ปาด
สะพั่งสะท้านไมภพ
มาสด้าสามสองสามจีแอลเอ็กซ์สีเทายังคงวิ่งบนเลนเดิมบนถนนพหลโยธินในเลนขวาราวเวลาสี่โมงเย็น สะพั่ง ในวันนี้ตั้งใจว่าจะขับแบบอะลุ้มอะล่วย จะให้ทุกคนไปก่อน และจะไม่โกรธหรือผรุสวาทให้ตัวเองฟังในรถอีก
ธรรมดาครับการจะทำความดีสักอย่างหนึ่งจะต้องมีมารมาผจญ และหลังจากคิดไม่กี่นาทีก็มาแล้วเป็นรายแรก เธอ เป็นผู้หญิงอายุราวสี่สิบปี เธอแซงมาทางขวา เส้นขวามันเป็นเส้นทึบสีเหลืองและมีพื้นที่ตีตารางสีเหลืองเธอจะปาดเข้ามาให้ได้ มีหรือคนอย่างสะพั่งจะยอม ชนเป็นชน แต่ก็หลบนิดหนึ่ง คือว่าอันที่จริงแล้วสะพั่ง ก็เป็นเพียงปถุชน ไม่รู้ว่าวินาทีที่ขยับพวงมาลัยหนีความดื้อนิดหนึ่งนั้นเป็นความกลัวหรือเปล่า ผมจอดรถมองดูในกระจกหลังเห็นเธอส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจหรือจะบอกผมว่าทำตัวงง ผมมองดูเธออีกที เมื่อตะกี้มีโครงๆนิดหนึ่งอาจมีการปะทะทางด้านกันชนขวาหลังก็ได้ แต่ผมสะพั่ง มองดูว่าเธอจะออกมาไหม ไม่ออก ผมก็ขำผมก็ไม่ออก เพราะว่าผมไม่ได้ให้เขาชนเพื่อที่จะเอาเงิน แต่จะเอาความมัน
ก็ผ่านไปแล้ว ขับมาอีกช่วงหนึ่งใกล้บ้านแล้ว รถจอดติดให้รถอีกเลนหนึ่งเลี้ยวขวา พอรถเริ่มเลื่อน มอเตอร์ไซด์แว้บเข้ามาเฉี่ยวกันชนซ้ายหน้า มอเตอร์ไซ์ปัดนิดหนึ่งแล้วทำท่าว่าจะทรงตัวไม่อยู่แต่ก็ทรงตัวอยู่ เสร็จแล้วเขาลากรถมาจอดทางขวาของรถผม ๆ ไขกระจกขึ้นแล้วดูลีลา เขากลับมองซ้ายมองขวาทีรถมอเตอร์ไซด์ของเขาอยู่จนผมชักลำคาญ ผมจึงถามไปว่าโอเคไหม มันยังคงทำท่าทางมองหารอยข่วนบนรถของเขาอยู่
ผมจึงตะโกนออกไปว่าง
โอเคไหม
กรูยังไม่ได้ดูรถกรูเลยว่าบุบหรือเปล่า
และรถของมรึงเองก็ขับปาดกรูเอง
โอเคหรือเปล่า
เขาพยักหน้าให้ผม
ผมปิดกระจกแล้วขับรถกลับบ้านต่อไป
ในใจของสะพั่ง ครุ่นคริด
นี่ขนาดตั้งใจจะขับรถแบบเรียบๆพอเพียงแล้วเชียวนา
แต่ทว่าสิ่งที่ต้องเกิดมันก็ต้องเกิด
นั่งนึกอีกทีนี่ถ้ามันไถลล้มลงไปสงสัยต้องเสียเงินแน่
ก็ถือว่าความตั้งใจที่ดีมาก่อนแล้วย่อมจะทำให้หนักกลายเป็นเบา
สะพั่งก็ผิวปากกลับบ้านและลืมแล้วซึ่งเหตุการณ์
และคิดว่าหากเอาจุดสี่ห้ามาด้วยกับตัวตอนขับรถ
และนำกระสุนมาเพียงสามแม๊ก
คงจะไม่พอยิงแน่
หากใจร้อนคงต้องยิงเป็นพันนัดในหนึ่งเดือน
ผมสะพั่ง สะท้านไมภพ รักรถคันนี้มากที่สุดเลย
มาสด้า สามสองสาม จีแอลเอ็ก สีเทา
แม้จะเล็ก เครื่องพันสี่ร้อยเก้าสิบเก้า แตรรถบันทุก เพราะต้องหนักไปในทางขู่ และ ชอบขับตามหลังผู้ใหญ่ (รถบันทุก) แต่ถ้าหน้าใหญ่แล้วหลังใหญ่ด้วยแล้วต้องระวัง อัดก๊อบปี้
เครื่องยนตร์ขนาดนี้ขับร้อยสีสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงยังเฉยๆ แต่ทว่าไม่อยากทำเพราะว่าพี่ตำรวจชอบโบกเป็นประจำหาว่าขับรถเร็ว แต่ในกรุงเทพเจอประจำ จนผมชักสงสัยว่า รถผมเป็นอะไร ตำรวจจึงชอบโบกเรียกนัก อ้อทะเบียนรถประจำปีนั่นเองผมวางไว้ไม่ได้ติดกระจก จึงทำให้ตำรวจเรียกเป็นประจำ
และสาเหตุอีกอันหนึ่งที่รักรถคันนี้มากเลยอย่างมากมายเพราะว่า
รัก
ติดตามผลงานของกระผมได้ที่
www.1935.in.th
ผลงานเขียนเรื่องราวต่างๆที่ไม่ได้นำลงในนี้
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงานครับ