อทิสมานกาย ๓๐ ภายหลังจากที่กำนันมั่น เดินทางเข้าไปในเมืองแล้วได้ข่าวก็ต้องตกใจ ได้รับข่าว ว่าตัวเสี่ยเม้งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปโรงพัก การตรวจค้นพบของกลาง เป็นยาบ้าเป็นจำนวนมากที่เป็นเนื้อที่ของเสี่ยเม้งเอง แม้ว่าของไม่ได้อยู่ในบ้านเสี่ยก็ตาม สิ่งที่ค้นพบนั้นปลูกในบ้านเนื้อที่ซึ่งเป็นของเสี่ย ยังที่อื่นห่างไกล แต่ในฐานะสิ่งของดังกล่าวนั้นถูกเก็บไว้และเสี่ยเป็นเจ้าของบ้าน และเนื้อที่ของเสี่ยเองด้วย ดังนั้นจึงต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยต่อเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น ทางเสี่ยบอกว่าให้เขาเช่าเนื้อที่ไป และเมื่อให้เช่าไปแล้วก็ไม่ได้ไปบ้านนั้นอีกเลย แต่ตำรวจก็นำตัวเสี่ยและเข้าไปค้นยังบ้านพักของเสียอีกด้วย แต่ไม่พบของกลางใดๆ ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังควบคุมตัวเสี่ยไปโรงพักด้วย แต่ด้วยความชาญฉลาดของเสี่ย ซึ่งลูกน้องคนสนิทของเสี่ยรับหน้าเสื่อแทนเสี่ยเสีย เองว่าเป็นของๆเขาที่แอบซุกซ่อนไว้ไม่ให้เสี่ยรู้หรอก ทางตำรวจไม่เชื่อคำกล่าวของผู้เช่า จึงได้ควบคุมตัวมาเสี่ยมาเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ทำหลักฐานไว้ด้วย แต่ให้ประกันตัวออกมาเพราะไม่มีหลักฐานในบ้านของเสี่ย ด้วยเสี่ยปฏิเสธว่า เขาไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้นด้วยประกอบธุระกิจสุจริตเสมอๆมา เมื่อได้รับฟังข่าวจากปากเสี่ยเม้งอีกครั้งทั้งๆที่รู้ข่าวจากลูกน้องของเสี่ยแล้วก็ตาม ก็ทำให้กำนันมั่นตกใจมากด้วยของที่เขานำมานั้นยังซุกซ่อนไว้หลังบ้านอยู่อีกเป็น จำนวนมากด้วยเสี่ยเม้งมอบให้มาจัดการเป็นเอเย่นต์จำหน่ายไปยังหมู่บ้านอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน เพื่อจำหน่ายให้แก่เสี่ยเม้ง ทั้งยังถูกตำรวจเค้นถามเรื่องการ จับกุมยาและกัญจาพร้อมเงินจำนวนมากในป่าติดชายแดนนั้นอีกด้วย แต่เสี่ยได้ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องว่า เขานั้นดำเนินกิจการทางด้านจำหน่าย รถยนต์และมีอู่ซ่อมรถเท่านั้นเอง ไม่คิดจะทำงานด้านผิดกฏหมายอะไรๆเลย ครั้นรู้ความเรียบร้อยจากเสี่ยที่กำลังนอนเล่นอยู่ภายในบ้าน เมื่อได้นั่งสนทนากัน กำนันมั่นก็ขอร้องให้เสี่ยเม้งช่วยแจ้งข่าวนี้ให้แก่เสี่ยหว่าง ทราบด้วยว่าทางหมู่บ้านอื่นตอน นี้กำลังไม่พร้อมแต่จะส่งคนนำทางให้ ขอให้เสี่ยหว่างนำกำลังคนไปขนของเอาเองด้วย ถ้าหากทางที่ดีก็ควรจะระงับการขนย้ายไว้ก่อน เสี่ยเม้งได้แต่หัวเราะบอกว่า.... กูก็บอกไอ้หว่างไว้เหมือนกันว่าระยะนี้มันน่าสิ่วหน้าขวาน ให้มันยกเลิกงานนี้ก่อน แต่ทางไอ้หว่างมันบอกว่าได้วางมัดจำและของที่แปรสภาพมาถึงแล้ว ครั้นจะยกเลิกก็ไม่ได้ กูเองก็ไม่รู้ทำอย่างใดเพียงแค่เตือนๆมันไว้เท่านั้น ซ้ำยังขอกำลังจากกู แต่กูปฏิเสธว่ากำลังคนไม่มี เรื่องนั้นให้มันคิดหาทางกันเอาเองก็แล้วกัน เสี่ยเม้งกล่าวลอยๆ.... มันหัวเสียใหญ่เลย แต่กูทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนถูกตำรวจมาจับกุมตัวกูไปแหละว๊ะ... กำนันมั่นซึ่งไม่ค่อยจะสนิทกับเสี่ยหว่างมากนักและไม่สันทัดในเรื่องเหล่านี้ก็นิ่งเฉยเสีย ที่รู้จักกับเสี่ยหว่างก็ด้วย เสี่ยเม้งแนะนำให้รู้จักเพื่อทางสะดวกที่กำนันมั่นรู้จักกับพวกกำนันแถบ นั้นดีสนิทสนมกันด้วย ก็พลันกล่าวกับเสี่ยเม้งขึ้นว่า......... ถ้าหากเป็นไปได้งานทางเราเสี่ยก็ควรจะแจ้งไปยังต้นทางด้วยนะว่า ควรระงับไว้ก่อน ของๆเราก็ยังพอจะมีจำหน่ายอยู่อีกมาก พอจะทันให้ทางเสี่ยและทางผมติดต่อกับพวก นายอำเภอเก่าที่สนิทคุ้นเคยกันไว้ก่อน ส่วนด้านตำรวจนั้นเห็นว่าระยะนี้เห็นทีคงจะยากแก่การเข้าถึงแล้วเหมือนเดิมเสียแล้วจ่าเจียมและ พวกที่เราอาศัยเป็นหูเห็นตาคอยมาบอกแก่เรานั้น ได้ถูกย้ายกันไปจนหมดสิ้นแล้วล่ะ???.... เสี่ยเม้งหันมากล่าวกับกำนันมั่นว่า???..... เอ็งไม่รู้หรือว่าตอนนี้ทางด้านนายอำเภอต่างๆ ได้ถูกย้ายกันอีกระลอกแล้วล่ะ......แถวๆด้านแถบของพวกเอ็งเสียด้วยซิ.....เสี่ยเม้งกล่าวขึ้น หาๆๆๆ....เสี่ยไปได้ข่าวมาจากไหนล่ะ???.... ก็คนของกูมันพึ่งนำมาบอกเมื่อวานเองว๊ะ.... กำนันมั่นถามอีกว่า???........ เมื่อวันก่อนผมยังไปคุยกับนายอำเภออยู่เลยนี่นา ไม่เห็นทางเขาบอกอะไรนี่ ลูกน้องเสี่ยคงจะรายงานผิดกระมัง???....กำนันมั่นย้ำขึ้น เมื่อเช้านี้ว๊ะนายอำเภอเก่าเดินทางมาหากู ปรึกษากับกูว่าจะช่วยเหลือมันได้อย่างไร ด้วยทางกรุงเทพฯนั้น กระทรวงทหาดไทยท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งย้าย พึ่งส่งข่าวด่วนมาแจ้งให้เขาทราบและในคำสั่งนั้นก็ให้ย้ายภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงเสียด้วย พร้อมส่งนายอำเภอใหม่มารับงานแล้วด้วยว๊ะ เออๆๆแล้วทางตำรวจล่ะ????... เอ็งได้รับข่าวอะไรอีกหรือไม่ว๊ะ???....เสียเม้งถาม ก็พวกตำรวจมาใหม่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว ส่วนผู้กองชัชวาลย์และผู้หมวดบางคน ได้เลื่อนยศกันทั้งหมดไปแล้วล่ะ.....กำนันแจ้งให้เสี่ยเม้งทราบ เรื่องนี้กูรู้หมดแล้วก่อนมึงเสียอีกว๊ะ....ไอ้ผู้กองได้เลื่อนเป็นสารวัตรและหมวดบางคน เสี่ยเม้งกล่าวขึ้น... หากเป็นเช่นนั้นเห็นทีจะต้องเป็นหน้าที่ของเสี่ยเสียแล้วกระมัง ในการเข้าพบและหาพวก พ้องตำรวจ ด้วยเด็กของเสี่ยมีบางคนสนิทกับตำรวจที่ไม่ได้ย้ายไว้ด้วยนา...... กูก็พยายามแล้วล่ะ ให้คนที่สนิทกับตำรวจคนเก่าหาพวกมาใหม่ไว้ด้วย แต่จะได้ผลอย่างไร กูก็กำลังคอยฟังข่าวอยู่เหมือนกัน......เสี่ยเม้งกล่าวขึ้น ข้ามาแจ้งให้เสี่ยและเรื่องเสี่ยหว่างเท่านั้นเองแหละ งั้นข้ากลับก่อนละด้วยสิ่งของเสี่ยข้า ยังเก็บไว้ภายในเขตบ้าน ต้องรีบขนย้ายไปเก็บที่อื่นยังที่ปลอดภัยไว้ก่อน.... กำนันกล่าวขึ้น เออๆดีแล้วล่ะอย่าได้ประมาทนะโว้ย!!!!..... รีบๆไปเถอะว๊ะ งั้นข้าไปก่อนล่ะนะ ไว้วันหน้าจะมาและฟังข่าวอีกครั้งหนึ่ง....กำนันตอบ หลังจากนั้นกำนันก็รีบเดินทางกลับหมู่บ้านบางกระดี่ทันที ครั้นพอมาถึงก็รีบบอกกับไอ้แม้น ลูกชายว่า ของที่เก็บไว้นั้นระยะนี้ไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ให้มึงสั่งไอ้สนหรือไอ้เบี้ยวที่ตอนนี้ทุเลา มากแล้ว นำคนไปรีบจัดการย้ายไปเก็บยังที่อื่นก่อนแต่ไม่ใช่ในเนื้อที่เรานะ ไปเก็บซ่อนไว้ยังถ้ำ ภูเขาก็ได้ แต่ให้หาคนคอยเฝ้ารักษาไว้ด้วย เรื่องมันใหญ่โตถึงขนาดนั้นเชียวหรือพ่อ????.....ไอ้แม้นถามด้วยความสงสัย ใช่ว๊ะ...แม้แต่เสี่ยเองยังโดนเลยล่ะ หากมาถึงเราเห็นทีจะยุ่งกันใหญ่นะ แล้วด้วยตอนนี้ นายอำเภอแถบหมู่บ้านเราก็ถูกสับเปลี่ยนย้ายกันไปภายในยี่สิบสี่โมงแล้ว คนใหม่มันมาแทน เรียบร้อยแล้วด้วย เสี่ยเม้งมันบอกว๊ะ???......กำนันกล่าวกับลูกชาย เห็นทีจะช้าไม่ได้เดี๋ยวข้าจะไปสั่งไอ้สนกับไอ้เบี้ยวคืนนี้ช่วยกันลำเลียงไปเก็บไว้ในถ่ำภูเขา ก็แล้วกันนะพ่อ....ไอ้แม้นกล่าวเสร็จก็โขยกขาลงไปข้างล่าง ไม่รอคำตอบของผู้เป็นพ่อ พลาง สั่งคนไปตามไอ้สนกับกับเบี้ยวมาหาทันที..... ไม่นานนัก ไอ้สนกับไอ้เบี้ยวก็มาหาไอ้แม้นทันที่นั่งคอยอยู่บนแคร่ใต้ต้นมะขามใหญ่ ครั้นเมื่อ ทราบข่าวดังนั้นก็ตกใจ พลางกล่าวว่า... ไม่ต้องห่วงหรอกข้ากับไอ้เบี้ยวจะจัดคนไปนำของไปเก็บไว้ ด้วยภูเขาใกล้ๆบ้านเรานั้นมีถ่ำๆ หนึ่งที่มุมมันดี มีพุ่มไม้บังเสียด้วยล่ะและเป็นป่าเปลี่ยวๆคนไม่ค่อยจะเข้าไปหรอก มันกล่าวขึ้น เออๆๆดีแล้วล่ะว๊ะไอ้สน....แต่เอ็งต้องให้คนไปสืบก่อนจะนำของไปนะว่าไม่ให้ชาวบ้านรู้เห็น นะโว้ย ข้าเองรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกลเหมือนกันว๊ะ....มันอาจจะมาถึงตาเรานะ ไอ้แม้นกล่าว เรื่องนี้สบายมากว๊ะไอ้แม้น มึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกรับรองว่าเรียบร้อยแน่นอน ถ้าอย่างนั้นกูไปก่อนล่ะว๊ะ เวลาไม่อำนวยเสียด้วยเกิดพ่อมึงเข้ามาตรวจค้นก็จะลำบากว๊ะ เออๆๆดีแล้วไปเถอะว๊ะไอ้สนไอ้เบี้ยว งานเสร็จแล้วค่อยมาแดกเหล้ากันที่นี่ก็แล้วกัน ส่วนอีสาวๆก็อย่าให้มันรู้เรื่องด้วยนะโว้ย???...... ไอ้แม้นสั่งเป็นงานเป็นการทันที ผู้หญิงมักเก็บความลับไม่ค่อยจะได้กูไม่ไว้ใจ เออ..คืนนี้รับรองว่าสำเร็จแน่นอนว๊ะ มึงไม่ต้องห่วงหรอกว๊ะ.... แล้วมันทั้งสองก็รีบออกจากบ้านไป เพื่อไปตามคนมาช่วยนำของไปเก็บซ่อนอำพลางไว้ทันที.... ชายหนุ่มครั้นได้สอนวิชาอาคมเพิ่มเติมให้แก่สาวชบาและเจ้าแกละตลอดจนแม่นางอัปสร ทั้งสอง จนสาวชบาและเจ้าแกละสามารถเรียนรู้ได้มากพอแล้ว เขาก็ออกมานั่งเล่นยังชานเรือน คงปล่อยให้บรรดาทั้งหมดพร่ำสอนกันต่อไป สักครู่ใหญ่ ร่างของเจ้าแสงสีและเจ้าสินชัยก็ปรากฏขึ้นแล้วมารายเรื่องราวทั้งหมดให้ชายหนุ่ม ทราบว่าได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว เห็นท่านยิ้มพลางยังตบไหล่ข้าอีก เจ้าแสงสีรายงาน พร้อมแจ้งว่าให้คอยฟังข่าวก็แล้วกัน สั่งข้าว่าให้คอยระมัดระวังตัวไว้อย่าพึ่งแสดงอะไรออกมากนะ ทำหน้าที่เป็นสายสืบต่อไปก่อน สวนเรื่องงานนั้นรองผู้กำกับคนนี่ หัวหน้านายยังสั่งไว้ด้วยเมื่อได้ อ่านรายงานของนาย โอ้โฮ...ในชีวิตข้าไม่เคยพบคนใหญ่คนโตที่สูงสุดเลยพึ่งจะเห็นก็คราวนี้ล่ะ หากไม่เป็นลูกน้อง นายก็คงจะไม่มีโอกาสเช่นนี้เลยถือเป็นบุญข้าและเจ้าสินชัยจริงๆ พลางหันไปถามเจ้าสินชัยทันที จริงๆอย่างที่พี่แสงสีบอกแหละนาย.....เจ้าสินชัยสนันสนุนทันที ครั้นชายหนุ่มทราบดังนั้นก็ขอบใจหุ่นทั้งสอง พลางบอกว่าไปพักผ่อนได้แล้วข้านั่งมองท้องฟ้า และตรวจดูตามตำราที่เรียนมากับอาจารย์หลวงพ่อทองแล้ว ว่าจะมีอะไรๆอยู่เหมือนกันก็ยังนึกสงสัย หากพวกเจ้าพักผ่อนแล้วจะให้ไปสืบดูอีกทีหนึ่งนะ ......... ชายหนุ่มกล่าวขึ้น ข้าเองไปตอนนี้ก็ได้นายเพราะไม่ได้เหนื่อยอะไรมาเลยมีเรื่องอะไรก็บอกมาได้เลย เจ้าหุ่นทั้งสองตอบ..... ข้าได้ข่าวในเมืองแล้วล่ะ และทางอำเภอด้วย เพราะสายสืบข้ามารายงานเรียบร้อยแล้ว พลางกำลังนั่งนึกในใจคิดว่าหากแม้แต่เสี่ยมันยังถูกเช่นนี้ ในแถบนี้คงจะมีการสับเปลี่ยนขนย้ายของกันเป็นการใหญ่ หากพวกเอ็งหายเหนื่อยแล้ว ข้าคิดจะให้ลองไปติดตามข่าวทางกำนันมั่นหรือกำนันอื่นๆสักหน่อย....ชายหนุ่มกล่าว เจ้าแสงสีและสินชัยหันมามองหน้ากันแล้วพลันกล่าวแก่ชายหนุ่มว่า.... เดี๋ยวคืนนี้ฉันทั้งสองจะไปตรวจสอบเองนายไม่ต้องห่วงหรอก.... ว่าจะต่างแยกย้ายกันไปตรวจว่าจะมีการขนย้ายอีกหรือเปล่าครับนาย หากเป็นเช่นนั้นก็ดีซิ ทางเราจะได้รู้เขารู้เรากัน....ชายหนุ่มกล่าวขึ้น ถ้านายกล่าวเช่นนี้ ค่ำนี้ข้าจะแยกย้ายกันไปทำงานก็แล้วกัน ตอนนี้ข้าไปพักผ่อนก่อนนะนาย ให้มืดค่ำเสียก่อนการขนย้าย ฉันคิดว่าน่าจะเป็นกลางคืนมากกว่ากลางวันมากกว่า... เจ้าแสงสีและสินชัยตอบ ได้ผลอย่างไรก็จะมารายงานให้นายทราบอีกที ทั้งสองกล่าวขึ้นพร้อมๆกัน ก็ดีเหมือนกันข้าจะได้สั่งการได้ทันท่วงที นั้นพวกเจ้าไปพักผ่อนเถอะ.... ครั้นหุ่นทั้งสองซึ่งบัดนี้จะนับว่าเป็นหุ่นก็ได้เป็นคนก็ได้ ด้วยวิชาที่เขาถ่ายเทให้นั้นมากมาย จนสามารถแปลงกายเป็นเขา แม้แต่นายเขาเอง ยังไม่รู้ว่าคือหุ่นของเขา หมายถึงว่ามันร่ำเรียนวิชาได้คล่องแคล่วยิ่งนัก ชายหนุ่มนึก ส่วนพวกมันคิดว่าต่อไปอาจจะได้เป็นคนบ้างอย่างเจ้าชบาและเจ้าแกละก็ดีเหมือนกัน แต่มาคิดอีกทีก็เสียดายเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เจ้าแสงสีและเจ้าสินชัยคิดจนสับสนกัน แต่ก็ยังเสียดายหากเป็นคนจะปฏิบัติได้ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว ยิ่งคิดไปคิดมา ก็คิดไม่ตกอย่างใดมันเสียดายทั้งสองทาง แล้วร่างมันก็หายลับไป.... เมื่อร่างทั้งสองหายไปแล้วชายหนุ่มก็มานั่งคิดวางแผนอนาคตต่อไป พลางล้วงบุหรี่ขึ้นมาสูบแล้วอย่างใช้ความคิดต่างๆ พลางแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ซึ่งบัดนี้มีแต่ดาวสว่างไสวระยิบระยับแพรวพราวไปทั่วด้วยเป็นข้างแรมแก่ๆ ภาพจึงมองได้งดงามนักบางครั้งก็เห็นดาวตกอีกหลายๆดวง พลางนึกถึงตอนเป็นเด็กๆ เขาและพ่อมักจะออกมามองท้องฟ้ายามเดือนมืดเสมอๆ ในช่วงระยะเวลานี้ มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้น พลางใช้ความคิดไปต่างๆนาๆพลางๆ.... ทันใดนั้นเขาเห็นดาวที่สว่างไสวใหญ่สองดวงพลันล่วงตกเป็นทางยาวๆหล่นมา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พลันนึกได้ว่าที่เขากล่าวกับพ่อและแม่ว่าจะมีคนถึงฆาต คงจะเป็นในคืนนี้กระมัง???....ก็นึกฉงนใจยิ่งนักจึงนึกถึงตำราสอนของหลวงพ่อได้ แต่มาคิดว่านี่ก็ดึกมากแล้วไม่อยากไปรบกวนพ่อและแม่ให้ท่านพักผ่อนสบายๆดีกว่า ไว้พรุ่งนี้จะค่อยบอกท่าน แล้วก็เอามือมานั่งนับคำนวนตามตำราที่หลวงพ่อท่านสอน ดูเห็นว่าคงจะไม่ผิดพลาดแน่แล้ว หันไปมองห้องเขาที่ยังมีแสงตะเกียงสาดส่องอยู่ซึ่งคิดว่า พวกยังคงร่ำเรียนวิชากันอีก เขายกบุหรี่ขึ้นสูบไปพลางคิดเรื่องต่างๆอีกมากมายหลายๆอย่าง ที่ต้องกระทำอีกมากนัก และนึกถึงเบื้องบนเคยกล่าวกับเขาพลางทอดถอนใจเฮือกใหญ่ๆ นี่ก็คงจะใกล้ๆเวลาเสียแล้วซินะ ทั้งเขาจะได้น้องสาวน้องชายก็คราวนี้แหละ แต่ทว่าเขาอึ้งไป พักหนึ่ง พลางคิดว่าช่างเถอะหากมีอะไรเกิดขึ้นก็ให้มันเกิดไปล้วนแล้วแต่บุญและกรรมเท่านั้น ซึ่งมีน้องทั้งสองจะได้ช่วยพ่อแม่ได้เต็มที่เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลใจมากนักเรื่องพ่อและแม่ เขาเอง จะได้ไปทำงานเสียทีพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้าดูความงดงามสดสวยในยามค่ำคืนที่ยัง มีสายลมพัดเอื่อยๆต้องกายเขา อากาศหรือก็แสนจะชื่นใจด้วยใกล้กับภูเขาที่ค่อนข้างเย็นต่อไป.... เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาเขาก็บริหารร่างกายตามปกติ ภายหลังกินอาหารเรียบร้อยแล้วก็พลัน กล่าวกับพ่อแม่ว่า พ่อครับแม่ครับ???....พ่อเดินทางไปหาเพื่อนพ่อได้แล้วทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ได้แล้วนะครับเอารถกะบะไปด้วย ที่ผมเคยกล่าวไว้บัดนี้ถึงเวลาแล้วล่ะครับ ชายหนุ่มกล่าวขึ้น อ้าวๆๆแล้วจะให้พ่อแม่ไปบ้านไหนล่ะลูก ????....พ่อแม่ถามด้วยความสงสัย ก็บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่แจ่มที่มีลูกสาวและบ้านลูกบ้านติดๆกันชื่อฉลองที่มีลูกชายนั่นแหละครับ ตอนนี้คงจะกำลังเสียใจอยู่ เพียงพ่อแย้มๆให้เขาฟังว่าไม่เป็นไรให้รีบนำมาแต่อย่าให้ใครๆ ติดตามมา จะช่วยให้เด็กมันฟื้นขึ้นมาเท่านั้นนะพ่อ.... ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ชายผู้เป็นพ่อและแม่ฟังก็สงสัยยิ่งนัก ทำไมลูกเรามันรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาแล้ว จึงถาม ด้วยความสงสัยว่า???..... แล้วลูกรู้ได้อย่างไรกัน ก็ไหนบอกว่าสองอาทิตย์นี่มันเหลือเวลา อีกตั้งสองวันพ่อแม่ยังไม่ได้ไปหาเขาเลยล่ะ....และพ่อเขาทั้งสองก็รู้ชื่อด้วย ชายหนุ่มหัวร่อ ฮึๆๆๆๆแต่ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม นั่งเฉยๆพักหนึ่ง.... ลูกชายพลันเอ่ยขึ้นว่า.....เมื่อคืนนี้ผมนั่งดูดาวบนท้องฟ้าแล้วมาดูตามตำราหลวงพ่อท่านจึง ทราบว่าถึงเวลาแล้วก่อนล่วงหน้าที่ผมคาดคะเนไว้ครับพ่อ...... ชายหนุ่มตอบ แต่ว่าพ่อกับแม่ต้องไปเดี๋ยวนี้นะครับเดี๋ยวจะไม่ทันการเสียก่อนก็จะต้องคอยไปอีกนาน ทีเดียวจ๊ะพ่อ ชายหนุ่มตอบ พ่อเชียรแม่เข็มหันมามองหน้ากัน ต่างคิดว่านับวันลูกเรามันยิ่งเก่งกล้าแข็งไปเสียหมดแม้ แต่ดวงดาวในท้องฟ้ายังนำมาเทียบกับตำราของหลวงพ่อได้ คงจะไม่ผิดพลาดแน่ๆ จึงกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ บ้านผู้ช่วยกับบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ห่างไกลมาก สักเท่าไหร่ แต่อีกบ้านหนึ่งนะซิเขาจะยอมหรือ????....พ่อถามด้วยความสงสัย พ่อกับแม่ก็ไปบอกตามผมว่าเถอะครับ เขาเกรงใจพ่อแม่อยู่แล้วและยิ่งบอกว่าจะทำให้ฟื้น แล้วขอเขาว่าจะเอามาเลี้ยงเป็นลูกจะมอบสมบัติให้แก่เขาเท่านั้น ปัญหาอื่นๆก็หมดไปครับ... อ้าวๆๆ....แล้วของเอ็งไม่ห่วงสมบัติของพ่อแม่หรือไงว๊ะ???.....ชายเป็นพ่อถาม เรื่องสมบัติไม่ตายก็หาได้นี่ครับ พ่อก็รู้ว่าผมทำงานในตำแหน่งอะไรๆอยู่นี่นา จะมีเวลามาดู ที่ดูทางได้อย่างไร อีกอย่างหากพ่อแม่แก่แล้วผมจะไม่มีเวลามาดูแลเสียด้วย งานผมไม่เหมือนงาน คนอื่นๆนี่นา หากได้ชบาและเจ้าแกละก็เป็นลูกพ่อแม่เหมือนกันจะไปห่วงอะไรเพียงแค่เป็นคนดี เสียอีกนะ มันจะได้ช่วยดูแลไม่ต้องไปให้คนอื่นเขามาดูแลแทน ไม่ดีหรือครับ .....ชายหนุ่มกล่าว พอพ่อแม่พูดเท่านี้เพียงแค่เขาได้ยินพ่อกับแม่กล่าวเช่นนี้ เขาเองซ้ำจะดีใจมากไปเสียอีก.... แต่อย่าลืมนะห้ามนำใครๆมาร่วมเด็ดขาดนะนอกจากพ่อแม่และศพทั้งสองเท่านั้น ชายหนุ่มกล่าว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเวลาจะไม่ทันแล้วลูกต้องการอะไรอีกล่ะ???....พ่อแม่จะได้จัดการให้ ผู้พ่อเอ่ยขึ้น ไม่หรอกจ้า เพียงจุดธูปบอกกล่าวกับร่างเขาว่าให้ไปเกิดได้แล้ว เพียงขอแค่ร่างกายไว้เท่านั้นเองวิญญาณ เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงร่างเขา อีกอย่างเด็กทั้งสองก็นับถือพ่อแม่อยู่แล้วล่ะ แต่ให้กล่าวในใจนะพ่อ อย่าส่งเสียงดังให้ใครได้ยิน ตอนนี้เขาคงจะถูกนำตัวไปพิจารณาแล้วล่ะ ว่าจะให้ไปอยู่ที่ไหน คงเหลือแต่ร่างทิ้งไว้เท่านั้นเอง หากชบาและเจ้าแกละคืนชีพก็คงจะจำไม่ได้ว่าร่างที่เขาได้อยู่เป็นคน พ่อแม่เดิมเขาเป็นใครกันก็เท่านั้น หากพ่อแม่จะบอกก็ได้ แต่ผมคิดว่าชบาและเจ้าแกละมันคงจะไม่ไปหรอก พ่อรีบๆไปเถอะครับ ด้วยความเชื่อถือความสามารถของลูกชาย พ่อเชียรและแม่เข็มก็รีบนำรถกะบะออกจากบ้าน เดินทางไปตามที่ลูกชายบอกทันที......... * แก้วประเสริฐ. *
2 ธันวาคม 2553 14:40 น. - comment id 119679
มาติดตามงานครูอีกครับ
29 พฤศจิกายน 2553 21:56 น. - comment id 120275
ทำได้จริงๆเหรอคะ
29 พฤศจิกายน 2553 23:19 น. - comment id 120278
คุณ แจ้นเอง ผมก็ไม่เคยทราบเหมือนกันครับ ว่าจะ ทำได้หรือไม่ คิดว่าอ่านนิยายก็แล้วกันนะ ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 ธันวาคม 2553 21:09 น. - comment id 120342
คุณ กิ่งโศก วันนี้ครูไม่ค่อยสบายอากาศแย่จริงๆ ว่าจะเขียนต่อก็ต้องหยุดชะงัก ตอนนี้ดีขึ้น แล้ว ว่าจะเขียนต่อจะได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ซิื รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 กุมภาพันธ์ 2554 23:39 น. - comment id 122418
มาดูดาวที่พราวแพรวสว่างไสวระยิบระยับ แต่รอบๆตัวน่ากลัวเจ้าค่ะ..... โอมเพี้ยง......อุ่นใจ ชายชราไว้กันผี...ฮา