งักปุ๊กควุ้ง

สะพั่งสะท้านไมภพ

งักปุ้งคุ้งตัวเอกในนิยายกำลังภายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ได้เผยแพร่วิทยายุทธให้แก่ลูกศิษย์และแพร่หลายถ่ายทอดตกมาจนถึงปรัตยุบัน สำหรับเหล็งฮู้ชงตัวละครอีกตัวหนึ่งก็มีลูกศิษย์ลูกหาแพร่หลายตกทอดมาถึงเช่นเดียวกัน ตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันมีแบบนี้ คำโบราณพวกฮวนเผ่าหนึ่งกล่าวว่า หน้าไหว้หลังหลอก ข้างนอกสุกไสข้างในตะติ๊งโหน่ง กางเกงเก่าปะแล้วปะอีกของผมสีออกแนวเขียวกำลังจะไปขาวเป็นตัวที่ผมชอบมากที่สุด ภรรยาของผมแอบนำไปทิ้งแล้วหลายเที่ยวแต่ทว่า ผมต้องไปคว้ามาใส่ตลอดจนกระทั่งภรรยาไม่อยากจะยุ่งกับวิถีชีวิตของผมอีกแล้ว กางเกงตัวนั้นมันใส่แล้วทำให้ไม่มีผู้ใดอยากจะทักทาย หรือรู้จักแต่ก็ไม่กล้าทักทาย ผมกลับชมชอบอย่างยิ่ง เพราะผมก็ไม่อยากยุ่งกะใครเพราะเบื่อตัวเองและคนอื่นเหมือนกัน ผมมองคนหลายๆคนเที่ยวพลีเซ๊นตีหน้าหน้าตาไหลว่าปลาบปลื้มเห็นแล้วก็ได้แต่หัวเราะหึๆ ผมมองป้ายใหญ่โตเห็นได้ชัดของแต่ละคนที่แบกไปทำงานด้วยเอ้าเอากันเข้าไป ผมเห็นการทำตัวต่อหน้าของคนโง่ๆต่อคนที่โง่น้อยกว่า นึกถึงคำพูดของจานทูนขึ้นมาได้ว่า พั่งดูไก่ตรุษจีนซิพั่ง จิกกันเอง พั่งระลึกปล๊าบถึงปรมารจารย์ด้านความคิดคนหนึ่ง มีน่าโกวเล้งจึงได้มอบเพลงเก้ากระบี่เดียวดายให้กับน้าเหล็ง เก้ากระบี่เดียวดาย ความจริงมิใช่ท่ากระบี่ และอีกคำหนึ่งของจานทูนว่า พั่งคนโง่ในแผ่นดินนี้มีมากเกินไปจริงๆ ในความคิดการคิดอะไรชั่วๆได้เนี่ยผมว่ามันไม่โง่แล้วละครับ แต่ในมุมมองหนึ่งเท่านั้น ความสับสนของคนโง่แบบผมนิดหนึ่งเกิดความคิดขึ้นมาว่าแล้วทำไมไม่ทำตามแบบเขามั่ง ผมว่าการที่คนๆหนึ่งได้พบเจอะเจอสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเจอแล้วอยู่ได้น่าจะธรรมให้กระบวนการคิดทัศนคติของเขาปรับเปลี่ยนไป แต่ทว่าอีกคติหนึ่งคือพวกที่ออกไปเดินขบวนเนี่ยบางทีก็ต้องชื่นชมเพราะสละความสุขส่วนตัวเพื่อให้ได้มาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง (ถ้าคิดดีจริงๆ) ในด้านของความมีเหตุผล หากพิจารณาเจาะลึกให้ดีแล้วจะเห็นว่ามันมีความจำเป็นต้องทำ แต่ทว่าผู้มีความจำเป็นแต่ทำไม่ได้ก็ต้องยอมรับ มีหลานคนหนึ่งพ่อแม่เขาถามว่ามีเด็กในห้องเกเรหรือเปล่า หลานคนนั้นตอบกับพ่อแม่เขาว่าไม่มีเลยสักคนเดียว แต่อีกในหลายวันต่อมา พ่อแม่กลับได้รับจดหมายจากครูถึงผู้ปกครองว่าเด็กของท่านเกเรให้ช่วยดูแลด้วย คือหมายความว่าบางทีตัวเราเองอาจไม่รู้ว่าเราเป็นใครกันแน่ระหว่างลูกศิษย์อาจารย์งัก กับน้าเหล็งฮู้ จนกระทั่งมีโอกาสก่อน
เมื่อมีโอกาสมาถึงเราถึงจะรู้ว่าเราเป็นใครกันแน่
เมื่อมีโอกาสโกงมาถึงเราถึงจะรู้ว่าเราชั่วหรือไม่
แต่มีความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างหนึ่ง เหล่าคณิกาล้วนคบหาแต่เงินทอง แต่ทว่ามีบ้างกลับเถียงอย่างหัวชนฝา
กลับมามองดูพื้นฐานของบ้านเมืองแรกก่อตั้ง
ข่าวสารโคมลอยที่กลาดเกลื่อน
เทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เยอะจนหาไม่เจอ
ผมสะพั่ง กลับนั่งหัวเราะ
จิบเฮนเนสซี่อย่างต่ำยี่สิบปี แม้แต่งกายราวกระยาจก แต่สุรารสเลิศเช่นนี้ไม่ควรพลาด
หัวเราะฮาๆด้วยความเมา
ทำให้เหล่าคณิกาบ้าคลั่งจนถึงขีดสุดได้
ทำให้ผู้บังคับบัญชาไฟธาตุแตกด้วยความโมโหได้
เคี๊ยกๆ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน