เมฆหมอกและสายลม

พ.จินดา

กร ชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆ คว้ากระเป๋าเป้สะพายพาดบ่าถีบตัวลอยขึ้นจากเรืออวนลากสู่สะพานท่าเทียบเรือที่ทอดยาวออกมาจากชายฝั่ง ไม่นานนักเขาก็พาร่างที่บอบบางสภาพหนุ่มสำอางค์ผิวขาวสูงโปร่งหน้าตาหล่อเอาการ นั่งอยู่บนเตียงไม้หน้าร้านค้าที่เป็นของกำนันบนเกาะสวรรค์แห่งนี้  สายตามองทอดยาวออกไปสู่พื้นทะเลที่ส่งประกายระยิยระยับยามเมื่อลมพัดคลื่นเป็นริ้วกระทบกับแสงแดดยามบ่าย เมฆบนท้องฟ้าดูไม่หนา แต้มท้องฟ้าเป็นริ้วขาวๆ พาดยาว เป็นช่วงๆ
หากเป็นเมื่อก่อน กรคงจะมีความสุข เมื่อเห็นภาพเช่นนี้แต่ทว่าขณะนี้บนใบหน้าที่ขาวใสดูเสร้าหมอง เหม่อลอย แววตานั้นดูหม่นเศร้าไร้จุดหมาย
"เหนื่อยหรือครับหมอ ช่วงนี้แดดร้อนเป็นบ้า ระวังไม่สบายนะครับ"
ลุงกำนันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง หลังจากยกขันนำเย็นมาต้อนรับหมอหนุ่มที่อุทิศตนมาเป็นหมอชาวเกาะ ซึ่งมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ย้ายมาปฏิบัติงาน
รักษาคนไข้ที่นี่
"เปล่าครับ ลุงกำนัน ผมขออยู่คนเดียวเงียบๆก่อนน่ะครับ ขอโทษด้วย"
ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินไปนอนบนเปลอวนที่ผูกไว้กับต้นมะพร้าวคู่ริมชายหาดข้างบ้านกำนัน
เราเลิกกันน่ะ กร ขอให้เธอโชคดี ลาก่อน ประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากปากคนรักและเป็นประโยคเดียวที่ทำให้อารมณ์และความรู้สึกของกรอยู่ในสภาพนี้
จริงน่ะที่เขาว่ากันว่ากาลเวลาที่ผ่านไปสามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของคนได้
แต่สำหรับบางคนกลับตอกยำความทรงจำอันนั้นได้ดียิ่งขึ้นเมื่อกาลเวลายิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ ยากที่จะลืม 
ต่อตอนที่ 2				
comments powered by Disqus
  • พ.จินดา

    11 กรกฎาคม 2553 21:17 น. - comment id 117935

    เรื่องสั้นเป็นตอนตามพล๊อต 40 ตอนจบ ผู้เขียนได้ประสบการณ์จากเรื่องจริง โดยตัวละครในเรื่องมีตัวตนจริงๆ เพียงแต่นามสมมุติเท่านั้น ผู้เขียนขอขอบคุณเจ้าของเรื่องที่ได้อนุญาตให้เขียน และนำเปิดเผยเพื่อแสดงให้สังคมเห็นว่าโดยธรรมชาติที่สวยงามนั้นแท้จริงแฝงไว้ด้วยความจอมปลอมของสังคมที่ถูกปรุงแต่งด้วยผู้ที่เรียกตนเองว่ามนุษย์ ทั้งนั้น
    ติชมได้ครับ ด้วยความนับถือ จากผู้เขียน
    พ.จินดา

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน