พิณพิศวาส
สุรศรี
พิณพิศวาส
แสงเดือนของข้างขึ้นแปดค่ำในคืนนี้ส่องสว่างเหนือยอดไม้ข้างกระท่อมเดียวดายของผมดูมันสว่างยังกับกลางวัน มองฝ่าออกไปด้านนอกเห็นแปลงข้าวยืนสงบนิ่งในค่ำคืนที่มีสายหมอกบาง ๆ เช่นนี้ ที่ลานข้าวเห็นลอมฟางและกองข้าวที่เพิ่งขนเข้าลานเมื่อตอนบ่ายนี้ตะคุ่ม ๆ อยู่ นอกจากเสียงแมลงกลางคืนแล้วไม่มีสียงอะไรเลย นาน ๆ จะมีเสียงจากเครื่องยนต์ที่ดังมาจากถนนที่อยู่ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร
ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียว ข้าวในนาปีนี้จะได้กี่กระสอบ ราคาข้าวจะดีเหมือทุกปีไหม หักค่าแรงงาน ค่าปุ๋ย ค่าสำรับกับข้าว เครื่องดื่ม น้ำชากาแฟ จนข้าวขึ้นยุ้งขึ้นฉางจะเหลือเท่าไรกัน
นาแปลงนี่เป็นมรดกของพ่อที่แบ่งให้ลูกแต่ละคนใครทำมากก็ได้มาก ถ้าขยันไม่มีวันอกตาย พ่อเคยบอกไว้
.......................
ผมหยิบพิณที่ห้อยอยู่ข้างฝากระท่อมมาขึ้นสาย เสียงสูง เสียงกลาง เสียงต่ำขึ้นสายและเทียบเสียงเล่นเพลงที่ถนัด
วันเพ็ญ เดือนสิบสอง น้ำในคลองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง ลอย ๆ กระทง ลอย ๆ กระทง ลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง .............
เป็นเพลงที่มีเสียงสูงต่ำที่ต่างกันมาก ๆ ขึ้นสูงสุด แล้วลงมาต่ำสุด ที่สำคัญลูก ๆ มักจะคะยั้นคะยอให้เล่น พวกเขาจะร้องคลอตาม
อยากกินสุกี้ไปเอ็มเค ถ้าไปเอ็มเคกินสุกี้...................
เพลงจากโฆษณาสวย ๆ และภาพน่ารัก ๆ ดนตรีไพเราะ จากทางทีวี เป็นเพลงเก่า ๆของ ญี่ปุ่นเพราะมาก (แต่ฟังเนื้อหารู้เรื่อง) ชื่อเพลง สุกี้ยากี้
เจ้าจากไกลไปตั้งนาน หลงรอวัน คอยเจ้านั้นคืนทุ่ง หลงเพลินเมืองกรุง
หลงความรุ่งเรือง เมืองฟ้าอำไพ ไปหลงสิ่งยวนเย้า ลืมรักเก่าเรา ไว้ทิ้งนาทิ้งไร่ หลงไปไม่ย้อนรอย ลืมหนุ่ม
น้อยชาวนา.......
เป็นเพลงที่เศร้าและซึ้งมาก ๆ เป็นเพลงลูกทุ่งเก่า ๆ เอาทำนองเพลงจีนมาใส่เนื้อร้องแบบไทย ๆ เนื้อหาพูดถึงชายหนุ่มที่ตัดพ้อต่อว่าคนรักที่ปล่อยให้เขาหลงคอยเธอและรอวันให้เธอกลับมาหาเขาที่บ้านนอกตามคำสัญญาที่ทั้งสองเคยให้ไว้ต่อกัน
เสียงเพลงจากพิณในยามค่ำคืนที่เงียบเย็นเช่นนี้ดูหวานไพเราะ สดใสและคึกคะนอง ดุจม้าศึกที่ได้ยินเสียงปี่เสียงกลองในยามที่จะออกรบ
หากมีวันใดที่เธอเศร้าใจจะคิดถึงพี่บ้างไหม
พี่มีจิตใจที่พร้อมให้น้องเพื่อน้องได้คลายเหงาเศร้า
หากมีใครทำให้เจ็บแค่เล็บแค่รอยจะไปในทันใด
จะปกป้องน้องไปจนกว่าจะปลอดภัยหายกังวล......
เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมเล่นในคืนนี้ทำนองดูเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ เศร้า ๆ ดุจสายน้ำที่ดูนิ่งสงบแต่ก็ยังคงไหลไปเรื่อย ๆ เนื้อหาพูดถึงชายหนุ่มที่หลงรักหญิงสาวแต่สุดท้ายเขาก็เพิ่งค้นพบว่าความรักที่แท้จริงของเขาคือการเสียสละให้คนที่เรารักไปมีความสุขกับคนอื่น (เศร้ามาก โรแมนติกอีกแล้ว)
ผมหมุนลูกบิดของพิณและคลายสายลง วางมันลงไว้ข้างฝานึกถึงคืนวันเก่า ๆ
ที่ผมได้พิณตัวนี้มา มันเป็นพิณโปร่งสีเหลืองทองทำจากไม้ขนุนทาด้วยสีเคลือบไม้อย่างดี หัวเป็นรูปพยานาคแลบลิ้น มีดวงตาสีแดงด้วยลูกปัด บนคอร์ดที่คอพิณติดตัวโน้ตเป็นภาษาอังกฤษ เผื่อคนที่จำตัวโน้ตไม่ได้ ไม้ขนุนเป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบาพอดี ไม่ใช่ไม้เนื้ออ่อน และไม่ใช่ไม้เนื้อแข็ง แก่นเป็นสีเหลืองสวยงาม ที่สำคัญเป็นไม้มงคลของไทยด้วยทำอะไรจะมีผู้ใหญ่สนับสนุน ค้ำจุน ช่วยเหลือกิจการงาน
ผมได้พิณตัวนี้คราไปเที่ยวที่สกลนคร เป็นพิณจากช่างฝีมือดีจากอำเภอนาหว้าจังหวัดนครพนม ไม่ใช่พิณตัวแรกที่ผมเล่น แต่เป็นพิณตัวปัจจุบันทีผมเล่นอยู่ รักและหวงมาก เพราะอะไร......เพราะเป็นพิณที่คนรักเก่าเขาซื้อให้ (โรแมนติกจังเยย) วันนั้นเราไปเที่ยวด้วยกัน คนขายเขาติดราคาไว้ 750 บาทเรากำลังจะควักเงินให้ เธอเดินมาพอดีต่อรองราคาตามประสาผู้หญิง และเธอควักเงินให้เขาไป 600 บาท
แต่ผมไม่มีโอกาสเล่นให้เธอฟังสด ๆ หรอกนะ เดาซิ เธอได้ฟังอย่างไร บันทึกเทป หรือก๊อปปี้ลงแผ่นซีดีให้ฟังงั้นเหรอ ผิด.....อย่าเดาดีกว่า
ตอนที่เธอรู้ว่าผมเล่นพิณได้ เธอตื่นเต้น และเซอร์ไพรส์ มาก ๆ
มีอะไรมาฝาก ผมโทรหาเธอในตอนสายของวันหนึ่ง
อะไร เธอสงสัย
เสียบหูฟังอยู่ใช่ใหม
ค่ะ เธอตอบเสียงใส ๆ
จะเล่นพิณให้ฟัง ผมพูดเบา ๆ อยากให้เธอเซอร์ไพรส์
อะไรนะ เธอพูดเสียงดังแบบว่าไม่เชื่อหูตนเอง
จะเล่นพิณให้ฟัง ผมย้ำ
ว้าว เล่นได้เหรอ เธอพูดปนหัวเราะ
พร้อมยัง
ค่ะ
ผมบรรจงเล่นเพลง ดอกไม้ให้คุณ บทเพลงซึ้ง ๆ และมีความหมายให้เธอฟังเป็นเพลงแรก ผ่านทางโทรศัพท์ให้เธอฟังเป็นเพลงแรก ตามด้วยเพลง รักที่ถูกลืม
ผมพยายามเล่นให้เพราะที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา มันยิ่งกว่าเปิดคอนเสิร์ตบนเวทีที่มีสายตาหลายพันคู่จ้องมองมายังเรา มันเกร็งสุด ๆ นี่มันเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่มีที่ไหนในโลกเขาจัดกัน เล่นคอนเสิร์ตให้คนคนเดียวฟัง ไม่ใช่เล่นบนเวที แต่เล่นให้ฟังทางโทรศัพท์ เพลงพิเศษ โอกาสพิเศษ และเล่นให้คนพิเศษฟัง ว้าว อะไรจะพิเศษขนาดนั้นครับพี่น้องครับ
สุรศรี
13 พย. 52