อทิสมานกาย ๘๐

กิ่งโศก

ร่างหญิงสาวสะดุ้ง  ขณะที่ก้มหน้าด้วยความเขินอายอยู่นั้น การสนทนาของพ่อ
และพ่อเชียรหล่อนได้ยินทุกคำพูด ภายในใจหรือก็เกิดความลังเลใจ  กำลังว้าวุ่นนัก
รักพี่หรือให้เสียดายน้อง ครั้นจะตอบตกลงหรือก็ยังคิดถึงรูปร่างอันสง่าผ่าเผยของพี่
อยู่ก็ให้กระอึกกะอักกะอวนใจชอบกล
   ว่าไง่ละแม่หนู่บงกช  เห็นมัวแต่ขมวดชายเสื้ออยู่อาเองนั้นตามใจหนูหากไม่ชอบ
ก็ตอบได้เลยนะหนู  ไม่ต้องเกรงใจอาหรอกจ๊ะ????....
     พ่อเชียรเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นร่างหญิงสาวสะท้านไปทั้งตัว
   นั่นซิลูก อาเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอกหากหนูไม่ชอบหรือว่าคนอื่นที่หนูเลือกไว้ก่อน
แล้วก็บอกพ่อและอาเขาได้เลยนะ จะได้จบๆกันไปอาเขาคงจะไม่ว่าอะไรหนูหรอกจ้า
ถึงอย่างไรเราสองครอบครัวก็รักกันเหมือนญาติกันอยู่แล้วล่ะ???...
       เหมือนหล่อนจะตัดสินใจได้ก็เงยหน้าขึ้น แล้วไปถามพี่ชายแก้เขินว่า
   พี่ชวนล่ะจะเห็นชอบกับพ่อหรืออาหรือเปล่าล่ะ???...
   เฮ้ยๆๆ!!!!!....ข้าไม่เกี่ยวนะโว้ยกช  มันเรื่องของน้องล่ะ
ที่จะตัดสินใจเอาเองพี่ไม่ได้ไปแต่งงานกับเขานี่หว่า  จะมาถามพี่ทำไม
  ถามหัวใจของน้องซิว่าชอบคนไหนกันแน่
      ฮ่าๆๆๆ  ทั้งพี่โชติและน้องชัยเขาก็ดีทั้งคู่แหละ  
แต่นี่พ่อเชียรเขาถามว่าจะขอเจ้าให้กับเจ้าชัยมันนะ  ไม่ได้ขอข้าให้ชัย
มันเสียเมื่อไหร่ล่ะ   เขาขอให้กับเอ็งนี่หว่า???...
       เจ้าชวนเอ่อขึ้นก็หัวร่อลั่นเสียงดัง   ฝ่ายเจ้าชัยซึ่งนั่งฟังผู้ใหญ่คุยกัน
ก็ถึงกับอมยิ้มแล้วเอ่ยว่า
   หากไม่เลือกข้าหรือจะเลือกพี่โชติก็ได้นา กช  ไม่นั้นข้าไม่ว่าอะไรหรอก
 การมีครอบครัวนั้นมันต้องแล้วแต่ใจผู้อยู่ จะไปบังคับใจกัน
ไม่ได้หรอก จริงไหมพ่อ???....
 
        เจ้าชัยหันไปถามพ่อเชียรทันที  แม่เข็มได้เห็นอาการเช่นนี้ก็เอ่ยกับแม่เย็นว่า
   แม่เย็นทางข้านั้นไม่ต้องกังวลอะไรมากนักหรอก  หากอีหนูมันไม่สมัครพร้อมใจ
ก็อย่าไปบังคับมันก็แล้วกันนะ
   เรื่องนี้แม่เข็มข้าเองก็ตามใจพี่หวนเขาอยู่แล้ว เขาเป็นพ่อ 
 ถึงแม้ว่าข้าเป็นแม่ก็จริงอยู่หรอกแต่เรื่องพรรค์นี้ การสร้างบ้านเรือนก็ต้อง
ตามใจผู้อยู่แหละ แม่เข็มคงคิดเหมือนข้านะ
   ก็เพราะข้าคิดเหมือนแม่เย็นนะซิ  เห็นอาการหลานมันยังไงๆชอบกล
ก็เลยมาถามแม่เย็นนี่แหละ
   อ้าวว่าไงลูกบอกมาได้เลยไม่ต้องห่วงหรอกนะ  หากมีคนอื่นอยู่แล้ว 
ข้าเองก็ขอถอนคำพูดก็แล้วกันจะได้ไม่ต้องสร้างความลำบากให้กับหลานเรา
     พ่อเชียรเอ่ยขึ้นแล้วก็หัวร่อ  พลางหันไปทางพ่อหวนทันที
   หากเด็กมันไม่พร้อมไม่เต็มใจ ก็ไม่เป็นไรหรอกพี่     ที่ข้าขอนั้นเพื่อให้เจ้าชัย
 ส่วนเจ้าโชตินั้นข้าเองได้วางแผนในใจอยู่แล้วล่ะพี่หวน   
แต่บอกพี่หวนไม่ได้เท่านั้นเองแหละ  เห็นเจ้าชัยมันเป็นหนุ่ม
สามารถรับผิดชอบครอบครัวได้   ข้าก็ไม่เห็นใครหากอีหนูไม่เต็มใจ
ก็ไม่เป็นไรพี่หวนไม่ต้องคิดมากนะ  ถึงอย่างไรเราสองครอบครัวก็คงจะ
รักกันเหมือนเดิมแหละ หากงานอีหนูแต่งเมื่อไหร่ก็มา
บอกกันด้วยก็แล้วนะพี่
     พ่อหวนก็หันไปทางลูกสาวที่มัวแต่ขมวดผ้าก้มหน้าอยู่ไม่เอ่ยประการใด
 เมื่อเจ้าไม่ต้องการก็เลิกพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้วล่ะ  ข้าจะได้ไปพูดเรื่องอื่นต่อนะ
   ที่ข้ามาวันนี้ก็จะบอกน้องเชียรว่าข้าได้ลาออกจากกำนันแล้วและทางหลวงพ่อท่าน
ก็ดูฤกษ์ยามให้แก่ข้าไว้ด้วยว่า  หากได้บวชเดือนหน้าตรงกับวันอาทิตย์ต้นเดือน
ก็จะดีอุปสรรคต่างๆที่เคยทำไว้ก็จะได้หายหมดไป  ข้ากลุ้มใจไม่รู้จะปรึกษาใคร
ก็เห็นน้องนี่แหละที่ควรมาปรึกษาด้วยน้องสนิทสนมกับหลวงพ่ออยู่นะ
 
   เรื่องงานบวชพี่นี้อย่าหาข้าละลาบละล้วงเลยนะพี่  ข้าขอเป็นเจ้าภาพเอง
แหละจะได้ไหมพี่???...
   อืมมๆๆๆก็ดีเหมือนกันจะได้สร้างกุศลแก่น้องด้วย บอกตรงๆนะ
ถึงแม้ว่าข้าจะรู้จักคนมากอยู่ก็ตาม
แต่ข้าเองก็หาได้ไว้ใจใครไม่  มาคบกับน้องนี่แหละรู้สึกว่าช่างถูกชะตากัน
เสียเหลือเกิน งานนี้เรามาช่วยกันคนละครึ่งก็แล้วกันนะจะได้บุญทั้งสองฝ่าย
  คนอุ้มบาตรให้น้องพี่เป็นคนอุ้มบาตรก็แล้วกันด้วยข้าถือว่าน้องเหมือน
น้องแท้ๆของข้าแหละเชียรเอ๋ยพ่อแม่ก็ตายไปตั้งนานแล้ว  ส่วนญาติต่างๆก็หนีหาย
กันไปหมด  ไปอยู่ทางกรุงเทพฯโน้นแนะผิดใจกันที่จะให้ข้าขายที่พ่อแม่สร้างไว้
        ข้าไม่ยอม พ่อแม่ยกให้แก่ข้าคนเดียว   ข้าไม่เอาจะเอาแค่นิดเดียวพอเพื่อทำกิน
เท่านั้น   ด้วยท่านดูออกว่าหาให้แก่พี่ๆน้องมันต้องนำไปขายแน่นอน
จึงแบ่งให้เท่าๆกันหมด  ก็จริงอย่างที่พ่อแม่ข้าคิดไว้ พวกมันขายที่เสียหมดแล้ว
มาขอทางข้าเพื่อทำทุน พวกเขาเอาแต่กินเล่นจะไปเหลืออะไรเล่า  พอนานๆเข้าก็
       มาหาข้าให้ช่วยขายที่ของข้า  ข้ากับแม่เย็นไม่ยอมจึงถึงขนาดตัดพี่ตัดน้องกันไป
ตั้งนานแล้ว หนีไปกรุงเทพหมดไม่รู้เป็นตายร้ายดีอะไร ข่าวก็ไม่เคยส่งมาอีกเลยล่ะ
   ข้าเองก็เหมือนพี่นั่นแหละ  เห็นพี่ครั้งแรกที่กุฎีหลวงพ่อก็ให้เกิดนึกรักใคร่
ชอบพอกันเหมือนดังว่าเราเคยทำบุญมาด้วยกันแหละ
     อ้าวๆๆๆอีหนูร้องไห้ทำไมหรือว่าอาทำให้เจ้าเสียใจหรือเปล่าน๊ะ
  พ่อเชียรหันไปทางสาวบงกชถามทันที  พ่อหวนทั้งแม่เย็นแม่เข็มก็หันไปมอง
รวมทั้งเจ้าชัยและเจ้าชวนด้วย
 
   เป็นอะไรไปหรือน้อง  แล้วร้องไห้ทำไมกันล่ะ 
 ขัดข้องหมองใจอะไรหรือเปล่า   
เจ้าชวนเอ่ยถามน้องสาวทันที
   พี่ชวนก็ฉันทำให้พ่อต้องเป็นกังวลใจเรื่องฉันอีกเวลาไปบวช
จิตใจก็จะคอยแต่กังวล  ส่วนชายอื่นๆนั้นฉันไม่มีหรอก
ด้วยไม่ได้สนใจอะไรกับใครเลยทั้งสิ้นจ๊ะพี่
และยิ่งมาได้ยินเรื่องของพ่อแม่อีกก็เลยสงสารพ่อแม่ที่ต้องทนลำบากเพื่อลูก
ก็เลยคิดจะทดแทนพระคุณท่านจ้าพี่
     หญิงสาวกล่าวแล้วก็ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากชายพกออกมาซับน้ำตา
   เรื่องนี้พ่อคงจะไม่คิดอะไรหรอก  เมื่อไม่มีคนอื่นก็ไม่เป็นไร
 หรือจะยังไม่คิดจะออกเรือนก็ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อแม่เราเป็นคนอย่างไร เอ็งก็รู้นี่นา
     เจ้าชวนพี่ชายปลอบน้อง พลางยกมือขึ้นลูบหลังน้องสาวมันเบาๆเหมือนให้กำลังใจ   
แล้วหญิงสาวก็เงยหน้าหันไปทางพ่อทันที
   เรื่องแต่งงานนั้นเพื่อไม่ให้พ่อต้องกังวลจะให้แต่งกับใครก็ได้พ่อ  ที่หนูร้องไห้
มาคิดๆดูหนูเองคงเป็นบาปหากทำให้พ่อต้องกังวลต่อไปอีกจ๊ะ
     คราวนี้เล่นเอาพ่อเชียรพ่อหวนแม่เย็นแม่เข็มต่างหันไปมองหน้ากัน 
ส่วนเจ้าชัยก็สะดุ้งสุดตัวว่าเรื่องนั้นคงจะจบสิ้นไปแล้ว ซึ่งเจ้าชัยเองก็ทำใจได้
ด้วยมันเป็นคนที่รักพ่อแม่มากทุกๆอย่างปล่อยให้พ่อแม่จัดการทั้งสิ้น
เหมือนฟ้าผ่ากลางวงเมื่อได้ยินสาวเจ้ากล่าวเช่นนี้
 
