การเตือนที่เร่งด่วน...
คีตากะ
ข้อมูลเร่งด่วนจากท่าน Supreme Master Ching Hai
สวัสดี ท่านผู้พิพากษาอันทรงเกียรติที่เคารพ ท่านผู้ช่วยที่นับถือ ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่สูงส่ง ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษนี้ สำหรับโครงการใหม่ของท่านที่ชื่อ “Diploma Participation in Environmental Right” ในฐานะพลเมืองของโลกที่ให้ความใส่ใจต่อโลกใบนี้ ฉันขอแสดงความยินดีและขอบคุณสำหรับความเพียรพยายามอย่างจิรงใจนี้ ที่ท่านแสดงออกถึงความใส่ใจระดับสูงในการอุทิศตนต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเรา ขอให้สิ่งนี้เป็นแรงเสริมสร้างกำลังใจของท่านเพื่อนำความยุติธรรมที่สุดมาให้แก่ทุกชีวิตบนดาวเคาระห์ดวงนี้ วันนี้ ฉันรู้สึกได้รับเกียรติอย่างมาก ด้วยความถ่อมตัวของฉันต่อการปกครองด้วยปัญญาของท่านโดยการแบ่งปันข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและสาเหตุอย่างเร่งด่วนที่สุด
ก.ผลกระทบจากภูมิอากาศและภัยคุกคาม
เราได้รับสัญญาณต่างๆ จากวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น ปรากฏหลักฐานให้เห็นได้ทั่วทุกมุมโลก สิ่งแรกคือพายุที่มีความรุนแรงเป็นสองเท่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา อย่างที่เราสามารถเห็นได้ที่เกิดขึ้นในเม็กซิโกเอง เมื่อเร็วๆ นี้ พายุเฮอริเคนและน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายให้กับครอบครัว ซึ่งต้องได้รับความเจ็บปวดและเศร้าโศก ขณะเดียวกับที่ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระดับที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ประเทศที่เป็นเกาะอย่างน้อย 18 แห่ง จมหายไปและบริเวณชายฝั่งที่มากกว่านั้นยังถูกคุกคามต่อไป เมื่อธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่มากมายได้ลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประชากรมากกว่า 2 พันล้านคนขาดแคลนน้ำและอาหารไปแล้ว ความทุกข์อีกมากมายมาจากการขาดแคลนน้ำและแม่น้ำนับหมื่นๆ แห่งหายไปและเหือดแห้งลง ประเทศเม็กซิโกเองเวลานี้กำลังตกอยู่ภายใต้ภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 70 ปี เพื่อนมนุษย์มากกว่า 300,000 คน กำลังตายในแต่ละปีเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มากกว่า 20 ล้านคนต้องอพยพย้ายถิ่นฐานกลายเป็น”ผู้ลี้ภัยทางภูมิอากาศ” นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลเกี่ยวกับมีเทนเป็นพันๆ ล้านตันที่เกิดจากการละลายของชั้นดินเยือกแข็งคงตัวบริเวณอาร์กติกขั้วโลกเหนือเวลานี้ และมหาสมุทรที่กำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ แค่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งสามารถปลดปล่อยออกมาก็จะนำไปสู่การสูญพันธุ์อย่างมหาศาล
ข. สาเหตุ
อะไรคือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเสียหายเหล่านี้ ? มันไม่ใช่รถยนต์ หรือเครื่องบิน มันไม่ใช่โรงงานถ่านหิน และมันไม่ใช่แม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยควันทั้งหมดในโลกของเรา สาเหตุอันดับหนึ่งของภาวะโลกร้อนคือการปศุสัตว์ งานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้บอกเราว่าการเลี้ยงปศุสัตว์เป็นสาเหตุมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยแก็สเรือนกระจกของโลก ฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นแหล่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดของการผลิตมีเทนจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นแก็สเรือนกระจกที่สามารถดักความร้อนอย่างน้อย 72 เท่ามากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ โดยวัดในช่วง 20 ปี ข่าวดีเกี่ยวกับมีเทนดักความร้อนนี้คือว่าแก็สนี้มีอายุสั้นกว่าคาร์บอนไดออกไซด์และสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในบรรยกาศได้นานนับพันๆ ปี ขณะที่อายุของมีเทนในบรรยากาศแค่ประมาณ 12 ปี กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่ามีเทนสร้างความเสียหายมากกว่าในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าเราหยุดมัน เราจะสามารถหันกลับจากภาวะโลกร้อนได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการหยุดภาวะโลกร้อนอย่างรวดเร็วคือการหยุดปล่อยมีเทน เราจะต้องหยุดแหล่งอันดับหนึ่งของมันนั่นคือการทำฟาร์มปศุสัตว์
ค.การปศุสัตว์
เวลานี้ เรากล่าวเกี่ยวกับการปศุสัตว์ การทำฟาร์มปศุสัตว์เป็นสาเหตุของผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งทำให้ภาวะโลกร้อนเลวร้ายมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่องค์การสหประชาชาติและการศึกษาอื่นๆ กล่าวไว้ว่า การเลี้ยงฟาร์มปศุสัตว์เป็นที่รู้กันว่าเป็นสาเหตุผลกระทบสร้างความเสียหายดังต่อไปนี้
1. การทำลายป่า
การเลี้ยงฟาร์มปศุสัตว์เป็นตัวการเดียวที่มนุษย์ใช้ที่ดินมากที่สุดและเป็นสาเหตุหลักของการทำลายป่า ตั้งแต่ปี 2513 การผลิตปศุสัตว์ได้เป็นสาเหตุของการทำลายป่าในอะเมซอน 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการถางป่าเพื่อใช้เป็นทุ่งหญ้าปลูกพืชอาหารเลี้ยงสัตว์ให้เจริญเติบโต บริเวณป่าเขตร้อนขนาดเท่าสนามฟุตบอลถูกทำลายไปทุกๆ หนึ่งวินาทีเพื่อผลิตแฮมเบอร์เกอร์แค่ 250 ชิ้น นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าถ้าเรายังคงเดินอยู่บนเส้นทางแห่งการทำลายนี้ ป่าของโลกจะหยุดดูดซับแก็สเรือนกระจกในไม่ช้า และจะเริ่มปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลออกมาแทน มากไปกว่านั้นการทำลายป่าเพื่อกิจกรรมการทำฟาร์มปศุสัตว์ก็ยังผลิตคาร์บอนดำ(Black Carbon) คาร์บอนดำเป็นส่วนหนึ่งของแก็สเรือนกระจกที่สามารถดักความร้อนได้ 680 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นสาเหตุให้แผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งทั่วโลกละลายรวดเร็วยิ่งขึ้น การปล่อยคาร์บอนดำถึง 40 เปอร์เซ็นต์มาจากการเผาป่าเพื่อการทำฟาร์มปศุสัตว์
2. การกัดเซาะดินและกลายเป็นทะเลทราย
มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของการกัดเซาะหน้าดินรอบโลกมีสาเหตุมาจากการปศุสัตว์ซึ่งเกิดขึ้นมายาวนานพร้อมกับการทำลายป่า นำไปสู่การกลายเป็นทะเลทราย
3. การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
การทำฟาร์มปศุสัตว์เป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ของสัตว์และพืช เนื่องจากการเสื่อมสภาพของดิน และผลกระทบที่ทำลายที่อยู่อาศัยอื่นๆ อุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์กำลังฆ่าชีวิตป่าที่สวยงามของเราให้หมดไป รวมทั้งในเม็กซิโก
4. มลภาวะเป็นพิษ
ทุกๆ ส่วนของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของมลภาวะทางน้ำ ของเสียจากสัตว์ที่มากเกินไปที่ไม่มีการจัดการที่ดี ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาปฏิชีวนะ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปนเปื้อนจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์กีดขวางทางน้ำของเราและสร้างพื้นที่มรณะทางทะเล (Dead Zone) อย่างเช่น บริเวณที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในอ่าวเม็กซิโก
5. เชื้อโรค
โรคติดต่อในมนุษย์มากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ทราบกันมาจากสัตว์ ความสกปรกและสภาพไร้มนุษยธรรมของฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นที่อาศัยของเชื้อแบคทีเรียและไวรัส เช่น ไข้หวัดนก และไข้หวัดหมู ที่เราทั้งหมดทราบว่ามีการระบาดอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นสาเหตุการตายของคนจำนวนมากทั่วโลก
6. สูญเสียอาหาร
การทำฟาร์มปศุสัตว์ใช้เมล็ดข้าวปริมาณมากถึง 12 เท่า เพื่อผลิตโปรตีนที่เท่ากับผักในปริมาณที่เท่ากัน เมล็ดข้าวในโลกปริมาณ 730 ล้านตันที่ถูกเก็บเกี่ยวถูกใช้ไปกับการผลิตโปรตีนเนื้อสัตว์ ปริมาณนี้สามารถเลี้ยงประชากรที่หิวโหยทั้งหมดจำนวน 1 พันล้านคนของโลกหรือจำนวนหลายเท่ากว่านั้น
7. สูญเสียน้ำ
ต้องใช้น้ำมากกว่า 1,200 แกลลอนเพื่อผลิตเนื้อวัว 1 จาน แต่ใช้น้ำเพียง 98 แกลลอนเพื่อผลิตอาหารจากผักที่มีคุณค่า 1 มื้อ ขณะที่ประชากร 1.1 พันล้านคนขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัย เราสูญเสียน้ำสะอาดมีคุณค่าปริมาณ 3.8 ล้านล้านตันในแต่ละปีเพื่อการผลิตปศุสัตว์
8. สูญเสียพลังงานและทรัพยากร
