นิราศปารีส-โรม (๕)

บพิตร

(๕)
...สู่กรุงโรม...
จนบ่ายคล้อยหันหน้าลาปารีส
กลัวรถติดเผื่อเวลามาจัดของ
สัมภาระขึ้นรถไฟได้จับจอง
เตรียมลาล่องไปกรุงโรมสมตั้งใจ
การ์ปารีส เดอ เบอร์ซี่ สถานีออก
เวลาบอกหกโมงเย็นเป็นเงื่อนไข
คืนนี้นอนห้องหกคนบนรถไฟ
หลายร้อยไมล์กว่าจะถึงซึ่งกรุงโรม			
นั่งรถไฟหวนคำนึงคิดถึงบ้าน
จากมานานหลายเพลาพาขื่นขม
อยากเห็นหน้าคนเคยใกล้	ได้ชื่นชม
เย็นสายลมยิ่งหนาวจิตคิดถึงเธอ
สองข้างทางมีแม่น้ำลำธารใส
แดดรำไรฟ้าสีทองนั่งมองเหม่อ
อีกไม่นานกลับไปได้พบเจอ
อยากบอกเธอว่าเหงาจังนั่งใจลอย
จนดึกดื่นพักผ่อนนอนหลับใหล
บนรถไฟไม่คุ้นเคยเลยตื่นบ่อย
นอนฟังเสียงรถแล่นไปใจเลื่อนลอย
ดาวเคลื่อนคล้อยฟ้ารุ่งสางทางอีกไกล
ผ่านทิวเขาท้องทุ่งรุ่งอรุณ
ไร่องุ่นสองข้างทางช่างกว้างใหญ่
ม้าเหล็กแล่นห้อตะบึงถึงกรุงไกร
ล่วงเลยไปห้าโมงเช้าเข้าชาลา
ถึงกรุงโรมเมืองหลวงอิตาลี
ไม่รอรีออกเดินทางไปข้างหน้า
รถวนเวียนชมเมืองใหญ่ตระการตา
เมืองโรม่ากรุงเก่าเขางามจริง
มีแม่น้ำไทเบอร์เอ่อรินไหล
เย็นสวยใสเรือล่องลอยดูอ้อยอิ่ง
ต้นเมเปิลเรียงรายคล้ายแอบอิง
ได้พึ่งพิงน้ำกับไม้ไว้คู่กัน
มองบ้านช่องตึกรามงามสง่า
ทรงคุณค่าแบบโบราณงานสร้างสรรค์
สถาปัตย์สรรค์สร้างอย่างโรมัน
อัศจรรย์ความวิจิตรติดตรึงตรา		
บ่ายสองโมงถึงสถานทูตของไทย
ภาคภูมิใจสวยเด่นเน้นคุณค่า
ความเป็นไทยเลิศหรูดูงามตา
ชื่นชีวาได้พบเห็นเหมือนเป็นบุญ
ท่านเอกอัครราชทูตไทยให้เกียรติยิ่ง
ด้วยใจจริงด้วยไมตรีที่อบอุ่น
ท่านวรพจน์  	สนิทวงค์ฯ ขอขอบคุณ
ที่การุณมาต้อนรับประทับใจ
ลาท่านทูตสู่นครวาติกัน
ตะลึงงันมหาวิหารอันยิ่งใหญ่
เซนต์ปีเตอร์ก้องชื่อเลื่องลือไกล
ศูนย์รวมใจคริสตชนบนโลกา
เซนต์ปีเตอร์มหาวิหารมีลานกว้าง
แลสล้างเสาสูงใหญ่ทั้งซ้ายขวา
โอบลานกว้างจรดวิหารตระการตา
เมื่อเงยหน้าเห็นรูปปั้นนั้นเรียงราย
สวิสการ์ดงามสง่าน่าเกรงขาม
ยืนเป็นยามหน้าประตูดูผึ่งผาย
ชุดสวยเด่นเหลืองแดงพลิ้วเป็นริ้วลาย
ขจรขจายเลื่องลือความซื่อตรง
เมื่อย่างก้าวเข้าข้างในให้ตื่นเต้น
ได้พบเห็นความใหญ่โตความโอ่โถง
แสงสลัวดูเข้มขรึมลืมไม่ลง
รูปปั้นองค์สันตะปาปาน่ายำเกรง
รูปสลักพีเอต้า	น่าสงสาร
ความร้าวรานยามลูกถูกข่มเหง
ความเศร้าหมองผ่านดวงหน้าพาวังเวง
ยามมองเพ่งยิ่งสงสารแผ่ซ่านทรวง
สิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์อันยอดเยี่ยม
โคลอสเซียมยุคโรมันอันโชติช่วง
ความยิ่งใหญ่ตระการตากว่าทั้งปวง
เวลาล่วงสองพันปีที่สร้างมา
ประตูชัยคอนสแตนตินถิ่นโรมัน
รู้ทั่วกันสัญลักษณ์นานนักหนา
ชัยชนะอนุสรณ์ย้อนเวลา
ชาวโรม่าภาคภูมิชุ่มชื่นใจ
จวนพลบค่ำชมเทรวี่น้ำพุสวย
น้ำพุ่งพวยหลากรินยินเสียงใส
ผ่านรูปปั้นสลักงามยามต้องไฟ
เหมือนอยู่ในแดนสวรรค์ตระการตา
นั่งหันหลังโยนเหรียญทองผ่านไหล่ซ้าย
สื่อความหมายอธิษฐานเล่าขานว่า
จากไปแล้วไม่ไปลับได้กลับมา
กรุงโรม่าอีกหนคนเล่าลือ
ร้านขายของมากมายรายทางเดิน
จ่ายกันเพลินกระเป๋างามยามลองถือ
อีกเสื้อผ้าเครื่องหนังช่างฝีมือ
เดินเลือกซื้อจนมืดค่ำก่อนอำลา
ทานข้าวเย็นเอมอิ่มต่างยิ้มแย้ม
เข้าโรงแรมแสนสบายคลายเหนื่อยล้า
ชื่อไอบิสพักผ่อนนอนเต็มตา
ตื่นเช้ามาฟ้าสดใสใจเบิกบาน
เก็บข้าวของวุ่นวายไม่ชักช้า
ก่อนมุ่งหน้าชมความงามตามแหล่งย่าน
เรียกบันไดสเปนเห็นเป็นลาน
แล้วลดหลั่นขั้นบันไดได้เยี่ยมชม	
ศิลปินมาสร้างสรรค์ซึ่งงานศิลป์
นั่งบนหินวางเรียงรายให้สะสม
ศิลปะสูงค่าน่านิยม
แสนรื่นรมย์แหล่งศิลป์ถิ่นโรมัน
ร้านขายของชื่อดังตั้งรายรอบ
ตามใจชอบเลือกซื้อหาจ้าระหวั่น
ทั้งของเล็กของใหญ่ไม่ว่ากัน
ส่วนตัวฉันซื้อกระเป๋าเข้าตำรา
ฝากลูกเมียคนละใบไม่มากนัก
แทนความรักด้วยใจที่ใฝ่หา
ของไม่แพงฝากด้วยใจใช่ราคา
เฝ้าตั้งตารอประสบพบรอยยิ้ม
กินอาหารอิตาเลี่ยนเปลี่ยนรสชาติ
รสประหลาดไม่คุ้นลิ้นกินพออิ่ม
เหมือนข้าวต้มขนมปังยังลองชิม
สเต๊กนิ่มรสแปลกแตกต่างไป
อดลิ้มลองพิซซ่าเวลาหมด
ห่อขึ้นรถมุ่งหน้าลากรุงใหญ่
ถึงสนามบินฟิวมิชิโน่โผบินไกล
กลับเมืองไทยบ้านเกิดเถิดพวกเรา
บ่ายสามโมงแอร์จอร์แดนแล่นขึ้นฟ้า
โบกมือลาอิตาลีไม่มีเหงา
ทุ่มสิบห้าถึงอัมมานนานไม่เบา
เวลาเขาเร็วกว่าโรมหนึ่งชั่วยาม
จนตีหนึ่งสิบห้าที่จอร์แดน
เครื่องบินแล่นบินไกลไปสยาม
แอร์โฮสเตสสาวไทยน้ำใจงาม
คอยสอบถามห่วงใยช่างใจดี
แปดชั่วโมงกว่ากว่ามาถึงไทย
ล่วงเข้าไปบ่ายโมงครึ่งถึงที่นี่
ท่าดอนเมืองสนามใหญ่ไม่รอรี
หมู่น้องพี่เบิกบานถึงบ้านเรา				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน