ภาคเลี้ยงส่ง เริ่มเลยเนาะ ก็แบบว่าเฌอเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ง่ะ พี่สาวกะพี่เขยมาไม่กี่วันเอง แต่อยู่ไม่ติดบ้านสักวัน หลังจากกลับมาจากเมืองกาญจน์แล้ว จะพากันไปตะลอนทัวร์ตลอด ไปโคราช ไปเที่ยวเขื่อน ไปชมทุ่งทานตะวัน ก็ไปเที่ยวใกล้ๆบ้านบ้าง ไปตลาดสามชุกสุพรรณบุรี และก็บึงฉวาก แต่ทั้งสองแห่งนี้เฌอ เคยลงภาพไว้บ้างแล้วเลยขอผ่านแระกานนะคะ คริ
ก่อนกลับไม่กี่วัน เราก็พากันไปไหว้พระ 9 วัดแต่พอไปจริงๆก็เลยแถมเป็น 10 วัด อิอิ ทีแรกว่าจะไหว้ที่อยุธยาทั้ง 9 วัด แต่ไปๆมาๆ เราก็ย้ายมาที่อ่างทองและสิงห์บุรีด้วย อิอิ เราตั้งโปรแกรมกันอย่างดี แต่ไปจริงๆเราไม่ชำนาญพื้นที่ เลยไปแบบไร้จุดหมาย แต่เราก็ได้ไหว้พระสมที่ใจหวัง แนบประวัติ คร่าวๆไว้ด้วย อิอิ ขอบคุณข้อมูลจาก อินเตอร์เนท คริ วัดที่1 วัดใหญ่ชัยมงคล "วัดใหญ่ชัยมงคล" เดิมชื่อวัดป่าแก้ว หรือ วัดเจ้าไท จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคลพระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2544 อีกด้วย วัดแรกที่ไป พวกเรากำลังฮึกเหิมมีกำลังเดิน ไหว้ ชมสถานที่ ถ่ายรูปวัดนี้เยอะที่สุดและทำบุญใส่ตู้มากกว่าวัดอื่นๆ อิอิ
.
.
สองศรีพี่น้องมีขูดหาตัวเลขกันด้วย อิอิ
วัดที่ 2 วัดพนัญเชิง วัดพนัญเชิง" เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร วัดแห่งนี้มีความเชื่อกันว่าเมื่อมากราบไหว้จะช่วยเสริมมงคล ด้านการค้าพาณิชย์รุ่งเรือง ความสำเร็จในงาน สิ่งสำคัญที่สุดของวัดนี้ก็คือ พระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 20 เมตร 17 เซนติเมตร สูง 19 เมตร ซึ่งแต่เดิมนั้นประทับนั่งอยู่กลางแจ้ง ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโต" หรือชาวไทยเชื้อสายจีน เรียกว่า "ซำปอกง" และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก" ตำนานกล่าวว่าเมื่อคราวจะเสียกรุงครั้งที่ 2 มีน้ำพระเนตรไหลลงมาถึงพระนาภี วัดและองค์พระชำรุด เนื่องจากไฟไหม้ใน พ.ศ.2444 จึงได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีเก๋งจีนขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ทางด้านข้างของพระวิหารใหญ่ ชาวบ้านเรียกอาคารเก๋งจีนนี้ว่า "ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก" ตัวอาคารเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบจีน ชั้นบนประดิษฐานรูปเคารพ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า เจ้าแม่สร้อยดอกหมากตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
.
วัดที่3 วัดพิชัยสงคราม วัดพิชัยสงคราม สร้างขึ้นตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2900 เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยกรุงศรีรอยุธยามีนามปรากฏในราชพงศาวดาร ว่า "วัดพิชัย" บางแห่งเขียนว่า " วัดพิไชย" ได้เปลี่ยนนามใหม่ว่า "วัดพิชัยสงคราม" ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ประมาณรัชกาลที่ 4 หรือ 5 ในคราวที่ได้มีการบูรณะปฎิสังขรณ์เนื่องจากเป็น วัดร้างในช่วงปลายสมัยอยุธยาเป็นต้นมา ที่ได้นามอย่างถือเอาเหตุผลที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกจากวัดพิชัยมาได้ นับว่าได้รับชัยชนะ ต่อมาเมื่อได้มีการบูรณะปฎิสังขรณ์วัดขึ้นจึงขนานนามวัดใหม่เป็นการเทิดพระเกียรติและอนุสรณ์แห่งสถานที่วัดนี้ วัดพิชัยสงครามนับเข้าเป็นวัดชนิดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้วตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 192
วัดที่4 วิหารพระมงคลบพิตร พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยโบราณขนาดใหญ่ ที่สุดของประเทศไทยองค์หนึ่ง มีหน้าตักกว้าง 9 เมตร 55 เซนติเมตร ส่วนสูงเฉพาะองค์ 12 เมตร 45 เซนติเมตร ประดิษฐานอยู่ด้านทิศตะวันตก ใน วิหารพระมงคลบพิตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนพระวิหารสันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ระหว่างปี พ.ศ.1991 2145 เดิมประดิษฐานทางด้านทิศตะวันออก แล้วสร้างมณฑปครอบในปี พ.ศ. 2236 .... พอได้สักสี่วัดพี่สาวเฌอคนโตบอกว่า เราไหว้กัน 5 วัดก็พอนะ555 เขาว่ากำลังหัวเราะพอดีทำเสียง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ด้วย พวกน้องๆไม่มีใครยอมเอออวยด้วย อิอิ เลยต้องไหว้ให้ครบ แบบกำลังเริ่มตกอ่ะ เดินไม่ไหว ทั้งกำลังกาย และกำลังทรัพย์ร่อยหรอไปตามจำนวนวัด จากหยอดทุกตู้ เหลือหยอดตู้เดียวก็มี อิอิ
วัดที่5 วัดหน้าพระเมรุราชิการาม ถ้าใครอยากมีชีวิตเจริญรุ่งเรือง เป็นมหามงคลของชีวิตล่ะก็ ว่ากันว่าต้องมาที่ "วัดหน้าพระเมรุราชิการาม" แห่งนี้ ซึ่งเดิมมีชื่อว่า "วัดพระเมรุราชิการาม" วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยา ที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมคลองสระบัว ตำบลท่าวาสุกรี ตรงข้ามพระราชวังโบราณเป็นอารามหลวง สามัญชั้นตรี ภายในวัดประกอบด้วยพระอุโบสถขนาดใหญ่ พระประธานในอุโบสถถูกสร้างขึ้นปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า "พระพุทธนิมิตวิชิตมาร โมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยา ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบันและมีความสมบูรณ์งดงามมาก
วัดที่6 วัดศรีโพธิ์ (ใหม่ศรีโพธิ์) ประมาณ พ.ศ.๒๓๐๘-๒๓๐๙ พม่าได้ยกกองทัพมาตีล้อมกรุงศรีอยุธยาหลายจุดรวมถึงบริเวณทุ่งศรีโพธิ์ (วัดศรีโพธิ์) ทางกรุงศรีอยุธยาได้ทำการสู้รบทำการยิงปืนใหญ่ถล่มค่ายพม่าแห่งนี้ (วัดศรีโพธิ์) ทำให้ข้าศึกได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่วัดศรีโพธิ์แห่งนี้ไม่ได้รับความเสียหาย จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงแก่ทัพพม่าเมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ วัดศรีโพธิ์ได้กลายเป็นวัดร้าง และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์อีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
วัดที่7 วัดกลางคลองสระบัว ประวัติ คลองสระบัว ซึ่งถือได้ว่าเป็นคลองประวัติศาสตร์ อันสืบเนื่องมาแต่ เมื่อครั้งพระไชยราชาธิราชเสด็จสวรรคต เมื่อมาถึงในกาลสมัยประมาณ ปี พ.ศ. ๒๓๐๙ กรุงศรีอยุธยาราชธานีเก่าถูกทำลายโดยน้ำมือของพม่า เมืองทั้งเมืองตลอดจนวัดวาอาราม บ้านเรือนตกอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น วัดกลางคลองสระบัวก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่ได้ รับผลจากสงคราม และตกอยู่ ในสภาพรกร่างเช่นกัน ในการต่อมามีพระธุดงค์มาพำนัก ณ บริเวณ วัดกลางคลองสระบัวนี้ และเห็นว่าเดิมมีร่องรอยของเสมาวิหารเก่าปรากฏ ซากอยู่ อีกทั้งมีพระพุทธรูปถือปูน ๔ องค์ ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารเก่านั้น จึงดำริจะทำนุบำรุงวัดนี้ขึ้น
ย้ายลงมาจังหวัดอ่างทองแระ อิอิ วัดที่8 วัดต้นสน อ่างทอง วัดนี้ตามสันนิษฐานสร้างเมื่อตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะอุโบสถหลังเก่ามีบัวอ่อน คันทวย แต่ไม่มีจดหมายเหตุบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ผู้เฒ่าแก่เล่ากันต่อๆ มา และได้ทรุดโทรมมาจนเกือบจะกลายสภาพเป็นวัดร้าง เพราะไม่มีปูชนียวัตถุแต่อย่างใด ต่อมา พ.ศ.๒๔๘๘ พระราชสุวรรณโมลี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ริเริ่มการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ขึ้น ประวัติการสร้าง สมเด็จพระศรีเมืองทอง สมเด็จพระศรีเมืองทอง พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หล่อด้วยทองเหลืองทั้งองค์ หน้าตักกว้าง ๖ วา ๓ ศอก ๙ นิ้ว สูง ๙ วา ๒ ศอก ๑๙ นิ้ว ปิดทองคำแท้ทั้งองค์ เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไป
วัดที่9 วัดไชโยวรวิหาร เดิมเป็นวัดราษฏร์โบราณ ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ได้สร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่เป็นปูนขาวไม่ปิดทองไว้กลางแจ้ง ณ วัดแห่งนี้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ได้เสด็จมานมัสการและโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดไชโย ในปี พ.ศ. 2430 ระหว่างการลงรากพระวิหารทำให้องค์หลวงพ่อโตพังลงมาจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหลวงพ่อโตขึ้นใหม่ตามแบบหลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร มีขนาดหน้าตักกว้าง 16.10 เมตร สูง 22.65 เมตร แล้วพระราชทานนามว่า "พระมหาพุทธพิมพ์" สร้างพระวิหารเป็นเรือนองค์พระพุทธรูป ความสูง 1 เส้นเศษ สร้างพระอุโบสถเป็นมุขลดยื่นออกมาข้างหน้า รวมทั้งศาลารายรอบพระวิหาร รวม 4 หลัง เสร็จสมบูรณ์เมื่อปีมะแม พ.ศ. 2438 รวมเวลาที่ปฏิสังขรณ์นาน 8 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะวัดไชโยขึ้นเป็นอารามหลวง เราออกจากวัดไชโยมาก็มีตลาดนัดพวกเราก็หาซื้อผัก ซื้อขนมมานั่งกินบนรถ ได้ขนมครกกับ ขนมถ้วยมากินอร่อยมาก อิอิ
ครบ 9 วัดแล้วแต่พี่สาวเฌออีกคนบอกแถมให้อีกวัดนึง เฌอก็บอกว่ามันจะเกินนะ พี่สาวบอกว่า เผื่อขาดตกบกพร่องวัดไหนไง จะได้มาเสริม และบอกว่า...คิดดูละกันนะ ว่ามีเงิน 9 ล้าน กับ10 ล้าน จะเลือกเอาอันไหน อิอิ วัดที่10 วัดพิกุลทอง วัดพิกุลทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท โดยเป็นวัดของหลวงพ่อแพ ซึ่งเป็นพระเกจิ รูปหนึ่งของเมืองไทย มีผู้เคารพศรัทธาในตัวท่านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวสิงห์บุรี แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ทางวัดก็ยังเก็บร่างของท่านไว้ ให้พวกเราได้กราบไหว้กัน โดยจัดสถานที่ไว้ในวิหารภายในตัววัดด้านในเชิญพุทธศาสนิกชนเข้าไปสักการะ บูชา ภายในบริเวณวัดส่วนหน้า วัดพิกุลทองมีรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อแพองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในโบสถ์อันสวยงาม ที่เหล่าลูกศิษย์ร่วมสร้างถวายแด่หลวงพ่อ เข้าไปกราบไหว้กันได้ นอกจากนั้นยังมี พระพุทธรูปประทานพรองค์ใหญ่คือพระพุทธสุวรรณมงคล มหามุนี เป็นพระนั่งปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในสิงห์บุรี คล้ายปางมารวิชัย ต่างกันที่พระหัตถ์ซ้ายแนบอก หน้าตักกว้างราว 22 ม. สูงจากพื้นถึงพระเกตุราว 42 ม. องค์พระพุทธรูปบุด้วยโมเสกทองจากประเทศอิตาลี หลวงพ่อแพดำริให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เกิดความศรัทธาในพุทธศาสนา วัดหลังๆทำบุญน้อยลงตามกำลังทรัพย์ แต่กำลังศรัทธาก็ยังล้นเปี่ยมอยู่นะเจ้าคะอิอิ
.
.
.
และแล้วก็ถึงวันเดินทางกลับ วันที่ 17 มกราคม พวกเราก็แห่ขบวนขึ้นรถตู้ไปส่งอีกเช่นเคย ยังมีกะใจแวะเที่ยวที่พระราชวังบางปะอินก่อนอีก อิอิ
พี่สาวเฌอใส่เสื้อแขนกุดไป เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าเพราะแต่งกายไม่สุภาพ ทางนั้นเขามีเสื้อผ้าให้ใส่คลุม แต่พี่สาวใส่เสื้อของญาติอีกคนแทน เขาขนไปแบบหนาวมากใส่ที2-3 ตัว อิอิ
พอส่งพี่สาวขึ้นเครื่องเสร็จแล้ว พวกเราชาวเมืองลิงก็ไปตะลอนกันต่ออีกที่ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา ที่นี่จัดได้สวยงามดีมากอาหารอร่อย เรากินก๋วยเตี๋ยวเรือกันไปคนละชาม เพราะตั้งใจว่าจะไปหาอาหารทะเลกินกันต่อ อิอิ ไม่งั้นมีเบิ้ลแน่ๆ อิอิ
.
.
แอน แอ่น แอ๊นนนน เห็นชื่อร้านก็อุ่นใจแระร้านนี้บรรยากาศดีมากๆเลยอาหารอร่อยราคาเยา ได้รับคำแนะนำจากอาราเล่นานแระ ยากะเฌอไม่มีโอกาสแวะสักครั้ง ครั้งนี้ไปกับพี่น้องได้ไปลองลิ้มชิมรสชาติก่อนแล้วมีการโทรเยาะเย้ยคุณยาด้วย อิอิ
บรรยากาศโดยรวมพร้อมหน้าตาอาหารน่ารับประทานไหม ถ่ายมาไม่หมดเพราะช่วงท้ายๆเริ่มมึนแล้ว เฌอทำแก้วแตกไป1ใบด้วย อิอิ
.
ส้มตำปูม้า
เอ็นหอยทอดกะเทียม
น้ำพริกไข่ปู
.
พระอาทิตย์ตกดิน สวยมากๆ
.
ภาพนี้สวยไหม ใครชอบบ้าง อิอิ เช็คบิลไปวันนั้น6 พันกว่า เฌอเอารายการมาเช็คดู ผิดพลาดคือปูนึ่งสั่งไป2 โล คิดเงินมา 3 โล และรายการปูอบวุ้นเส้นคิดราคาเป็นกิโลกว่า สรุป เขาคิดผิดไป พันกว่าบาท มื้อนั้นจ่ายไป 5พันพอดี ถ้าเราไม่ตรวจตรา (งก ) คงเสียท่า อิอิ แต่ก็ประทับใจธรรมชาติ และอาหาร จะไปอีกนะชอบมากๆเลย... เง้อออ...อิ่มจัง ตังค์ก็อยู่ครบ..เหอ เหอ
ขอจบด้วยภาพนี้ งงล่ะสิ อิอิ คือวันที่ 16 มกราช่วงเช้าเฌอซื้อหวยไม่ถูก เลขเด็ดคุณยาแก้ปวดแหละ 21 ทำพิษ ตกค่ำ เฌอไปงานกาชาดมาแล้วตักไข่ได้เบอร์ พ พาน เจ้าหน้าที่บอกได้ตุ้เย็น 6.7 คิว เฌองี้ ลืมตัวร้องลั่นเลยว่า ตู้เย็นนนนนน เขาถามชื่อ ที่อยุ่ ตักไปกี่เบอร์บ้านอยุ่ที่ไหน อิอิ เฌอตักไป 2เบอร์เอง คริ และตอนนี้ตู้เย็นคุณยาก็จำหน่ายให้พนักงานในร้านไปแระใน ราคา 4 พันบาทกร๊ากกก จบข่าวด้วยประการฉะนี้ บับ บายจ้า
22 มกราคม 2553 21:50 น. - comment id 113478
ที่ 1
22 มกราคม 2553 21:50 น. - comment id 113479
1
22 มกราคม 2553 21:51 น. - comment id 113480
แกล้งแพ้มั่ง เด่วคู่แข่งไม่อยากเล่นด้วย
22 มกราคม 2553 21:52 น. - comment id 113481
สองเมค ชนะ สี่เมค ของอย่างนี้ ใครจะคิด ว่าป่ะ
22 มกราคม 2553 21:54 น. - comment id 113482
นานปี ชนะที ทำให้สหายมีฟามสุขมั่ง ก็..คุ้มแระหล่ะ
23 มกราคม 2553 07:00 น. - comment id 113484
รอบนี้ .... มา รอ เผื่อ จะมี ฉลอง ขายตู้เย็น ...
23 มกราคม 2553 08:48 น. - comment id 113485
น่าหนุกจังงงงงง.....
23 มกราคม 2553 12:57 น. - comment id 113490
คห 6 น่านดิเน๊อะ น่าจาหาที่ฉลองขายตู้เย็น.. ที่ไหนดีหว่า..ที่ไหนดีหว่า...
23 มกราคม 2553 13:46 น. - comment id 113491
แวะมาอ่านตอน...เลี้ยงส่งคับ
23 มกราคม 2553 15:16 น. - comment id 113493
ถ่ายรูปได้สวยดีจังเลยค่ะ ชอบๆ
23 มกราคม 2553 15:21 น. - comment id 113494
1..คุณนักสืบ วันนี้มาวิน แฮะ ดีใจด้วยนะคะ อิอิ 2..คุณยา เวลาเท่ากันเลย สงสัยแกล้งแพ้แน่ๆ อิอิ 3..คุณยา นั่นไง...ว่าแล้วววว แกล้งแพ้ ชัวร์ คริ 4..คุณนักสืบ เขาเรียกว่า ยอมเพื่อเอาคืนครั้งหน้า ว่าป่ะ 5..คุณยา อืม คุ้มจริงๆ สงสัยไปคุยได้เป็นปีๆเลย เนาะ 6..ม๋าจิ ไปไหนว่ามา ทำอย่างกับว่าไปไหนได้นิ ทั้งซ้ายและขวามีตัวงานรายล้อม อิอิ 7..นู๋รี หนุกมากๆเลยแหละ จุ๊ฟฟฟฟ 8..คุณยา คุณทำไมมาบ้านเฌอถี่ยิบเลยเนี่ย จะมาเย็บกางเกงที่ทำขาดให้ก็มา อิอิ ตกลงไปฉลองที่ไหนดี เสนอมาด่วน จะเอาเข้า ครม. 9..คุณวิทย์ แวะมาขอบคุณคร่า อิอิ
23 มกราคม 2553 15:23 น. - comment id 113495
10..คุณเพียง อ้าว มาตอนไหน ชนกันกลางอากาศ แต่เวลาก็ต่างกันหลายนาที หรือเฌอมัวแต่อืดอาดอยู่ อิอิ ไว้วันหลังเราไปกินร้านนี้กัน บรรยากาศดีที่สุด
23 มกราคม 2553 16:47 น. - comment id 113497
โห..เข้ามาอ่านแล้วเหมือนกะว่าได้ไปเที่ยวจริงๆอิ่มทั้งบุญและอิ่มท้อง....ได้ความรู้อีกต่างหาก...ดีจัง
23 มกราคม 2553 18:06 น. - comment id 113501
เหมือนได้ท่องเที่ยวไปด้วยกันเลยค่ะ เมืองไทยเที่ยวเท่าไรก็ไม่เบื่อเลยนะคะ
23 มกราคม 2553 19:46 น. - comment id 113505
ตามมาไหว้พระเก้าวัด หน้าจอคอมค่ะ สาธุ ๆๆๆๆๆ คนอะไรทั้งสวยทั้งใจบุญ..
23 มกราคม 2553 21:00 น. - comment id 113508
เหมือนได้ร่วมทำบุญไปด้วยเลยจ้า เห็นมั้ยล่ะคะ ทำบุญปุ๊บ ได้โชค รับรางวัลใหญ่มาเลยนนี่
24 มกราคม 2553 05:38 น. - comment id 113513
ทำแก้วแตกเพราะมาววได้ที่สิ แต่ยังเช็คบิลรู้ด้วย สงสัยมาววดิบ.....
24 มกราคม 2553 08:20 น. - comment id 113516
มาช่วยยืนยันว่า ร้าน "มุมอร่อย" บรรยากาศดีตามที่ เฌอว่าจริงๆอะจ้า.... เคยไปนั่งทำมิวสิคมา 2-3 ครั้ง เป็นชีพจรลงเท้าที่คุ้มสุดๆเนาะ
24 มกราคม 2553 10:12 น. - comment id 113519
หุหุ อิจฉา อะ...เที่ยว กิน เพียบเลย
24 มกราคม 2553 11:54 น. - comment id 113524
แจ้นเองมีวาสนาไปเที่ยวชมวัดกะ เฌอด้วย ดีจังเลย ปีใหม่งานเข้าตลอดไม่มีดอกาสอวยพรปีใหม่ คงไม่สายนะถ้าจะบอกว่า โชคดีตลอดปีขาลและตลอดไปเลยสำหรับเฌอคนนี้ รักนะ
24 มกราคม 2553 12:53 น. - comment id 113527
ร้านมุมอร่อย นาเกลืออ่ะจิ๊ เขาไปสี่ห้าครั้งแหละล่า อร่อยดีเหมือนกันเนาะ
24 มกราคม 2553 14:48 น. - comment id 113531
ไหว้พระด้วยคนครับ สาธุ
24 มกราคม 2553 16:24 น. - comment id 113533
13..คุณเอื้องอังกูร ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีเรื่องอะไรดีๆจะมาเล่าสู่กันฟังอีกค่ะอย่าเพิ่งเบื่อซะก่อน อิอิ 14..คุณปรางทิพย์ เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ค่ะ ยังมีที่สวยงามธรรมชาติและโบราณสถานอีกมากให้ไปเที่ยวและศึกษาค่ะ อเมซิ่งไทยแลนด์ 15..หญิงรพีสวยและใจบุญ ไว้วันหน้าเราไปเที่ยวด้วยกันนะคะ หลังจากจบภาระกิจหน้าโลตัส คริคริ 16..เจ๊แบม ช่ายเลยค่ะ บุญทันตาเห็นเลยค่ะ ถ้ามีเวลาจะไหว้พระให้นานกว่านี้ค่ะ แต่วันนั้นเราไหว้แข่งกับเวลาค่ะ วัดแรกเราเดินชมยังไม่ค่อยทั่วเลยค่ะ แต่ละวัดมีอะไรให้ศึกษาประวัติศาสตร์มากมายเลยค่ะ วันนั้นเราถวายสังฆทานด้วยค่ะ
24 มกราคม 2553 19:09 น. - comment id 113534
17..คุณจุด ตอนแก้วแตกอ่ะเพราะห่วงถ่ายรูป อิอิ ..แก้วแตกไม่เท่าไหร่ แต่เสียดายเหล้าที่อยู่ในแก้วสิ เฮ้ 18..คุณเทียนหยด ยังติดใจอยู่เลยค่ะ ครั้งหน้าจะไปร้านมุมอร่อยอีก จะไปทำมิวสิคบ้าง อิอิ 19..คุณกิ่งโศก อย่าอิจฉาค่ะ ว่างๆแวะมาเที่ยวลพบุรีกะพี่แบมสิคะ ยินดีต้อนรับค่ะ 20..คุณครูกระดาษทราย ขอบคุณมากค่ะ ไปเที่ยวไปกินด้วยกันอีกนะคะ 21..พี่แจ้นเอง เฌอก็ไม่ค่อยว่างค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับคำอวยพรวันปีใหม่ เฌอก็ขออวยพรให้พี่แจ้นเองมีความสุขมากๆ ร่ำรวยเงินทองและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไร้โศกไร้โรคภัยตลอดปี และตลอดไปด้วยค่ะ 22..คุณเพียง แหม มีร้านดีๆไม่แนะนำกันบ้างเลยนิ วันนั้นไปหาซื้อปูที่นาเกลือไม่มีปูสักตัวร้านเขาปิด 2 วัน อิอิ 23..คุณรัมณีย์ เจริญพร เอ๊ย อนุโมทนาด้วยค่ะอิอิ
24 มกราคม 2553 21:10 น. - comment id 113539
เลี้ยงรับไปตกปลา เลี้ยงลาพาเข้าวัด แจ่มจริงๆครับ อยากให้เลี้ยงรับมั่งอ่ะ
25 มกราคม 2553 09:25 น. - comment id 113550
แอบตามไปเที่ยวด้วยจนครบทุกวัด รวมทั้งหม่ำปูนึ่งส่วนที่เกินหนึ่งโล อิอิ อยากไปๆๆๆ จะตามรอยคราวหลัง นะค่ะน้องเฌอจ๋า..
25 มกราคม 2553 15:48 น. - comment id 113565
26..คุณสินวาราย อุ๊ยยย สายวาลิง เอ๊ย รินทร์ คริ คริ อืม ช่ายเนาะ เพิ่งสังเกตตัวเอง เลี้ยงรับตกปลา เลี้ยงลาเข้าวัด คริ คริ แหม บาปส่วนบาป บุญก็ส่วนบุญ เพื่อปากท้อง พระท่านว่าไม่บาปนะเจ้าคะ ขอบอก 27..คุณน้ำตาลหวาน ตอนนี้อยากไปภูชี้ฟ้ามากกว่าค่ะ เคยไปสามเหลี่ยมทองคำ เชียงคาน แต่ภูนี้ยังไม่ได้ขึ้นไปสักครั้ง
25 มกราคม 2553 16:32 น. - comment id 113567
25 มกราคม 2553 16:33 น. - comment id 113568
3
25 มกราคม 2553 16:35 น. - comment id 113569
ฉานชอบกินไข่ เพราะมันไม่มีกระดูก มาแฮ๊บไข่ก่องอ่านทีหลัง อิอิ
25 มกราคม 2553 16:42 น. - comment id 113570
29-30-31... โหหหหหหหหหห ป้าโคฯ เล่นรายเนี่ย เดี๋ยวจับตีไข่เลยนี่
25 มกราคม 2553 16:49 น. - comment id 113572
ไข่ที่หนาย มะมี๊
25 มกราคม 2553 16:56 น. - comment id 113574
33..ป้าโคฯ ทำไปได้นิ คนเรา อิอิ ขอไข่สัก 2 ฟองดิ
25 มกราคม 2553 17:02 น. - comment id 113575
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ เฌอฯ ไม่ล่ายกิงไข่เป็นชาติแล้นอ่ะ งานนี้มือใครไวสาวได้สาวเอาเฟร้ย
25 มกราคม 2553 20:11 น. - comment id 113594
26 มกราคม 2553 09:17 น. - comment id 113612
35..ป้าโคฯ รู้จิงว่าเฌอ มือสั้น สาวไข่ไม่ถึงอ่ะ อิอิ 36..ฉางน้อย ไข่หมดแระ