ฟ้าเพียงดิน (๑๐) ชายหนุ่มรีบยกมือปิดปากทันที แต่น้ำยังเล็ดลอดออกมาจนได้ เขารีบกล่าวขอโทษหญิงสาวทันที “ขอโทษครับคุณพิมพ์ ไอ้เจ้ากานต์เขาใส่ร้ายผมมากครับ แหม๋ๆๆเหล้าหวานเพราะคุณรินให้ แต่ก็คง จะจริงดังมันกล่าวหรอกครับ ด้วยคนสวยเช่นคุณนั้นแม้เหล้าจะเผื่อนขมก็ยังหวานได้อีกนะครับ” “แน๊ะๆๆนี่ต่อหน้าต่อตานะโว้ยไอ้หนก การจีบกันไม่จำเป็นต้องมาแสดงออดอ้อนกันตอนนี้หรอก” “มึงเฉยๆๆเถอะนะเรื่องของกู คนนอกอย่าเสือกโว้ย” “ก็มันจริงนี่หว่า กูแทบจะอาเจียนไปกับมึงเชียวไม่ใช่หวานนะโว้ย แต่มันเอียนว๊ะ นี่ขนาดวันแรกที่ มึงเจอคุณพิมพ์นะ หากลับหลังมึงจะไปขนาดไหนกันกูไม่สงสัยเลยว่าทำไมพวกแอร์โฮสเตรทเขาถึงโทร มาหามึงเสมอๆนะ ดีนะที่มึงไม่ใช่คนเจ้าชู้แค่ไก่แจ้ไม่ใช่ไก่โต้ง มิฉะนั้นป่านนี้ลูกหมาออกเป็นครอกๆ เลยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วชายหนุ่มก็หัวร่องอหายทันที “ไอ้กานต์นะมึงทั้งชมทั้งด่าเชียวนะโว้ยพวก น่าถีบจริงๆ จริงไหมครับคุณพิมพ์” หนุ่มกนกได้โอกาส อ้อนออดทันที “เพียงแค่ได้ยินคุณทั้งสองพูดแบบนี้ เหมือนโจ๊กที่แสดงในละครไม่ผิดเชียวค่ะ หากไปแสดงบนเวที คนคงจะฮ่าเต็มโรงเชียวล่ะค่ะ“ แล้วหล่อนก็ยกมือปิดปากหัวร่อเบาๆ “หรือครับไอ้กานต์เพียงเห็นหน้ามันไม่ต้องกล่าวก็ทำให้คนดูหัวร่อได้แล้วล่ะครับคุณพิมพ์” “ใช่ซิใบหน้ากูมันทะเล้นอยู่แล้วแต่ดีอย่างไม่เป็นหน้าผีอย่างมึงหรอกโว้ยไอ้หนก” “มึงจะบ้าหรือไอ้กานต์ กูหรือหน้าผี แม้แต่พระเอกบางคนยังสู้กูไม่ได้เลยนี่พูดถึงหนังฝรั่งนะโว้ย” “เออๆ...กูเข้าใจเพราะหน้ามึงพระเอกนิโกรไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ” ชายหนุ่มตอบทันควัน “ ไอ้ๆๆๆๆๆคุณกานต์ครับผมถึงหน้าอย่างไรก็เป็นพระเอกนะขอรับท่าน ดีกว่าไปเป็นคนรับใช้เช่นมึง นะไอ้ห่า........” หนุ่มกนกกล่าวย้อนทันที “เออช่างเถอะหน้าอะไรก็ช่าง รีบๆแดกไปเถอะนี่ก็เย็นมากแล้ว แล้วเรื่องไปทะเลนั้น มึงอย่าลืมชวน คุณพิมพ์ไปด้วยนะโว้ย” ชายหนุ่มกล่าวต่อหน้าคนทั้งสอง ทำให้คนทั้งสองต้องหันหน้ามองกัน ได้โอกาสนายกนกทันที “คุณพิมพ์ครับ อาทิตย์นี้ไปเที่ยวทะเลนะครับ สวยๆน้ำใสแจ๋ว ธรรมชาติรอบข้างงดงามติดเขา อากาศสดชื่น มากครับที่ระยองแค่นี้เอง” หนุ่มกนกเอ่ยชวนทันที “คุณพิมพ์ คนเรานี่แปลกนะครับสิ่งที่เห็นกับไม่พูดแต่สิ่งไม่เห็นกลับกล่าวเป็นตุเป็นตะไปเชียว” “ทำไมจะไม่เห็นนะ กูไปเที่ยวทะเลบ่อยๆพาฝรั่งมันไปเที่ยวนะ มึงเสียอีกไปเรียนไปเที่ยวเมืองนอกหาได้ กลับมาเมืองไทยจะไปรู้อะไร ไอ้หอกหัก” “แต่ที่ไปนี่มันบ้านพักอากาศของกูนะโว้ย” “เออใช่กูไม่เถียง แต่ว่ามันย่อมเปลี่ยนแปลงไปนี่นา” หนุ่มกนกไม่ยอมแพ้ “งั้นมึงเก่งนั่งเทียนก็เก่งว๊ะ กูยอมแพ้” ชายหนุ่มตอบ แล้วไอ้หนกก็หันไปออดอ้อนหญิงสาวทันที หญิงสาวได้ยินเช่นนี้ก็หันหน้ามาขออนุญาตต่อชายหนุ่มทันที “ว่าไงค่ะคุณชาย จะอนุญาตให้ดิฉันไปด้วยหรือเปล่าล่ะค่ะ” “สำหรับคุณพิมพ์ ผมพร้อมจะอนุญาตเสมอๆแหละครับ ทั้งสวยทั้งเก่งการงานด้วยมีหรือคนอย่างผมจะ ไม่ยินยอม” กล่าวจบหันหน้าไปทางเพื่อนทันที ชายหนุ่มชื่อกนกได้ฟังก็บังเกิดตาเขียวปัดทันที “ทำไมต้องไปขออนุญาตมันด้วยล่ะครับคุณพิมพ์ มันไม่ได้ทำงานกับคุณสักหน่อยหัวหนงหัวหน้าก็ยังไม่ได้ เป็นนี่ครับ” หนุ่มกนกกล่าวขณะหันหน้าไปทางหญิงสาว “ไม่ได้ซิค่ะคุณกนก เพราะว่าอีกไม่เท่าไหร่เขาก็มาเป็นหัวหน้าโดยตรงพิมพ์แล้วนี่นา และต้องทำหน้าที่ เลขาส่วนตัวของคุณชายด้วย” “ใช่ครับคุณพิมพ์ แต่ว่ามันตอนนี้ยังเป็นแค่คนนอกนี่นา และการไปเที่ยวของเราหาได้เกี่ยวข้องกับมันไม่” ชายหนุ่มกนกกล่าว “หากมันไม่อนุญาตหรือคิดร้ายประการใดคุณบอกผมได้เลยนะครับ ผมจะเล่นงานมันเอง” กล่าวจบพลาง แอ่นอกยืดทันที “ครับคุณกนกผู้ยิ่งใหญ่ เชิญครับคุณพิมพ์ เดี๋ยวไอ้หนกมันเตะผมหากไม่อนุญาต อิอิ “ “ถ้าหากคุณชายอนุญาต เป็นอันตกลงค่ะ พิมพ์จะได้เตรียมตัวแต่สงสัยจะไปแค่คนเดียวกระมัง แต่ขอให้ คุณชายช่วยดูแลพิมพ์ด้วยนะค่ะ” “ผมเองรับอาสาครับไม่ต้องให้ไอ้กานต์มันดูแลหรอกครับคุณพิมพ์ ไอ้กานต์มันยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้” หนุ่มกนกกล่าว “เดี๋ยวคุณจะอันตรายมาก ด้วยได้ข่าวว่าลูกสาวพวกคุณหญิงคุณนายเพื่อนแม่มันจะพาลูกสาวไปด้วย ทุกๆคน จ้องตัวมันเหมือนอาหารอันโอชะครับคุณพิมพ์ อาจจะเข้าใจผิดผมรับหน้าที่ดูแลเอง” “นั่นซิครับคุณพิมพ์ ผมเองกลุ้มใจจะห้ามคุณแม่หรือก็ไม่ได้เกรงใจท่าน ส่วนท่านเองหรือก็ปฏิเสธไม่ได้ เช่นเดียวกันด้วยเป็นก๊วนเดียวกัน ผมยังจะหาทางออกไม่ได้เลย สงสัยงานนี้ผมเองจะแกนๆไปล่ะ ส่วนไอ้หนก มันมีคุณคอยดูแลให้ก็ดีไป หาใช่ว่าผมจะรังเกียจนะครับกลัว พวกยายหน้าม้า ยายหน้าเต้าหู้ ยายหน้าไข่เจียวมัน จะหึงคุณคิดไม่ดีกับคุณได้ครับ” ชายหนุ่มกล่าวแล้วทำใบหน้าให้เศร้าสร้อย ดังกับคนจะใกล้ตายเสียให้ได้ ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งเฮือกเมื่อ ปรากฏมีสิ่งหนึ่งมากระทบสีข้างเขา เมื่อมองไปเห็นเป็นขวดโซดากระแทกชายโครงเขาเบาๆ ให้นึกว่าเป็นเท้า ของไอ้หนกไปเสียอีก “ไอ้กานต์มึงจะมากไปแล้ว ทำหน้าทำตายังกับคนจะตายโหงตายห่าเชียวนะมึง ไม่นึกถึงหัวอกกูบ้างเลยนะ เพื่อน นี่กูอุตส่าห์ปกป้องคนของมึงให้อย่างดีที่สุดเท่าชีวิตนะโว้ย” “เออขอบใจมากว๊ะ ที่ดูแลคุณพิมพ์ หากคุณพิมพ์เสียใจเมื่อไหร่มึงดูฤทธิ์กูซะ เมื่อสมัยเรียนหนังสือใครล่ะ ว๊ะที่นำหน้าชกต่อยกับต่างคณะ ถึงมึงจะเป็นมวยได้แชมป์มาก็ตาม แต่เวลาต่อสู้จริงๆไม่เป็นสับปะรดเลย” “ก็มันไม่ได้ต่อสู้ตัวต่อตัวนี่นา มันมาแบบตัวใครตัวมันโว้ย เออมึงเก่งที่ปราบพวกมันราบคาบกูเองก็สงสัย เหมือนกันว่า แม่ไม้มวยไทย กังฟู คาราเต้และก็ยูโด มึงแอบไปเรียนมาจากไหนว่าจะถามมึงก็พอดีมึงไปต่าง- -ประเทศเสียก่อน” ชายหนุ่มกนกขมวดคิ้วสงสัย “กูฝึกไม่เท่าไหร่หรอกว๊ะ กูแอบไปฝึกไม่ให้คุณพ่อคุณแม่รู้ ออกจากมหา’ลัยก็ไปฝึก มวยไทยกูฝึกที่ค่าย ศรีโสธร กังฟู คาราเต้ ยูโดที่สมาคม ส่วนกังฟู คาราเต้ ยูโดกูก็ได้สายนิดๆหน่อยแค่สายดำเท่านั้นเองว๊ะ” ชายหนุ่มเอ่ยให้เพื่อนฟัง “ไหนๆๆๆ?????....มึงพูดให้กูฟังใหม่อีกทีว๊ะ” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมนั่งเตะไปยังร่างชายหนุ่มทันที แต่แล้วมันก็สะดุ้งโหยงเมื่อเจอท่อนแขนรับไว้ พร้อมมีการถีบใส่ยังหน้าอกมันกระเด็นไปทันที หนุ่มกนก หัวร่อก๊าก “เออๆๆกูเชื่อมึงแล้วล่ะว๊ะ นี่ขนาดทดลองนึกว่ามึงเป็นแมงโม้เสียอีก” เอาล่ะแล้วมึงจะออกเดินทางไปเมื่อไหร่ล่ะว๊ะ กูจะได้แจ้งให้เพื่อนๆไม่กี่คนของเราให้มันเตรียมตัวไว้ก่อน แต่สงสัยมันจะพาเมียมันไปด้วย ยิ่งไอ้รุจน์มันกลัวเมียมันยิ่งกว่าแม่มันเสียอีก” หนุ่มกนกกล่าว “อาทิตย์หน้าแหละว๊ะ เพราะหลังจากนั้นมากูก็ต้องเข้าบริษัททำหน้าที่แทนพ่อกู” กล่าวจบชายหนุ่มก็หันไปทางหญิงสาวทันที “อย่างไรฝากให้คุณพิมพ์แนะนำผมด้วยนะครับ ด้วยผมยังไม่รู้จักชื่อหัวหน้าผู้จัดการใหญ่ฝ่ายต่างๆเลยครับ” “ค่ะๆๆแล้วพิมพ์จะจัดประชุมอีกครั้งหนึ่งที่คุณมารับงาน” หญิงสาวเอ่ย “ถ้าเช่นนั้นก็ดีซิครับผมจะไปช้าแต่ให้ทันเข้าประชุม เพื่อให้คุณแจ้งแก่ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายก่อนนะครับ แล้วแจ้ง ว่าให้ทำรายงานรายรับรายจ่ายทั้งหมดมามอบให้ด้วยในที่ประชุมนะครับ เพื่อผมจะได้ศึกษาไว้ครับ” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ “ค่ะวันจันทร์นี้พิมพ์จะกำหนดประชุมและแจ้งให้เขาทราบเพื่อเตรียมตัวหลักฐานต่างๆไว้ให้คุณ และจะ แจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าก่อนค่ะ” หญิงสาวกล่าวตอบชายหนุ่มทันที พร้อมทั้งกล่าวขอตัวแก่ชายหนุ่มทั้งสองด้วยเวลามันจวนจะมืดค่ำแล้วเพื่อ ไปจัดทำธุระบางประการของหล่อนที่คั่งค้างไว้ “ครับเชิญเถอะครับ เดี๋ยวพวกผมก็จะกลับเหมือนกันครับ”ชายหนุ่มทั้งสองกล่าวพร้อมๆกัน หลังจากนั้นหญิงสาวก็ยกมือไหว้ทั้งสองแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างในบ้าน เพื่อไปลาแม่แย้มเจ้าของบ้านก่อนจะ กลับ เหลือแต่หนุ่มทั้งสองต่างก็ยังร่วมดื่มและต่างก็ชวนกันกลับหากหญิงสาวออกเดินทางพ้นรั้วบ้านไปแล้ว ครั้นหญิงสาวก้าวลงบันไดแล้วขี่จักรยานพ้นหายไปทางแนวทางคดเคี้ยวตามสวน เขาทั้งสองก็ลุกขึ้นเดิน เข้าไปข้างในทันที ครั้นเห็นแม่แย้มกำลังนอนเล่นอยู่บนตั้งที่วางไว้มียายแจ่มกำลังนวดขาให้อยู่ ก็ต่างค้อมตัว เข้าไปหาแล้วยกมือไหว้กล่าวลาทันที “แม่ๆผมเห็นจะต้องกลับแล้วล่ะครับ ด้วยมืดแล้วเดี๋ยวขับรถลำบาก” หนุ่มกานต์เอ่ยขึ้น แม่แย้มก็ลุกขึ้นนั่งทันที ชายหนุ่มทั้งสองเข้าไปกราบบนตัก หญิงวัยกลางคนค่อนข้างชราก็ยกมือลูบบนศีรษะ หนุ่มทั้งสองทันทีแล้วเอ่ยว่า “แล้วพ่อกานต์พ่อหนกจะมาอีกเมื่อไหร่ล่ะแม่จะได้เตรียมเข้าเตรียมของไว้ให้จ๊ะ” “ไม่ต้องลำบากแม่หรอกครับ ผมมาเมื่อไหร่เอาแน่ไม่ได้ ผมมาก็จะซื้อมาเองแหละครับ แม่ระวังเนื้อระวังตัว ด้วยครับ ผมเป็นห่วงแม่มากครับ “คงไม่มีอะไรหรอกทางนี้มีพ่อม่วงกับแม่แจ่มค่อยเป็นหูเป็นตาให้แม่อยู่แล้ว งานทั้งหมดพ่อม่วงแม่แจ่มก็ จัดการดูแลไม่เคยขาด” “ป้าแจ่มผมฝากแม่ผมด้วยนะครับ “ ชายหนุ่มหันไปทางยายแจ่มทันที “คุณชายไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ ท่านมีบุญคุณแก่พี่ม่วงและดิฉันมามากเหลือเกิน” “นี่บัตรผมและหมายเลขโทรศัพท์ให้ไว้เผื่อว่าเกิดสิ่งใดกับแม่ผมก็ให้รีบโทรด่วนทันทีนะป้า” ชายหนุ่มเอ่ย ป้าแจ่มก็ยื่นมือมารับเป็นการ์ดนามบัตรสองใบ ใบหนึ่งให้แม่แจ่มอีกใบหนึ่งมอบให้แม่แย้มไว้หาก ต้องการจะเรียกเขา “ผมจะมาทันทีหากได้รับโทรศัพท์จ๊ะแม่ งั้นผมกับไอ้หนกขอลากลับก่อนนะครับวันหน้าค่อยจะมาอีก” “เจริญสุขเถิดลูก ระมัดระวังเนื้อตัวด้วยนะ ขับรถไม่ต้องเร็วมากนะลูกทานเหล้าอาจจะใจร้อนจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนอดเป็นห่วงไม่ได้ “ครับๆ ไม่เร็วหรอกครับผมรู้ตัวดีครับ งั้นผมไปล่ะครับแม่” ชายหนุ่มกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นพร้อมกนก แล้วเดินทางลงบันไดหน้าบ้านทันที แม่แย้มกับยายแจ่มก็มายืนส่งอยู่ ด้วย ครั้นชายหนุ่มแลไปที่โต๊ะที่ตั้งไว้ด้วยขวดเหล้าและโซดา เหล้ายังไม่หมด ก็แจ้งให้นายม่วงทราบว่าจะกลับ แล้ว และแจ้งให้นายม่วงตามเขามาด้วย ครั้นถึงที่รถแล้วชายหนุ่มก็เปิดประตูหลังนำเหล้ามาให้อีกหนึ่งขวด แล้วกล่าวว่า “ตาม่วง ขวดนี้ไว้ทานวันหลังนะ ผมกลับก่อนล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น “ขอรับคุณชาย แล้วเมื่อไหร่จะมาอีกล่ะขอรับ” “ยังไม่แน่เลย มาแล้วก็จะรู้เองแหละฝากแม่แย้มไว้ด้วยนะตาม่วง” “โอ้ยๆไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมกลางคืนกับแจ่มมันนอนอยู่หน้าห้องคุณนายอยู่แล้วขอรับ” “ถ้าแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย ไปล่ะพ่อม่วง” “ผมก็ลากลับด้วยนะครับ” ชายหนุ่มกนกกล่าวเช่นกัน “ระวังหน่อยนะครับถนนยังไม่ค่อยจะดี บางที่มีขรุขระบ้างขอรับ” “ครับผมจะระวังไว้ ไปล่ะ” กล่าวแล้วชายหนุ่มทั้งสองก็ขึ้นรถสตาร์ทรถออกไปจากบ้านทันที ครั้นขับมาได้สักพักหนึ่งเมื่อออกจากถนนซอยมาถึงถนนใหญ่ ชายหนุ่มก็เร่งความเร็วทันทีเล่นเอาเพื่อนถึงกับร้องลั่น “เฮ้ยๆๆๆเบาๆหน่อยนะโว้ยนี่มันเมืองไทยไม่ใช่ต่างประเทศนะ” “เออกูรู้โว้ย มึงไม่ต้องห่วงหรอก” ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่าไหร่นัก ด้วยบนถนนหลังจากออกจากตัวเมืองนนท์ถนนก็ว่างรถ ดังนั้นชายหนุ่มก็เร่ง เร่งรถเร็วทันที ไม่นานนักเขาก็มาถึงบ้านเจ้าหนกเพื่อนรัก หลังจากส่งมันแล้วมันเรียกให้มานั่งถองเหล้าต่อแต่ ไม่ยอมไม่ล่ะจะต้องรีบกลับบ้านแล้วล่ะ มีงานจะต้องทำอีก แล้วก็สตาร์ทรถออกไปทันที เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านเขานำรถไปจอดเก็บยังโรงรถเรียบร้อยแล้วก็ค่อยๆเดินทอดน่องลัดเลาะมาทางหลัง ตึกใหญ่ทันที เมื่อเดินผ่านต้นไม้มายังบ้านเล็กของเขา ชายหนุ่มก็ต้องพลันชะงักร่างทันทีพร้อมทั้งเข้าแอบยัง หลังต้นไม้ เมื่อเขาได้ยินเสียงโหวกเหวกดังขึ้นจากเหล่า บรรดาลูกสาวคุณหญิงคุณนายกับรปภ.ที่เฝ้าบ้านอยู่ เมื่อได้ยินเสียงดังลั่น........... * แก้วประเสริฐ. *
27 มีนาคม 2553 10:34 น. - comment id 116123
คุณชายฯ ศิลปการป้องกันตัวมีพร้อมเลยครับท่าน เคารพค่ะ
27 มีนาคม 2553 14:27 น. - comment id 116131
คุณ ทางแสงดาว ครับทุกๆคนย่อมมีศิลปะป้องกันตัวทั้งสิ้นจะ มากน้อย ศิลปะนั้นเมื่อเกิดมาเป็นคนไทยย่อม เกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ คุณสังเกตุไหมครับว่า เด็กชายคนไทยนั้น เวลาต่อยกันจะมีการเตะนำ หรือถีบนำเสมอ หรือเด็กหญิงบางคน ด้วยมันมากับสายเลือดไปแล้ว หากมาฝึกฝนเพิ่มเติมย่อมเพิ่มอีกไม่ว่าจะเป็น กังฟูหรือเทคอนโด้ ก็อาศัยเท้าเป็นสิ่งนำหน้าเสมอๆ ครับ หากเขามีกฏเกณฑ์บังครับไม่ให้เราได้ใช้ ศิลปะมวยไทยอันมีมาแต่กำเนิดไว้ คนไทย ก็จะครองแชมป์เสมอ อย่างเช่นตะกร้อลอด บ่วงหรือเซปัคตะกร้อนั้นหาใช่ของมาเเลเซีย ไม่ เป็นศิลปะของคนไทยมาเก่าก่อน เราถึง ได้ครองแชมป์มามากที่สุดไม่ว่าจะแข่งที่ไหนๆ ฉนั้นพระเอกย่อมมีศิลปะบ้างครับ อิอิ รักเสมอๆครับ แก้วประเสริฐ.
30 มีนาคม 2553 09:26 น. - comment id 116169
หวัดดีค่ะครู เรื่องนี้อ่านไปยิ้มไปค่ะ
30 มีนาคม 2553 12:36 น. - comment id 116177
คุณ เที่ยนหยด ศิษย์รักครู ระยะนี้ครูจะไม่เขียนด้วยไปหา ประสบการณ์ชีวิตไว้คงจะรู้นะว่าเป็นงานอะไรเลย ว่างเว้นจากงานเขียนทั้งหมดก่อน ให้มีอารมณ์ สุนทรีย์เคยบอกว่าเรื่องนี้พยายามจะหามุขสนุกๆ ไว้ครับ คนอ่านจะได้ไม่เครียด ด้วยเครียดจาก เรื่องที่แล้วมา ก็ให้สนุกสนานกับเรื่องนี้ไปครับ รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.