อทิสมานกาย ๘๔ ขณะที่ไอ้เบี้ยวกำลังออกจากพวกมาลัย เพื่อนำรถไปเก็บไว้ ที่ใต้ถุนบ้าน มันพยายามมิให้เกิดเสียงดัง ครั้นเรียบร้อยแล้ว มันก็หันหลังกลับ แต่แล้วมันก็ต้องสะดุ้งเฮือกร่างกายเย็นชา เมื่อสายตามัน เหลือบไปเห็นสิ่งนอกรั้วบ้าน มันขยี้นัยน์ตาคิดว่าตามันฝาดไป หรือเป็นต้นไม้ แต่ทว่าไม่ใช่ ด้วยมันเป็นร่างคนแต่สูงใหญ่ชะลูดยืนกวักมือไหวๆไปๆมาๆ ภายนอกบ้านบรรยากาศสลึมสลือ ขมุกขมัวนักมีเพียงแค่แสง ดาวเท่านั้น ส่วนเดือนเสี้ยวก็ลับหายไปแล้ว หลังม่านเขา ท้องฟ้า จึงมีเพียงแค่ดวงดาวเท่านั้น เมื่อมันแน่แก่ใจ ตาที่เหลือกลานคิดว่าเป็นพวกผีร้ายตามพวกมัน มา แต่เสียงเรียกมันคล้ายๆคนคุ้นเคยยิ่งนัก “ไอ้เบี้ยวๆๆๆ!!!!....ช่วยพวกกูด้วย กูเข้าบ้านไม่ได้ โว้ย!!???.... มึงช่วยบอกเจ้าที่เจ้าทางด้วยพวกกูจะได้เข้าไป ในบ้านได้ว๊ะ” เสียงล่องลอยมาแผ่วเย็นยะเยือกนัก เมื่อแน่แก่ใจแล้วพลางมัน จึงร้องแหกปากลั่น “ ผีมันตามเรามาโว้ยไอ้แม้น ผีหลอก!!!!!.......” กล่าวเสร็จไม่พูดล่ามทำเพลง รีบตาเหลือกวิ่งไปยังพวกที่ยังอยู่ ใต้ต้นมะขามใหญ่ แซงหน้าพร้อมแหกปากร้องลั่นไปด้วย ขณะที่เจ้าแม้นก็กำลังจะรีบเดินไปที่ยังแคร่ใต้ต้นไม้ เมื่อ มันแลเห็นร่างของไอ้แช่มกำลังได้รับการดูแลจากพรรคพวก ไอ้อ๊อดและบรรดาสาวๆเฝ้ารุมล้อมทั้งหลาย บ้างกำลังใช้พัด ช่วยกันโบกบ้าง ใส่ยา เช็ดแผลซึ่ง ร่างไอ้แช่มเต็มไปด้วยรอยเลือด เปื้อนเสื้อผ้าไปหมด เมื่อได้ยินเสียงไอ้เบี้ยวร้องขึ้นว่า ผีหลอกตามมาเท่านั้นเอง มันก็ตกใจทั้งที่อาการเจ็บปวดแทบหายเป็นปลิดทิ้ง รีบเดิน กึ่งวิ่งรีบเขยกไปหาทันที ส่วนไอ้หาญกำลังช่วยพยุงร่าง ของไอ้ผันซึ่งขาข้างหนึ่งมันแทบจะใช้การไม่ได้หากไม่พยุงไว้ ร่างมันก็คงจะทรุดกับพื้น ไอ้ผันลืมความเจ็บปวดว่ามันขาหัก รีบวิ่งได้ทันที แซงหน้าพวกทั้งหมด ไอ้แม้น เดินนำล่วงหน้าไปก่อนแล้ว สะดุ้งเฮือกทั้งตัวรวม ถึงบรรดาที่ต่างหนีผีร้ายกันมาทุกๆคนด้วย เมื่อพวกมันต่างได้ยินเสียงร้องลั่นของไอ้เบี้ยวร้องลั่นแหกปาก ตะโกนบอกพรรคพวกทันที เมื่อแลไอ้เบี้ยววิ่งพลางชี้มือไป พลาง ครั้นพวกมันมองไปยังนอกรั้วมันแลเห็น ร่างของไอ้โจ๊ก ไอ้เข่ง ไอ้สน ไอ้เจี๊ยบ ไอ้ผ่อง ไอ้เขียวและไอ้ดำ ยืนทะมึนในเงามืด แต่ร่างมันสูงใหญ่เลยรั้วบ้านเกือบเท่ากับ ต้นไม้ใหญ่ข้างทางหน้าบ้าน ร่างที่ปรากฏนั้นทั้งหมดพวกมัน ต่างใบหน้าบิดเบี้ยว แสดงความเจ็บปวดด้วยเสียงร้องแผ่วแต่ โหยหวนยิ่งนัก พลางกวักมือเรียกพวกมันไหวๆ ตลอดทั้ง ร่างพวกมันชุ่มไปด้วยเลือดไหลย้อยออกมาตามร่างกายในลักษณะ ต่างๆกัน พวกผีพวกมันพยายามจะเข้ามาในบริเวณบ้านให้ได้ ร่างไอ้สนและเกือบทั้งหมดต่างกวักมือเรียกมัน เสียงแหบๆ ดังลอยแว่วเข้าหูมัน “ไอ้เบี้ยว ไอ้แม้นโว้ย!!!!!????....ช่วยกูด้วยๆๆๆๆ กูเข้าบ้านไม่ได้แล้วมึงออกมารับกูหน่อยซิว๊ะ มีใครก็ไม่รู้ไม่ยอม ให้กูเข้าไปในบ้านว๊ะ!!!!!......” ทุกๆคนรู้ว่าเป็นพวกมันทั้งสิ้นหาใช่ผีร้ายที่มันได้พบเจอไม่ ต่างแยกย้ายกันยืนอยู่ และช่วยกันส่งเสียงร้องและกวักมือด้วย อยู่บริเวณนอกรั้ว พร้อมยื่นมืออันยาวเหยียดเหมือนจะปัดอะไร บางอย่างที่สกัดพวกมันไว้ ต่างร้องระงมร่างมันส่ายไปๆมาๆอยู่ ทั้งหมดหยุดชะงักชั่วคราวต่างมองไป มันแลเห็นว่าพวกมันเอง ที่ต่างร้องระงม มันแลเห็นไอ้เข่งไอ้โจ๊กซึ่งมันรู้ว่าทั้งสองคนนี้ได้ ตายไปแล้ว และยังนำศพมันไปให้สัปเหร่อวัดเผา แต่ไหง๋มันมา ยืนรวมกับพวกมันที่ไปบ้านอดีตกำนันได้เล่า ครั้นมันได้ยินเช่นนั้นก็รู้ด้วยสัญชาติญานทันทีว่า พวกมันที่ เห็น นั้นตายไปหมดแล้วเป็นผี ทันใดมันก็ได้ยินเสียงหมาหอน ทั้งๆที่บ้านหรือแและบริเวณแถบนี้ก็ไม่มีใครเลี้ยงหมาสักตัวเดียว แต่เหตุไฉนจึงมันจึงได้ยินเสียงหมาหอนอย่างโหยหวนอีกเล่า ขนผมบนหัวพวกมันตั้งชันทันที คราวนี้มันรู้แล้วว่าอะไรเป็น อะไรจึงต่างพากันได้แหกปากร้องลั่น ทำให้พวกไอ้แม้น ไอ้หาญ และไอ้ผันสะดุ้งตาเหลือกลาน ต่างพากันร้องบอกต่อกันและกัน “ผีหลอกโว้ยๆๆๆๆ!!!!!!....ไอ้แม้น โน่นมันยืนนอกรั้วพวก เรามีไอ้โจ๊กไอ้เข่งไอ้สนอีกหลายๆคนยืนอยู่โน่น???? ..... แล้วร่างมันวิ่งทีเดียวถึงโค้นต้นมะขามที่พวกสาวๆอยู่ทันที ไอ้แม้นและพรรคพวกต่างก็แลเห็นเมื่อไอ้เบี้ยวบอก ซึ่งมันเห็นแล้วว่าเป็นบรรดาพรรคพวกที่ยืนนอกรั้วเช่นกัน ร่างของมันสั่นเทาพร้อมด้วยไอ้หาญและไอ้ผันตลึงและ รีบออกวิ่งทันทีตัวใครตัวมัน ต่างใส่ตีนหมากันเป็นแถวๆ ส่วนไอ้ผันลืมความปวดโดยสิ้นเชิง มันรีบวิ่งไปยังบรรดากลุ่มที่ มีแสงไฟของบรรดาสาวๆอยู่ก่อนใครเพื่อนด้วยความหวาดกลัว ตามติดด้วยไอ้เบี้ยวไอ้หาญและไอ้เบี้ยว พากันกันวิ่งแข่งกัน ทันทีอย่างรวดเร็ว พวกมันเมื่อมาถึงหลับตาปี๋หาที่ซุกซ่อนทันใด เมื่อทุกๆคนมาถึงบรรดาสาวๆ มันรีบมุดหัวมันเข้าไปใต้ผ้าถุง บรรดาสาวๆ ซึ่งใกล้ที่สุด นางสร้อย นางช้อย นางลัดดานางนวล ส่วนนางชบากับนางนวล กำลังช่วยไอ้อ๊อดรักษาไอ้แช่มอยู่ แต่ทว่าพวกสาวๆเหล่านี้ไม่ได้ แลเห็นอะไรเลย ต่างตกใจร้องหวีดว้าย!!!????....ดังลั่นไปตามๆ พร้อมทั้งเถิบตัวหนี บ้างถีบใส่หน้าพวกที่เสือกมาหลบยังใต้ผ้าถุง ทำให้ผ้าถุงหลุดจากร่างมาครึ่งหนึ่งก็มี ปากต่างก็ร้องด่าขึ้น “ไอ้ห่ารากเอ๋ย????....เป็นอะไรไปมาถึงก็มุดซุกใต้ผ้ากูถุงกู ทำไมกันว๊ะ มึงกลัวอะไรถึงปานนั้น ผ้าถุงกูจะหลุดแล้วโว้ย” “เฮ้ยๆๆอย่ามากไปซิว๊ะ ไอ้ห่าข้าไม่ได้นุ่งกางเกงในนะโว้ย??..” “ กูก็เหมือนมึงแหละว๊ะะอีสร้อย โอ้ยๆๆ!!!ๆๆๆ..จั๊กจี๊ๆโว้ย” “เฮ้ยๆๆๆ...เอาหัวมึงออกไปเดี๋ยวนี้นะโว้ย เยี่ยวกูจะแตกแล้วล่ะ รดหัวมึงไม่รู้นะ ไอ้ห่าราก!!!!!.....” สาวนวลร้องลั่นไม่ลั่นเปล่า ส่งเสียงหวี๊ดว้ายๆดังไปทั่วบริเวณ บ้าน บ้างลุกขึ้นจะหนี บ้างถอยหลังไปชนต้นไม้ ต่างวุ่นวายไป หมด แต่ทุกๆคนมัวสะระวนกับการผลักหัวของพวกมัน เสียงบรรดาสาวๆต่างด่ากันลั่นแล้วรีบถอยห่างออกให้พ้น แต่ พวกนั้นไม่ยอม ติดตามซุกอยู่ตลอดเวลา คราวนี้ไอ้เบี้ยวตั้งสติได้ รีบร้องลั่นขึ้นทันที พลางมุดออกจาก ผ้าถุงจากอีสร้อย พร้อมร้องบอกอีสร้อยให้หันไปดูมีอะไร แล้วชี้ให้บรรดาสาวๆดูสิ่งที่มันเห็น “ ผีพวกเรามันหลอกเราว๊ะ โน่นๆๆๆ!!!!.....โน่นๆมันยืนอยู่ นอกรั้วบ้านโว้ย” คราวนี้บรรดาสาวๆที่ถูกพวกมันมุดใต้ผ้าถุง ต่างก็แลเห็นร่าง ของพวกมันนอกรั้ว แต่ตัวมันช่างสูงชะลูดเกือบเท่าต้นไม้หน้า บ้านจึงรู้ทันทีว่าทำไมถึงไอ้พวกนี้เข้ามาซุกใต้ผ้าถุงมัน เท่านั้นเองวงก็แตกกระเจิงกระจายทันที เสียงขวดเหล้า จาน ต่างตกลงมาดังเพล้งๆๆไปทั่ว บรรดาสาวๆต่างวิ่งหนีแยกกันไป หาที่หลบซ่อน บ้างวิ่งไปแอบบ้านที่ปลูกใหม่ข้างๆบ้าน บ้างก็วิ่ง ขึ้นบนบ้านใหญ่ เมื่อเห็นห้องก็รีบเข้าไปทันทีหาผ้าห่มซุกหัวกัน บ้างก็เปลือยเปล่าใส่แต่เสื้อเท่านั้น ผ้าถุงมันหล่นหายไปเมื่อไหร่ ไม่รู้ พวกแค่คำนึงจะหนีพวกผีที่มันเห็นเท่านั้นไม่คำนึงใดๆ ทั้งสิ้น ร่างกายจะเป็นอย่างไรก็ช่างไม่สนใจอีกแล้ว อีชบากับอีพลอยพร้อมด้วยไอ้อ๊อดก็แลเห็นทันหมด เว้นแต่ ไอ้แช่มเท่านั้นที่มันสลบไปอีกด้วยความเจ็บปวด ดังนั้นจึงทิ้งร่างไอ้แช่มลงกับแคร่นอนเพียงคนเดียว นอกนั้นร้อง ลั่นพากันวิ่งตัวใครตัวมัน เสียงร้องดังจนทำให้กำนันมั่นซึ่งนอน หลับอยู่สะดุ้งตกใจ พลางตะโกนลั่นทันที “ไอ้พวกเวรๆๆๆ????ตะไล????.....