การเดินทางของดอกไม้
คนเมืองตรอน
วันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้าช่างดูอ้างว้าง หยดน้ำค้างปลายยอดหญ้าในตอนเช้าตรู่ที่มีเพียงแสงสลัวของพระอาทิตย์ส่องแสงให้เกิดเป็นประกายรุ้งทองออกมา แลดูช่างงดงามยิ่งนัก เมื่อมองไปยิ่งน่ายินยลนักก็หมู่มวลภมรที่บินวนเวียนดอมดมดูดน้ำหวานจากดอกไม้และน้ำค้างปลายยอดหญ้าทันเป็นภาพที่ควรค่าแก่การจดจำและยากมากที่จะได้สัมผัสกับอากาศในยามเช้าที่มีหมอกสีขาวนวลล่องลอยอยู่ในนภา พร้อมย่ำเท้าออกมาสัมผัสน้ำค้างปลายยอดหญ้ามันช่างเป็นความรู้สึกที่หาจากแห่งใดไม่ได้อีกแล้ว ความรู้สึกที่สบายผ่อนคลายคล้ายดับว่าไม่มีตัวตนในขณะนั้นมันยากนักที่จะลืมเลือน แสงพระอาทิตย์ค่อยสาดส่องออกมาผ่านท้วเขาแล้วปุยหมอกสีขาว คล้ายกับแสงทองของวันใหม่ที่เราจะต้องเริ่มหรือจะต้องทำสิ่งใหม่ ๆ ให้กับชีวิต.....
การจมปักอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจมันเริ่มที่จะเจือจางลดลงจากจิตใจของฉันเสียที ดอกไม้ที่เคยเหี่ยวและอับเฉาดูคล้ายจะมีสีสันขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาเพื่อเปลี่ยนดอกไม้ในแจกัน.......
ดอกไม้ไม่มีโอกาศที่จะอยู่ได้โดยไม่มีการเปลี่ยนหรือแปรสภาพเลย
แต่ดอกไม้ยังคงดูสดชื่นเสมอเมื่อดอกไม้นั้นยังอยู่ในหัวใจที่มีความรัก....
วันนี้ฉันตื่นขึ้นมาท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาวของฤดูหนาวทางภาคเหนือ บังกโลที่นี้คล้ายกับเมืองสวรรค์มีทั้งเมฆหมอก ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรยากนักที่คนเมืองอย่างฉันจะสามารถสัมผัสได้ ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจำเป็นด้วยหรือที่จะต้องมายืนอยู่นะจุดนี้ ทำไมฉันต้องมายืนอยู่ในขณะที่ไม่มีคนนั้นอีกแล้ว ใช่แล้วตอนนี้ฉันกำลังให้เวลากับตัวฉันเอง ให้เวลาที่จะเรียนรู้ในส่วนที่ผิดพลาด ฉันไม่เข้าใจทำไมผู้ชายหลายคนถึงเปรียบเทียบผู้หญิงเป็นเพียงแค่ดอกไม้ริมทางทั้ง ๆ ที่ดอกไม้เหล่านี้สามารถสร้างและแต่งเติมทุกอย่างในโลกนี้ให้ดูงดงามมากยิ่งนัก ยิ่งเป็นดอกไม้ป่าที่หายากนั้นยิ่งมีค่ามากกว่าดอกไม้ใด ๆ ในโลกนี้ฉันดีใจที่ฉันได้มีโอกาศมาสัมผัสกับดอกไม้ป่าเมืองเหนือ พวกเธอช่างดูงดงามตามธรรมชาติจริง ๆ ไม่ต้องแต่งเติมสีสันหรือสิ่งอื่นใดเลย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่มีเล่เหลี่ยมเมือนดอกไม้เมืองกรุงมากนัก แต่ตราบใดก็ตามที่ฉันอยู่ใหล้ชิดกับดอกไม้ป่าเหล่านี้ฉันมีความสุข มีความสุขที่ได้ค้นหาความเป็นจริง ได้รู้ว่าตัวฉันเองต้องการสิ่งใดมากที่สุด สิ่งใดที่คู่ควรกับฉัน ไม่ใช่แค่ดอกไม้ป่าเท่านั้นนะที่จะเป็นมิตรกับฉันแต่ไม้เมืองที่นี่ช่างดูงดงามไม่แพ้กันเลย เขาคอยช่วยเหลือฉันคอยไตร่ถาม ถึงชีวิตการเป็นอยู่ของฉัน พวกเขาไม่เชื่อกับการกระทำของฉันที่เป็นเพียงผู้หญิงตัวคนเดียวเดินทางลัดเลาะข้ามหุบเขาและลำห้วยมาพักในบังกโบนี้ ในการเดินทางครั้งนี้ของฉันไม่เพียงแค่ต้องการลืมเรื่องราวบางอย่างในชีวิตเท่านั้นแต่การเดินทางครั้งนี้ทำให้ฉันเข้าใจถึงความจริงของชีวิตฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่มีเขา และฉันก็สามารถทำทุกอย่างที่ฉันไม่เคยเรียนรู้มาก่อนได้ การเดินทางครั้งนี้ทำให้ฉันได้เจอกับไม้เมืองเหนือคนหนึ่ง เขาชื่อ วรุต เขาดูจะห่วงใยฉันมากพอดู เขาคงเห็นฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องมาทำงาน ที่มันเสียง ค่ะ ฉันเป็นช่างภาพ ฉันมาถ่ายภาพลงหนังสือ ฉันเดินทางไปหลายที่มากแต่ไม่มีที่ใดประทับใจฉันเท่าที่นี่เลย เชียงใหม่
เมืองที่มีความเจริญแฝงไว้ด้วยวัฒนธรรมความดีงามประเพณีที่สืบสานกันมาวัฒนธรรมที่นี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับบ้านของฉันเองแม้จะไม่มีบางสิ่งขาดหายไปในชีวิตก็ตามแต่ฉันก็มีความสุขที่มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาและคอยดูแลฉันในขณะที่อีกคนไม่เคยจะสนใจฉันเลย ในตอนนี้ดอกไม้ที่ฉันเพาะเมล็ดไว้คงกำลังเติบโตพอที่จะมาแทนดอกไม้ที่เหี่ยงเฉาต้นเก่าของฉันได้แล้วแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซนต์หรอก เพราะการที่ฉันจะสามารถเลี้ยงต้นไม้ต้นนี้ให้ออกดอกได้อย่างสวยงามและน่ชื่นชมนั้นมันต้องใช้เวลาและการเอาใจใส่เป็นอย่างมากยิ่งวเป็นไม้เมืองเหนือด้วยแล้วถ้าจะเก็บไปปลูกที่อื่นคงยากยิ่งนัก แต่ฉันคิดว่าฉันไม่จะเป็นที่จะต้องนำไปปลูกที่อื่นดอกไม้ก็ควรอยู่คู่กับต้น หากเด็ดออกไปเพื่อดอมดมหรือเพื่อปีกแจกันจะมันจะอยู่คู่กันได้นานสีกเท่าไร แต่ถ้าดอกไม้อยู่คู่กับต้นของมันเอง ความงดงามและความสดใสก็ยังคงอยู่คู่กันไปเสมอก็เหมือนกับการเดินทางของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผู้ชายหรือใครหลาย ๆ คนมักจะเรียกหรือเหมารวมว่าเป็นเพียงดอกไม้ริมทาง ดอกไม้นั้นจะสามารถผลิดอกออกผลสร้างต้นใหม่ได้ในที่ทีมันควรอยู่เท่านั้น
ก็เหมือกับการเดินทางของหัวใจที่เป็นการเดินทางไม่มีที่สิ้นสุด เดินทางเพื่อค้นหา ค้นหาในบางสืงที่ถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน สร้างมาเพื่อให้เป็นของกันและกัน แต่การที่เราจะค้นหาจนเจอนั้นมันยากมาก มีเพียงสืงเดียวที่เราทำได้ก็คือการรอ การที่รอ รอใครสีกคนที่เกิดมาเพื่อกันและพร้อมที่จะเดินทางไปด้วยกัน ไม่จำเป็นหรอกที่เราจะสามารถเจอใครหลาย ๆ คน และใครเหล่านั้นที่เดินเข้ามาในชีวิต แต่เขาเหล่านั้นเดินเข้ามาเพื่อที่จะหยุดอยู่ที่นี่หรือ เดินเข่ามาแค่พักเหนื่อยก็แล้วแต่.....เพราะเขาอาจจะไม่ใช่ดอกไม้สำหรับเรา...และเราก็ไม่ใช่ดอกไม้สำหรับเขา ......ฉันเชื่อเรื่องของพรหมลิขิต ถ้าฉันไม่เดินต่อฉันกฌไม่เจอกกับเขาคนนี้ .....ในด้านกลับกันถ้าฉันถอยหลังกลับฉันก็คงเจอแต่ความเงียบเหงาเศร้าโศกเสียใจ ฉันคงไม่มีความสุข.....เหมือนทุกวันนี้.....การเดินทางของฉันสันสิ้นสุดแล้วเมื่อวันนี้ฉันได้พบกับดอกไม้ที่ฉันค้นหามานานและฉันก็เป็นสิ่งที่เขาค้นหาเหมือนกัน......
บางคนเดินทางเพื่อที่จะเรียนรู้
บางคนเดินทางเพื่อที่จะค้นหาเรื่องราว
บางคนเดินทางเพื่อต้องการหาความสุข
แต่การเดินทางของดอกไม้ป่าอย่างฉัน....
สิ้นสุดลงเมื่อมันได้กลับเข้าไปอยู่ในที่ของมันอีกครั้งหนึ่ง....
.....ดอกไม้มีความสุข...เพราะที่ตรงนั้น....คือความสุขที่แท้จริง.....