ลำนำชีวิตของทุกคน

ลุงเอง

บทความ  -    อายุวัฒนะ
วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เวลา ๑๐:๕๑ น.
            กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีต้นหว้าใหญ่ต้นหนึ่ง มีกิ่งก้านแผ่กว้างใหญ่ ร่มรื่น ถึงฤดูกาลมีลูกดกใหญ่หวานหอม เด็กน้อยคนหนึ่งชอบมาเล่นที่ต้นหว้านี้  ปีนเล่นตามกิ่ง เวลาหิวก็เก็บลูกหว้ากิน เวลาง่วงก็นอนเล่นใต้ร่มหว้านั้น เด็กน้อยรักต้นหว้ามาก ต้นหว้าก็รักเด็กน้อยมาก
            ต่อ มาเด็กน้อยไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนจึงห่างเหินต้นหว้า ต้นหว้าซึมเศร้าเพราะคิดถึงเด็กน้อยมาก วันหนึ่งเด็กน้อยมาที่ต้นหว้าๆ ดีใจมาก
            “เจ้าหนูมาวิ่งเล่น ปีนเล่น  นอนเล่น  เหมือนก่อนนะ” 
           เด็กน้อยตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า “ฉันไม่มีอารมณ์จะเล่นหรอก  ฉันโตแล้ว  ฉันอยากได้ตุ๊กตา แต่ไม่มีเงินซื้อ  ช่วยฉันได้ไหม” 
           “ฉันไม่มีเงินหรอกเจ้าหนู แต่ฉันจะช่วยเธอ จงเก็บลูกหว้าจากต้นฉันทั้งหมดเอาไปขายแล้วเอาเงินไปซื้อตุ๊กตา” 
           เด็กน้อยดีใจมาก รีบเก็บลูกหว้าอย่างมีความสุข ต้นหว้าเห็นเด็กน้อยมีความสุขก็มีความสุขมาก
            เด็กน้อยหายไปอีกหลายปี  ต้นหว้ารอคอยด้วยความเงียบเหงา เศร้าซึม อยู่มาต้นหว้าก็ตื่นเต้นดีใจมากที่เด็กน้อยมาหา  แต่คราวนี้เขาโตเป็นหนุ่มแล้ว
           “มาวิ่งเล่น  ปีนเล่น  นั่งเล่น ซีเจ้าหนู” ต้นหว้าระล่ำระลักด้วยความดีใจ
            “ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้ว  ไม่มีใจคิดจะเล่นอีกแล้ว  ฉันมีครอบครัวแล้วและกำลังปลูกบ้าน  แต่มีไม้ไม่พอ  ช่วยฉันหน่อยได้ไหม” เด็กน้อยกล่าว
            “ฉันไม่มีเงินหรอก แต่เอาเถิดฉันจะช่วยเธอ จงตัดเอากิ่งก้านทั้งหมดของฉันไปใช้” เด็กน้อยได้ฟังก็ดีใจ รีบตัดกิ่งก้านทั้งหมดเอาไปทำบ้าน ยางต้นหว้าสีแดงตามลำต้นที่ถูกตัดกิ่งก้านออกค่อย ๆ ไหลซึมด้วยความดีใจที่เห็นเด็กน้อยมีความสุข
            ต้นหว้ารอคอยเด็กน้อยด้วยความเศร้าซึมอีกหลายปีต่อมา และแล้ววันหนึ่ง  ต้นหว้าก็ดีใจตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่งที่เด็กน้อยกลับมาเยี่ยม “มาเล่นกับฉันซี หลายปีมานี้ฉันเหงาและคิดถึงเธอเหลือเกิน” ต้นหว้ากล่าวขึ้น
            “ฉัน เล่นไม่ได้หรอก ฉันเป็นผู้ใหญ่จนผมสีขาวเริ่มแซมประปรายแล้ว ลูกของฉันก็เติบโตแล้ว ฉันไม่ต้องการอะไรอีกเพราะต้องการพักผ่อน ฉันอยากได้เรือสักลำหนึ่งสำหรับท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ แต่ฉันไม่มีเงินพอที่จะซื้อเรือ  พอจะช่วยได้ไหม” เด็กน้อยซึ่งวันนี้ผ่านวัยกลางคนไปแล้วกล่าวขึ้น
            “ฉัน ไม่มีดอกผล ไม่มีกิ่งใบที่จะให้เธอไปขายเปลี่ยนเป็นเงินอีกแล้ว เอาอย่างนี้เธอจงตัดลำต้นของฉันเอาไปทำเป็นเรือตามที่เธอต้องการเถิด” ต้นหว้าตอบเด็กน้อยดีใจมากที่ได้เรือตามต้องการ  ต้นหว้าก็มีความสุขใจที่เห็นเด็กน้อยมีความสุข ในขณะที่ยางหว้าสีแดงและขาวขุ่นๆ ไหลซึมที่ตอ
            หลาย ปีต่อมาเด็กน้อยซึ่งวันนี้แก่หง่อมได้มาที่ตอต้นหว้าอีกครั้งหนึ่ง ตอต้นหว้าดีใจมาก แต่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยและอ่อนล้าว่า “ฉันไม่มีผลให้เธอกิน ไม่มีกิ่งให้เธอปีนป่าย ไม่มีร่มเงาให้เธอบังแดด ไม่มีประโยชน์สำหรับเธออีกแล้ว  ฉันเสียใจจริงๆ”
            เด็กน้อยตอบว่า “ฉันเองก็แก่แล้ว ไม่มีฟันที่กินลูกหว้า ไม่มีแรงที่จะปีนป่ายหรือท่องเที่ยวไปที่ไหนอีก ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจาการนอนพักผ่อน”
            “ถ้าอย่างนั้นรากที่เหลือจากการเปื่อยผุของฉันพอมีอยู่และใช้แทนหมอนให้เธอหนุนนอนพักผ่อนได้” ต้นหว้าตอบด้วยเสียงที่อ่อนล้า
            ท่าน ผู้อ่านที่เคารพ พฤติกรรมของเด็กน้อยคนนี้คือพฤติกรรมของพวกเราทุกคนที่ปฏิบัติต่อพ่อแม่ของ เรา ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราควรทบทวนการปฏิบัติต่อพ่อแม่แล้วมอบความอบอุ่น ความใกล้ชิดและปรนนิบัติท่านด้วยความกตัญญู
           ท่าน ผู้อ่านที่เคารพ เรื่องสั้นเรื่องนี้ไม่รู้ใครเป็นคนเขียน แต่มีอยู่ใน website เป็นภาษาอังกฤษ ลูกสาวผมไปพบเข้าจึงพิมพ์มาให้ดู อ่านให้ฟังแล้วจูบแก้มผมด้วยความรักครั้งหนึ่ง ผมก็พลอยตื้นตันไปด้วย เอามาอ่านดูเห็นเป็นสำนวนของฝรั่งจึงถอดความเสียใหม่ให้สอดคล้องกับความ รู้สึกแบบไทย ๆ ดังที่ได้นำมาลงให้ได้อ่านกันนี่แหละครับ
           ผมทราบว่ามีผู้เอาเรื่องสั้นนี้มาแปลเป็นภาษาไทยก่อนแล้ว และใช้เป็นแบบประกอบการเรียน แต่ไปสรุปเป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัวซึ่งผมเห็นว่าเป็นแง่คิดอีกด้านหนึ่ง แต่ถ้าในด้านของความกตัญญูรู้บุญคุณของพ่อแม่แล้วน่าจะตรงกับเรื่องมากกว่า
           ใครอ่านแล้วลองส่งให้ลูกหลานอ่านดูบ้าง ก็อาจจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกใหม่ ๆ.				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน