อทิสมานกาย ๕๙ เสี่ยเม้งมองไปทางเบื้องหน้าก่อนจะสู่ภูเขาไปยังถ้ำนั้น ตลอดระยะทางแคบๆตลอดริมทางทั้งสองด้านเต็มไปด้วยพุ่มไม้ สูงๆต่ำแต่พื้นดินนั้นเต็มไปด้วยใบไม้แห้งๆ พื้นดินหรือก็ชุ่มๆแฉะๆ ไอ้มุ้ยมันบอกว่าให้ระวังพวกทาก พวกปลิง โดยเฉพาะปลิงกระโดด มันเคยได้ยินมาว่าตัวของปลิงนั้นมันดีดตัวใส่สิ่งมีชีวิตเพื่อดูดเลือดกิน และจะมาเป็นจำนวนมากๆอีกด้วย มันนึกถึงสภาพของตัวปลิงที่มันเคยเห็นมันก็ขยะแขยงผิวกายมัน ครั้นจะกลับด้วยกลัวปลิงเดี๋ยวพวกลูกน้องมันจะหัวร่อเยาะเย้นเอา ครั้นของหรือก็เป็นห่วงที่มีราคานับมหาศาล จะเข้าไปหรือก็นึกขึ้นมา ก็ให้รู้สึกขยะแขยงจนขนมันลุกชัน ฉับพลันสมองของมันก็พลันนึกขึ้นได้ จึงหันไปเรียกพวกทันที “เฮ้ยๆๆๆ ไอ้เซี๊ยะ ไอ้เช้ง ไอ้สุย และพวกมึงอีกสี่คน ไอ้หว่า ไอ้เม่งจ่าย ไอ้เจียงกับไอ้ใช้มาล้อมตัวกูไว้นะโว้ย ส่วนไอ้มุ้ยออกเดินนำหน้าพา พวกนำกูไปดูของได้แล้ว” “เฮียพร้อมแล้วหรือ คิดดีแล้วหรือเสี่ย???...” ไอ้มุ้ยเอ่ยถาม “ไอ้ห่า!!!!...มึงอย่าพูดมากโว้ย มึงนำหน้าไปได้แล้ว” เสี่ยเม้งกล่าวขึ้น “เมื่อทุกๆคนพร้อมกันแล้วไป ข้าจะนำทางเอง” ไอ้มุ่ยตัดบททันที ก่อนจะเดินทางไอ้มุ้ยเดินไปหาพวกทันที พร้อมส่งของบางให้แล้ว เอ่ยปากแนะนำวิธีการใช้แก่พวกมัน ไอ้สุยมองเห็นเป็นก้อนกลมๆดำๆ แดงๆ จึงยกขึ้นดม พลางเอ่ยปากเบาๆว่า “ไอ้มุ้ย...???.....นี้มันยาฉุนใช้ม้วนสูบบุหรี่นี่นา” แล้วมันก็ยื่นชิมในปาก “นี่มันรสปูนแดงที่กินกับหมากนี่หว่า ใช่ไหมว๊ะ???...ไอ้มุ้ย” “จุ๊ๆๆๆอย่าเสือกพูดดังเดี๋ยวก็ถีบให้เสียนี่ อุตส่าห์เอามาให้แล้วไอ้เหี้ย มึงไม่เอาก็เอาคืนมาไอ้สุย” ไอ้มุ้ยชักโมโห “อ้าวแล้วมึงไม่เอาให้เสี่ยเม้งมันหรือ ไอ้มุ้ย???...” ไอ้เซี๊ยะถามสงสัย “ตอนแรกกูก็คิดจะให้เสี่ยหรอก แต่เห็นเต๊ะท่ามาก ไว้คอยช่วยทีหลังว๊ะ เวลาปลิงมันโดดใส่มึง มึงก็เอายานี่ ผสมน้ำพอนิดๆหน่อยๆให้แค่แฉะๆแล้ว โปะตัวมัน มันก็จะหลุดไม่ทันแดกเลือดมึงหรอกว่ะ เขี้ยวมันคมเสียด้วยนา พวกมึงระวังตัวด้วยแต่ทางที่ดีมึง แล้วหันหันไปกระซิบบอกวิธี ทุกคนก็พยักหน้าหงึกๆ “หากมันกัดก็เอานี่แหละคอยโปะมัน อาการปวดแสบก็จะหายไปว๊ะ กูว่าก่อนไปมึงไปที่รถหาน้ำมาผสมเอ๊าๆๆๆ เอาเพิ่มไปอีกคนละเม็ด ไปที่รถหาน้ำมาผสมแล้วมึงทาไว้แถวขาแขนแล้วเอากางเกงมึงสวมทับไว้ เสื้อมึงก็ปิดไว้ด้วย ให้กลิ่นยามาระเหยออกมา “ ไอ้มุ้ยสั่งกลัวพวกจะลืม “กลิ่นยามันพวกนี้จะไม่กล้ากระโดดมาหาพวกมึงหรอก แล้วอย่าเสือกปากมากล่ะ” ว่าแล้วมันก็ยื่นให้อีกคนละเม็ด ทั้งสามเมื่อได้รับยาแล้วก็ซ่อนเอาไว้ พลางหันไปเอ่ยกับเสี่ยเม้งว่า “เออๆๆเสี่ย เดี๋ยวข้าขอตัวไปเอาน้ำเก็บไว้กินอากาศมัน ร้อนมากๆเสียด้วย”ไอ้เซี๊ยะเอ่ยขึ้น “เฮ้ยๆๆไอ้เซี๊ยะกูไปด้วยคนว๊ะ กูปวดท้องเยี่ยวด้วยโว้ย ไอ้ห่าเดี๋ยวทากปลิงมันกัดกู จะดัดเสือกเยี่ยวไหลราดกางเกงว๊ะ” ไอ้สุยเอ่ย “ กูก็เหมือนกันไอ้เหี้ยมุ้ยดันพูดเสียด้วย แล้วเสี่ยไม่ไปเยี่ยวก่อนหรือไงล่ะ???” ไอ้เช้งกล่าวบ้าง แต่มันไม่ต้องการให้เสี่ยเม้งรู้จึงทำเสแสร้งชักชวนเสี่ยเม้ง “ไอ้ห่าพวกนี้???....มึงก็กลัวเหมือนกันหรือว๊ะ แต่กูไม่ปวดว๊ะแต่กูไม่ กลัวเหมือนพวกๆมึงแหละโว้ย มึงก็เร็วๆด้วยเพราะต้องเดินทางไปดูงานที่อื่นอีก” แล้วก็ยึดอกเบ่งว่าข้าไม่กลัว เสี่ยเม้งกล่าวเตือนพวกมัน ทั้งสามอมย ิ้มแล้วแสร้งรีบวิ่งไปที่รถ หาที่กำบังได้แล้วก็เข้าไปหยิบน้ำออกมาทำ ตามไอ้มุ้ย ครั้นเรียบร้อยแล้วก็ออกมาเดินไปหาเสี่ยเม้งทันที ทั้งสามก็เอ่ยขึ้นทันที “เสร็จแล้วเสี่ย ไอ้มุ้ยเสือกพูดเรื่องนี้ได้ ข้าก็กลัวพวกทากกับปลิงด้วยไปยังล่ะเสี่ย” “แล้วดันเสือกพูดทำไมล่ะว๊ะ กูก็กลัวว๊ะ มาๆพวกมึงมาล้อมกูเอาไว้นะโว้ย” เสี่ยเม้งกล่าวแล้วก็เข้าไปจูงมือพวกมันทั้งหมดให้มาล้อมตัวมันไว้ แล้วค่อยๆเดินไป มันคิดว่าจะเอาพวกเหล่านี้ห้อมล้อมมัน หากถูกทากหรือปลิงดีดมา ก็จะถูกไอ้พวกนี้เสียก่อน ตัวมันก็จะปลอดภัยคงจะไม่ถูกสัตว์เหล่านี้ดูด เลือดมันได้แน่ๆ ความกลัวก็ค่อยๆลดลง ครั้นทั้งหมดเดินทางไปได้ประมาณครึ่งทาง เสียงร้องของพวกคุมกันทั้งสี่คนกับ เสี่ยเม้งก็ร้องเอะอะโวยวายกันลั่นสนั่นไปทั่วบริเวณ “เฮ้ยๆๆๆ...โอ้ยๆ....ไอ้มุ้ย ไอ้เช้ง ไอ้สุย ไอ้เซี๊ยะ มาช่วยกูดึงปลิงออกหน่อยว๊ะ มันยุบยับขาแขนกูไปหมด” พลางมันเต้นเร่าๆทั้งห้าคน ต่างช่วยกันดึงตัวปลิงและทากออกจากตัว เมื่อดึงตัวมันแล้วแล้วแขนขามันต่าง บวมทันตาเห็น เลือดไหลออกมาจากตัวมันทั้งห้า เป็นรอยจ้ำๆกันไปทั่ว แต่ก็ไม่ หมดสักที “ไอ้ห่าพวกมึงยืนมองหาห่าอะไรว๊ะมาช่วยกูด้วยโว้ย” เสี่ยเม้งร้องลั่น “อ้าวๆๆๆ!!!!....แล้วพวกมันทำไมไม่กัดพวกมึงหรือว๊ะ???” มันถามด้วยความสงสัย “ไม่รู้ซิเสี่ย ตัวพวกข้าคงไม่หอมเหมือนตัวเสี่ยนี่นา ฉีดน้ำหอมมาด้วยหรือว่า มันคงจะชอบกระมัง???” ไอ้สุยเอ่ยขึ้น เวลาผ่านไปสักประมาณเกือบสิบนาที ไอ้มุ้ยนึกได้ว่าหากแกล้งเสี่ยงานคงจะ ล่าช้าไม่เสร็จวันนี้แน่ ด้วยมันจะต้องไปตรวจให้ครบ ก็เลยเดินถือขวดน้ำเข้าไป พวกทั้งห้าทันที แล้วก็หยิบก้อนยามาผสมน้ำละเลงไปบนตัวทากตัวปลิง เมื่อ บรรดาสัตว์พวกนี้ครั้นโดนน้ำยาก็ต่างร่วงผล๊อยๆจากตัวเสี่ยเม้งและคนทั้งสี่ทันที มันก็เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำยาป้ายลงบนตัวเสี่ยที่ถูกกัดและพวกมือปืนทั้งสี่ทันที พอเสี่ยทุเลาจากเจ็บๆคันๆปวดนิดๆ ก็หันมาถามไอ้มุ้ยทันที “ยาอะไรของมึงว๊ะ ได้ผลดีเสียด้วย พวกมันต่างหนีกันไปหมดแล้วว๊ะ” “อ้อๆๆยาวิเศษเสี่ย ราคาแพงเป็นหมื่นๆเชียวนะ” ไอ้มุ้ยทำหน้าตายเอ่ยขึ้น “ถึงว่าซิพวกมึงถึงไม่เป็นอะไรเลยสักคน เฮ้ยเอามาขายกูบ้างซิว๊ะ คราวหลัง มาจะได้ไม่ต้องกลัวพวกมัน” เสี่ยเอ่ย ตอนนี้อารมณ์มันดีขึ้นมากแล้ว “ยากเสี่ย ด้วยต้องเดินทางไปซื้อ อย่าสนใจอะไรมันเลย หายแล้วก็รีบๆไป ดูงานเถอะนี่ก็เสียเวลามามากแล้วล่ะเสี่ย” “เออ??ดีเหมือนกัน เสร็จการตรวจงานนี้มึงเอาไปขายกูด้วยนะโว้ย” มันไม่ลืม หันไปกำชับไอ้มุ้ยทันที พลันสมองไอ้มุ้ยก็วาดแผนการณ์หลอกเสี่ยทันที “เขาขายเม็ดละร้อยนาเสีย แพงเสียด้วยซิ” ไอ้มุ้ยทำหน้าตาขึงขัง “ เออๆๆๆเท่าไหร่กูก็สู้ว๊ะ มันเห็นผลเสียด้วยหากไม่ทดลองไม่รู้ว๊ะ” “ไว้ให้ข้าไปติดต่อมันก่อนว่าจะพอมีขายหรือไม่เสี่ย” ไอ้มุ้ยแสร้งให้เรื่องง่าย เป็นเรื่องยากทันที “กลับไปคราวนี้ มึงรีบไปติดต่อมันด้วยนะโว้ย แล้วมึงไปเบิกเงินกับกูแสนหนึ่ง พอไหมว๊ะ ไปซื้อมันให้หมดเลยว๊ะ ยามันได้ผลเสียด้วย กูยิ่งกลัวพวกนี้ต่อไป จะได้ไม่ต้องกลัวมันอีกแล้ว นี่ดีนะที่กูโดนเอง หากใครมาบอกกู กูไม่เชื่อหรอก” “อืมๆๆๆ...หากแสนหนึ่งพอจะพูดกันได้เสี่ย ตกลงตามนี้ก็แล้วกันนะกลับไป ข้าก็จะไปติดต่อเขาก่อนแล้วเบิกเงินเสี่ยไปก็แล้วกัน” ไอ้มุ้ยตอบ “เออๆๆๆให้ได้มาก็แล้วกันว๊ะ ไปๆๆรีบหน่อยเวลาไม่คอยท่าแล้วล่ะว๊ะ” เสี่ยเม้งตอบ ด้วยมันคิดว่าหากซื้อยาพวกนี้มาได้ต่อไปเมื่อมันมาที่นี่อีกก็จะได้ ไม่ต้องกลัว ความกลัวทำให้ลืมสังเกตุตัวยาไปสิ้น เพียงขอให้พ้นๆพวกทากและ พวกปลิงกระโดดเท่านั้นเอง แล้วทั้งหมดก็ออกเดินทาง เพียงลัดเลาะไปอีกไม่กี่ที ก็แลเห็นปากถ้ำ หาก ไม่สังเกตุก็จะไม่เห็นด้วยมีพุ่มไม้และเถาวัลย์พันจนปิดปากถ้ำไปหมด เมื่อจะ เข้าไปต้องช่วยกันแหวกทางเข้าไป ดีที่คนของไอ้มุ้ยมันรออยู่ก่อนแล้วออกมา ช่วยแหวกทางเดินให้ เมื่อทางสะดวกทุกๆคนก็ทะยอยเดินเข้าไปในถ้ำ ภายในถ้ำมีแสงสว่างสาด เข้ามาทางยอดเพดานถ้ำ มองเห็นภายในได้เป็นอย่างดี ไอ้มุ้ยพาเสี่ยเม้งเดินแยก ไปแยกมาวนไปๆมาๆ ทุกๆที่มีหินย้อย ยามกระทบกับแสงตะวัน ก็ทอส่งประกาย สว่างเหมือนกระจกสะท้อนแสงมิปาน เป็นแสงนำทางให้ แล้วทั้งหมดก็มาถึง กล่องที่ปิดฝาวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไอ้มุ้ยก็สั่งให้คนมันเปิดฝาออก ภายในเห็นถุงพลาสติกหลายสิบห่อในกล่อง ที่ทำด้วยไม้ เสี่ยเม้งเดินไปชะโงกมองแล้วเอามือมันล้วงไปแกะถุงออกแล้วหยิบ ขึ้นมาแตะปากแล้วดม สักพักก็พยักหน้ากับไอ้มุ้ยและพวก “เออๆๆดีว๊ะของชั้นหนึ่งทั้งนั้น มึงเก่งไอ้มุ้ย” มันหันไปชมไอ้มุ้ยทันที “แล้วจะเปิดทุกกล่องไหมเสี่ย???...” ไอ้มุ้ยถาม “ไม่หรอกว๊ะเสียเวลา กูลองสุ่มดูแล้วล่ะ เฮ้ยๆพวกเรากลับกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวต้องไปดูของไอ้เช้ง ไอ้เซี๊ยะ และไอ้สุยกันได้แล้วโว้ย” มันสั่งทันที ระหว่างเดินทางกลับไอ้สี่เสือพยายามเดินตามหลัง พอห่างตัวเสี่ยเม้งพอสมควร ไอ้ทั้งสามหันไปหาไอ้มุ้ยทันที “ไอ้มุ้ยหาญอีกสามนะโว้ยเพื่อน มึงหลอกเสี่ยตั้งแสนแนะโว้ย” ทั้งสามเอ่ยเบาๆมิให้เสี่ยได้ยิน “เออน่าๆๆ มึงนะมึงไอ้สัตว์ หากมันจับได้โดนกูคนเดียว เอาไปคนละหกสิบ เปอร์เซ็นต์พอโว้ยแค่สนับสนุน” ไอ้มุ้ยกล่าว “เออได้ว๊ะ หกสิบก็หกสิบ ดีกว่าได้ห้าสิบว๊ะ???...แล้วพวกกูจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หากมีโอกาสก็จะสนันสนุนมึงขึ้นอีก ช่วยโปรโมทมึงอีกทางหนึ่งว๊ะ” “เออๆๆๆมันต้องอย่างนี้ซิว๊ะถึงจะเพื่อนตายกัน” แล้วไอ้มุ้ยก็หัวร่อฮึๆๆๆ เมื่อมันมองเห็นเงินแสนลอยอยู่แค่เบื้องหน้ามันไหวๆไปๆมาๆ แล้วมันก็เดิน ไปหาชายคนหนึ่ง ท่าทางจะเป็นหัวหน้าควบคุมที่นี่แล้วกระซิบบอกมันในเรื่อง ให้พวกไปทำยารอไว้เพื่อจะหลอกขายให้เสี่ยเม้ง ชายคนนั้นก็อมยิ้มพยักหน้า รับงานทันที ไอ้มุ้ยก็กระซิบเบาๆว่า “หากงานนี้สำเร็จพวกมึงมีเอี่ยวทุกๆคนว๊ะ แต่อย่าให้ใครเสือกปากหมาไปเสียล่ะ” “เชื่อได้เลยเฮีย” กล่าวเสร็จก็รีบเดินไปบอกพรรคพวกให้ส่งข่าวเรื่องนี้ไปบอกต่อๆ อย่าเสือกให้ใครปากมากอวดรู้อวดดีล่ะ มิฉะนั้นอาจจะได้แดกลูกปืนกันบ้างล่ะว๊ะ การตรวจงานด้านไอ้มุ้ยก็สิ้นสุดลง ทุกๆคนเดินผ่านทางเดิม แต่บัดนี้บรรดาพวกทาก และปลิงกระโดด ไม่กระโดดหรือเข้ามาหาอีกเหมือนตอนขามา พอถึงรถก็เริ่มออก เดินทางต่อไป ที่ร้านอาหารภายในเมือง ทั้งสี่ก็มานั่งในห้องพิเศษแล้วต่างดื่มกินไอ้เซี๊ยะก็ถามไอ้มุ้ย ทันทีว่า “แล้วมึงไม่กลัวเสี่ยมันจะรู้ภายหลังหรือว๊ะไอ้มุ้ย” “กูจะไปกลัวหาห่าอะไรว๊ะ หากโดนก็โดนกันทั้งสี่นี่แหละว๊ะ ใครปากหมาพูดไปก็ มีหวังโดนเสียแน่ๆเลยว๊ะคราวนี้ ตัวใครตัวมันแหละโว้ย” ไอ้มุ้ยยกเหล้าดื่มพร้อมคีบกับแกล้มพลางเอ่ยพูดทันที ทั้งสามเมื่อได้ยินไอ้มุ้ยกล่าวเช่นนี้ ต่างสะดุ้งเฮือกไปตามๆกันหันหน้าขวับไปทางไอ้มุ้ย “ไอ้ห่าแล้วมึงโยนขี้อะไรให้พวกกูว๊ะ” ทั้งหมดร้องลั่น “หรือมึงไม่เอาเงินก็ถอนตัวได้นะโว้ย” ไอ้มุ้ยพูดพลางล้วงเงินก้อนใหญ่ๆพอสมควร ออกมายื่นไปยังจมูกพวกมันทั้งสามทันที เล่นเอาทั้งสามเงียบเสียงทันที คนที่จะเอ่ย เลยหยุดพูดอะไรอีก “แต่มึงถอนก็ไม่ทันเสียแล้วล่ะว๊ะ กูบอกเสี่ยมันแล้วว่า ยานี้ได้มาจากไอ้เซี๊ยะ ถาม ไอ้เซี๊ยะมันบอกว่าได้มาจากไอ้เช้งไอ้สุยอีกทีหนึ่ง ทั้งสองต่างหามาให้กูว๊ะ เท่านี้กูก็ รอดตัวแล้ว คราวนี้แหละโว้ยถึงพวกมึงแน่ๆยาที่ซื้อหรือกูบอกเสี่ยมันว่ามึงทั้งสาม หามาให้กูทั้งหมด แล้วกูค่อยเอาให้เสี่ยอีกที ทางกูไม่มีปัญญาหาเองได้นอกจากพวก มึงทั้งสามนั่นแหละ หากเสี่ยเล่นมันต้องพุ่งเป้ามาทางมึงแน่นอนเชื่อกูไหมว๊ะ???” “เสี่ยมันเชื่อกูจะหันไปเล่นถึงพวกมึงก่อนแล้วค่อยลงมาเล่นกูอีกทีหนึ่งล่ะโว้ย” ไอ้มุ้ยหัวร่อก๊ากทั้งๆที่ในปากมันยังเคี้ยวอาหารอยู่จ๊วบๆๆๆ คราวนี้เล่นเอา ไอ้เซียะ ไอ้เช้ง และไอ้สุย ต่างอ้าปากตาค้างไปทันที ต่างงงไปสักพัก ก็รู้ว่าเพื่อนมันเป็นคนอย่างไร มิฉะนั้นมันไหนเลยจะคงปกครองคนมากไม่ได้หรอก ทั้งพื้นที่หรือก็กว้างไกลกว่าพวกมันมากนัก อีกอย่างหนึ่งคนของมันล้วนแล้วแต่สั่งได้กันทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย มันเป็นทั้งคนมีน้ำใจและโหดเหี้ยมในตัวมันเสร็จ จนลูกน้องมันสามารถจะตายแทน มันได้เลย แม้แต่ลูกน้องของพวกมันยังมิกล้ายุ่งเกี่ยวในเขตที่มันปกครองเลย ยามใช้ มันมาหาไอ้มุ้ย มักจะอีดๆออดๆเสมอมา และมาพบกับตัวมันเอาอีกมันถึงได้รู้เล่ห์เหลี่ยม ไอ้มุ้ยแพรวพราวจริงๆ จนพวกมันทั้งสามอดชื่นชมไม่ได้ที่ได้เป็นเพื่อนกับมันแทบจะ เรียกว่าเป็นเพื่อนตายก็อาจจะว่าได้ แล้วไอ้สุยก็ถามทันที “แล้วมึงไม่แบ่งให้ไอ้พวกทำยาบ้างหรือว๊ะไอ้มุ้ย” “ไอ้ห่านี่มึงนะมึงแค่นี้มึงยังคิดไม่ออกหรือ งานเดินเงินไป หากไม่มีเงินใช้มันไหนเลย จะได้ของมาว๊ะ โถๆๆๆไอ้พวกควายนั่งเก๋ง???...” การด่าของไอ้มุ้ยคราวนี้มันแสบทรวงยิ่งกว่ากินพริกขี้หนูไปอีก มันทั้งสามมองตาหน้ากัน ไอ้ห่านี่แอบด่ากู ทั้งสามคิด แต่ไม่เอ่ยกลัวจะโดนอีกลูกหนึ่งที่ไอ้มุ้ยด่ามันด้วยแบบคำคม “เออๆๆๆไหนส่วนแบ่งกูล่ะว๊ะ???...” ไอ้เช้งถาม “แล้วมึงสมควรได้เท่าไหร่ดีว่า ไอ้เซี๊ยะ ไอ้สุย” มันเแสร้งหันไปถามเพื่อนมัน “เออไอ้ส้นตีนเอ๋ย???...เท่าไหร่ก็แบ่งๆมาเถอะกูรู้ว่าพูดอย่างไรก็ไม่ทันมึงหรอกว๊ะ ด้วยมึงถือเงินนี่หว่า???...” ไอ้เซี๊ยะเอ่ยขึ้น “ทำใจน้อยไปได้เพื่อนกูนี่ คนอื่นกูทำได้โว้ยแต่กับมึงทั้งสามบอกตรงๆว่ากูไม่เคยคิด ในสมองเลยว๊ะ” ไอ้มุ้ยเอ่ยแล้วล้วงเงินออกมาสามปึก ยื่นส่งให้พวกมันทันที “เฮ้ยๆๆๆ???....ทำไมเหลือแค่นี้ละว๊ะไอ้มุ้ย มึงอมกูหรือ” ไอ้สุยโวยวายขึ้น “ไอ้ห่าสุย มึงนะมึงไม่สมกับปกครองดินแดนนี้เลยว๊ะ ก็มึงคิดซิว๊ะหักค่าใช้จ่ายคนงาน ที่ทำยาให้ โสหุ้ยอื่นๆจิปาะถะไม่ใช้มันเหมือนมึงนี่หว่า รับเงินมาสิบให้มันแค่บาทเดียว พอมันเอ่ยก็วางอำนาจตบหน้ามันอีก แล้วพวกกับแกล้มและเหล้าที่มึงแดกๆๆลงอีกล่ะตลอด หญิงมานั่งให้มึงคลำเล่นๆอีก มึงไม่คิดเลยหรืออีกค่าอาหารที่พวกมึงแดกไปไม่คิดกันเลยหรือว๊ะ นี่มันฟรีๆนะโว้ย!!!...ถ้าหากกูไม่รักพวกมึงแล้วอมไว้คนเดียวพวกมึงจะทำอะไรกูได้ว๊ะ???... ไม่ใช่กูอวดเบ่งนะโว้ยเพื่อน ทุกอย่างกูวางแผนการณ์เรียบร้อยแล้วล่ะว๊ะ มึงเชื่อเถอะกูไม่โกง มึงหรอกกับไอ้เงินแค่นี้ มึงเอาเครื่องคิดเลขมาคิดซิว่ามึงได้หกสิบเปอร์เซ็นต์หรือไม่แล้วมา ลบด้วยค่าใช้จ่ายอื่นๆดังเช่นคนของมึงด้วยแล้วมาหักค่าผู้หญิงอาหารนี้ว๊ะ อีกอย่างหนึ่งงานนี้ หากกูไม่คิดแล้วพวกมึงจะได้หรือ ลองเอาส้นตีนมากรองให้เข้าไปในหัวมึงเถอะ หากผิดแล้ว ค่อยมาว่ากูโว้ยไอ้เหี้ย??.....”ไอ้มุ้ยกล่าวไปยิ้มไปพร้อมลอยหน้าใส่พวกมันอีก คราวนี้ทั้งสามเงียบกริบทันที ต่างคิดจริงของมันว๊ะที่หลุดรอดออกจากดงทากและปลิงมา ได้ก็เพราะมันแท้ๆ เงินฟรีหรือก็เพราะมันที่วางแผนการณ์อีกหลอกเสี่ยเม้งได้พวกมันแทบจะ ไม่ได้ช่วยอะไรมันเลย ดีแต่มานั่งรับเงินเท่านั้น เมื่อมันคิดได้ก็หันไปขอบใจไอ้มุ้ยด้วยสีหน้า ยิ้มแย้มแจ่มใสทันที ไอ้เซี้ยะพลันหันไปรินเหล้าส่งให้ไอ้มุ้ยอีกเอาใจมัน ส่วนไอ้เช้งไอ้สุยก็ หยิบช้อนตักกับข้าวแย่งกันส่งให้กับไอ้มุ้ย แล้วยิ้มอย่างเอาใจเพื่อให้คลายโมโหไม่ต้องพูดอีก “เออๆๆดีมากๆ...ให้มีมันสมองเสียบ้างก็ดีทำงานกันแบบนี้นะโว้ยหากซื่อก็ควายละว๊ะเพื่อน เอ๊ามาแดกๆนี่ก็ใกล้ร้านมันจะเลิกเสียด้วยซิ” ไอ้มุ้ยเอ่ยเตือน แล้วทั้งหมดก็ร่วมกันกินแล้วเลิกพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป ต่างส่งเสียงหัวร่อต่อกระซิกกัน อย่างสนุกสนานกันอย่างรื่นเริงกันลั่นห้อง.......... * แก้วประเสริฐ. *