สวนสาธารณะแห่งวรรณศิลป์ สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นที่ทราบกันดีของคนที่เข้ามาชนสวนหรือเดินเล่น ในสวนโดยมีความประสงค์คล้ายๆกัน........เพราะเป็นสวนที่เราใช้เป็นลาน สาธารณะในยามเหงา, เศร้า,ดีใจ, เสียใจ, ท้อแท้,และอีกหลายๆอารมณ์ รวมถึง....การแสวงหาตนเองโดยสื่อออกมาในรูปแบบของวรรณศิลป์ที่ขับกล่อม เป็นร้อยแก้วและร้อยกรองจากใจสู่ใจ คนที่มาชมสวน...บ้างก็เดินมาแล้วก็ผ่านไป บ้างก็เปิดเผยตัวตนในรูปแบบของความรู้สึกในส่วนที่ต้องการสื่อสารกับคนอื่นๆในสวนฯ จาการที่มา ชนสวนผ่านอักษรสานสัมพันธ์โดยการทักทาย เริ่มจากการเป็นคนแปลกหน้า ต่างถิ่น ก็ค่อยๆสร้างเสริมความเข้าใจทีละเล็กละน้อยจนกลายเป็นคนรู้จัก ....คนคุ้นเคย...กระทั่งกลายเป็นคนรู้ใจก็เป็นได้....เป็นเพื่อนปลอบใจในหลายสถานการณ์ที่เคยอุบัติขึ้นในสวนฯแห่งนี้ เป็นปรากฏการณ์รูปแบบใหม่ของสังคมไร้พรมแดนบนความนิยมชมชอบสิ่งเดียวกัน.....นั่นคือ...วรรณศิลป์ ที่สร้างสรรค์ได้อย่างต่อเนื่องเป็นความสุขรูปแบบหนึ่งที่มอบให้แก่กัน สวนฯแห่งนี้.... ที่หลายคนก็เหมือนคนกันเองที่สนิทกันมากขึ้นที่มา พักผ่อนเดินเล่นสวนฯนี้เป็นประจำ บางขณะก็สามารถจับกลุ่มกันเล่นตระกร้อ ได้อย่างสนุกสนาน เพลินเพลิน...ทำให้คนที่มาชมสวนฯ ทีหลังก็อดแปลกใจ ไม่ได้เหมือนกันคงเป็นเพราะเป็นสวนฯแห่งวรรณศิลป์กระมั่งที่เป็นมากกว่า การวิสาสะแบบพื้นๆเมื่อเปรียบกับแวดวงสังคสมไร้พรมแดนที่อื่นๆ แต่มิได้ หมายความว่า เหนือกว่าสังคมอื่นๆ เพียงแต่ สวนฯนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจนจากอัตลักษณ์ของสังคมอื่น และบางครั้งกลายเป็น แรงบันดาลใจให้คนชมสวนที่เพิ่งเข้ามาเดินทอดน่องคนอื่นๆได้เข้ามารวมเสวนารวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของสวนแห่งวรรณศิลป์ด้วยคนไปโดยปริยาย ในสวนฯนี้กอรปด้วยมวลพฤษชาติ ดอกไม้นานาพรรณ มีแกบทุกลักษณะ ของความสวยงาม อาจมีบ้าง บางมุมของสวนฯที่ดูไม่สวยงามอยู่บ้างก็ต้องอาศัยคนชมสวนด้วยกันและอาจรบกวนคนดูแลสวน ช่วยกันดูแลให้เรียบร้อยและเหมาะสม รวมถึงแมลงหลากหลายชนิด ผึ้งก็มี ผีเสื้อก็มี เพลียหนอนก็ยังมีบ้าง.........เป็นเรื่องธรรมดาที่เราๆท่านๆเคยพบเห็นในสวนฯ แห่งอื่นๆเช่นกัน..............เป็นสังคมที่ยอมรับได้ถึงความแตกต่าง หากความแตกต่างนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดมลภาวะแก่จิตใจส่วนรวมมากนัก บางครั้งสวนฯแห่งนี้ก็มีบ้างที่ถูกปกคลุมด้วยเมฑหมอก, ฝน, ลมพายุ จากมวลอากาศที่แปรปรวน ฟ้ามืดครึ้มบางช่วงบางขณะ ก็เป็นธรรมชาติของทุกๆสิ่งที่มีการตื่น การหลับไหล รวมทั้งครึ่งหลับครึ่งตื่นตามสภาวะธรรมชาติที่เข้าใจได้ บางครั้งหากมีเรื่องเสวนาหรือความเห็นที่ไม่ตรงกัน อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และเป็นประเด็นปัญหาที่แตกต่างจากจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของการก่อเกิดสวนฯแห่งนี้......ผู้ดูแลสวนก็แสดงบทบาทผู้จัดการดูแลสวนฯได้อย่างเหมาะสมที่ผ่านมา ในฐานะของคนชมสวน...ก็พูดกับตัวเองว่า...เช่น...คำว่า "ไม่เป็นไร" "พอทนได้" "ลืมเสียเถิด" ที่เคยได้ยินมาก็นำมาใข้ได้ในการชมสวนหรืออยู่ในลานกลางสวนเพราะในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันก็ต้องสะกดใจตังเองกับความรู้สึกต่างๆที่กระทบจิตใจไม่ให้ติดยึดกับอารมณ์ขุ่นมัวต่างๆหรือคล้ายตามกับอารมณ์ดีใจอย่างเด่นชัดเพราะ บางครั้งอาจไม่เป็นอารมณ์เดียวกันกับคนรอบข้าง ซึ่งอาจทำให้เสียบรรยากาศเปล่าๆ การหลงเสน่ห์ของสวนฯแห่งนี้หรือเรียกว่าความประทับใจน่าจะถูกต้องกว่าเพราะทุกๆคนในลานกลางสวนฯล้วนมีไมตรีจิตและมีความเข้าอกเข้าใจโดยผ่านตัวอักษรที่ร้อยเรียงอย่างมีศิลปะ หรือการให้กำลังใจที่สัมผัสด้วยประโยคเพียงบางประโยคแต่ก็มากด้วยคุณค่า รวมถึงความขัดแย้งกรณีถ้ามีก็มีการประนีประนอมได้อย่างน่าชื่นชม ที่สังเกตุได้จากลงสวนฯของหลายๆคนก็หลายๆลีลา มีความแตกต่างของรูปลักษณ์วรรณศิลป์ที่งดงามน่าติดตาม น่าค้นหา ...รวมถึงจินตนาการหลากหลาย สุดที่จะคาดเดาได้ บ้างก็เป็นเอกทางด้านธรรมลีลา บ้างก็บันเทิงลีลา บ้างก็นิราศ และอื่นๆ กระทั่งจินตลีลา....สุดบรรยายจริงๆ ตามที่ทราบกันดี สวนฯปห่งนี้ไม่เคยปิด...เหมือนร้านเซเว่นฯ ยกเว้น วันที่ผู้ดูแลสวนหรือเจ้าของสวนเกิดเปลี่ยนใจไปทำอย่างอื่นแทน อันนี้ช่วยไม่ได้ครับ อนึ่ง ในฐานะคนชมสวนฯ บางก็อยู่กลางสวน ก็ชื่นชมในมิตรภาพที่งดงามที่มอบให้แก่กัน ทุกวรรณศิลป์ได้ถ่ายถอดสารัตถะที่มีคุณค่า เป็นงานสร้างสรรค์ ที่เขียนด้วยใจรักกันทุกคน สิ่งหนึ่งที่เตือนตัวเองตลอดเวลา......การคาดหวังว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ในวรรณศิลป์แห่งนี้จะสามารถเติมเต็มช่องว่างในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าขาดหายไป ซึ่งจะกลายเป็นว่าเอาตัวเองไปยึดติดหรือผูกมัดกับความเป็นไปในบทร้อยแก้วหรือร้อยกรองเหล่านั้น....อาจกลายเป็นการเนรมิตความสุขที่ปรุงแต่งขึ้นเองโดยมิได้ตั้งใจก็เป็นได้ หากแต่ต้องวางใจให้เป็นกลาง เปิดกว้างกับทุกความเห็น ทุกความรู้สึก ด้วยความสุขุม ทั้งหมดเป็นการบอกตัวเองรวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นหรือเข้ากับเหตุการณ์ มิได้คาดหวังให้คนอื่นปรับตัวเข้าหาตัวเอง.......................(ความเห็นของคนชมสวนฯคนหนึ่ง)
26 กรกฎาคม 2552 23:44 น. - comment id 106791
สวนแห่งนี้ .... ผมเข้ามาแล้วก็ออกไป ... แล้วก็กลับเข้ามาใหม่เสมอ... ที่ไปไหนไม่รอด ก็เพราะว่าผมถูกสาปครับ หมายเหตุ: กวีวัจนะบทนี้ เขียนขึ้นมาเพื่อตอบกระทู้ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem127856.html
27 กรกฎาคม 2552 01:45 น. - comment id 106792
ค่ะ เหมือนเป็นโลกใบหนึ่ง ที่ให้เราเข้ามาอยู่ร่วมกัน สุขบ้าง ทุกข์บ้างปะปนกันไป มันน่าพิศวงนะคะ บางคนไม่เคย พบปะ เห็นหน้า หรือแม้แต่จะพูด คุยกันมาก่อน มาพบปะกันนี้ กลับ มีความรู้สึกห่วงใยกัน จนสานต่อ กลายเป็นเพื่อนแท้ เพื่อนเคียงกัน อิอิ.... คุณวิทย์ นี่ เข้าใจเขียนนะคะ ทั้งเหตุ และผลดีมาก ๆ วันนี้ปรางกำไรค่ะ เพราะได้คุณ วฤก มีทั้ง โคลง กาพย์ กลอน พร้อม ยอมรับค่ะ ท่านสามารถ อิอิ...แต่พวกเราก็ต้องคำสาปทุกคน ก็ทำไงได้คะ ชะตาเดียวกันแล้วนี่ หลงค่ะ หลงใหลในความงามของ วรรณศิลป์
27 กรกฎาคม 2552 05:38 น. - comment id 106793
เขียนได้น่าอ่านมากค่ะคุณวิทย์ เขียนเรื่องต่อไปอีกนะคะ
27 กรกฎาคม 2552 10:07 น. - comment id 106794
บทกวีหลายบท ...แสดงถึงความมีอารมณ์ขำขันเฮฮา... ...ไว้เพื่อยามเศร้าเหงาหงอย...จะได้อ่าน บทกวีหลายบท ..เป็นแนววิชาการที่อิงความเป็นจริง... ...ที่สามารถอ้างอิงในการศึกษาหาความรู้ได้... บทกวีบางบท ...เป็นแนวปรัชญาและตรรกวิทยา... ...อาจจะดูลึกลับซับซ้อนบ้าง... ...แต่ไว้อ่านเมื่อต้องการข้อมูลบางอย่าง... บทกวีบางบท ...เป็นแนวการเมืองการสังคม...ที่เป็นปัจจุบัน... ...ไว้เพื่อทราบว่า...ในช่วงเวลานั้น ๆ... ...ขณะที่บทกวีนี้ถูกเขียนขึ้น... ...มีเหตุการณ์ใดที่สำคัญเกิดขึ้นบ้าง... บทกวีบางบท ..เป็นแนวประวัติศาสตร์พงศาวดาร... ...เพื่อให้เรารู้ที่มาที่ไปของเรา.. ...และประเทศชาติเชื้อชาติเผ่าพงศ์ไทย... บทกวีบางบท ...สื่อความหมายซ่อนเร้น... ...เปรียบเทียบประชดประชัน..ได้ความเข้มข้นของชีวิต... บทกวีบางบท ...เศร้าโศก...แทบจะร้องไห้เมื่อได้อ่าน... ...อย่างน้อยที่ทำให้ผู้อ่านรู้ว่า... ...ชีวิต...ไม่ได้มีแต่ความร่าเริงเสมอไป... ...สุขเศร้าเหงา...ย่อมคืบคลานมาได้...เท่ากันทุกคน... บทกวีบางบท ...เป็นการชื่นชมธรรมชาติ...และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง... ...ที่ได้ผ่านไปมาพบเห็น.. ...บางสิ่งยากเกินกว่าจะไปมองเห็นของจริง... ...แต่บางสิ่งที่ง่ายที่จะพบเห็น... ...จนลืมไปว่าสิ่งสวยงามเหล่านี้อยู่รอบตัวเรา... บทกวีบางบท ...กล่าวถึงบุคคลที่สำคัญและไม่สำคัญ... ...เพื่อให้เรารับรู้ถึง... ...วิถีทางการดำเนินชีวิตของคนเหล่านั้น... ...ว่ามีชีวิตอย่างไร...แก่นแท้ของเขาอยู่ที่ไหน... บทกวีบางบท ...เกินคำบรรยายว่า...รู้สึกอย่างไรที่ได้เขียน... ...เพราะถ้อยที่รำพันออกมา..ไม่อาจทดแทนด้วยอักษร... บทกวีบางบท ...ก่อให้หลายคนที่อ่านเกิดข้อกังขาว่า... ...ผู้เขียนมีหัวใจหรือไม่ ? ... ...มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า...
27 กรกฎาคม 2552 12:06 น. - comment id 106798
ขอมาพักผ่อนหย่อนใจในสวนแห่งนี้ด้วยคน ชอบทุกอย่างที่ลงตัวน่ะ
27 กรกฎาคม 2552 19:29 น. - comment id 106810
สวัสดีค่ะพี่วิทย์...... ฉางน้อยมีนิทานมาเล่าให้ฟังเอาป่าว ... กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ .. อิอิ ... มีสาวจอมกวน ป่วนๆ มาดทอมบอยคนหนึ่งเซ็งๆในอารมณ์ เลยไปเดินเล่นที่สวนแห่งหนึ่ง สวนแห่งนั้นมีทั้งดอกไม้นานาพันธ์ มีต้นไม้ใหญ่มากมายแตกกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา เหมาะแก่การพักผ่อนยิ่งนัก ....รอบกายน้องนางผู้นั้น มีทั้งเพื่อนชายหญิง ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ (รวมกำนันด้วยมั้งเนอะ) มีหลากหลายสาขาอาชีพที่มาพบมาเจอะเจอกัน มีหลากหลายอายุทั้งเด็ก ทั้งผอ. ทั้งสว... ปล. ผอ. หาใช่ ผู้อำนวยการไม่ แต่.... เป็นผู้สูงอายุ อิอิ .... โน่นก็ ทั่นสว. สูงวัย อิอิ ..... ......ทว่า เป้าหมายของสวนแห่งนี้ ก็คือ .... เธอ..ฉัน..เขา..เรา กลายมาเป็น.. " พวกเรา " เพราะพวกเรารัก และ ชอบในสิ่งเดียวกัน เลยทำให้ได้มาเจอะเจอกัน ทำให้ได้มาพูดคุยในสิ่งเดียวกัน แม้ว่าต่างคนต่างคิด ต่างคนร้อยพ่อพันแม่ ความคิดความอ่านอาจแตกต่างกันบ้าง แต่เราก็ชอบที่จะมาเดินเล่นในสวนแห่งนี้มิใช่หรือ... สมมุต เราเดินในสวนแห่งนี้ แล้วเจอสิ่งปฏิกูล เราจะข้ามไปหรือ เหยียบล่ะคะ แต่ถ้าเราเดินไปเจอขยะ ใบไม้แห้งร่วงหล่น เจอถุงพลาสติก เราก็จะเก็บติดมือนำไปทิ้งถังขยะไหมคะ แม้ไม่ใช่บ้านเราเอง แต่เมื่อเรามาเดินเล่นที่สวนแห่งนี้แล้วเรามีความสุข เราก็ต้องการให้สวนแห่งนี้มีแต่ความสะอาดใช่ไหมคะ .....นี่เป็นความคิดของสาวเปิ่นๆเอ๋อๆเซ่อๆซ่าๆแถมซุ่มซ่ามอีกต่างหาก แต่สาวซุ่มซ่ามคนนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆลุงป้าน้าอาเพื่อนที่มาเจอในสวนแห่งนี้ ขอบคุณเพื่อนๆมิตรภาพในสวนที่มาคุยด้วย แม้รุ้ว่า ยัยนี่ซุ่มซ่าม เอ๋อๆ เป๋อๆ อิอิ .... ไม่มีสิ่งใดบอกได้ดีกว่าการกระทำหรอกนะคะ ร้อยคำพูดไม่เพียงพอต่อการกระทำเพียงครั้งเดียว อิอิ .....ปรัชญาม่ะพี่วิทย์ ......คิดไม่ออก บอกไม่ถูก ปวดนิ้วแระ ไว้คิดออก ค่อยมาอีกรอบคะ 5555
27 กรกฎาคม 2552 20:06 น. - comment id 106811
สวนแห่งนี้แสนสุข ขอบคุณเจ้าของเวฟ และผู้ดูแลระบบที่แสนอดทน และงานงามๆของทุกคนเจ้าค่ะ
27 กรกฎาคม 2552 22:47 น. - comment id 106812
ใช่หรือไม่สวนสาธารณะแห่งวรรณศิลป์
27 กรกฎาคม 2552 22:59 น. - comment id 106813
รู้แต่ว่า..ที่นี่มีเพื่อน มีบทกวีหลากหลาย มีเรื่องราวให้ค้นหา..อิอิ มีความรัก..มีกำลังใจ มีทุกข์หม่น หม่นหมอง และร้องไห้ มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ.. รักสวนแห่งนี้ค่ะ...รักคนในสวนนี้ด้วย..
28 กรกฎาคม 2552 10:19 น. - comment id 106814
เป็นแค่คนผ่านทาง ที่มาแอบปลูกต้นกลอนไว้ครับ แต่กลับได้ต้นมิตรภาพด้วย อีกหนึ่งต้น
28 กรกฎาคม 2552 11:21 น. - comment id 106815
ครั้งแรกที่เดินเข้ามาสวนแห่งนี้ รู้สึกตื่นตา ตื่นใจกับพรรณไม้หลากหลายชนิด เมื่ออยู่ไปนานวัน กลับกลายเป็นความผูกพันธ์ เหนื่อยก็แวะมานั่งพัก ปล่อยใจไปตามฝัน และอารมณ์ที่มีแต่ความสุขค่ะ
28 กรกฎาคม 2552 21:22 น. - comment id 106819
สวัสดีคับ คุณวฤก กวีรจนา "สาปสรรวรรณศิลป์" วิเศษมากคับ ขอคารวะคับ ขอบคุณที่ให้เกียรติแวะมาเมนต์นะคับ สวัสดีคับ คุณปรางทิพย์ ผมเห็นด้วยคับ งานนี้ผู้อ่านได้กำไร จากการที่คุณวฤกมาช่วยเพิ่มอรรถรสในบทความนี้ได้มากทีเดียวคับ เรื่องที่เขียน คิดอยู่หลายทีว่าจะเขียน เลยได้จังหวะจึงมาอนุญาติเขียน แจม เส้นทางวรรณศิลป์ ของคุณ อิมคับ สวัสดีคับ คุณอนงค์นาง ขอบคุณที่ชอบบทความนี้คับ จริงๆผมไม่ถนัดเขียนแบบนี้มากนัก ลองฝึกดูคับ สวัสดีคับ คุณอิม ขอบคุณที่แวะมาอ่านคับ ขออนุญาติเม้นต์ที่ว่า กวีบางบท.....ก่อให้หลายคนที่อ่านเกิดข้อกังขาว่า.....ผู้เขียนมีหัวใจหรือไม่?.......... คำถามในคำตอบ....ตอบยากคับ อาจเป็นว่า......คนเขียนเป็นใคร.......เจตนาที่เขียน เป็นเช่นไร ผมว่าบางที่ผู้เขียนเองก็ตอบเจตนาที่เขียนไม่ได้ตามที่ใจตัวเองคิดเท่าไร ส่วนผู้อ่านก็คงต้องถามว่า..............ผู้อ่านเป็นใคร...............เข้าใจเจตนาของผู้เขียนมากน้อยเพียงใด.......และเข้าใจมูลเหตุในการเขียนเช่นใดโดยต้องเดาใจผู้เขียนเช่นกัน สวัสดีคับ คุณเฌอมาลย์ ชอบคล้ายๆกันคับผม คงต้องติดอยู่ในสวนฯ อีกนานมั่งคับ สวัสดีคับ น้องฉางฯ ที่เขียนมาซะยาว แสดงว่าชอบแอบมานั่งในสวนฯ ...........ไม่ชอบไปทำงาน.........ระวังเจ้านายจับได้น้า .......เดี๋ยวหาว่าพี่ไม่เตือน สวัสดีคับ คุณยาแก้ปวด ขอบคุณท่านจอมยุทธ ที่แวะมาผมกำลังไปหาสถานที่สุดลับเพื่อฝึกวิชาไหมฟ้า เพิ่มเติม กำลังหาค่าลงทะเบียนฝึกคับ.............คงต้องรออีกนานเพราะค่าลงทะเบียนก็ไม่มีและ ตำราก็ไม่เคยเห็น คงต้องอดใจรอให้ฝึกสำเร็จก่อนจึงจะไปประลองด้วย นานนนนน สวัสดีคับคุณสีลมัย เรามาชมสวนฯแห่งนี้กันดีไหมคับ สวัสดคับ คุณครูพิม เข้าใจตรงกันคับคุณครู หากสวนฯปิดเมื่อไรแล้วเราจะไปที่ใหนกันดีคับ สวัสดีคับ คุณไร้อันดับ เมนต์ได้น่ารักคับ สวัสดีคับ คุณแบม ความคิดเห็นตรงกันเลยคับ สงสัยเราต้องเฝ้าสวนฯกันแล้วล่ะ