อทิสมานกาย ๘๑
กิ่งโศก
เมื่อชายหนุ่มโชติ เข้ามานั่งร่วมวงสนทนาเรียบร้อยแล้ว
เขาคิดว่า ในเมื่อทั้งสองครอบครัว เมื่อจะเป็นครอบครัวเดียวกัน
ดังนั้นสิ่งต่างๆจึงไม่อยากจะคิดปิดบัง ด้วยระยะเวลาเหลืออีกไม่
เท่าไหร่นัก เขาจำต้องเปิดเผยตัวแล้วว่าเขาคือใคร ครั้นหากมาปิด
บังตอนนี้จะคงจะไม่ดีนัก ครั้นจะเอ่ยบอก ก็พอดีได้ยินพ่อเชียร
หันมาทางแม่เข็มเอ่ยก่อนขึ้นว่า
ในเมื่อหนูบงกชไม่มีปัญหาแล้ว ฉะนั้นเพื่อจะได้จับจองไว้ก่อน
เพียงอย่าคิดว่าเป็นของหมั้นหมายอะไรเลยนะ ถือว่าเป็นสินน้ำใจ
เล็กๆน้อยๆของพวกข้าก็แล้วกัน พี่หวนแม่เย็นและหนูบงกช หาก
วันแต่งที่จะเกิดขึ้นเห็นจะต้องให้เจ้าโชติลูกข้าดูตำราโหรไว้ให้ไม่ต้อง
ไปหาที่อื่นหรอก
อะไร???...พ่อโชติหรือดูหมอเป็นกับเขาด้วยหรือ???....
เสียงพ่อหวนแม่เย็น อุทานขึ้นพร้อมๆกัน แล้วหันไปมองหน้ากันและกัน
ด้วยความสงสัยรวมทั้งเจ้าชวนด้วย
เขาร่ำเรียนวิชานี้มาด้วยล่ะจากหลวงพ่อทองและอาจารย์เลื่อมไว้แต่
ว่าอาจารย์เลื่อมนั้นพ่อหวนแม่เย็นคงจะไม่รู้จักหรอก แต่ช่างเถอะให้
เขาช่วยดูฤกษ์ยามงามดีก็แล้วกันนะ
ถ้าอย่างงั้นก็ได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาหมอดูหรือหลวงพ่อท่านให้
ทำนายหรอก ดีเหมือนกันคนกันเองนี่แหละข้าเชื่อพ่อโชติ ตั้งแต่เวลา
ที่เอาสร้อยพระมาให้แล้วล่ะ
พ่อหวนแม่เย็นเอ่ยขึ้น
จริงซิพ่อแม่ ผมเองก็เชื่อมั่นพี่โชติมาก ตั้งแต่วันนั้นมานะ พี่โชติผม
คิดว่าเก่งกว่าอาจารย์อื่นๆที่ผมพบมาเสียอีกล่ะ
เจ้าชวนลูกชายเอ่ย แล้วสาวบงกชก็เอ่ยขึ้นสนับสนุนเช่นกัน
ให้พี่โชติดูฤกษ์ยามดีเหมือนกันพ่อแม่ หนูเชื่อมั่นเขามากเสียด้วย
ถ้าอย่างนั้นหากลูกโชติหาฤกษ์ได้แล้วก็เป็นอันตกลง แม่เข็มไปหยิบ
สร้อยเพชรมาให้เป็นของขวัญแก่หนูบงกชได้แล้วล่ะ
พ่อเชียรหันไปเอ่ยกับเมีย แม่เข็มได้ยินเช่นนั้นก็ขอตัวทุกๆคนแล้วรีบ
เดินเข้าไปยังห้องทันที สักครู่หนึ่งก็เดินออกมาพร้อมกล่องกำมะหยีสีแดง
พลางยื่นให้แก่พ่อเชียรทันที
ครั้นพ่อเชียรรับมาแล้วก็เปิดกล่อง หยิบสายสร้อยเพชรที่อุบะมีเพชรเม็ด
เขื่องๆล้อมรอบด้วยพลอยหลากสี ตามสายสร้อยก็ถูกประดับด้วยเพชรเม็ด
เล็กๆเรียงรายไปทั่ว
พ่อหวนแม่เย็นเจ้าชวนสาวบงกชเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับตลึงไปทันที ไม่คิด
ว่านี่เพียงแค่ของขวัญสร้อยเส้นนี้ราคาคงจะหลายกะตังค์เชียว พ่อหวนจึง
ถามทันทีว่า
น้องเชียรอะไรๆๆจะต้องมากถึงขนาดนี้เชียวหรือ ราคาคงจะแพงมากนะ
ไม่ต้องคิดมากหรอกพี่หวนในเมื่อจะมีลูกสะไภ้ทั้งคนเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่อง
ใหญ่โตอะไรหรอก ราคาหรือก็คงจะไม่เท่าไหร่ ตอนนั้นซื้อมาก็ในยราคาประมาณ
เจ็ดแปดแสนบาทเท่านั้นเองล่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เหมือนกันราคาเท่าไหร่ เพราะ
ไปซื้อมาจากกรุงเทพฯโดยลูกโชติเขาพาไปซื้อมา
ไหนๆแม่บงกชเข้ามาใกล้ๆอาซิเพื่ออาจะได้สวมคอให้เป็นของขวัญแก่หนูน๊ะ
เมื่อฝ่ายพ่อหวนได้ยินราคาถึงกับสะดุ้งกันทุกๆคน ต่างอุทานขึ้นพร้อมๆกัน
โอ้โห...ราคาเกือบล้านเชียวนะน้องเชียร ยังบอกว่าไม่เท่าไหร่อีก โอ้ยๆๆๆข้าจะ
เป็นลมให้ได้ จริงไหมแม่เย็น
นั่นซิพี่หวนข้าได้ยินราคาก็ตกใจแล้ว ไม่คิดว่าอีหนูเราจะมีบุญวาสนาได้
สวมสร้อยราคาเช่นนี้
ตั้งแต่ข้าอยู่มาก็ไม่เคยได้มีสร้อยราคาเท่านี้เลย แค่ทองคำธรรมดาเท่านั้น
เอง ข้าก็เกือบจะเป็นลมไปเหมือนกันล่ะ
ชายหนุ่มโชติที่นั่งฟังอยู่ก็เอ่ยขึ้นว่า
นี่ยังน้อยไปนะลุงป้าที่จริงยังมีอีกมากมายนัก ที่ไม่ได้เอาออกมาทั้งหมด
พ่อแม่ผมซื้อเก็บเอาไว้ แต่ไม่เคยได้ใส่กับเขาถึงจะมีงานก็ไม่เคยใส่ของอะไรเลยล่ะ
เมื่อทั้งหมดได้ยินต่างก็มองหน้ากันไปๆมาๆ
พลางนึกในใจว่านี่แหละน๊าที่เขาเรียกว่าผ้าขี้ริ้วห่อทองล่ะ
ทำตัวแบบธรรมดาไม่โอ้อวดความร่ำรวย แต่ที่ไหนได้มั่งคั่งยังกับเศรษฐี
ก็ว่าได้ จึงรีบผลักร่างสาวบงกชให้รีบเข้าไปหาพ่อเชียรทันที
ซึ่งหยิบสายสร้อยออกมา สีมันวูบวาบด้วยอัญมณีอันงดงามยิ่งนัก
ยิ่งอุบะด้วยแล้วสะท้อนแสงวูบวาบหลากสีสรรประกายแวววาวสะท้อนแสง
หลายหลากสี สาวบงกชถึงกับตัวสั่นงันงกไปทันที ค่อยๆคลานคืบ
เข้าไปหาว่าที่พ่อผัวทันที
เมื่อสาวบงกชเข้ามาใกล้แล้ว พ่อเชียรก็บรรจงสวมสร้อยคอลงบนคออันขาวผ่อง
ของสาวเจ้าทันที พลางกล่าวว่า
จำเริญๆเถอะลูกพ่อ ต่อไปนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
ไปไป๊ไปกราบแม่เข็มเขาด้วย
จ๊ะพ่อ หนูไม่คิดว่าจะมีวาสนาเช่นนี้กับเขาเลย หนูคิดไม่ถึงจริงๆจ๊ะพ่อ
สาวบงกชเอ่ย แล้วก็ค่อยๆคลานไปกราบบนหน้าตักแม่เข็ม
แม่เข็มก็ยกมือลูบหัวพลางกล่าวคำอวยพรต่างๆนานานัปการ
แล้วดึงสาวเจ้าเข้ามาสวมกอดด้วยความรัก ทำให้พ่อหวนแม่เย็นเจ้าชวน
ต่างหน้าบานไปตามๆกัน พ่อหวนนั้นคิดว่าบัดนี้ภาระในอกหมด
ไปแล้วล่ะที่ลูกเราจะได้คนดีและมั่งคั่งอีกด้วยนับเป็นบุญวาสนามันจริงๆ
พลางเขยิบเข้าไปหาพ่อเชียรพลางสวมกอดแล้วด้วยร่างอันสั่นเทา
น้ำตาลูกผู้ชายก็รินไหล กล่าวด้วยเสียงสะอื้นปนว่า
ชีวิตพี่คงจะหมดห่วงเรื่องลูกสาวก็คราวนี้ล่ะน้อง คง เหลือลูกชวนอีกคน
ก็คงไม่เป็นปัญหาด้วยมันเป็นผู้ชายย่อมจะต้องเอาตัวรอดได้แหละ
พี่ขอขอบใจน้องพี่มากนะที่เอ็นดูรักใคร่ต่อครอบครัวพี่
พี่นึกไม่ถึงจริงๆว่าถึงเราทั้งสองครอบครัวจะพึ่งรู้จักกันไม่นานแต่ปลดภาระพี่ได้
ขอบใจๆจริงๆนะน้อง
อย่าคิดมากเลยพี่หวน ในเมื่อข้าตัดสินใจแล้วทุกๆอย่างมันเป็น
ของนอกกายทั้งสิ้น เวลาตายหรือก็เอาไปไม่ได้ สู้ให้คนที่เรารักไว้รักษามิดีหรือ
บอกตรงๆนะพี่หวนข้าและแม่เย็นไม่เคยคิดว่ามันคือของมีค่าวิเศษอะไรเลย
ฉะนั้นพี่สบายใจได้แล้วล่ะ
พ่อเชียรกล่าวเสร็จก็หันไปเรียกเจ้าชัยให้เข้ามา พลางถอดแหวนพลอยแดง
ที่เขาสวมใส่ประจำออกจากนิ้วมือ เมื่อเจ้าชัยมาแล้วก็ส่งให้เจ้าชัยเอ่ยขึ้นว่า
เอ็งเอาของพ่อที่สวมประจำไปสวมนิ้วมือให้เจ้าสาวเจ้าในอนาคตเสียนะ
เจ้าชัยก้มลงกราบบนตักพ่อเชียรด้วยคราบน้ำตาไหลริน
ในความซึ้งแก่หัวใจของมัน แล้วค่อยๆเข้าไปหาแม่สาวบงกชที่หันมายิ้มให้มัน
มันค่อยๆสวมแหวนใส่ลงไปในนิ้วนาง แต่ทว่าแหวนนั้นมันใหญ่
จึงจำเป็นต้องสวมยังนิ้วกลางแทนแต่ก็ยังหลวมๆอยู่เป็นพิธีเท่านั้น
ทั้งสองยิ้มให้แก่กันแต่ใบหน้าล้วนโชลมไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ
แล้วก็ทั้งสองก็คลานเข้ามากราบพ่อเชียรและแม่เข็มที่เอ็นดูแก่มันทั้งสอง
ตลอดจนพี่ชายมันด้วยซึ่ง ชายหนุ่มก็อวยพรให้น้องทั้งสองทันที
พี่ขอให้น้องทั้งสองจงสามัคคีปรองดองกันหนักนิดเบาหน่อย
ก็อภัยให้กันและกันนะ ใครโกรธหรือก็ให้หนีไปก่อน แล้วค่อยเข้าหา
อย่าดื้อรั้นถือทิษฐิต่อก่อน ขอให้รักเดียวใจเดียวอย่าคิดในสิ่งที่
ผิดๆเสียนะ จงจำคำพี่ต่างช่วยกันทำมาหากินไม่นานหรอกเจ้าก็
จะเหมือนพ่อแม่เราที่แก่ตัวก็สบายกายและเใจ
ยึดตัวอย่างพ่อแม่เราไว้เป็นอุทาหรณ์ไว้ ซึ่งเจ้าชัยก็เห็นมามากแล้ว
ขอให้ทั้งสองมีความสุขตลอดชีวิตของเจ้าทั้งสองด้วย
พลางหันไปทางพ่อหวนแม่เย็นเจ้าชวนพลางเอ่ยว่า
งานแต่งงานให้เป็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้เวลาประมาณ เก้าโมงเช้าเป็นฤกษ์มงคล
จะมีอุปสรรคบ้างแต่ทำอะไรไม่ได้หรอก หากพ้นวันนี้ไปแล้วจะมีเหตุการณ์ไม่ดี
เรื่องก็จะไม่จบสิ้น ตลอดจนทั้งสองจะอยู่ไปจนแก่เฒ่าได้ยากด้วยนะ
แล้วชายหนุ่มก็หันหน้าไปทางทุกๆคน ที่ต่างมองมายังเขาเป็นจุดๆเดียวกัน
ในเมื่อเราทั้งสองเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็จะบอกเกี่ยวกับเรื่องของผมให้
ทุกๆคนรู้ แต่ว่าอย่าไปแพร่งพรายอะไรให้ใครๆฟังนะ ด้วยผมเชื่อลุงป้าและน้อง
จึงได้เอ่ยเช่นนี้ เพราะนี่เวลาก็ใกล้เข้ามาแล้วอย่างไรก็ต้องเปิดเผยตัวเอง
ชายหนุ่มเอ่ยให้ครอบครัวพ่อหวนแม่เย็นฟัง ทำให้พ่อหวนแม่เย็นเจ้าชวนสงสัย
ลูกโชติจะต้องเปิดเผยอะไรอีกหรือ บอกได้เลยว่าทุกๆอย่างเป็นความลับไม่ทำ
ให้ครอบครัวเราเสียหายหรอก เชื่อพ่อเถอะลูก พ่อแม่ให้สัญญาไว้
พ่อหวนแม่เย็นเอ่ยให้ฟังรวมทั้งทุกๆคนอีกด้วย
ลูกโชติ บอกไปเถอะนะไหนๆก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วปิดบังไว้ ถึงอย่างไร
เขาก็รู้จนได้ ให้รู้ไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องตอบปัญหามากนัก
พ่อเชียรกล่าวกับลูก
จริงซิลูกบอกไปเถอะ เจ้าชัยมันจะได้รู้สักทีว่าพี่ชายมันทำงานอะไรกันนะ
แม่เข็มเอ่ยสนับสนุนทันที ดังนั้นเขาหันไปยิ้มกับพ่อแม่ ส่วนเจ้าชัยและสาวบงกช
พ่อหวนแม่เย็นเจ้าชวนก็ให้นึกฉงนใจเหมือนกัน เพราะตั้งแต่มาอยู่ก็ไม่เห็นพ่อโชติ
ไปไหนมาไหนเสียเลย ยิ่งสาวบงกชแล้วยิ่งอยากรู้ใหญ่ด้วยหล่อนเคยสอบถาม
ชาวบ้านเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้แต่ไม่ได้รับเรื่องราวอะไรเลย ต่างก็หันมามองทาง
ชายหนุ่มทันที
ด้วยอีกเวลาไม่นานนักผมก็ต้องไปรับหน้าที่การงานแล้วล่ะครับ เพื่อไม่ให้
ทุกๆคนสงสัยประพฤติกรรมของผม จึงขอบอกเสียบัดนี้เลย แต่อย่าลืมที่ผม
บอกเอาไว้นะครับ ผมคือ พล.ต.ต. วีระโชติ เชียรเข็มสกุล หัวหน้าสถานีตำรวจ
ภายในจังหวัดนี้และควบคุมอาณาเขตรอบด้านของจังหวัดนี้ด้วยครับ
ผมต้องขอโทษด้วยที่จำเป็นต้องปิดบังตัวเองไว้ก่อนด้วยเป็นความลับของทางราชการ
ฉะนั้นงานแต่งน้องนี้ผมถึงได้กล้ายืนยันรับรองความปลอดภัยทั้งหมดด้วยตัวเอง
หากผมไม่มั่นใจแล้ว ผมจะไม่กล่าวอะไรเช่นนี้หรอกครับ
นายพลตำรวจหรือๆๆๆๆ!!!!!!?????
เสียงทุกๆคนอุทานกันเสียงดังระงมไปหมด ไหนเลยจะคิดว่าหัวหน้าสถานีตำรวจ
ที่ทุกๆคน ทั้งเสี่ยเม้ง กำนันมั่นหรือใครๆนั้นอยากจะรู้ ที่แท้มาอยู่ที่นี่เองแหละ
เล่นเอา ครอบครัวพ่อหวนถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดไปตามๆกัน
คิดไม่ถึงจริงๆๆ?????.....ว่าลูกพ่อเชียรแม่เข็มจะเป็นถึงนายพลตำรวจใหญ่อยู่ที่นี่
ซึ่งทุกๆคนทั้งคนไม่ดีและคนดีต่างคอยชะเง้อรับฟัง และอยากจะเห็นหน้าไว้ ทุกๆคน
ที่ประกอบสิ่งดีต่างพากันชื่นชมกันไปทั่ว
โอ้ยๆๆๆไม่เย็นข้าจะเป็นลมขอยาดมหน่อย
ร่างของพ่อหวนถึงกลับหงายหลังพิงเมียทันทีด้วยเหตุการณ์ผ่านมา
เข้าสู่สมองอีกครั้งหนึ่ง ในการกระทำความผิดเอาไว้ รีบคว้ายาดมจากเมียมาสูดเอาๆ
พี่โชติเป็นนายพลตำรวจใหญ่จริงๆหรือ???........
สาวบงกชร้องอุทานลั่น ภายในใจนึกเสียดายสิ่งที่หล่อนคิดปรารถนากลับไม่ได้
ดังใจคิด ด้วยความลังเลเลือกไปเลือกมาของหล่อนนั่นเอง มารู้อีกทีก็สายไปเสียแล้ว
ใจหล่อนสั่นสะท้านพาลจะเป็นลมหน้ามึดให้ได้ แต่ก็ต้องบังคับไว้ไม่แสดงอาการ
ออกมา พลางหล่อนหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง ด้วยอาการน้อยอกน้อยใจยิ่งนัก
คิดไม่ถึงๆจริงๆ เราคงจะไม่มีวาสนาต่อกัน หล่อนพยายามปลอบใจตัวเอง
มือไม้สั่นเทาไปหมด จนเจ้าชัยก็ตกตลึงแต่มีสติได้รีบเข้ามาจับมือสาวเจ้าไว้นั่นแหละ
อาการสั่นเทาจึงค่อยทุกเลาลง หยาดน้ำตาพลันรินหลั่งอีกครั้งหนึ่ง ปากพรึมพรำๆว่า
นึกไม่ถึงจริงๆ
อยู่ตลอดเวลาหล่อนเองก็สงสัยถึงความมีสง่าราศรีผิดคนธรรมดา
ยิ่งโดยเฉพาะพ่อหวนนั้นที่เอนหลังพิงร่างเมียไว้ถึงกับปากอ้าตาค้าง
สะดุ้งตกใจไปทั้งตัว
ร่างชราสั่นเทาไปในสิ่งที่คาดคิดไม่ถึง รีบคว้ายาดมเมียมาดมอีกก่อนจะเป็นลมไป
เขาไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้นี่แหละที่บงการในการจับกุมไม้เถื่อนที่ผ่านมา
ตนเองแทบจะเอาชีวิตไม่รอดจนมากลับใจได้ จวบทุกวันนี้จนมาเป็นทองแผ่นเดียว
กันนั่นแหละถึงจะได้รู้ความจริงทั้งหมด ใบหน้าขาวซีดเผือดไปกลัวในสิ่งที่ผิดของตน
แต่ก็ยังถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
พ่อโชติไม่ได้ปดพ่อนะ เป็นความจริงหรือหูพ่อฝาดไปหรือเปล่า????.....
เสียงพ่อหวนสั่นตะกุกตะกักไปทันที ด้วยใบหน้าที่ขาวปราศจากสีเลือด
ชายหนุ่มหันมายิ้มพลาง เข้าไปเขย่าร่างพ่อหวนไว้มิให้ตกใจมากแล้วเอ่ยขึ้นว่า
จริงครับพ่อหวน ในการจับไม้เถื่อนคราวที่แล้วผมรู้ว่าพ่อหวนร่วมมือด้วยกันแต่
ว่าถึงอย่างไรพ่อหวนก็ต้องมาเป็นทองแผ่นเดียวกับครอบครัวผม
จึงสั่งให้ลูกน้องผมเว้นทางหนีของพ่อหวนไว้ให้ พ่อหวนไม่สังเกตุหรือว่า
เหตุใดพวกมันต่างตกตายไปตามๆกันมีรอดก็พ่อหวนคนเดียวเท่านั้น จับกุมได้ก็เฉพาะ
คนขับรถเท่านั้นที่ยินยอม เพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานประกอบการให้คำสารภาพนี้
แล้วก็ไม่มีใครไล่ติดตามพ่อหวนอีกด้วย ตลอดจนการสืบสาวเรื่องราวผู้ที่
เกี่ยวข้องงานนี้ทั้งหมด ทั้งๆที่ผมและลูกน้องรู้ดีว่าพ่อหวนเป็นหนึ่งในหัวหน้านั้น
หากผมไม่สั่งไว้ก่อนจะเข้าจับกุม ป่านนี้คงจะมีชื่อพ่อหวนเท่านั้นแล้วล่ะครับ
อ้อๆๆน้องชวนก็เหมือนกัน คราวไปถล่มบ้านกำนันมั่นนั้นในคืนนั้นกับเพื่อน พี่เอง
รู้เรื่องราวหมดแล้ว ยังสั่งให้ลูกน้องไม่ต้องติดตามสืบสวนสอบสวน
ในเรื่องนี้เหมือนกัน ให้ดำเนินการเพียงด้านกำนันเท่านั้นด้วยพบหลักฐานแล้วว่า
ไม่ใช่คนต่างประเทศ เป็นคนกันเองที่มาแก้แค้นกำนันมั่นด้วยอาวุธสงครามต่างประเทศ
เพราะน้องพี่เป็นคนดีมากๆ สมควรแล้วล่ะที่พวกมันจะโดนเสียมั่ง
ที่จริงพี่จะใช้คนไปทำลายมันด้วยก่อนแล้วล่ะ
แต่น้องพี่มาชิงลงมือทำงานเสียก่อน สบายใจได้แล้วน้อง บอกเพื่อนๆน้อง
ด้วยไม่ต้องห่วง แต่หากมีอะไรควรมาถามพี่ก่อนก็จะดีนะหรือว่าจะให้เพื่อนๆน้องมา
ร่วมกิจกรรมกับพี่ก็ได้ เพื่อจะได้มีสิ่งป้องกันตัวจากตำรวจทั้งหลาย พี่จะออกหนังสือ
รับรองว่าเป็นคนของทางราชการสืบราชการลับ มีคนๆหนึ่งสมองเฉียบแหลมมาก
คนนี้พี่ต้องการนัก ด้วยหนักแหน่นสมองแหลมคมวางแผนงานได้รัดกุม หากมาทำงาน
ให้ทางราชการจะเป็นประโยชน์มาก หากเพื่อนน้องที่มีความรู้นั้นมาทำงานกับพี่จะได้
รับการบรรจุเป็นตำรวจทันทีเพียงแต่ทำหน้าที่สายสืบ ไม่ต้องแสดงตัวเท่านั้นพอ
ทั้งยังสามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฏหมายในอาณาเขตที่พี่ควบคุมดูแลได้อีกด้วยจะได้
เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ดีกว่าไปตะลอนๆไม่มีหลักแหล่ง หากเป็นตำรวจสายสืบก็ให้
ทำตัวแบบปกติธรรมดาเท่านั้น มีอะไรก็รายงานลับๆมาเพราะงานพี่จะใช้โค๊ตลับเป็น
การสั่งงานกันตลอดเวลา น้องพี่ด้วยก็ควรจะมาร่วมมือกับพี่อีกคนด้วยนะ
อีกอย่างหนึ่งพี่สั่งเด็กพี่ทุกๆคนว่า เพื่อนน้องนั้นให้คอยช่วยเหลือไว้อีกทางหนึ่งด้วย
เจ้าชวนถึงกับคลานเข้าไปกราบพี่โชติมันทันที น้ำตาลูกผู้ชายไหลริน ชายหนุ่ม
ต้องพยุงตัวขึ้น บอกว่า
ขอให้ดูแลแม่ไว้ให้ดีๆนะ อ้อๆๆให้เพื่อนเจ้าหากใครต้องการไม่มีที่อยู่
เป็นหลักแหล่ง ให้เขามาพักกับเจ้าด้วยจะได้ช่วยกันทำมาหากินต่อไปบังหน้าไว้
แล้วบอกให้ทุกๆคนไม่ต้องให้ใครรู้ ให้มาทำงานกับพี่ ตอนนี้ทางนี้ที่นี่ก็ได้ พี่จะได้ทำ
รายงานส่งไปทางกรุงเทพฯ สั่งบรรจุเป็นตำรวจลับต่อไป ทุกๆคนให้ขึ้นตรงต่อพี่เท่านั้น
ให้รีบๆหน่อยนะชวนพรุ่งนี้ก็ได้ เพื่อนน้องเท่านั้นนะการสมัครให้น้องเดินทางเข้า
ไปหาสารวัตรชัชวาลย์โดยมาเอาหนังสือจากพี่ไป
จะได้รับใบสมัครไปให้เพื่อนทำไว้แล้วส่งให้สารวัตรชัชวาลย์
หรือผู้กองจรัสผู้กองจำลองก็ได้ เอาอย่างนี้ดีกว่าให้มาเอาหลักฐานสมัครจากพี่ดีกว่า
จะได้ไม่ต้องกระโตกกระตากให้ตำรวจนอกรีดรู้ได้ อาจจะเป็นภัยในภายหน้าได้
พรุ่งนี้ให้มาเอาหลักฐานจากที่ในตอนเย็นๆก็แล้วกัน ให้มาหาพี่เอาหลักฐาน
ไป แต่ว่าควรให้น้องมาเอาหลักฐานทางพี่จะดีกว่า พี่จะให้คนไปเอาหลักฐานมาเก็บไว้
เลือกคนที่ไว้ใจได้อีกด้วย พี่เชื่อใจน้องชวนเสมอจะได้ช่วยปราบปราม
พวกนี้ให้ราบคาบหมดไปในบริเวณถิ่นแถบนี้เสียที จะได้ร่มเย็นเป็นสุขสักที
ส่วนอาวุธนั้นก็ใช้ของน้องนั่นแหละดี จะได้อำพรางตัวได้อีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนทางพวกไอ้แม้นมันคงไม่ยอมแน่ๆ แต่ว่าพี่ได้แจ้งให้เด็กพี่ทราบล่วงหน้า
ไว้ก่อนแล้ว คงอีกไม่ช้าหรอกมันจะต้องถูกจับกุมอีกครั้งหนึ่งด้วยมียาเสพย์ติดมากมาย
และสั่งพวกเพื่อนๆน้องด้วยล่ะให้คอยดูเพียงห่างๆไว้ แล้วมารายงานกับพี่โดยตรง
ส่วนงานมงคลนี้พวกน้องไม่ต้องลงมือหรอก เด็กของพี่จะไปดักหน้าจัดการ
จนเกลี้ยงไม่เหลือถึงเหลือก็แทบปางตายแหละน้อง
ชายหนุ่มสั่งหนุ่มชวนทันที แล้วหันไปทางพ่อหวนพลางบอกว่า
งานบวชคราวนี้พ่อเองก็ไม่ต้องห่วงอะไรหรอก ทุกๆอย่างจะเรียบร้อยไม่มีปัญหา
เพียงอย่าสึกออกมาเท่านั้นเอง หากพ่อสึกเมื่อไหร่ไม่เกินสิบห้าวันพ่อต้องตายทันที
หมั่นร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อให้มากๆด้วย บางที ผมอาจจะเอาตำราต่างๆ
ที่ผมมีไว้ให้พ่อไปศึกษาร่ำเรียนอีกทางหนึ่งด้วย อีกต่อไปพ่อหวนเองจะต้อง
ได้ครอบครองวัดโคกอีแร้งต่อไปด้วยครับ..................
* กิ่งโศก * ผู้สานงาน