แหกปากร้องทำไมกูนอน กำลังสบายๆ จะแดกก็แดกไปทำไมต้องโวยวายกันลั่นไปหมดว๊ะ เดี๋ยวกูลงไปกรทืบพวกมึงนะโว้ย หากยังเสือกเสียงดังอีก” เสียงกำนันมั่นแหกปากร้องลั่นด้วยความตกใจระดมด่าต่างๆนา ไปด้วย พลางลุกขึ้นออกมาหน้าบ้านราวลูกคั่นทันที เมื่อมองไป ยังบริเวณที่พวกลูกและพวกมันกินเหล้าประจำไม่เห็นใครๆมีเพียง ร่างหนึ่งเท่านั้นที่นอนแผ่หลาบนแคร่ ร่างไอ้แม้นถลันมาคนแรกทั้งๆที่ร่างกายมันเคล็ดขัดยอกไป แต่บัดนี้หายเป็นปลิดทิ้งไปแล้ว รีบร้องบอกพ่อมันทันที “พ่อๆๆๆๆ!!!!!.....ผะอี...ผีๆๆๆพ่อ โน่นมันยืนอยู่นอกรั้วบ้าน โน่นๆๆๆๆพ่อโน่นๆๆ ข้าไปก่อนนะพ่อไม่ไหวพ่อ??....” พอมันพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปห้องมันที่อยู่ข้างๆทันทีไปถึงไม่พูดร่ำ ทำเพลงใดๆรีบคว้าผ้าห่มมาซุกคลุมหัวร่างมันตัวสั่นเทาๆร้องคราง เสียงดัง ฮือๆๆๆลั่นบ้าน “ผีพ่อผีแม่มึงหรือไอ้แม้น อ้าวๆๆๆไอ้ห่าผีแม่มึงหรือว๊ะ???...กูไม่ เห็นมีอะไรสักอย่างหนึ่งโว้ย” ตั้งใจว่าจะด่าให้มากอีก แต่แล้วคำพูดมันก็ชะงักเมื่อมองไปตามมือลูกชายมันชี้ มันเห็น ร่างของพวกลูกน้องมันยืนอยู่ ร่างกายเปื้อนเลือดไปทั่วร่าง ครั้นแรกกำนันมั่นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นึกจะเอ่ยปากด่าลูกชาย สร้างเรื่องโกหกหลอกมัน ครั้นมองเห็นถนัดๆแม้จะเป็นพวกลูกน้องของมันบริเวณนอกรั้ว แต่ทำไมร่างมันจึงสูงใหญ่ชะลูด เกือบเท่าต้นไม้ใหญ่ สูงๆๆเกือบ ทุกๆคน ดังนั้นกำนันมั่นอ้าปากค้างตาเหลือกค้าง กำนันรู้ทันทีว่าเป็นอะไร จึงหันหลังกลับรีบวิ่งเข้าห้องทันที มันรีบคว้าร่างอีกแจ่มซึ่งกำลังนอนบนเตียงคุดคู้เข้าไปกอดพร้อม ดึงผ้าห่มมาคลุมหัวตัวสั่นเทา แต่อาการกลัวยังไม่หายจึงค่อยๆ ลอดหัวออกมา เมื่อกำนันนึกได้ว่าหัวเตียงมันมีเหล้าอยู่ครึ่งขวด ที่เหลือตอน หัวค่ำไม่รอท่า รีบคว้ามาดื่มเพียวๆจนหมดขวดทันที แล้วรีบซุกร่างอีแจ่มทันที ร่างกำนันสั่นเทานางแจ่มสะดุ้งตื่นขึ้น ทันทีนึกว่ากำนันมีอารมณ์อีก แต่มันก็ต้องชะงักเมื่อร่างกำนันที่ กำลังกอดมันเหม็นเหล้าคลุ้งแต่ตัวสั่นเทาซุกหน้ามายังร่างนาง ครั้นได้ยินเสียงพึมพรำของกำนันเท่านั้น มันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร รีบซุกร่างกอดกันกลมใต้ผ้าห่มทันที ครั้นเช้ารุ่งขึ้นเวลาสายๆ กำนันมั่นจึงคลายความหวาดกลัวลง พลางออกจากห้อง ชำระล้างร่างกายแล้ว แต่ความมึนเมายังค้าง อยู่บ้าง เพราะซัดเพรียวๆครึ่งขวด พลางตะโกนเรียกหาลูกชายลั่น “ไอ้แม้นโว้ยๆๆไอ้แม้น มึงรีบออกมาบอกกับกูหน่อยว่าเกิด เหตุอย่างไร???...