การผลิตเนื้อสัตว์ต้องการพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลถึง 8 เท่าในการผลิต เมื่อเทียบกับการผลิตพืชผัก จากการศึกษาพบว่าการผลิตเนื้อและนมในเม็กซิโกใช้พืชผลทางการเกษตรและทรัพยากรมากที่สุดในประเทศและมันสะท้อนให้เห็นทุกๆที่รอบโลกล้วนเป็นเช่นเดียวกันด้วย หลักฐานทั้งหมดกล่าวด้วยเสียงอันดังและชัดเจน ถ้าทรัพยากรเหล่านี้ ที่ดิน น้ำ และเมล็ดข้าวถูกเปลี่ยนไปเพื่อค้ำจุนมนุษย์แทนการปศุสัตว์ โลกจะแตกต่างออกไปอย่างที่ควรจะเป็น นักวิทยาศาสตร์ทางภูมิอากาศที่น่านับถือ ประกอบด้วย ดร.เจมส์ เฮนเซนจากนาซ่า ดร.คาร์ลอส โนบริของบราซิลจากสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติ และดร.ราเจนดรา ปาเชารี ประธานคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (IPCC) ของสหประชาชาติ ทั้งหมดได้กล่าวว่าการลดการบริโภคเนื้อสัตว์หรือการเป็นมังสวิรัติคือวิธีการที่มีประสิทธิผลในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน นั่นคือเราต้องมีวิถีชีวิตที่ปลอดเนื้อสัตว์ มีวิถีชีวิตแบบเมตตา เวลานี้ฉันจะนำเสนอบางส่วนของประโยชน์หลายอย่างของการทานอาหารจากผักปลอดสารพิษ
ง. ประโยชน์ของผัก
อย่างแรก ที่ดินเพื่อการเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชเลี้ยงสัตว์สามารถเปลี่ยนมาเป็นป่าที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน นอกจากนั้นผืนดินยังสามารถนำไปใช้ในการทำไร่ปลูกผักปลอดสารพิษ(เกษตรอินทรีย์) ไม่เพียงประชากรจะมีอาหารกินอย่างเต็มที่ แต่แก็สเรือนกระจกมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในชั้นบรรยากาศสามารถถูกดูดซับ นอกจากนั้นยังเป็นการกำจัดของเสียมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นสาเหตุมาจากการทำฟาร์มปศุสัตว์อีกด้วย ดังนั้น โดยภาพรวมเรากำจัดแก็สเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างเกือบทั้งหมดด้วยการนำวิถีอย่างเรียบง่ายจากการปลอดเนื้อสัตว์มาใช้วิถีการปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรีย์ นี่ยังนำไปสู่การพยายามประหยัดเงินจำนวนมากให้กับรัฐบาลในโลก จากคำนวณเมื่อเปลี่ยนไปทานอาหารจากผัก รัฐบาลในโลกจะประหยัดเงินได้ถึง 32 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (992 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2593 หรือคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายเพื่อบรรเทาด้านภูมิอากาศ ท้ายที่สุด แน่นอนว่ามันมีประโยชน์อย่างดีเลิศต่อสุขภาพในการทานอาหารจากผัก ซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันและรักษาโรคหัวใจและเบาหวาน เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย อายุยืนยาว และรักษาสุขภาพ สร้างความเฉลียวฉลาด และความสงบให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
ในท้ายที่สุด ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีของประเทศที่ดีอย่างเม็กซิโกที่ค้นหาความเจริญก้าวหน้าทางด้านกิจกรรมสิ่งแวดล้อม และกำลังวางแผนเพื่อที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการเอาชนะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปกป้องโลก รัฐธรรมนูญของเม็กซิโกได้ระบุว่า”ทุกคนมีสิทธิ์อย่างเหมาะสมต่อการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและการอยู่ดีกินดี ” ไชโย ในช่วงเวลาที่เร่งด่วนที่สุดนี้สำหรับดาวเคราะห์โลก ฉันขอวิงวอนต่อความปราณีอย่างมีเกียรติของท่าน ได้โปรดกรุณาช่วนเหลือประเทศของท่านและสิ่งมีชีวิตบนโลกของเราจากหายนะเนื่องจากภาวะโลกร้อนที่กำลังจะมาถึง ถ้าท่านไม่กระทำ ก็จะมีหายนะที่ยิ่งใหญ่มากเกินไป ความทุกข์ทรมาณมากเกินไปต่อประชาชน ครอบครัว และเด็กๆ ซึ่งจิตสำนึกของเราอาจจะไม่มีวันแบกรับได้ ฉันให้เกียรติท่านในการพูดความจริงซึ่งเราต้องกลายมาเป็นผู้ทานผัก(Vegan) เพื่อช่วยรักษาโลกของเรา เราไม่สามารถรอคอยพลังงานแบบยั่งยืนและเทคโนโลยี่เขียวเพื่อให้เกิดขึ้นมาและให้ทุกคนได้ใช้ มันอาจจะสายเกินไป ฉันเรียกร้องความกล้าหาญของผู้ให้การปรึกษาที่มีอยู่ทั้งหมด ผู้มีอำนาจและพลังอำนาจในตัวท่าน จงนำประชาชนของท่านไปสู่วิถีชีวิตที่สูงส่ง มีคุณธรรม รักษาชีวิต และหนทางที่ยั่งยืนบนโลก ขอบคุณสำหรับความสนใจของท่าน พระเจ้าอวยพรทุกท่าน พระเจ้าอวยพรเม็กซิโก ขอบคุณ