16 กุมภาพันธ์ 2548 22:31 น.

เรืองเล่าของสาวนักเรียนนอก

เรืองเล่าภาณุวัฒน์



เรืองราวของเด็กสาวที่ชื่อว่า เครส เธอมีน่าตาที่น่ารักไม่เบา 
เธอเป็นเด็กที่ ดูห้าวๆๆๆ ดูคร้ายทอมนิดๆๆ 
เมือเธอย้ายจากประเทษ ออสเตรียเลียมาเรียนที่อังกฤษ เพือต่อ High School เมือตอนนั้นเธออายุได้ประมาณ 15 ปี 
วันหนึ่งเธอไปเจอ กับเด็กชายชาวนอร์เวย์ ที่สามารถ ชิงทุนรัฐบาลมาเรียนต่อในประเทษอังกฤษ พวกเขาสองคนได้ คนกันเป็นเพือนเป็นเวลานานถึงสามปี 

เมือวันที่จบการศึกษา พวกเขาทั้งสองคนต้องแยกทางกัน โรเจอร์ หนุ่มนอร์เวย์เขาต้องกลับไปเรยน ต่อที่ประเทษตัวเอง ส่วนเครสเธอก้ต้องอยู่ อังกฤษต่อไป
พอถึงวันที่สทั้งสองคนต้องแยกทางกัน ต่างคนต่างไป
เครสเธอได้ตัดสินใจ อันเด็ดขาดที่ว่าเธอจะย้ายตาม โรเจอร์ไป ตอนั้นเธอสับสนอยู่ในใจว่า ใจเธอรู้สึกอะไรอยู่ รักเหรอ?? หรือแต่ว่า เธอไม่มีเพือนที่รู้ใจและสนิดเท่าเขาอีกแล้ว
แล้วโรเจอร์ละ จะคิดยังไงกับเธอ 
ความรักนี้มันชั่งสันสน ต่างคนต่างไม่ร้ว่าต่างตนต่างคิดอะไรอยู่
ส่วนโรเจอร์ ต้องกลับ แต่เขาก็คิดกังวนและอดนึกถงเครสไม่ได้

วันนั้น การตัดสินใจของ เครสต้องเด็ดขาดมา เพราะเธอคิดว่า การตัดสินครั้งนี้ เป็นการตัดสินอนาคตของเธอเลยทีเดียว

และแล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไปกับเขาโดยอ้างว่า อยากจะไปเทียวที่ บ้านเกิดของโรเจอร์ 
ตอนนั้น เครสคิดอยู่คำเดียวว่า เธอต้องทำอย่างไรเมือเวลามันผ่านไป 
วันหนึ่งเมือ โรเจอร์ต้องเข้าไปยื่นชื่อ เพือเข้ามหาวิทยาลัยใน ประเทษสวีเดน 

ณ.ประเทษสวีเดน

หลังจากลงจากรถทัวร์ โรเจอร์บอกกับเครสว่า เขาต้องไปยื้นชื่อ แต่เครสเธอขอติดตามไปด้วย พอทำอะไรเสร็จเรียบร้อย 
เครสเธอบอกเธอต้อง ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยให้โรเขอร์รอเธออยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่เธอแอบ เสี่ยงโดยเอาชื่อและคะแนนของเธอไปยื้นด้วย
แต่ตอนนั้นเธอคิดเสมอว่า ถ้าเธอติดเธอจะทำอย่างไร ถ้าเธอยังต้องกลับไปปที่อังกฤษอยู่ แล้วมหาลัยที่อังกฤษละ เธอจะทำอย่างไร
หลังจากนั้น พวกเขาได้ ไปนั่งดืมกาแฟแห่งหนึ่งในตัวเมือง Gotheburg สวีเดน
โรเจอร์ พูดออกมาว่า I love you. I'm in love with you. ในเวลานั้นที่ โรเตอร์พูด เครสเริ่มใจหาย และสั่นเธอไม่รุ้ว่าเธอจะพูดอะไรออกมา 
แล้วโรเจอร์ก็บอกออกมาว่า 
ผมไม่อยากให้คุณจากไปเลย
ผมรู้ว่าคุณต้องไป ความรักของผมที่มีให้คุณคงเป็นไปไม่ได้

ตอนนั้นเจาขับมือของเครสไว้แนน และร้องไห้ออกมา 
เครสนั่งเงียบอยู่สักพัก
โรเจอร์ถามมาว่า คุณรับไม่ได้ใช่ใหม
เครสยังนั่งเงียบและก้มหน้า

โรเจอร์พูดออกมาว่า ผมขอโทษ ผมขอโทษ 

เครสเงีอยน่าขึ้นมาบอกว่า
ที่ฉันตามเธอมาเทียวที่นี้ก็เพราะฉันสบสนฉันไม่รู้ในใจคิดอะไรอยู่
ฉันไม่รูทำไมฉันต้องมา เมือกี่ที่มหาลัย ฉันโกหกเธอว่าไปเข้าห้องน้ำเพือที่ฉันจะได้แอบไปยืนคะแนน เพือสมัคเข้ามหาลัยที่นี้
ฉันไม่อยากทิ้งเธอไม่อยากแค่จะเก็บเธอไว้แต่ในหัวใจ ฉันอยากอยู่และเห็นเธอตลอดเวลา อยากมีเพือนั่งคุย
ถ้านี้เป็นรัก มันคงเป็นรักแรก

เมอวันที่ ต้องไปครวจสอบดูรายชื่อ เธอได้ติดคณะ วิศวะกร ( ไม่ทราบรายระเอียนเกียวกับสาขา ) ส่วนโรเจอร์ เขาติด วิศวะยานยนต์

ชีวิตในรั้วมหาลัย
เครสเด็กสาว หัวดีหลังจากที้ เธอเรียนได้ 1ปีในมหาลัย 
เธอได้ลองไปสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ 
เธอติดอย่างไม่น่าเชื่อตัวเอง 
แต่เธอก็ยังสับสนกับการเรียน เธอไม่รูว่าจะ ปล่อยสาขาวิชาอาชีพที่เธอรักแล้วไปเลือก สาขาที่ เป็นวิชาชีพชั้นสูง
โรเจอร์ เขาได้ตอบออกมาว่า 
ผมอยากให้คุณเรียนหมอมากกว่า วิศวะ
เครสเริ่มระแวง อยู่ในใจ แต่ไม่เคยพูดออกมา 
เธอตัดสินใจบอกว่า เธอเลือกเรียนทั้งสองคณะ โดย เลือกวิศวะ ภาคบ่าย เช้าเธอทำงานขับรถเมย์ เธอเลือกเรียน หมอภาคค่ำ 
เธอขับรุเมย์ได้ 1ปีเธอก็ออกจางาน เพราะตัวเธอเองรับความเหนือยไม่ไหว
เมือวันที่เครสล้มป่วย เป็นไข้หวัดใหญ่
วันนั้นทำให้เธอเห็นว่า โรเจอร์รักเธอแค่ใหน เธอเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขา
และโรเจอร์เป็นทุกอย่างในชีวิตของเธอ 
หลังจากนั้น 1ปี เครสเธอได้ทิ้ง การเรียนหมอ ดป็นระยะเวลา เกือบสองปีเพือมา เอาหนักทางด้าน วิศวะ การเรียนหมอของเธอเลยต้องยืดไป จาก ระยะเวลา 6 ปีกลายเป็น 8 ปีแต่เธอไม่สน
เมือพวกเขาตบวิศวะแล้ว 
พวกเขาและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจว่าให้แต่งงานวันเดียว กันกับวันที่รักปริญญา 
โดยจัดพิธีทั้งสอง ประเพณี คือประเพณีไทยและนอร์เวย์
หลังจากการแต่งงาน 3 เดือนเครสได้รู้ตัวว่าเธอท้อง โรเจอร์ดีใจเป็นอย่างมาก ที่เขาจะได้เป็นพ่อคนแล้วอีไม่กี่เดือนข้างหน้า
หลังคลอด ชีวิต ก้ใช่ว่าจะดีโรยไปด้วยกรีบกุหลาบ
หลังจากที่เด็กคลอดออกมา 3 เดือนก็มีปัญหา ต่างๆ นาๆ เกียวกับความไม่เข้าใจบ้าง เงินบ้าง ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้มีปัญหาเรืองเงินแม้แต่น้อย งานการก็ใช่ว่าจะไม่ดี เรืองชู้สาวบ้าง
โรเจอร์ได้ไปคบกับผู้หญิงไทยคนหนึ่งในสวีเดน ที่อยู่บ้านใกล้กัน ได้แอบคบหากันอยู่เป็นระยะเวลาสามเดือน 
มีอยู่วันหนึ่งเครสเธอได้ไปเห้นว่าสามีของเธอไปมีใจให้คน อื่นทั้งๆๆที่มีลูกแ ภรรยาอยู่ที่บ้านอยู๋แล้ว

เมือลูกได้ 8 เดือน เครสเธอได้ตัดสินใจหนีออกไปอยู่ที่อืน ในสวีเดน 
เมือโรเจอร์ รู้ก็รู้สึกผิดอย่างมากเขาพยายาม ตามหาเครสแต่ว่าหาไม่เจอ
ตนวันหนึ่งเครส กลับมา พร้อมกับคำว่า 
เราแยกทางกันเดินเถอะ
แล้วเธอก็เดินจากไป โดยไม่หันหน้ากลับมาแม้แต่น้อย 
แล้วเธอก็ไม่ได้คิดถึงลูกที่ต้องกรไพร้าพ่อ
เธอคิดว่าเธอคงเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ที่ดีสำหรับลูกได้ โดยไม่ต้องมีพ่อเลวๆ อย่างนั้น

เมือลูกของเธอได้ 3 ขวบเธอกลับมาหาโรเจอร์ อีกเพือพาลูกมาเยี้ยมพ่อ เพราะเธอคิดว่าเธอคงทำไม่ได้โดย ไม่ให้บูกรู้จักพ่อเลย ( ลืมเล่า ในขณะนั้นเธอเรียนไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย )

สามวันหลังจากนั้น โรเจอร์มาบอกกับเครสว่า ตั้งแต่คุณไปผมไม่เคย ไม่มีวันใหนที่ไม่คิดถึงคุณเรากลับมาอยู่ด้วยกันอีกได้ใหม ไม่ต้องอยู่บ้านเดียวกันก็ได้แต่ขอให้คุณมาอยู่ใกล้ๆ ผมก้ดีใจแล้ว

เครสเธอตัดสินใจตอบตกลง เมือมีเวลา โรเจอร์ได้ช่วยเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ 
เท่าที่เขาจะทำได้ เพยายาม ทำกับข้าวและช่วยเครสทำนู้ทำนี้ตลอดเวลา 
เมือ ****( ขอสงวนนาม ) ลูกชายเขาอายุได้ 6 ขวบ  
โรเจอร์ ได้ตัดสินใจยืนเรือง ไปทำงานที่ ประเทษไทย และชวนเครสไปด้วย เพราะเขารู้ว่า เครสต้องย้ายกลับประเทษเธอในไม่ช้า เจาเลยต้องตัดสินใจย้าย

แต่ด้วยนิสัยผู้ชาย  เครสเธอเห็นว่า โรเจอร์ ได้พาผู้หยิงเขามานอนในบ้านด้วย
แต่เธอไม่พูดอะไร นึกเจ็บป่วดอยู่ในใจ  เธอเคยปลอบใจตัวเองอยู่เสมอ ว่า แค่ทะเบียนไปเดียว ไม่ได้หมายความว่า เขายังเป็นของเราอยู่ เขาอยากทำอะไรก็เรืองของเขา 
เธอรอวันที่ จะไปหย่ากับสามีเธอ 
แต่ไม่สำเร็จสักที่ เธอมีจดหมายเรียกตัวจากมหาลัยให้กลับไปเรียนต่อ ไม่อย่างนั้นเธอจะถูกตัดออกจากสิทธิ์ เธอทิ้งลูกให้ โรเจอร์ และตั้งความหวังไว้ว่า เขาจะไม่ทำอะไรไม่ดีให้ลูกเห็น
เธอพยายามมาเยี้ยมลูกเมือเธอมีเวลา 
เมือเธอเรียนจบ
เธอตัดสินใจต่อโท เมือเธอจบโทรได้เข้าไปทำงานเป็นหมอ ที่ โรงพยาบาล Saglgrenska และได้เป็นเจอ ผู้ชายชาวจีน 
เธอได้ตัดสินใจ นั่งเครืองบินลงไปตัดินใจหย่าขาดกับสามีเธอ 
ดูเหมือนชีวิตเธอจะดีขึ้นเมือเขอคนใหม่ 
แต่ในเมือเวลาฝ่านไป 4 เดือนเธอก็โดน โครกสับประจานจาก สามีคนใหม่ของเธอและครอบครัว 
เธอได้ตัดสินใจเลิก เพราะเธอทนไม่ไหวที่จะต้องเจ็บแล้วเจ็บอีกเพราะผู้ชายเลวๆๆ 

เธอตัดสินใจพูดออกมาว่า เธอยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูกชายเธอคนเดียว



มีต่อภาค.2 ครับ				
13 สิงหาคม 2547 21:07 น.