มึงไปทำอะไรกันมาว๊ะ” เมื่อไอ้แม้นอยู่ในห้องเห็นสายแล้วก็ถอนหายใจรีบออกมา ตามคำพ่อมันเรียก พลางรายงานเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อมัน รู้ทั้งหมด ครั้นกำนันมั่นได้ยินเช่นนั้นก็ตบเข่าพรวดๆ อึ้งไปพักหนึ่ง ปากก็ร้องบอกลูกชายให้ไปล้างเนื้อล้างตัวก่อน พร้อมลั่นด่าทันทีว่า “ไป๊ๆๆๆๆไป...ไอ้ห่านี้ชอบทำเรื่องให้กูปวดหัวอีกแล้ว ไปอาบน้ำอาบท่าแปรงฟันก่อนโว้ย รีบแต่งตัวก่อนเหม็นฉิบหายเลย แล้วค่อยมาบอกกูอีกทีหนึ่ง ไปตามพวกที่เหลือมาพบกูด้วย กูว่า เรื่องจะไปกันใหญ่ ไอ้เหี้ยนี้หากไม่ใช่ลูกกูแล้วมึงโดนปืนกูแน่ รีบ ไปโว้ย???” ดังนั้นไอ้แม้นก็รีบออกไปเดินกะโผกกะเผกไปอาบน้ำ ครั้นพบ นางจ้อยก็รีบสั่งทันที “อีจ้อยมึงรีบไปตามพวกที่ยังไม่ตาย บอกว่าพ่อกูให้มาพบ ด่วนว๊ะ” “จ๊ะๆๆ...พ่อแม้น จะไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า” “อ้อ เรียกอีพวกสาวๆมาด้วยนะโว้ย มาเป็นพยานให้กูด้วย เดี๋ยว พ่อกูจะไม่เชื่อว๊ะ ว่ามันเห็นอะไรบ้าง??...... นางจ้อยได้ฟังก็พยักหน้ารับ แล้วรีบลงไปข้างล่าง เพื่อไปตามตัว บรรดาสาวๆและพวกไอ้แม้นตามคำสั่ง โดยไม่ซักถามอะไรอีกด้วย มันพบว่าหน้าตาไอ้แม้นบวมปูดช้ำๆเป็นรอยเขียวๆไปหมด และ อารมณ์ไอ้แม้นไม่ค่อยจะดีด้วย จึงรีบไปตามคนที่มันต้องการทันที สักครู่ใหญ่พวกที่มาได้ก็พร้อมหน้าที่ภายในห้องนั่งเล่นที่ กำนันมั่น กำลังนั่งเอนหลังมีสาววัยรุ่นกำลังบีบนวด พลางถามไถ่ ครั้นได้ความ พลางสั่นหน้าเอ่ยขึ้น “ไอ้ห่าแม้นเฮ้ย!!!!....มึงหนอมึงไม่น่าเลยว๊ะทำเป็นหึงหวงไปได้ แล้วไอ้ที่พวกมึงกับกูเห็น กูว่ามันคงจะตายห่าหมดแล้วล่ะ???..มันจึง ตามพวกมึงมา ด้วยตอนนี้ไม่รู้ว่ามันจะไปอยู่ที่ไหน ที่มึงว่าได้ยิน บอกว่า เข้าในบ้านไม่ได้สงสัยว่าจะหาที่อยู่แถวบริเวณหน้าบ้านเรา นี่แหละว๊ะ แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ นี่กลางวันมันออกมาไม่ได้ หาก เป็นกลางคืนล่ะจะทำอย่างไรดีว๊ะ พวกมึงออกความเห็นด้วยซิว๊ะ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ได้” บรรดาพวกไอ้แม้นที่เหลือพูดอะไรไม่ออกได้แต่กัดฟันระงับ ความปวด ไอ้แม้นและไอ้เบี้ยวเจ็บไม่มากนักก็ต่างมองหน้ากัน ไอ้แม้นก็เอ่ยขึ้น.... “พ่อๆๆเรื่องมันแล้วก็แล้วไปเถอะ ที่ทำไปนั้นไม่อยากให้ใครมา ลบหลู่พ่อกำนันมั่นของข้าได้นี่นา ฉันเป็นห่วงก็ทางด้านไอ้สนกับ พรรคพวกเท่านั้นว่า มันยังนอนตายคงอยู่หรือเปล่า เห็นไอ้แช่มบอกว่าเหลือมันคนเดียว นี่ก็ตอนขึ้นมา ข้าได้สั่งให้พวกเด็กๆที่มาทำงานไร่านาบ้านเรา ไปช่วยสืบดูทางบ้านพ่อหวนอยู่แล้วล่ะ ประเดี๋ยวก็คงจะรู้หรอก พ่อ???....คงไม่นานหรอกข้าให้มันเร่งสืบๆแล้วมารายงานโดยเร็ว” “เออๆๆๆถ้างั้นก็แล้วไปโว้ย ที่จริงกูกับไอ้หวนก็เคยร่วมงานการ มาแต่ทำไมมันถึงปฏิเสธก็ไม่รู้ เมื่อมันทำเช่นนี้แสดงว่ามันหยาม หน้ากูมากเสียด้วย ถึงได้ไปยกลุกสาวมันให้ไอ้เชียรซึ่งไม่เห็นจะมี อะไรนี่นา นอกจากแค่เพียงเพาะปลูกขายต้นไม้ทำไร่นาเท่านั้นเอง ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา มึงเอาพวกบาดเจ็บหนักหน่อย ช่วยมันใส่ หยูกใส่ยา นี่ไอ้ผันไม่มาแสดงว่าเจ็บหนักมากๆเสียด้วย ให้มึงไปตามหมอแผนโบราณมารักษาก็แล้วกันจะนำตัวมันไป ส่งที่อนามัยก็ไม่ได้เสียด้วย เดี๋ยวเรื่องจะถึงตำรวจ ก็จะไปกันใหญ่ โว้ย ส่วนมึงล่ะเจ็บคงไม่มากนะใช่ไหม???....ไอ้แม้น” “ข้าเองไม่มากหรอกดังที่พ่อเห็นนี่แหละ ไอ้ผันซิเจ็บมากกระดูกขา มันหักโปนออกมา เขาว่าหมอแผนหมอชาวบ้านเก่งทางกระดูก เหมือนกัน ได้ยินว่าเคยรักษาคนขาหักหายมาแล้ว ตอนนี้ข้าให้คนไป ตามมารักษามันแล้วล่ะพ่อ” แต่แล้วทุกๆคนก็หยุดชะงัก เมื่อเด็กเข้ามาแจ้งแก่กำนันว่า เสี่ยเม้ง มา กำลังแล่นรถมาจอดหน้าบ้านแล้ว “เฮ้ยๆๆๆ.....พวกมึงรีบออกไปกูจะรับหน้า หากมันเห็นพวกมึง เป็นแบบนี้จะไม่ดีโว้ย ไปรีบไปลงทางบันไดหลังบ้านนะ” “จ๊ะพ่อ” ไอ้แม้นรีบรับคำ และรีบพยักหน้าให้พวกมันรีบออกไปลงทางหลัง บ้านทันที กำนันมั่นก็ไล่เด็กสาวๆให้ออกไปแล้วสั่งให้มันว่า “มึงรีบไปแจ้งแม่ครัวให้จัดเตรียมอาหารไว้ด้วย นำเหล้านอกพร้อม กับแกล้มเข้ามาด่วน จัดตั้งโต๊ะรอคอยไว้ แล้วรีบทำหน่อยนะ เขาคง มาไม่นานหรอกว๊ะ???......” เด็กรับฟังดังนั้นก็รีบออกไปทางหลังบ้านโดยเร็ว กำนันมั่นก็รีบเดิน ออกไปหน้าบ้านคอยรับ โดยมีเด็กนำหน้าเสี่ยเม้งและพรรคกำลัง ก้าวขึ้นมาพอดี กำนันมั่นรีบยกมือไหว้เมื่อเห็นเสี่ยเงยหน้าขึ้นมา “เชิญๆๆๆเสี่ยและทุกๆคนขึ้นมาก่อนนะ บ้านพึ่งปลูกเสร็จไม่ เท่าไหร่นี่แหละ คงขลุกขลักบ้างนะ ทุกอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง” “ไม่เป็นไรหรอกกำนัน ข้ามาไม่นานหรอกเพียงจะมาแจ้งข่าวให้ กำนันฟัง เพื่อจะได้เตรียมตัวเพราะได้คำสั่งจากกรุงเทพฯมาด่วน นะ” ครั้นเมื่อทุกๆคนเข้านั่งเป็นที่เป็นทางแล้ว เด็กสาวก็เข้ามาถาม กำนันว่า ของเตรียมเรียบร้อยแล้วจะยกมาเดี๋ยวนี้เลยหรือ ทางเสี่ยเม้งได้ยินก็หันไปตอบแทนว่า “อีหนูไม่ต้องหรอก ไม่ได้มานานเอาแค่น้ำเปล่าๆก็พอ” เด็กสาวได้ยินเช่นนั้นก็รีบถอยออกไปทันที กำนันก็เอ่ยถามทันทีขึ้นว่า เมื่อเสี่ยเม้งบอกสาวๆแล้วหัน หน้ามาทางมัน “มีอะไรจะใช้ข้าหรือเสี่ย บอกมาได้เลย” “อ้อๆๆๆ...ไม่มีอะไรมากหรอก ของที่ให้เก็บไว้ยังปลอดภัยดีหรือ เพราะข้ามาแจ้งให้รู้ว่าอีกวันสองวันจะมารับของว๊ะ???....” เสี่ยเม้งเอ่ยขึ้น “ระยะนี้ของยังอยู่มากอยู่หรอกเสี่ย ข้าเองก็ไม่ได้ออกไปข้างนอก ต้องคอยคุมการปลูกบ้านอยู่ และมีส่วนหนึ่งที่ถูกตำรวจมันค้นพบ และนำไป แต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ข้าเองก็ติดต่อกับท่านรองไว้ เรียบร้อยทั้งสองคนแล้วล่ะ เกี่ยวกับการถูกจับไป ท่านรองก็แจ้งว่า เสี่ยได้ไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วไว้ สำนวนก็คงเก็บไว้ ไม่ได้ไปไหนน๊ะ.....ขอบใจเสี่ยมากที่ช่วยข้าครั้งนี้” “ช่างมันที่เสียไปส่วนใหญ่ยังอยู่หรือ????....” เสี่ยเม้งเอ่ยขึ้น พลางหันหน้าไปทางพรรคพวก “ข้ายังไม่ได้แนะนำให้รู้จักพวกนี้เป็นหัวหน้าควบคุมจังหวัดทุกๆ ด้าน เป็นคนสนิทของข้า” กำนันมั่นจึงหันไปมองหน้าพวกที่มากับเสี่ยเม้งทันที ทุกๆคนเพียง แค่หันมายิ้มให้เท่านั้น “นี่ไอ้เซียะ ไอ้สุย ไอ้เช้ง และไอ้มุ้ย เออพวกมึงรู้จักกำนันไว้ด้วย พวกเราทำงานเหมือนกันว๊ะ” บรรดาสมุนตัวเอ้ของเส่งเม้ง กำนันมั่นมองหน้าก็สะดุ้งในใจ ด้วย ประสบการณ์มันซึ่งเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว ทราบทันทีว่าไอ้พวกนี้มันพวก พระกาฬทั้งสิ้น ใบหน้าเหี้ยมเกรียมไม่แตกต่างกันเลย จึงหัวร่อเอ่ยว่า “ข้าเองก็ทำงานให้เสี่ยอยู่เหมือนกันแต่อยู่ด้านนอกเมือง จึงไม่ได้ ค่อยรู้จักนัก ไหนๆมาแล้วก็มากินข้าวกินปลาเหล้ายาข้าเตรียมไว้ ให้แล้วล่ะ ขาดตกบกพร่องอย่าถือสานะตามประสาชาวบ้านนอก ก็แบบนี้แหละ” “คงจะไม่ต้องหรอกข้าบอกเด็กของเอ็งแล้วนี่นา เอ็งคงจะได้ยิน เพียงแค่ข้ามาบอกเท่านั้นว่า วันพรุ่งนี้มะรืนนี้ จะให้พวกมันมาเอาของไป จึงได้พามารู้จักไว้เพราะต้องมารับของ จะให้มันเอาเด็กมาขนของ เอ็งก็คงจะไม่ให้ไปจึงต้องพามารู้จัก อ้อๆๆๆไอ้เล้งทางกรุงเทพฯมันออกมาแล้ว มันสั่งให้รีบนำไปส่งแต่ ข้าจะให้พวกของข้าไปจัดการเอง ให้ กำนันเตรียมของไว้ก็แล้วกัน ข้ามาบอกเท่านี้ก็จะกลับแล้วจะไปดู ของทางอื่นอีกด้วย” “หากเรื่องแค่นี้เสี่ยไม่ต้องมาเองก็ได้นี่นา ให้เด็กมาแจ้งให้ข้ารู้ เท่านั้นก็คงจะพอแล้วล่ะ ข้าเชื่อเพียงแค่หนังสือก็คงจะพอนะ” “อ้อๆๆอีกอย่างบ้านกำนันนั้นเป็นทางผ่านก็เลยแวะมาบอกเสียเลย เพราะต้องไปดูงานของหัวหน้าทั้งหมดด้วย ว่างานนี้ต้องใช้เป็นจำนวนมากเสียด้วย ลำพังของกำนันไม่พอ ค่าใช้จ่ายหรอก” “อ้าวๆๆแล้วไม่กินข้าวน้ำท่าก่อนหรือ????...” กำนันแสร้งเอ่ยขึ้น “ไม่หรอกว๊ะกำนัน เมื่อรู้แล้วข้าก็จะรีบไปเสียเพราะต้องไปดูงาน ทางด้าน ไอ้เซี๊ยะก่อนไม่ต้องอ้อมมากนัก ผ่านบ้านกำนันก็เป็นทาง แยกไปอาณาเขตของมันแล้ว งั้นข้าไปก่อนล่ะ” พลางหันหน้าไปทางพรรคพวกเอ่ยว่า “เฮ้ยพวกเรากลับได้แล้วทางนี้คงเสร็จธุระแน่นอน ส่วนข้าจะไปดู และนำของจากไอ้เซี๊ยะมาด้วย ส่วนของ ไอ้มุ้ย ไอ้เช้งกับไอ้สุย เก็บ ไว้ก่อนก็แล้วกัน” ด้านไอ้เซี๊ยะพยักหน้ารับ เสี่ยเม้งก็ลุกขึ้นพร้อมกับพวกทั้งหมด แล้ว หันหลังเดินลงบันไดไปโดยมีกำนันมั่นมายืนคอยส่งอยู่ เมื่อทั้งหมด ขับรถออกไปพ้นบ้านแล้วกำนันมั่นก็อยู่ไม่ติดด้วยต้อง ไปจัดการตามที่เสี่ยเม้งว่าจะมาเอาของในวันพรุ่งนี้มะรืนนี้ จึงต้อง เดินลงไปข้างล่างเพื่อสอบถามของกับไอ้แม้นโดยด่วนทันที..... แก้วประเสริฐ.
13 เมษายน 2554 08:00 น. - comment id 123360
...กลีบกุหลาบมาพับจีบกลีบพับร้อย มาลัยน้อยไหว้คุณครูผู้สู่ขวัญ ด้วยเคารพร้อยวลีมีมอบปัน สื่อส่งผ่าน..ปีใหม่ของไทเทอญ..
13 เมษายน 2554 11:55 น. - comment id 123361
คุณ ทางแสงดาว ปีใหม่ไทยย่างกรายไฉไลเฉิด อัปสรเลิศแสงดาวพราวพร่างศรี สนองไสวสุึขสันต์กลั่นเปรมปรีดฺ์ แม่นวลฉวีปราถนาใดจงได้เทอญ. แก้วประเสริฐ.
16 เมษายน 2554 10:42 น. - comment id 123498
หวัดดีปีใหม่ไทยครับ กลับมาจากเที่ยวสงกรานต์...ได้อ่าน อทิสมานกาย..รู้สีกดีชื่นใจเหมือนได้สาดน้ำ สงกรานต์เลยครับ...ขอบคุณครับ
16 เมษายน 2554 11:53 น. - comment id 123500
คุณ เอื้องอังกูร สวัสดีปีใหม่ครับ เที่ยวคงสนุกมากนะ ครับผมได้แต่ดูทางทีวีเห็นพวกเราสนุกสนาน กันมากๆด้วยครับ แม้แต่ต่างประเทศเขาก็ เล่นกันมากๆ แต่ไม่สนุกเท่ากับเมืองไทย ที่ประเทศลาวนั้นคงรักษาประเพณีดั่งเดิมไว้ อย่างเหนียวแน่นครับ ขนาดวัยรุ่นฝั่งโน้นยัง มาเที่ยวเมืองไทยกันเลยครับ ดูๆไปคล้ายๆ กับงานของอเมริกา หรือยุโรปโน่นแน๊ะ ครับผมจะใช้เวลาเขียนให้มากขึ้นกว่า เดิมครับ ตอนนี้ภาพในสมองนึกออกมาก แล้วครับ ขอบคุณที่มาให้กำลังใจเสมอ ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.