"คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม? " เสียงชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในมุมระเบียงทักถามจนดารินตกใจระคนแปลกใจว่าเสียงที่ถามนั้นถามเธอหรือเปล่า เธอทำหน้าแบบงง และมองใบหน้าคมสันที่รับกับแสงสลัวๆ ของไฟที่สาดมาจากห้องจัดเลี้ยง และสบตาเป็นสัญญาณว่าถามเธอหรือเปล่า? "ก็คุณนั่นแหละ ผมไม่ได้บ้าพูดคนเดียวหรอก" เสียงเขาส่งมาพร้อมแววตาค้นหา "ฉันเหรอ? " แต่ในใจก็คิดว่าไม่บ้าเหรอ? นายนั่นแหละบ้าชัด ๆ ฉันไม่รู้จักนายซะหน่อย "อืม...ใช่ ผมถามคุณนั่นแร่ะ ผมเห็นคุณตั้งแต่เดินออกมาแล้ว แต่คุณไม่ยักกะเห็นผม" เขาสาธยาย อะไรกันผู้ชายคนนี้ ทำให้ภายในใจดารินคิดกลัวขึ้นมา ตานี่โรคจิตหรือเปล่านะ ทำให้ต้องโมโหตัวเอง บ่นในใจว่านี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะที่หนีออกมาจากงาน เพียงเพราะเซ็งกับเหตุการณ์ภายในงาน มันไม่คุ้มกันเลย กับเหตุการณ์ที่ต้องเจอในตอนนี้ ไม่รู้จะต้องมาถูกตาบ้านี่ลวนลาม หรือจับเป็นตัวประกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ (โหคิดไปได้ไงเนาะ) สิ่งที่ทำใด้เพียงเงียบและจ้องหน้าบุรุษที่อยู่เบื้องหน้า ที่ห่างกันราวสามเมตร พยายามสังเกต ว่ากิริยาอาการท่วงท่าประมาณไหน เมา หรือ กำลังหื่น บ้ากาม หรืออะไรก็แล้วแต่ "คุณไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมรู้คุณกำลังกลัว และอยากบอกว่าผมไม่ได้เมาแค่มึน" เขาสาธยาย(พล่ามมากกว่า) เขาหันมามองหน้าที่ตื่นกับเหตุการณ์ ทั้งรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้สวย เมื่อได้สบแวววาที่มาดมั่นนั้น ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่เพียงแต่สวยยังน่าค้นหาในความสวยเรียบแต่เก๋ ยิ่งพิศดวงหน้ายิ่งละมุนตา ระหว่างที่จ้องดวงหน้าที่คล้ายต้องมนต์สะกด ทำให้เขาสำนึกได้ว่าเขาเสียมารยาทกับผู้หญิงคนนี้ซะแล้ว ทำให้เขาตื่นจากภวังค์ที่ครุ่นคิดก่อนหน้าหญิงสาวผู้นี้จะเดินออกมาทำลายความคิดเขา จนกลายเป็นเรื่องให้เขา คิดหาเรื่องสนุก ๆ ทำและเธอกลายเป็นเหยื่อให้เขาเล่นตลก... แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนุกด้วยเลยสักนิด ความหวาดหวั่นหวาดกลัวผุดขึ้นมาพร้อมตั้งรับอยู่ตลอดเวลาแววตาที่จ้องมองผู้อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาระแวงระวัง และมาดมั่นพร้อมรับกับสถานการณ์ "ผมขอโทษคุณครับ ผมมองไม่ถนัดเมื่อสักครู่" เป็นคำแก้ตัวน่ารังเกลียดยิ่งในความรู้สึกของดาริน "คุณเมาหรือเปล่า" หล่อนถามพร้อมจ้องหน้า "ป่าวครับ ผมแค่มึนกับไวน์นิดหน่อยเท่านั้นเอง" เสียงเขาพูดเหมือนล้อ ๆ "ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ" ยังจะรักษามารยาทอีกนะ คุณผู้หญิง อะไรจะในเย็นปานนั้น ในความใจเย็นและให้อภัยนี้เองที่ทำให้ชายหนุ่ม ที่เสียมารยาทกับเธอแอบชื่นชมอยู่ลึกลึกเขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้นิ่ง และเหยียบบางแว๊ปที่แววตาท่อประกายทำให้น่ากลัวดุจเสือร้ายใจรู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ที่สวย แต่ไม่โดดเด่น แต่ยามมองก็สง่าละมุนในความเรียบหวานซ่อนอยู่เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้กลับไปเจอชายหนุ่มอีกสิบภายในงานเลี้ยงได้อย่างไร... "อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนไม่ได้หรือครับคุณผู้หญิง" เสียงทุ่มแต่ฟังนุ่มกว่าที่ผ่านมา "ฉันต้องขอตัวค่ะ ผู้ใหญ่ท่านรอนานมากแล้ว" นางเอกได้อีก ดาริน ชายหนุ่มกำลังจะเอ่ยปากเพื่อเซ้าซี้หญิงสาวเพื่อให้อยู่คุยเป็นเพื่อน ก็ผละเสียก่อนเมื่อสตรีวัยกลางคนกำลังเดินออกมาพ้นประตูแล้วกำลังเดินตรงมาหาเขา ที่ยืนเผชิญหน้ากับหญิงสาวในชุดราตรีพลิ้วด้วย ผ้าซีฟรองซ์สีฟ้าคุมเข่าดูเรียบแต่หรู กับท่วงท่าที่นิ่ง บางเสี้ยวนาทีก็ดูน่าสพึงแทบใจหาย "อ้าว หนูรินมาอยู่นี่เอง รู้จักกันแล้วเหรอ? จ๊ะ " สตรีผู้นี้ก็คือป้าศรีพรรณที่เป็นเพื่อนป้าสร้อยทอง เป็นญาติทางเจ้าบ่าวนั้นเอง ซึ่งหล่อนก็เพิ่งรู้จักก่อนเข้ามาในงานด้วยการแนะนำของป้าสร้อยทอง "คุณป้า มีอะไรกับรินหรือเปล่าค่ะ" หญิงสาวยิ้มต้อนรับผู้มาเยือนด้วยใบหน้าอ่อนหวานและไม่พ้นสายตาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลไปได้ ทุกกิริยาเขาเก็บไว้เป็นข้อมูลเสียแล้ว "จ๊ะ ก็คุณสร้อยเขาถามหาหนูริน ป้าก็อาสาเดินมาตามจะมาตามหาลูกชายตัวแสบของป้าด้วยจ๊ะ"ป้าศรีพรรณ ที่อ่อนโยน และใจดี สาธยายการมาขัดจังหวะของสองหนุ่มสาว ซึ่งดารินคิดว่านั้น ถือว่าเป็นโชคดีที่ป้าศรีพรรณมาทันเวลาก่อนที่อะไรร้าย ๆ จะเกิดขึ้น ดารินรู้ทันที่ว่าบุคคลที่สามในการสนทนาเป็นบุคคลเดียวกันที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากหล่อนทำให้ต้องหันไปมองหน้า ที่กำลังจ้องมองมาอย่างไม่วางตาแบบไม่กระพริบ... "รู้จักกันหรือยังจ๊ะ ถ้ายังเดียวป้าจะแนะนำให้รู้จักจ๊ะ " ป้าศรีพรรณจัดแจงแนะนำสองหนุ่มสาวให้รู้จักันไว้ "นี่จ๊ะ รณช ลูกชายป้าจ๊ะ " ป้าแนะนำบุรุษอัตพาลที่เสียมารยาทกับดารินด้วยไม่รู้ว่าก่อนนี้พ่อตัวดีทำอะไรไว้ดารินไหว้บุรุษที่อยู่ตรงหน้า แต่แววตาหมายคาดโทษเสียแล้ว "รณช ดาริน โรจน์กาญกิจ ลูกสาวเพื่อนแม่ เป็นหลายสาวของป้าสร้อยทองจ๊ะ" ป้าศรีพรรณ พรรณนาซะยาว รณช มองหญิงสาวที่มีแววตาคาดโทษ ด้วยแววตาขี้เล่น และยี้ยวน ทำให้หญิงสาวไม่สบอารมณ์แต่ก็ต้องข่มไว้ ต่อหน้าผู้ใหญ่ต้องเรียบร้อยไว้ "สองคนรู้จักกันเป็นทางการแล้ว เข้าไปข้างในกันไหม? จ๊ะ หรือจะคุยกันต่อข้างนอก" ป้าศรีพรรณมาเพื่อสิ่งนี้หรือช่างได้จังหวะเสียจริงนะ ซึ่งแท้จริงแล้วป้าศรีพรรณ และป้าสร้อยทอง หมายหมั่นจะให้สองคนนี้รู้จักกันในการนี้ เป็นเรื่องที่คิดไว้ก่อนแล้ว ซึ่ง รณช ก็รู้ดีว่ามาออกงานกับมารดาครานี้ต้องมีการดูตัวเป็นแน่ แต่ไม่รู้ว่าหญิงสาวที่กระหายผู้ชายคนนั้นจะเป็นใคร การมาที่นี่ของ รณช ถือเป็นเรื่องร้ายร้ายสำหรับเขาทีเดียว แต่เขาก็ต้องยอมมาเป็นเพื่อนมารดาแต่โดยดี เพราะไม่มีเหตุผลใดจะขัดขืนเขาเองก็เพิ่งเลิกกับ ริต้า หรือ "ริศฤา" ที่เธอพบรักใหม่ ทำให้เขาเซ็งกลับชีวิตจนต้องออกมานั่งที่ระเบียง จนเกิดเรื่องเข้าใจผิดกับหญิงสาวที่สวย... แต่อีกฝ่ายไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย บิดาหล่อนบอกว่าไม่สามารถออกงานได้และไปกับหล่อนไม่ได้เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายบิดาของหล่อนก็สมรู้กับเพื่อนสาวอย่างป้าสร้อยทองแล้วนั่นเอง เหตุผลคือหล่อนเบื่อกับการใช้ชีวิตแบบนี้ที่ไม่เคยมาก่อนและในงานหล่อนก็ไม่รู้จักใครเลยนอกจากป้าสร้อยทอง และน้องก้อย ที่เป็นเจ้าสาวในคืนนี้... "ครับ เราจะคุยกันสักพักค่อยเข้าไปครับ" เสียง รณช ชิงบอกมารดาก่อนที่สาวเจ้าจะชิ่งหนีเข้าไปในงานเพราะเขารู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ซะแล้ว เพราะในแววตานั้นช่างท้าทาย น่าค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่เหลือเกิน สัญชาติญาณความเจ้าชู้บอกเขาอย่างนั้น.. ดารินได้แต่ยิ้ม แต่แอบส่งตาเขียวไปหาคนต้นเหตุที่ทำให้ต้องมาทนกับผู้ชายห่วย ๆ ที่เสียมารยาทคนนี้ หลังจากที่ผู้มาเยือนได้กลับเขาไปร่วมงานภายในห้องเลี้ยงรับรอง ก็ทิ้งให้สองหนุ่มสาวอยู่ในความเงียบ แต่ก็เงียบได้ไม่นาน เพราะความนึกหมั่นไส้ของดารินที่มีต่อชายอัฒพาลที่ยืนเคียงข้างพิงขอบระเบียงอยู่ห่างราวเมตรได้ หล่อนฆ่าความเงียบให้ตายลง... "คุณมีอะไรจะคุยก็ว่ามา " หญิงสาวไม่พูดพล่ามให้เสียเวลา "ป่าวผมแค่อยากทำความรู้จักกับคุณ และทำความเข้าใจกับคุณให้มากขึ้นก็เท่านั้น" เขาบอกพร้อมมองหน้า "แค่นี้ งั่นฉันไป" ใบหน้างอน มุ่ยเสียแล้วแต่ก็น่ารักในสายตาของคนที่พยายามเย้าให้เหง้างอด..สมใจเขาล่ะ "เดี๋ยวสิ ผมรู้คุณอยู่ข้างใน ก็ไม่สนุกเท่าไหร่หรอก สู้อยู่คุยเป็นเพื่อนกันไม่ดีกว่าเหรอ?" ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ แต่เป็นข้อเสนอที่เขามีแต่ได้ และเขาคาดไว้แล้วว่าหล่อนต้องตกลง...เห็นฟ้องตามเขา ทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าหญิงสาวโกรธเป็นไฟแล้ว...แต่ก็ยังตอแยได้อีก คริๆ ดารินนิ่งสักครู่ก่อนผ่อนลมหายใจ แล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ชุดที่มีอยู่ในมุมของระเบียงก่อนที่หล่อนจะเดินออกมา รณช ก็นั่งอยู่ตรงนั้น ดารินจ้องมองชายหนุ่มที่เมื่อนั่งได้เหมาะแล้ว ซึ่งเขายืน ตรงข้างได้องศาพอที่จะสบตาคนที่นั่งได้ถนัดชัดเจน.. "ก็ได้วันนี้เราจะคุยเป็นเพื่อนกัน ฉันให้โอกาสคุณหาเรื่องมาคุยก่อน แต่ไม่เน้นเป็นคำถามเพราะฉันอาจไม่ตอบ" หญิงสาวแจ้งคู่สนทนาก่อนเปิดเวทีสนทนาที่เขาอาจถามจู่โจมโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม นั้นเป็นการกันไว้ก่อน "ขอบคุณครับคุณผู้หญิง ที่มอบโอกาสแก่ผม" เขาเสียงทะเล้น ก่อนจะเดินไปยืนหลังพิงขอบระเบียง "ฉันชอบอะไรตรงๆ คุณไม่ต้องอ้อมค้อม เราคุยกับได้สบาย ๆ ฉันจะลืมเรื่องที่ผ่านไม่กีนาทีนั้นซะ" หญิงบอกแกมประชด "ผมก็ไม้บรรทัดละครับ คุณผู้หญิง" แล้ว เขาก็ยิ้มกริ่มบอกนัย ว่าจะเริ่มแล้วนะเตรียมมือให้ดี สองหนุ่มสาวเหมือนจะคุยกันได้ถูกคอ รณช ประทับใจในท่วงท่าการว่างตัวของหญิงสาวที่คุมสถานการณ์ได้ไม่ตื่นกลัวเพียงแต่การพบกันกลับไม่ประทับใจอีกฝ่ายสักเท่าไหร่นัก แต่การสนทนา ในค่ำคืนนี้ก็ทำให้ดารินมองเขาดีขึ้นบ้าง... การสนทนากิริยา ท่วงท่า ของสองหนุ่มสาวอยู่ในสายตาของสตรีสูงวัยทั้งสอง พลอยทำให้ทั้งสองยิ้มกริ่มกับภาพที่เห็นงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา งานแต่งงานเป็นความสุขชื่นของเจ้าสาวและเจ้าบ่าว ที่กำลังจะสร้างครอบครัวใหม่ อีกครอบครัวหนึ่ง "ดึกแล้วฉันต้องกลับแล้วค่ะ คุณรณช" หญิงสาวเอ่ยเมื่อแขกในงานเริ่มถยอยกันกลับ "ผมไปส่งคุณไหม? "เขาถามเพื่อนคุยเพลินเขาไป "อย่าดีกว่าค่ะ ฉันเอารถมา" เธอชี้แจง "จดไว้นี้ก็ได้พรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็ได้นี่ครับ" รณชแนะนำ "ไม่ดีกว่าค่ะ เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน" เธออธิบายเหตุผลแก่เขา "คุณมีเพื่อนกลับไหม? นี่ก็ดึกแล้ว" เขาถามเพราะห่วงความปลอดภัยของหญิงสาวจริง ๆ "กลับคุณป้าไงค่ะ ขอบคุณสำหรับแนวคิดใหม่ ๆ นะค่ะ" หญิงสาวกล่าวขอบคุณสำหรับการสนทนาในวันนี้ ดารินเดินเข้าไปในห้องเลี้ยงรับรองยังไม่ทันพ้นประตูทางเข้า ก็ต้องหันกลับ "ผมเริ่มจะเชื่อเรื่องพรหมลิขิตแล้วล่ะ" เขาตะโกนให้ดังพอทันที่ดารินจะก้าวพ้นประตูไปหญิงสาวหันมามองด้วยแววตาไม่เห็นค้นหา และไม่ได้ขัดแย้ง..กับสิ่งที่เขาบอก... "พรหมลิขิต กำลังจะโยงสองหัวใจมาผูกไว้เป็นใจเดียวหรือว่า พรหมลิขิตเพียงพิสูจน์ดารินเท่านั้น"
7 กุมภาพันธ์ 2553 17:54 น. - comment id 113378
สวัสดีค่ะ พี่ฤกษ์... "พรหมลิขิต" ไม่ให้เราคู่กันหรอกค่ะ ไม่มีมีอะไรคล้ายกันซักอย่าง... มีใคร? มะกรูดเห็นว่ามะกรูดไม่ได้มีใคร.. ใครที่ว่า "คือใคร" ไร้ตัวตน ไม่มีใครทั้งนั้น จึงสรุปได้ว่า ไม่ได้ไล่ ไม่ได้ตัดขาด.. เพราะไม่มีใคร "ไร้ตัวตน" ก็ไม่รู้ว่าพี่ฤกษ์เข้าใจว่าไล่และตัดขาดใคร....
2 กุมภาพันธ์ 2553 21:00 น. - comment id 114112
เชื่อ..ล้านเปอร์เซ็นต์..ค่ะ
2 กุมภาพันธ์ 2553 21:10 น. - comment id 114118
อดที่ 1 เลย
2 กุมภาพันธ์ 2553 21:47 น. - comment id 114122
มีคนบอกว่า... "คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม พรหมลิขิตไม่ใช่เรื่องของการตามหา เมื่อถึงเวลา.. คนบนฟ้าจะลิขิตลงมาให้เอง" ..ฉันชักจะเริ่มเชื่อแล้วหล่ะ..
2 กุมภาพันธ์ 2553 22:48 น. - comment id 114125
พรหมลิขิต.....เฉกเช่น กรรมลิขิต.....หรือเปล่า
3 กุมภาพันธ์ 2553 02:41 น. - comment id 114126
คุณแมงกุ๊ดจี่ เป็นนักเขียนได้สบาย ๆ เลย เขียนได้น่าอ่านมากค่ะ พี่ปรางเชื่อสิคะ หากมิใช่พรหมลิขิต พี่ปรางจะได้มาพบ น้องแมงกุ๊ดจี่หรือ จริงมะ
3 กุมภาพันธ์ 2553 12:52 น. - comment id 114130
เชื่อออออจ๊ะ
3 กุมภาพันธ์ 2553 12:55 น. - comment id 114131
เชื่อ...พอๆกับเรื่องของวาสนา ค่ะ
3 กุมภาพันธ์ 2553 16:38 น. - comment id 114142
...... เชื่อ เพราะไม่อยากจ่ายสด......ฮี่..ฮี่..
3 กุมภาพันธ์ 2553 18:03 น. - comment id 114148
เชื่อเรื่องพรหมลิขิต บุพเพสันนิวาสค่ะ แต่ บุพเพอาละวาด ไม่ค่อยเชื่อ
3 กุมภาพันธ์ 2553 20:02 น. - comment id 114154
เชื่อ พอประมาณค่ะ แต่..บางเรื่อง ก็ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจะเป็นพรหมลิขิต น่าจะเป็นจิตลิขิตซะมากกว่า
3 กุมภาพันธ์ 2553 21:11 น. - comment id 114162
เชื่อเรื่อง...พรหมจิต...ค่ะ ชะตาฟ้าลิชิต พรหมจิตที่ขีดเขียน เธอ-ฉันต่างวนเวียน ให้ได้เรียนรู้ใจกัน
4 กุมภาพันธ์ 2553 10:11 น. - comment id 114176
อย่าลืมให้พี่สาวจ๋าเป็นนางเอกมั่งนะจ๊ะ อิอิ พระเอกประมาณโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์เด้อจ้า
4 กุมภาพันธ์ 2553 12:30 น. - comment id 114187
น้องสาวคนดี เขียนนิยายได้เลยนะเนี่ย
4 กุมภาพันธ์ 2553 15:30 น. - comment id 114193
สวัสดีค่ะ bananaleaf... มะกรูดก็เชื่อเหมือนกันค่ะ ว่า "พรหมลิขิต" มีจริงทุกสิ่งได้กำหนดไว้แล้ว = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ น้องเฌอ... น้องเฌอ...ไปแอ๊บกุ๊กฯ อยู่ที่ไหน? คริ ๆ เค้าคิดถึงนะตะเอง... = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ พี่ยาแก้ปวดหัวจาย... คนบนฟ้า...ใจร้ายไม่ส่งใครมาซะที 555 เลยไม่ยอมเชื่อซะที 555 = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ คุณวิทย์ ศิริ... กรรมลิขิต ฟังแล้วเป็นทุกข์รอแล้วค่ะ แต่ถ้าพรหมลิขิตฟังแล้วอารมณ์สดใสดีค่ะ จริตมนุษย์ปรุงแต่งไปได้เรื่อย ไม่สิ้นสุด... = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ พี่ปรางทิพย์... ขอบคุณค่ะที่อ่านสิ่งมะกรูดจินตนาการ การเป็นนักเขียนยากจังค่ะ และความสามารถคงไม่มากพอ เพราะคลังคำในสมองน้อยมากค่ะ ต้องอ่านอีกเยอะค่ะ "พรหมลิขิต" ก็ไม่ต่างจากบุญทำกรรมแต่ง นั่นเป็นสิ่งที่มะกรูดเชื่อ.... = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ ป้าโคลอน... เชื่อแน่นอนเนอะ ทุกสิ่งเป็นสิ่งถูกกำหนดมาแล้ว = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ พี่น้ำตาลหวาน... เป็นเรื่องของกรรมเก่าในชาติภพ... เป็นตัวกำหนดเรื่องราวต่าง ๆ หรือเปล่า... พิสูจน์ไม่ได้ แต่พอเทียบและตรองแล้ว ก็ทำให้เชื่อ... = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ คุณฉางน้อย... เชื่อใช่มั้ยค่ะ งั่นก็เปิดบัญชีไว้เลย สำหรับเรา เดี๋ยวจะคิดบัญชีทีหลัง พร้อมดอกเบี้ย...เตรียมตัวไว้ให้ดี = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ คุณอนงค์นาง.... บุพเพ...อาละวาด เป็นเรื่องของกรรมนะมะกรูด = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ คุณมินตรา.... "จิตลิขิต" ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา นั่นเป็นเพราะผลกรรมที่เคยกระทำมา จึงทำให้เป็นเช่นนั้น = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ คุณหลี่เหม่ยจิน... เราได้มาพบกันเป็นเพราะลิขิต เป็นบุญพาวาสนาส่ง ให้เราได้รู้จักกัน... = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ พี่สาวจ๋า พรหมลิขิต ให้เราได้รู้จักกันและผูกพันอย่างนี้ เรื่องต่อไป นางเอกชื่อหลินดีป่ะ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = สวัสดีค่ะ พี่สาวคนดี... น้องสาวคนดี กำลังพยายามจะเขียนนิยายสักเรื่องให้จบ วางเคล้าโคลง ไว้หลายเรื่องแล้วแต่เขียนไม่เคยจบซะที เรื่องนี้มีชื่อว่า "เพรงพรหม" เขียนเป็นตอน ๆ แต่ไม่รู้ว่า มันจะจบหรือเปล่า ตอนนี้กำลังวางพล็อต ไว้เยอะแยะ 555 เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
6 กุมภาพันธ์ 2553 00:51 น. - comment id 114245
เราคิดว่าพรหมลิขิตให้เราคู่กันแน่เลย เพราะเห็นมีใครก็ไล่เขาไปบ้าง ตัดขาดบ้างทุกทีเดี๋ยวก็หมดต้องมามองเราตามที่พรหมลิขิตไว้แหละ อิอิ
10 กุมภาพันธ์ 2553 15:41 น. - comment id 114401
เชื่อครับ แต่พรหมลิขิตไม่ได้ลิขิตให้คนสองคนมาเจอกันอย่างเดียว แต่ลิขิตให้คนสองคนต้องจากกัน ไม่จากเป็นก็จากตาย พรหมลิขิตมีทั้งเรื่องที่ดี และเรื่องแย่ๆ ซึ่งเราไม่สามารถหนีพ้น รอและยอมรับมัน ยังไงก็ขอให้มีแต่เรื่องดีๆกับทุกๆคนนะครับ
10 กุมภาพันธ์ 2553 17:50 น. - comment id 114404
พรหมลิขิตผูกสองใจให้เป็น... ดวงเดียวกัน อ่านแล้วรู้สึกชอบครับแวะมาทักทาย ครับ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับ