เขียนโดย ละไมฝน ตอนที่ 1 ฝนย้อยหยาดลงมาบ่ขาดสาย ขณะฮักต้อนฝูงวัวเข้าคอก... เม็ดฝนขาวละมุน พลิ้วมาต้องดวงหน้าเข้มคม เกาะหยดพราวเต็มหน้า ลดความเคร่งขรึมลงอย่างอ่อนโยน แม้นว่าเพิ่งกลับจากไร่เหน็ดเหนื่อยกายปานใด ใจฮักก็ฉ่ำชื่นประหลาดล้ำ ฮักชอบฤดูฝนเป็นชีวิตจิตใจ แม่เล่าให้ฟังว่า ฮักกับแพงเกิดต้นเดือนแปดยามเช้า ตอนฝนเริงรินย้อยหยาด สายลมอ่อนๆ พัดละอองบางเบาเย็นสะอาดพรั่งพรูเข้ามาทางหน้าต่าง อายฝนระรื่นอาบร่างแน่งน้อยคู่แฝดที่นอนอยู่ในอู่ผ้า ยามเมื่อแม่ลูกอ่อนนอนอยู่ไฟ... แม่ก็พลอยเย็นกายเย็นใจไปกับลูกน้อย หยาดฝนแรกต้นเดือนหกตกลงมาสดๆ ร้อนๆ พรมดินร้อนแล้งแตกระแหง ดินแห้งต้องน้ำฟ้าเกิดกรุ่นไอหอม อวลแกมกลิ่นหญ้าอาบฝนใหม่ ปลุกทรงจำหลับใหลในใจของฮัก ให้ตื่นขึ้นมารำฟ้อนกับหยาดเย็นอย่างครึกครื้น ตอนยังเป็นเด็กน้อย เด็กชายฮักและเด็กหญิงแพง ชอบแล่นเล่นน้ำฝนกลางทุ่งกว้าง ทั้งคู่บ่หวาดเสียงฟ้าคำรามเกรี้ยวกราดเลยสักน้อย ปานว่าหยาดฝนมีมนต์เสน่ห์เย้ายวนใจ เกินกว่าเด็กน้อยทั้งสองจะซุกกายอยู่ภายในเฮือนน้อย เฝ้ามองเม็ดฝนเริงระบำเหนืออยู่ท้องทุ่งได้ ฮักกับแพง เป็นเสมือนเงากันและกัน แพงบ่เคยห่างแฝดผู้อ้ายไปไหนไกลๆ สักครา แพงชื่นชมและคลั่งไคล้ฮัก ดุจเดียวกับเทพบุตรในฝัน เด็กหญิงแพงเฝ้าคลอเคลียอยู่ข้างกายเด็กชายฮักราวกับลูกแมวเหมียวเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ยามฮักขี่ม้าบักจ้อนต้อนวัวไปไร่ แพงจะออดอ้อนขอขี่ม้าไปด้วยทุกครั้ง บ่มีเลยสักวัน...สักชั่วโมงเดียว ที่เธอจะยอมให้แฝดผู้อ้ายห่างหายจากสายตา ถึงเพียงนั้น แพงยังบ่วายคับข้องใจว่า อ้ายฮักแพงบ่เท่ากับที่ฮักไหหอม ซึ่งเป็นคนอื่นคนไกล แต่กลับได้รับการใส่ใจ ยิ่งกว่าน้องฝาแฝดคลานตามกันมาเสียอีก แพงพยายามกีดกั้นผู้หญิงทุกคน ที่เข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับฮัก ในตอนเช้าหมู่ชาวบ้านไร่ จะเห็นเด็กน้อยคู่แฝดต่างเพศขี่ม้าไปไร่ด้วยกันเสมอ เช้าวันหนึ่ง ฮักขี่ม้าไปชวนไหหอมไปเที่ยวป่า แพงน้อยบ่สบอารมณ์เลย เอาแต่นั่งหน้าบึ้งตึงบนหลังม้าตลอดทาง ม้าบักจ้อนพาเด็กน้อยทั้งสาม ทะยานไปตามทางเกวียนอันชื้นแฉะ สองข้างทางนั้นแวดล้อมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นร่มเงาร่มรื่นแก่ผู้ผ่านทาง ยามเมื่อลมชื่นพัดโชยมา กิ่งก้านใบไม้ไหวกวัดไกว ดูราวกับว่าใบไม้น่ารัก โบกใบทักทายเด็กน้อยทั้งสาม ที่กำลังนั่งร้องเพลงบนหลังม้าอย่างร่าเริง ฝนที่ตกหนักเมื่อตอนค่อนรุ่ง ทำให้ทางเกวียนขรุขระชื้นแฉะด้วยหลุมโคลน ไหหอมกลัวลื่นไถลตกหลังม้า จึงโอบกอดเอวฮักไว้แน่น... ฮึ หมั่นไส้นัก แพงขบฟันผลักร่างเพื่อนหญิงอย่างแรง ไหหอมพลัดตกจากหลังม้า ฮักหันขวับกลับไปมองไหหอมอย่างตกใจ อ้ายฮัก บ่ต้องลงไปช่วยมันนะ ให้อีหอมมันปีนขึ้นมาเอง น้องสาวออกคำสั่ง พลางดึงชายเสื้อเขาไว้ แทนที่แฝดผู้อ้ายจะคล้อยตาม ฮักกลับดึงบังเหียนม้าแล่นกลับมา แล้วกระโดดลงไปโอบประคองเพื่อนหญิงผู้เคราะห์ร้ายขึ้นจากหลุมโคลน ปล่อยให้แพงน้องนั่งหน้างอง้ำเป็นจันทร์เสี้ยวคืนแรม เพียงบ่นาน แพงน้อยก็พลันระเบิดเสียงหัวเราะลั่นชอบใจ เมื่อเหลือบเห็นดวงหน้าและเสื้อคอกระเช้าสีขาวของอีกฝ่าย เปรอะเปื้อนโคลนตมมอมแมมเป็นลูกนกตกน้ำ สมน้ำหน้า แพงกระแทกเสียง อย่าเฮ็ดบ้าๆ แบบนี้อีกนะ ฮักตะโกนดุแพง จ้องหน้าน้องสาวอย่างโกรธขึ้ง เขารู้ฤทธิ์เดชแม่น้องสาวฝาแฝดคนนี้ดี แพงน้อยร้ายกาจนัก เจ้าคิดเจ้าแค้น บ่ลดราวาศอกให้ใครง่ายๆ แพงจะแกล้งเพื่อนหญิงทุกคนที่ไม่ชอบหน้า เช่น จับตุ๊กแกโยนใส่เพื่อน แอบซ่อนงูไว้ในกระติบข้าวเวลาเพื่อนเผลอ หรือแม้กระ กระทั่งโรยหมามุ้ยบนเก้าอี้ในห้องเรียน แพงจึงโดดเดี่ยวเดียวดายขาดเพื่อน ชีวิตเงียบเหงาอยู่ในโลกของตนเองตลอดมา ถึงแม้นแพงจะเป็นคู่แฝดของฮัก แต่อุปนิสัยต่างกันราวฟ้ากับดิน แฝดผู้น้องร่างผอมบาง ผิวขาวซีด มากหลายอารมณ์นึกคิด ช่างฝันเฟื่องอ่อนหวาน ช่างพูดช่างจำนรรจา ช่างจินตนาการแปลกประหลาด และช่างเอาแต่ใจตนเองเป็นที่สุด ต่างกับฮัก แฝดอ้ายผู้เข้มขรึม ร่างกายแข็งแกร่ง จริงจังกับชีวิต นับแต่ตีนเท่าฝาหอย มีเรื่องชวนให้แพงขุ่นเคืองใจฮักอยู่เนืองๆ เป็นต้นว่าต้นฤดูวสันต์ปีนั้น แม่ใบตองมาซื้อข้าวโพดที่ไร่แม่โชยไม้ นางได้พาลูกสาวคนเล็กมาด้วย เด็กหญิงไหหอมหิ้วห่อขนมไข่จิ้งจก มาฝากเพื่อนและน้องแฝดของเขา พอลับตาน้องสาว ฮักก็ชวนไหหอมออกไปวิ่งเล่นที่ทุ่งหญ้า ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามจัดกระจ่างใส กลิ่นดอกไม้ใบหญ้าหอมสดชื่น หญ้าเขียวขจีดูดดื่มน้ำค้างยามเช้าจนอิ่มแปล้ ใบหญ้าบาง...บางใบ ฉ่ำหยดน้ำใสแทบบ่มีเรี่ยวแรงพลิ้วใบร่ายรำล้อลมพัด ที่เนินทุ่งกว้างไกลออกไป ดารดาษด้วยดอกหญ้าสีขาวพราวสะพรั่ง งดงามปานโปรยดวงดาวทั้งท้องฟ้าลงมาเกลื่อนกล่นพรมหญ้าสีเขียวผืนใหญ่ ก้านดอกหญ้าเรียวยาวบอบบาง แย่งกันชูช่อดอกน้อยดอกนิด เกสรกระจิดริดระรื่นลม ท้าทายมวลแมลงและแสงแดดนวลที่อวลอาบทาบทุ่ง เด็กหญิงแพง เมื่อไม่เห็นแฝดอ้ายที่เฮือนไม้หลังน้อย ก็ออกวิ่งตามหาด้วยดวง ใจร้อนรน เมื่อแพงน้องเหลือบเห็นฮักนั่งเคียงคู่ไหหอม ที่เนินหญ้าใต้ร่มกันเกราป่าริมบึงใส เสียงพูด คุยหยอกล้อต่อกระซิกร่าเริงแจ่มใส ปานจะเย้ยเพลงนกกางเขนดงบนกิ่งกันเกรานั่น เสียงเพลงอันไพเราะจับใจของนกกางเขนดงนั้น บ่ต่างกับเหล็กแหลมคมพุ่งเข้าทิ่มแทงใจแฝดผู้น้อง แพงน้อยกำหมัดกระทืบเท้า ลมน้ำพุร้อนพุ่งออกหู นัยน์ตาเขียวปัด ห้วงเวลานั้น แม้นว่าดอกกันเกราจะหอมอบอวล ชวนเคลิบเคลิ้มหลงใหลปานใด แต่ว่ากลิ่นดอกกันเกราก็บ่อาจกล่อมเกลาอารมณ์แพงน้อยให้อ่อนโยนรื่นรมย์ได้ ร่างบาง ๆ พุ่งถลาไปนั่งแทรกตรงกลางระหว่างฮักกับไหหอม ฮักหันขวับจ้องหน้าน้องสาวคู่แฝดด้วยสายตาบ่พอใจ แต่ไหหอมผู้เอื้ออารีได้ชวนแพงขวัญกินขนมไข่จิ้งจก ใจอันร้อนเร่าของแพงน้อยจึงค่อยเย็นลง ริมฝีปากบางคลี่แย้มรอยยิ้ม แล้วพวกเด็กๆ ก็หัวเราะสนุกสนาน และสนทนาถึงเรื่องราวต่างๆ บนโลกใบกว้างกว่ากว้าง ยามนั้นดวงตาสดใสสามคู่แหงนเงยไปบนยอดเขาสูงเบื้องหน้า หมอกขาวละมุนคลอเคลียโอบกอดอกเขาเขียวอย่างอาทร ไหหอมเอื้อนเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยว่า น้ำมากมายในบึงใหญ่นั่น นอกจากจากฝนตกแล้ว มันมาจากไสกันหนอ มีคนบอกว่าเทิงยอดเขามีแอ่งน้ำน้อยๆ แต่ว่าบ่เคยเหือดแห้งจักเทื่อ ผู้เฒ่าเล่าลือว่า บนเขาหลังแปนั้นงามปานสวรรค์ นอกจากมีดอกกล้วยไม้ดอกใหญ่งามหอมแล้ว ในแอ่งน้ำใสเย็นยังมีปลาสร้อยสีสวยแปลกแหวกว่ายอยู่ ฮักพูดชวนฝัน พาหอมขึ้นไปเบิ่งได้บ่ หอมอยากเห็นกล้วยไม้งาม อยากได้ปลาสร้อยมาเลี้ยงเบิ่งเล่น เด็กชายยิ้มแก้มปริ ยื่นดวงหน้าผ่านแฝดน้อง ไปกระซิบข้างแก้มนวลอมชมพูของไหหอมว่า จักมื้อหนึ่ง สิพาหอมปีนเขาขึ้นไปเบิ่งให้เห็นกับตา อย่าลืมคำเว้าเด้อ... อื้อ ฮักฟ้าพยักหน้า ทั้งที่บ่รู้ว่าแอ่งน้ำต้นลำธารมันอยู่ตรงไหนบนยอดภูสูง ได้ยินเพียงคำเล่าเขาลือ เสียงกระซิบกระซาบของคนทั้งสอง ยั่วให้แพงน้อยทำตาฝัน แพงไปนำแน อ้ายฮัก บ่ได้ดอก แพงจ่อยแห้งแรงน้อยจั่งซี้ ปีนเขาบ่ไหวดอก ผู้เป็นอ้ายเสียงเข้มขึง ดวงหน้าเรียวเล็กของแฝดน้องถึงกับบึ้งตึง เป็นข้าวต้มมัดบูด ฮัก...ให้แพงไปนำกันเนาะ ปีนเขาสามคนเฮาม่วนดี ไหหอมอ้อนอย่างรู้ใจแพงเพื่อน เธอมักจะเลือกอยู่ข้างแพงน้อยยามเมื่อสองพี่น้องคู่แฝดทะเลาะกัน ใช่ว่าไหหอมจะกลัวแพงกลั่นแกล้ง หากแต่เธอรู้สึกสงสารเห็นใจแพงนางมากกว่า ก็ได้ แต่ต้องสัญญากับอ้ายว่า แพงบ่ก่อเรื่องวุ่นวายอีก จ้า แพงสัญญา แพงลาดเสียงยาว หันไปยิ้มเป็นมิตรกับไหหอม ใจนึกชื่นชมเพื่อนหญิง... " เจ้าดีกับแพงอีหลีเนาะ ไหหอม แต่ว่าความดีของเจ้า บ่เฮ็ดให้แพงใจอ่อนยอมแพ้เจ้าดอก แพงบ่อยากให้เจ้าเป็นคนฮักของอ้ายแพง ที่ใดมีอ้ายฮัก ที่นั่นจะต้องมีอีแพง ตะวันยามสายสาดแสงสวย ดอกกันเกรากลีบกระจิดริด รวมกันเป็นพุ่มพวงบนก้านช่อสั้นๆ สีขาวแกมเหลืองนวลปานสีมันปลา ออกช่อดอกดกดื่นเต็มต้น กำจายกลิ่นหอมฟุ้งไปไกลเท่าที่สายลมล่องรินถึง ฮักเอื้อมมือเด็ดดอกกระดุมเงินดอกกระจุ๋มกระจิ๋มข้างกาย ยื่นช่อดอกไประแก้มนวลของไหหอม ฝ่ายนั้นหันขวับมาจ้องหน้าเพื่อนชาย เรียวปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง ใบหน้าขึ้งเหมือนจะโกรธ แต่แล้วนัยน์ตาเรียวยาวดำขวับคู่งามก็พลันเปล่งประกายระยับ มุมปากจิ้มลิ้มค่อยคลี่ยิ้ม...คลายบึ้ง แล้วหัวเราะคิกคักจั๊กกะจี้ แก้มใสของเด็กชายฮัก แดงซ่านเพราะเขินอาย " ขำอิหยัง..." " บ่ฮู้คือกัน ฮักเฮ็ดท่าทีตลกๆ ให้หอมขำเสมอล่ะ" ท่าทีเคอะเขินของเพื่อนชาย ยิ่งยั่วให้ไหหอมหัวเราะเสียงใสกังวานขึ้นอีก ตาคมเข้มของฮักมองผ่านหน้าน้องสาวคู่แฝด ไปสบตาไหหอมที่กำลังชำเลืองมาพอดี แล้วเขาก็พบดาวสุกสกาวสองดวง ใสกระจ่างบนหน้านวลอมชมพู ทอประกายฉายฉ่ำมาสู่ดวงใจเด็กชายผู้ขี้อาย ประหนึ่งว่าดาวในดวงตาคู่นั้น เต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งชีวิตชีวา บันดาลให้ฮักหลงใหล ใฝ่ฝันอยากได้ไหหอมไว้ในชีวิต จนลืมไปว่า ฮักยังมีแพงน้อย น้องสาวฝาแฝดผู้จงรักภักดี ดำรงรักอยู่เคียงกาย.... เมื่อฮักต้อนฝูงวัวเข้าคอกแล้ว เขาก็เดินมายังเฮือนไม้หลังใหญ่ กลุ่มควันสีขาวล่องลอยอยู่เหนือเฮือนไฟ ท่ามกลางแสงตะวันยามสนธยา ทาบทาสีทองบนฟากฟ้าทิศตะวันตก งามเรืองรองอร่ามยามฝนเพิ่งขาดเม็ด ปุยเมฆบางเป็นยางใย เคลียเคล้าขุนเขาทะมึนสลับสล้าง ทอดทิวโอบอ้อมทุ่งหญ้าและบึงน้ำ ดูยิ่งใหญ่น่าอบอุ่นปานอ้อมแขนธรรมชาติอันแข็งแกร่งมั่นคงเอื้อโอบกอดไว้ เฮือนใหญ่หลังนี้อิงแอบแมกไม้ และขุนเขาเทาทึมทอดทิวเป็นฉากหลังไกลออกไป ทัศนียภาพยามเย็นงดงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันอันเก่าแก่ ฮักปลูกเฮือนหลังนี้ขึ้นแทนเฮือนน้อยใต้ถุนสูงหลังเก่า เฮือนหลังนั้นแสนจะอบอุ่นคุ้นเคย มีชานแดดยื่นออกมา สำหรับนั่งพักผ่อนดูดาวพร่างฟ้า และตากน้ำค้างกลางดึก ในคืนเพ็ญเดือนแจ่มนวลกระจ่าง นอนหนุนตักแม่ฟังนิทานจนผล็อยหลับอย่างเป็นสุข ความทรงจำจากอดีตยังตราตรึง ยึดโยง จนถึงปัจจุบัน ยากจะลืมเลือนได้ เหมือนเงาร่างน้องสาวคู่แฝด ที่บ่เคยจางไปจากฝันและความคิดคำนึงของฮัก ภาพอดีตนั้นงดงามและร้าวรานแจ่มชัด ราวกับว่าดวงวิญญาณน้องสาวยังล่องลอย วนเวียนอยู่รอบกาย ทรมานใจเขาให้ทุรนทุรายด้วยอารมณ์คะนึงหาอาลัย เสียงไอ้เสือ... สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานเห่าทักทาย มันวิ่งมาจากใต้ถุนเรือนยกพื้นสูงลมโกรก กระดิกหางกระโดดเอาสองขามาเกาะเอวเขาอย่างประจบ ฮักตบหัวมันเบาๆ แล้วก้าวขึ้นบันไดเรือน พอร่างสูงทรุดนั่งเอกเขนกบนพื้นชาน หญิงร่างโปร่งบางก็ก้าวออกมาจากครัวไฟ เดินไปตักน้ำจากโอ่งดินเผาบนร้านมายื่นให้เขา เพียงเห็นหน้า ฮักก็ชื่นใจหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมียของเขายังดูสดสวยในวัยกลางคน นางรวบผมมวยเผยให้เห็นดวงหน้าเรียวรูปไข่ ดูอ่อนกว่าวัย เสื้อแขนกุดสีตองอ่อนหวานที่สวมใส่ ขับผิวพรรณให้ขาวนวลผุดผาดดุจสาวรุ่น ทั้งที่อายุย่างสี่สิบแล้ว เมื่อก่อนฮักเคยปรามาสไหหอมในใจ ว่าผู้หญิงหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทงามอ่อนหวาน เรือนร่างนวลระหง ทำการค้ามาแต่น้อย จะทำงานกลางแจ้งในไร่ข้าวโพดไหวหรือเปล่าหนอ ไหหอมมีเชื้อญวณ พ่อของเธออพยพมาจากเวียดนามใต้ ทำข้าวเปียกเส้นขายที่ตลาดเก่า พอแต่งงานกับแม่ใบตองแล้ว แกก็หอบครอบครัวมาตั้งรกรากที่บ้านไร่ใกล้บึงใหญ่ ยึดอาชีพจับปลาทำปลาร้า รับซื้อของป่าและผลผลิตพืชไร่จากชาวบ้านไปขายที่ตลาดเก่า ไหหอมได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกับผู้ชาย และได้รับการเลี้ยงดูฟูมฟักจากพ่อแม่ราวไข่ในหิน หลังจากไหหอมก้าวเข้ามาในชีวิต ฮักถึงรู้ว่าเขามองคู่ชีวิตผิดไป ไหหอมน่ารักและชาญฉลาด เป็นแม่ศรีเรือนที่แสนดี ละเอียดถี่ถ้วนในการใช้จ่ายอดออม สิ่งสำคัญที่จรรโลงชีวิตคู่ของเขาให้หวานชื่นยั่งยืนนาน นั่นก็คือความรัก ความเข้าใจ และความดีงามในจิตใจของเธอ ซึ่งมิเคยคลายค่าลงสักนิด เมื่อยบ่... เมียสาวใหญ่ยิ้มทักทาย พลางส่งขันน้ำเย็นให้เขา ฮักยิ้มรับอย่างอบอุ่น เดี๋ยวค่อยกินข้าวกันนะ รอคำก้อนกลับมาก่อน ไหหอมเอ่ยถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างแสนรัก บักคำไปไส ไปช่วยจำปาตำข้าว ตอบพลางนั่งลงข้างๆ สามี ฮักหันไปยิ้มบางๆ กับเมียสาว ไหหอมดูอ่อนหวานอ่อนเยาว์ แม้นว่าหลายปีผ่านไป ไหหอมทำงานในไร่หนักเหนื่อยปานใด ก็บ่ทำให้ความงามลดจางไปสักน้อย นัยน์ตาเรียวยาวดำขลับคู่นั้น ยามทอดมองสามีของนาง ยังส่งประกายแจ่มใสอยู่เป็นนิจ น้ำเย็นฉ่ำจากขันที่ฮักยกขึ้นดื่ม คลายความกระหายและเหน็ดเหนื่อยลงได้บ้าง แต่มิอาจคลายความระทมทุกข์ลึกเร้นอยู่ภายในใจ ความฝันเก่าๆ ซ้ำๆ รบกวนจิตใจเขาตลอดมา ทุกๆ วันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ฮักจะฝันเห็นน้องสาวคู่แฝด เดินเข้ามาสรวมกอด ร่ำไห้รำพันว่าคิดถึง...คิดถึงเขา อยากกลับมาอยู่กับเขา (โปรดติดตามต่อไป)
20 สิงหาคม 2552 11:52 น. - comment id 107355
ซือเป็นตาฮักแท้จ้า ไหหอม
20 สิงหาคม 2552 12:04 น. - comment id 107356
มานั่งปูเสื่อรอเป็นคนที่สอง เรื่องนี้ม่วนอีหลีเด้ออ้ายละไมฝน ทำไมแต่งได้งดงาม น่าอ่าน สนุกค่ะ กำลังนึกว่าตัวเองเป็นสาวไหหอม
20 สิงหาคม 2552 16:13 น. - comment id 107360
ผมเดาเอาเอง.. ว่าชื่อไหหอมมาจากไหนน้อ.... สำนวนน่าอ่านครับ... ชอบบรรยากาศชนบทอยู่แล้วด้วย
20 สิงหาคม 2552 18:15 น. - comment id 107370
21 สิงหาคม 2552 03:50 น. - comment id 107385
ดีจังค่ะ ได้รับรู้กลิ่นไอธรรมชาติดี สนุกนะคะ
26 สิงหาคม 2552 09:49 น. - comment id 107690
ขอบคุณทุกกำลังใจครับ ถ้ามีเวลาจะลงตอน 2 ให้อ่านกันนะครับ
7 กันยายน 2552 07:44 น. - comment id 107935
พออ่านถึงน้องแพง โสตประสาทแว่วเสียงเพลง พี่ชายที่แสนดี ถึงตาน้องไหหอมได้ยินเสียงแว่วเพลง30ยังแจ๋ว กับกลิ่นปลาเค็มแดดเดียวทอด ลอยมาจากข้างบ้าน อยากเปลี่ยนชื่อสาวข้างบ้านเจ้าของปลาเค็มว่าไหหอมจริงๆ