน จงให้มันสร้างหอคอยที่สูงมาก ให้มีบันไดที่ยาวและสูงมากๆ “ หลังจากที่สร้างหอคอยเสร็จ เจ้าปีศาจน้อยก็ของานทำอีก เมื่ออาจารย์คิดไม่ออก เจ้าปีศาจก็คอยไล่ตามอาจารย์จนกระทั่งอาจารย์วิ่งหนีลงไปในนรกเพื่อพบพระโพธิสัตว์อีก พระกษิติครรภโพธิสัตว์ก็บอกว่า “เธอจงกลับไปบอกให้เจ้าปีศาจวิ่งทุกๆ วัน จากบันไดขั้นล่างไปบันไดขั้นบนสุด แล้วก็วิ่งลงมาจากข้างบนสุด แล้วก็วิ่งจากข้างล่างอีก บอกให้มันวิ่งทุกๆ วัน แล้วมันจะไม่รบกวนเธออีก”
สมองของเราก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าเราจะให้งานอะไรมันทำ มันก็จะทำได้ดีตราบเท่าที่ยังมีงานทำ ถ้าไม่มีงานก็จะทำให้คิดเรื่องที่ไร้สาระ อย่างไรก็ตามสมองของเรานั้นดีและก็ฉลาดปราดเปรื่องมาก มันจะเปล่าประโยชน์ถ้าเราใช้ให้มันทำเรื่องเล็กเกินไป เราควรจะรู้คุณค่าของเรา แล้วไม่ทำให้สมองไร้ประโยชน์ คนจำนวนมากทำผิดเพราะว่าเขาไม่รู้จักหางานที่เหมาะสมกับสิ่งที่เรียกว่าปัญญา เพราะฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเสียอารมณ์และออกไปทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย เพื่อที่จะสนองต่อความสามารถภายในที่ปราดเปรื่องของเขา การที่มีความสามารถแต่ใช้มันไม่ได้ เป็นเรื่องที่ทำให้เสียอารมณ์จริงๆ อย่างที่เรามักจะพูดเปรียบว่า “วีรบุรุษไร้สนาม” เพราะฉะนั้นถ้าเรามีโอกาสเลือกงานในอนาคต เราควรจะเลือกงานที่ได้รับใช้สังคม เราคิดว่าสถานที่ที่ไร้ค่ามักจะมีทางออก อย่ารีบร้อนเกินไป อย่าเลือกสิ่งที่ผิด อย่าทำในสิ่งที่ไร้สาระที่จะทำให้เราสิ้นเปลืองความสามารถและพลังของเราเอง....
Be Veg, Go Green 2 Save The Planet