   อ้าวๆๆๆๆ.....????........
พ่อเชียรกล่างได้แค่นั้นก็ชะงักไม่เอ่ยอะไรอีกเลย   ส่วนพ่อหวนก็หันไป
ทางลูกสาวทันทีเอ่ยว่า
   ก็ไม่เป็นไรหรอกลูกข้าเองทำใจได้แล้ว เพราะถึงอย่างไร
เจ้าชวนมันก็ปกปักรักษาได้ ทุกๆวันนี้มันอายุถึงปูนนี้ยังไม่สนใจสาวๆใดเลยล่ะ
  นอกจากมันจะคุยเล่นสนุกๆเท่านั้นเอง  ไม่ต้องห่วงพ่อหรอกลูก
   แต่ฉันรู้นะพ่อที่พ่อกล่าวปากกับใจไม่ตรงกันด้วยเป็นห่วงฉัน
 อีกอย่างหนึ่งหากฉันไม่แต่งงานพี่ชวน
ก็คงจะไม่ได้มีเมียกับเขา ด้วยนิสัยพี่ชวนข้ารู้ดีเขารักพ่อแม่และน้องมากๆ
กว่าเรื่องส่วนตัวเสียอีก
   ถ้าอย่างนั้น แล้วเอ็งจะว่าอย่างไร???.ล่ะลูก
   จ๊ะฉันยินยอมแต่งงานไม่ว่าจะเป็นพี่ชัยหรือพี่โชติใครก็ได้จ๊ะพ่อ
 ฉันมาไตร่ตรองแล้วทั้งสองเป็นคนดี
และดีกว่าคนอื่นๆในละแวกนี้เสียอีก  อีกอย่างหนึ่งพ่อเองจะได้ไม่ต้องกังวลใจ
ในการบวช พี่ชวนหรือก็สามารถดูแลแม่ได้ 
จะได้มีเมียสักทีและมาช่วยแม่อีกทางหนึ่งด้วย   หากมาห่วงแต่ฉันคนเดียว
   เอาล่ะพี่หวน เรื่องบวชไว้ก่อนก็แล้วกันเพราะตั้งเดือนหน้าแน๊ะ 
 เอาเรื่องนี้ก่อนก็แล้วกัน ตกลงข้าขออีหนูให้แต่งกับเจ้าชัย พี่จะว่าอย่างไรล่ะ???...
 เรื่องจัดงานใหญ่โตเกรงว่าจะไม่ทันการณ์นะพี่ ด้วยเดือนหน้า
     หลวงพ่อท่านทำนายไว้ไม่ค่อยจะผิดพลาดมากนักอีกด้วยล่ะ
 
   เรื่องจัดงานแต่งพี่เองก็ไม่ชอบให้ใหญ่โตเหมือนกัน เห็นมามากแล้ว
แต่งเสียใหญ่โตอยู่กันได้ไม่นานก็ต้องเลิกร้างกันไป  คนที่แต่งงานไม่ใหญ่โตนัก
อยู่กันจนแก่เฒ่าเหมือนข้ากับแม่เย็น  จริงไหมล่ะแม่เย็น
       เล่นเอาแม่เย็นถึงกับสะดุ้งสุดตัว เพราะไม่คิดว่าพี่หวนจะเอาความจริงมาพูดในที่นี้
 ก็อ้อมแอ้มตอบว่า
   จริงจ๊ะพ่อเชียรเราสองก็แต่งงานตามประเพณีเท่านั้นหาได้ใหญ่โต
 มีผู้ใหญ่มาสู่ขอแล้วแค่ทำบุญเลี้ยงพระ  ชาวบ้านไม่ได้ออกการ์ดอะไรหรอก
เพียงแค่บอกคนสนิทๆเท่านั้นเองแหละจ้า
   ตามที่พี่หวนแม่เย็นกล่าวก็ตรงกับข้าเหมือนกัน ข้าเองกับแม่เข็ม
ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหญ่โตตอนนั้น
ข้ามันยากจนทางแม่เข็มเขามีฐานะกว่าข้ามากนัก  แต่อาศัยข้าเองเป็นคนมุมานะ
เหมือนเจ้าชัยนี่แหละถึงได้มีวันนี้มา  และยังอยู่กันมาจนแก่เฒ่า
ถึงทุกวันนี้แหละแม่เย็น
       พ่อเชียรและแม่เข็มเอ่ยพร้อมๆกันเหมือนจะแย่งกันพูด
   คนเราไม่จำเป็นต้องร่ำรวยหรอก ความร่ำรวยมาสร้างที่หลังก็ได้ 
หากชายนั้นไม่กินเหล้าเมายาติดการพนัน มุ่งแต่ทำงานบุกเบิกคิดหาของใหม่ๆมาเสริม
 ทำตามพระบาทสมเด็จพ่อหลวงท่านที่ทรงวางรากฐานไว้ให้แล้ว
 ทำแบบอย่างที่พระองค์ทรงวางไว้  เช่นไร่สวนข้าเองก็ปลูกแบบท่านหมด  
 
      งานการบุกเบิกไร่นาสวนอาศัยพี่เชียรเขาหมั่นติดตามข่าวคราวเสมอๆๆ 
หาพันธุ์ต่างๆมาเพราะทดลองปลูกและชำไว้เพื่อจะได้ขายต่ออีกทางหนึ่ง
 ผลผลิตก็ดกลูกหรือก็ออกใหญ่จ้า
     จึงเก็บขายได้ทั้งปีอีกทั้งยังมีคนมาขอซื้อพันธุ์ไม้  ที่พี่เชียรแยกพันธุ์ผสมเองเพาะไว้
ล้วต่างมาซื่อไปในไร่ตนเองไปอีก   ก็ขายได้เป็นล่ำเป็นสัน ของในไร่สวนไม่เคยขาด 
ไม่ช้าเราสองก็มีฐานะกระเตื้องขึ้นมาเองจนถึงบัดนี้แหละจ้าแม่เย็น
   แม่เข็มเอ่ยให้ฟังแก่ทุกๆคน
   ใช่แล้วล่ะพี่หวนแม่เย็น  ข้าสองช่วยกันบุกเบิกส่วนไร่นาสวนนั้นข้าลงมือทำเอง
 แม่เข็มคอยให้กำลังใจแก่ข้า ช่วยเล็กๆน้อยๆแค่นี้  ข้าเองก็ชื่นใจแล้วล่ะ
          กล่าวจบก็หันไปหลิ่วตากับแม่เข็มทันที  เล่นเอาแม่เข็มขว้างชานหมาก
ใส่หน้าพ่อเชียรจนเลอะไปหมด แต่พ่อเชียรกับนิ่งเฉยพลางหัวร่อลั่นบ้านไปเสียอีก
      ทำเอาทุกๆคนหัวร่อกันลั่น  แม้แต่สาวบงกชเองก็หัวร่อขึ้นมาได้
 เมื่อได้ยินผู้ที่จะมาเป็นพ่อผัวแม่ผัวเอ่ยขึ้นเช่นนี้  ทำให้หล่อนคิดว่าอันความร่ำรวย
หากเราไม่ช่วยกันและกันก็ยากจะเอาตัวรอด  ยิ่งคิดถึงเจ้าชัย
มันก็เป็นคนมุมานะงานนัก ทุกวันนี้งานในไร่นาสวนมันก็ทำคนเดียว
 อาศัยพ่อก็เป็นบางครั้งอีกอย่างหนึ่งฐานะของพ่อเชียรและแม่เข็มตอนนี้ก็มั่งคั่งนัก
  ยิ่งคิดยิ่งเห็นความดีของครอบครัวนี้ด้วยถือเป็นกันเอง
ไม่ได้วางตัวหยิ่งยโสโอหังสักนิดว่าข้ามีเงินมากมายกายกอง
 ถึงมีเงินมีทองมากมายใครๆก็ดูไม่ออก  จนสะดุ้งเมื่อได้ยินพ่อเอ่ยขึ้น
   ถ้าอย่างนั้นลูกตกลงแต่งกับเจ้าชัยก็แล้วกันนะลูก
พ่อหวนเอ่ยขึ้นทันที  กลัวลูกสาวจะเปลี่ยนใจขึ้นมา
 