มะเมีย

เรืองเล่าภาณุวัฒน์

มะเมียะเป็นแม่ค้าสาวชาวพม่า หน้าตาพริ้มเพรา ได้พบกับเจ้าน้อยศุขเกษมครั้งแรก เมื่ออายุเพียง ๑๖ ปี ขณะนั้นมะเมียะเป็นเพียงแม่ค้าขายบุหรี่ซะเล็กอยู่ที่ตลาดใกล้บ้านในเมืองมะละแหม่ง มะเมียะหารายได้ด้วยความหวังเพื่อจะได้เงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งอยู่ในฐานะปานกลาง 
วันหนึ่งเมื่อเจ้าน้อยศุขเกษมได้ออกเดินเที่ยวตามห้างร้านในตลาด จึงได้พบกับมะเมียะ ซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองตองอู หลังจากไปอาศัยอยู่กับป้าของเธอเป็นเวลาหลายปี ทั้งคู่เกิดถูกใจในกันและกัน จึงได้คบหากันเรื่อยมา หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองจึงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา ด้วยความสนับสนุนของทางบ้านของมะเมียะ และในวันพระทั้งสอง จะพากันไปทำบุญตักบาตรและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองมะละแหม่งอยู่เสมอ วันหนึ่ง ณ ลานกว้างหน้าพระธาตุใจ้ตะหลั่น ทั้งสองได้กล่าวคำสาบานต่อกันว่าจะรักกันตลอดไป และจะไม่ทอดทิ้งกัน หากผู้ใดทรยศต่อความรักที่มีให้กัน ก็ขอให้ผู้นั้นอายุสั้น 
จากนั้นไม่นานก็ถึงกำหนดการเดินทางกลับเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าน้อยฯ เพิ่งจะมีอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้ตัดสินใจให้มะเมียะปลอมตัวเป็นชายติดตามขบวนเพื่อกลับไปยังเมืองเชียงใหม่ ในฐานะเพื่อนหนุ่มชาวพม่า โดยหารู้ไม่ว่าเจ้าพ่อและเจ้าแม่ของตนได้หมั้นหมายเจ้าหญิงบัวนวล ธิดาของเจ้า สุริยวงษ์ (คำตัน สิโรรส) ให้เป็นคู่หมั้นของเจ้าน้อยฯ เป็นการภายในตั้งแต่ปีที่เจ้าน้อยฯ เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนในเมืองพม่า 
หลังจากที่ต้องแอบซ่อนมะเมียะไว้ในบ้านหลังเล็ก ที่เจ้าพ่อและเจ้าแม่จัดเตรียมไว้ให้เป็นที่พักมาแล้วหลายวัน เจ้าน้อยศุขเกษมได้ใช้เวลาคิดใคร่ครวญและตัดสินใจเล่าความจริงให้ทั้งสองฟัง แม้ว่าจะไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยออกมาในขณะนั้น แต่เจ้าน้อยฯ ก็พอจะทราบได้ว่าทั้งสองไม่ยอมรับมะเมียะเป็นศรีสะใภ้อย่างแน่นอนเนื่องจากปัญหาใหญ่ในขณะนั้น คือเจ้าน้อยเป็นผู้ที่ได้รับการคาดหวังว่าจะได้รับตำแหน่งเจ้าหลวงองค์ถัดไปจากเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ ซึ่งเป็นพระเจ้าลุง หากเจ้าน้อยฯ เลือกมะเมียะมาเป็นศรีภรรยา ประชาชนย่อมต้องเกิดความอึดอัดใจในการยอมรับมะเมียะผู้เป็นหญิงต่างชาติมาดำรงฐานะศรีภรรยาของเจ้าเมืองอย่างแน่นอน 
ในสถานการณบ้านเมืองขณะนั้นน่าวิตกมาก เนื่องจากมหาอำนาจอังกฤษกำลังแผ่อิทธิพลไปทั่วดินแดนในคาบสมุทรเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มะเมียะซึ่งเป็นคนในบังคับของอังกฤษและกำลังอาศัยอยู่ในคุ้มของอุปราช (ขณะนั้นเจ้าแก้วนวรัฐดำรงตำแหน่งอุปราชเมืองเชียงใหม่) อาจเป็นชนวนของปัญหาทางการเมืองที่ใหญ่โตได้ในภายหลัง ในที่สุดเจ้าพ่อและเจ้าแม่จึงเรียกตัวเจ้าน้อยฯไปพบ และยื่นคำขาดให้เจ้าน้อยส่งตัวมะเมียะกลับเมืองมะละแหม่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง ในยามเย็นวันนั้นเอง เจ้าน้อยได้เข้าพิธีเรียกขวัญและรดน้ำมนตที่เจ้าพ่อกับเจ้าแม่จัดขึ้น เพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายที่ท่านทั้งสองเชื่อว่ามะเมียะได้กระทำแก่เจ้าน้อยฯ อันเป็นเหตุให้เจ้าน้อยฯ หลงไหลในตัวนาง หลังจากพิธีรดน้ำมนต์ผ่านพ้นไป ช้างพาหนะและไพร่พลที่จะใช้ในการส่งตัวมะเมียะกลับเมืองมะละแหม่งก็ถูกจัดเตรียมทันทีตามคำสั่งของเจ้าแก้วนวรัฐ 
เมื่อเจ้าน้อยฯ กลับไปถึงที่พักในคืนนั้น มะเมียะได้รับการเกลี้ยกล่อมโดยหญิง-ชาย ชาวพม่าฝ่ายละคน ให้นางกลับไปรอเจ้าน้อยฯ ที่เมืองมะละแหม่ง มิฉะนั้นบ้านเมืองอาจเดือดร้อน นางได้เอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจและยินยอมจากไปเพื่อมิให้ผู้ใดได้รับความเดือดร้อน แม้ตัวนางจะจากไกล แต่ความรักอันมั่นคง ยังคงอยู่ดังคำสาบานที่เคยให้ไว้แก่กันและกัน ฝ่ายเจ้าน้อยฯ ยังคงยืนยันในความรักที่มีต่อมะเมียะ และขอให้นางกลับไปรอที่บ้านก่อน หากมีวาสนาจะกลับไปรับนางมาอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ให้ได้ 
ในเช้าวันหนึ่งของเดือนเมษายน นับเป็นวันเดินทางกลับเมืองมะละ แหม่งของมะเมียะที่ดูเหมือนจะเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์ ณ ประตูหายยาที่เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่ใคร่เห็นโฉมหน้าของมะเมียะ ที่ลือกันว่างามนักงามหนา บรรยากาศเต็มไปด้วยความหดหู่และเศร้าหมอง เมื่อเจ้าน้อยฯ พูดภาษาพม่ากับมะเมียะได้เพียงไม่กี่คำ นางผู้มีใจรักมั่นได้ร่ำไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจ ในอ้อมแขนที่ยากจะแยกจากกันได้ เวลานั้นก็ล่วงเลยไปมากแล้ว เจ้าน้อยฯ ได้รับปากกับมะเมียะว่าตนจะยึดมั่นในคำปฏิญาณที่ให้ไว้ต่อหน้าพระพุทธรูปวัดใจ้ตะหลั่นจนกว่าชีวิตจะหาไม่ หากท่านนอกใจมะเมียะโดยสมรสกับหญิงอื่น ขอให้ชีวิตของตนประสบแต่ความทุกข์ทรมานใจ แม้แต่อายุก็จะไม่ยืนยาว เจ้าน้อยฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายใน เดือนจะกลับไปหามะเมียะให้จงได้ นางจึงคุกเข่าลงกับพื้น ก้มหน้า สยายผมออกเช็ดเท้าเจ้าน้อยฯ ด้วยความอาลัยหา ก่อนที่เธอจะขึ้นไปบนกูบช้าง 
เมื่อกลับไปถึงเมืองมะละแหม่งแล้ว มะเมียะได้มอบเงินทองจำนวนหนึ่งซึ่งเจ้าแก้วนวรัฐและเจ้าแม่จามรีมอบให้นางก่อนเดินทางกลับเป็นการปลอบขวัญแก่พ่อแม่และน้อง จากนั้นนางได้แต่เฝ้ารอคอยเจ้าน้อยฯ จนครบกำหนด เดือนที่ท่านได้รับปากไว้ แต่นี่กระไรกลับไร้วี่แววใดๆ มะเมียะจึงตัดสินใจเข้าพึ่งใต้ร่มพุทธจักร ครองตนเป็นแม่ชีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่านางยังซื่อสัตย์ ต่อความรักที่มีต่อเจ้าน้อยศุขเกษม 
หลังจากที่มะเมียะทราบข่าวการเข้าพิธีมงคลสมรส ระหว่างร้อยตรีเจ้าอุตรการโกศล (ยศของเจ้าน้อยฯ ในขณะนั้น) กับเจ้าหญิงบัวนวล ณ เชียงใหม่ แม่ชีมะเมียะจึงเดินทางมายังเมืองเชียงใหม่และขอเข้าพบเจ้าน้อยฯ เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อแสดงความยินดีกับชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ องค์อดีตสวามีผู้เป็นที่รัก ก่อนที่ตนจะตัดสินใจครองตนเป็นแม่ชีไปตลอดชีวิต แต่เจ้าน้อยศุขเกษมผู้ยึดสุราเป็นที่พึ่งดับความกลัดกลุ้มอันเกิดจากความรักอาลัยในตัวมะเมียะ ชีวิตที่ไม่เคยมีความสุขในชีวิตสมรส ท่านไม่สามารถหักห้ามความสงสารที่มีต่อมะเมียะได้ จึงไม่ยอมลงไปพบแม่ชีมะเมียะตามคำขอร้อง เพียงแต่มอบหมายให้เจ้าบุญสูง พี่เลี้ยงคนสนิท นำเงินจำนวน ๘๐บาท ไปมอบให้กับแม่ชีมะเมียะเพื่อใช้ในการทำบุญ พร้อมกับมอบแหวนทับทิมประจำกายอีกวงหนึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าน้อยฯ ให้กับแม่ชีมะเมียะ 
เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทำให้มะเมียะและเจ้าน้อยต่างสะเทือนใจเป็นที่สุด หลังจากเดินทางถึงเมืองมะละแหม่ง มะเมียะได้ครองชีวิตเป็นแม่ชีตามความตั้งใจ จนกระทั่งถึงแก่กรรมในปี พ.ศ.๒๕๐๕ รวมอายุได้ ๗๕ ปี				
24 มกราคม 2547 02:49 น.

เมือได้รักถึงเข้าใจ

เรืองเล่าภาณุวัฒน์

 เมือได้รักผมถึงเข้าใจว่ามันเจ็บแค่ใหนในการถูกคนที่เรารักทอดทิ้ง เมือไม่กี่วันมานี้เอง ผมเห็น เพือนร่วมชั้นเรียนเดียวกับผมนั่งเสียใจอยู่ข้างหน้าผม ผมไม่รู้ว่าเขาเสียใจเรืองอะไร แต่พอเพือนอีกคนถามว่า นายเป็นอะไร เขาบอกว่าแฟนเขาหรือผู้หญิงที่เขารักกำลังจะ ย้ายไปอีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งไม่ห่างจากที่ผมอยู่นัก 
 
เมือก่อนผมไม่เคยเข้าใจถึงความรู้สึกนี้มาก่อนว่ามันเจ็บแค่ใหน พอผมได้มารักกับผู้หญิงคนหนึ่งผมจึงทราบว่า น้ำตาทุกหยดของคนที่ถูกทิ้งหรืออกหักมันเจ็บแค่ใหน เมือก่อนผมไม่เคยรู้เมือไร่ที่ผมเห็น ใครเสียใจเพราะเรืองนี้ผมมั้กจะบอกกับ เขาหรือเธอคนนั้นเสมอว่า ไม่ต้องไปเสียใจหลอกแค่นี้เอง แต่ตอนนี้ผมได้รู้แล้วว่า การที่เรารักใครสักคนแล้วเราต้องเสียเขาหรือเธอไปความรู้สึกข้างในมันเป็นยังไงไม่มีใครเข้าใจ มันเจ็บแค่ใหนอ่ะธิบายบอกออกมาเป็นตัวเลขได้ไม่ถูกเลยที่เดียว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรืองเล่าภาณุวัฒน์
Lovings  เรืองเล่าภาณุวัฒน์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรืองเล่าภาณุวัฒน์
Lovings  เรืองเล่าภาณุวัฒน์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรืองเล่าภาณุวัฒน์
Lovings  เรืองเล่าภาณุวัฒน์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเรืองเล่าภาณุวัฒน์