   ตามใจพ่อก็แล้วกันจะให้แต่งฉันก็แต่งตามพ่อต้องการก็แล้วกันจ๊ะพ่อ
หญิงสาวเอ่ยขึ้น
   งั้นแม่เข็มเข้าไปหยิบสร้องเพชรเส้นใหญ่มาหมั้นหนูบงกชก่อนก็แล้วกัน
 หากไม่เป็นปัญหาอาทิตย์หน้าก็แต่งงานกันเราจะได้แห่ขันหมากไปบ้านพี่หวน
   อ้อๆๆๆแล้วพี่หวนจะเรียกสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่ล่ะ
ข้าจะได้จัดการให้เรียบร้อยไม่อายใครๆเขา
   เรื่องสินสอดทองหมั้นนั้นข้าและแม่เย็นไม่เรียกร้องอะไรหรอกน้องเชียร
 เพียงแค่ขอให้รักเอ็นดูอีหนูเท่านั้นก็พอเท่าไหร่ก็เท่านั้นแหละ
พ่อหวนเอ่ยตัดบท  ดีเหมือนกันอาทิตย์หน้าแต่งงานกันเสีย 
ส่วนขันหมากไม่ต้องใหญ่นะจะเอิกเกริกเกินไปนักนะ
เพียงเอาแค่เป็นขบวนแห่ก็แล้วกันไม่ต้องมีกลองยงกลองยาวดนตรี
อะไรหรอกเท่านั้นพอ  ทางข้าก็จะงานรับไว้ แต่ว่าต้องให้เจ้าชัยมาอยู่กับข้า
สักเดือนหนึ่งนะตามประเพณีตามปกติต้องปีหนึ่งแต่ไม่ล่ะ
ข้าขอเพียงเดือนเดียวก็พอ  แม่เย็นจะว่าอย่างไรไหมล่ะ????....
   ข้าเองก็ตามใจพี่หวนก็แล้วกัน  แต่งเสร็จครบกำหนดหนึ่งเดือน
ถึงให้ลูกเราไปอยู่บ้านเขาก็แล้วกันเรือนหงเรือนหอไม่ต้องก็ได้อยู่ที่บ้านนี้แหละ
บ้านหรือก็ใหญ่โตกว้างขวางอยู่แล้วล่ะ  ส่วนทางโน้นข้าไม่ต้องห่วงหรอกด้วย
มีเจ้าชวนคอยดูแลอยู่   พี่ไปบวชให้สบายใจได้แล้วล่ะนะแล้วข้าจะตามไปทีหลัง
 
   เรื่องนี้ข้าหมดห่วงแล้วล่ะ  แต่งานนี้เป็นห่วงแต่ พวกกำนันมั่นเท่านั้นเอง
ด้วยมันเคยมาขอลูกสาวเราไว้ก่อน แต่อีหนูไม่ยอมข้าก็เลยปฏิเสธไป ตอนนี้ข้า
ไม่มีตำแหน่งกำนันอีกแล้ว  เกรงว่ามันจะมารังควาญเท่านั้นเอง
     ด้วยตอนนี้ได้ข่าวว่ามันได้ประกันตัวออกมาด้วยแล้ว และทำให้พวกมันกำเริบ
เสิบสานกันใหญ่อีกด้วยล่ะ
   เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อหวนแม่เย็น  ข้ารับผิดชอบเองจ้าหากมีเรื่องก็
คงจะสนุกๆกันละคราวนี้ แต่งน้องทั้งทีให้รู้ไปว่า ระหว่างข้ากับกำนันมั่นไอ้แม้น
ใครจะเหนือกว่าใคร
    เสียงนั้นลอดเข้ามาทุกๆคนสะดุ้งหันไปมอง  ก็เห็นลูกชายคนโตของพ่อเชียร
แม่เย็นก้าวออกมาจากห้องพูดขึ้น แล้วเข้ามาร่วมนั่งสนทนาด้วย
พร้อมทั้งยกมือไหว้พ่อหวนอดีตกำนัน กับแม่เย็นทันที
   หากได้ยินพี่โชติกล่าวเช่นนี้ข้าเองก็หมดห่วง ถึงอย่างไรข้าเองก็ยังมีพวกอยู่
บ้าง   หากมันรังแกมาข้าก็ไม่ปล่อยมันหรอก พ่อแม่น้องสบายใจได้จ๊ะ
      เจ้าชวนก็เอ่ยขึ้นบ้าง พลางหันไปยกมือไหว้พี่โชติทันที  ชายหนุ่มรับไหว้ก็เอ่ยขึ้น
   นั่นซิน้องชวนก็ใช่เล่น ข้าเองก็รู้ทั้งหมดแล้วล่ะ  แต่ข้าเองทำเฉยๆไว้เท่านั้น
และยังสั่งเขาไม่ให้ติดตามผลงานเรื่องนี้      เพียงแต่ด้านกำนันมั่นเท่านั้นเอง
     คราวนี้เล่นเอาพ่อหวนแม่เย็นสาวบงกชถึงกับอ้าปากค้างไปตามๆกัน  ทำไม
ชายหนุ่มถึงได้รู้เหตุการณ์ไปหมดทั้งๆที่  รู้เพียงว่าอยู่แค่ในบ้านเท่านั้นเองตามที่
หล่อนเคยสอบถามชาวบ้านที่ผ่านมาทางนี้เท่านั้น ว่าเคยเห็นลูกพ่อเชียรแม่เย็น
ที่ชื่อโชติบ้างไหมก็ไม่มีคนรู้จักเสียด้วย
     แต่นี่เขาถึงออกมารับผิดชอบเพียงผู้เดียวหากมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ทุกๆคนยิ่งสงสัยนัก
เพียงแต่ไม่กล้าสอบถามเท่านั้น
 
    ทั้งหมดนี้มีแต่พ่อเชียรแม่เข็มสองคนเท่านั้นที่รู้และเจ้าชัยพอระแคะระคายบ้างด้วย
ชายหนุ่มได้ฝึกปรือวิชาการต่อสู้ให้ทั้งปืนผาหน้าไม้ต่างๆจนมันชำนาญ เขาถึงได้หยุด
สอน...................
 
                   *  กิ่งโศก  * ผู้สานงาน				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    26 มกราคม 2554 10:43 น. - comment id 121908

    มาติดตามกันต่อนะครับ9.gif
  • แก้วประภัสสร

    26 มกราคม 2554 14:00 น. - comment id 121911

    อยากให้ครูแก้ว พักผ่อนบ้างค่ะ
    
    46.gif36.gif16.gif
  • กิ่งโศก

    27 มกราคม 2554 11:54 น. - comment id 121927

    คุณแก้วประภัสสร
    ครับ ช่วงนี้ครูแก้วคงพักผ่อน ว่างๆ คงเขียนต่อ ผมเองจะนำมาให้อ่านกันนะครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน