5 พฤศจิกายน 2546 18:51 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
เมื่อวานขณะที่ผมกำลังจะออกเดินทางไปสอนพิเศษ ผมได้พบกับคนพิเศษในใจผม
เสียดายที่ผมไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอมากนัก เท่าที่ผมจะทำได้คงเพียงแต่พร่ำเพ้อ
เป็นกลอนดังนี้...
พี่ตื่นเต้นเป็นยิ่งนักพบพักตร์นุช
แสนดีใจเป็นที่สุดจะหาไหน
ได้ยินเสียง ตุบ ตุบ ของหัวใจ
สุดดีใจได้พบประสบเจอ
นั่นใจเธอหรือเปล่าที่เราเห็น
หรือว่าเป็นเพียงจิตคิดละเมอ
ถึงได้วาดภาพเห็นว่าเป็นเธอ
ที่เราเพ้ออยากเจออยู่ทุกวัน
พอเข้าไปใกล้ใกล้ใช่เธอแน่
แม่เพ็ญแขที่แท้พี่มิไม่ฝัน
ดีใจเหลือได้พบประสบกัน
แม่ดวงจันทร์บนฟ้ายามราตรี
เดินเข้าไปใกล้เธอเธอก็ทัก
ช่างน่ารักน่าชมแม่โฉมศรี
ตัวพี่อยากสานทอต่อไมตรี
ธุระมีเสียดายต้องรีบไป
แม้ถ้าได้พบกันในครั้งหน้า
แล้วพี่ยาไม่ได้รีบจะไปไหน
จะหยุดคุยกับนงนุชให้สุดใจ
ให้ได้หายคิดถึงที่ตรึงตรา
4 พฤศจิกายน 2546 16:19 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
ในวันที่ ธงไชย ไปไกลแสน
จะคิดงาน อันใด ให้ขาดแคลน
มันช่างแสน ลำบาก อยากบ้าตาย
ทำคนเดียว คิดเอง ให้เคร่งจิต
ตกจริต ผิดไป ฤทัยหมอง
ทำต่อไป อย่างไร เราต้องลอง
คึกคะนอง ลองทำ ดังคุ้นเคย
แต่ทำแล้ว ทำเล่า ไม่ได้เรื่อง
ไม่ปราดเปรื่อง เปรียบเปรย ทำเฉยเฉย
งานมันรีบ และเร่ง เป็นอย่างเคย
แต่ลงเอย เสร็จทัน วันเปิดงาน
แต่ว่ากว่า เรียบร้อย ลิ้นห้อยหาว
เสร็จตอนเช้า แทบเผา งานเราผลาญ
คราวหน้ามี คงรีบทำ แต่เนิ่นนาน
ไม่ให้ผ่าน ล่วงเลย จนเคยตัว
ก่อนจะออก แวะกินข้าว ที่บาร์ใหม่
กินอะไร ดีหนอ พ่อสับสน
จะสั่งข้าว ตามสั่ง ก็มากคน
เลยปลีกตน สั่งข้าวแกง ไม่แพงดี
พอกินข้าว อิ่มกัน ก็พลันออก
มาข้างนอก เขตรั้ว เกษตรศรี
ในใจคิด ถึงเจ้า เยาวดี
เวลานี้ ทำอะไร อยู่ไหนกัน
ขับออกมา ตรงหน้า พหลโยธิน
เคยได้ยิน ชื่อเสียง คนกล่าวขัน
ว่าสายนี้ รถติด กันทุกวัน
ดูตะวัน สายแล้ว รีบแจวไป
ศรีประทุม ตั้งเด่น อยู่ทางขวา
คนบอกมา ชื่อนี้ มีความหมาย
ว่าดอกบัว แสนดี สุดบรรยาย
เป็นริ้วลาย สวยสะอาด บาดตาดู
เฝ้าคิดถึง นวลน้อง ที่ต้องจิต
ใจเฝ้าคิด ถึงเจ้า แต่เช้าตรู่
แม้ว่าได้ แก้วตา มาเคียงคู่
จะเฝ้าดู ชื่นชม ให้สมปอง
พอตรงมา เห็นวง เวียนอันใหญ่
รถวิ่งไป ใจคิด เรื่องเราสอง
พี่นี้เฝ้า ดูเจ้า เฝ้าแอบมอง
แต่ตัวน้อง มิรู้เห็น เป็นเช่นใด
เราเหมือนคน วนใน วงเวียนรัก
แปลกใจนัก ทางออก อยู่หนไหน
วงเวียนรถ ทางออก มีทั่วไป
วงเวียนใจ เห็นทางออก ก็บอกที
ผ่านวงเวียน เลี้ยวซ้ายมา พากันท่อง
อยู่บนท้อง ถนน รถหลากสี
วิ่งตรงไป ตัดผ่าน วิภาวดี
แล้วคนดี ของพี่ ตื่นหรือยัง?
ยามได้ฟัง เสียงเจ้า พี่เฝ้าคิด
ว่าในจิต ใจเจ้า เป็นไงบ้าง
ว่าตัวน้อง รักใคร่ ใครหรือยัง
มีใครนั่ง ในดวงใจ เจ้าอนงค์
ทุกทุกวัน พี่นั้น อยากพบน้อง
แต่ก็ต้อง ผิดหวังไม่ สมประสงค์
พี่รักเจ้า เยาว์แน่ แท้มั่นคง
หลับตาลง เห็นหน้า ทุกคราไป
ขับตรงต่อ ถึงเลี้ยว เทียวกลับรถ
ทางที่คด ให้งง ต้องสงสัย
ว่าทางรถ คดเคี้ยว ให้เลี้ยวไป
แต่ทางใจ วนอย่างไร ไม่คุ้นเคย
เพราะว่าเจ้า อนงค์ นั้นไม่บอก
ว่ามีตรอง ซอยเช่นไร ไม่เฉลย
โปรดเถิดนุช พูดหน่อย นะทรามเชย
บอกมาเลย แล้วพี่ นี้จะทำ
มองเห็นป้าย บอกเขต ขอบเมืองทอง
จับตามอง จ้องไว้ ไม่ให้ถลำ
ถ้าเลยไป กว่าจะ ได้กลับลำ
ไม่ได้ขำ อีกไกล หลายกิโล
แต่ใจพี่ ที่รัก น้องนั้นหนา
เปรียบดังรถ วิ่งร่า ผวาโผ
แม้ไม่ปัก ป้ายไว้ ให้ใหญ่โต
พี่ก็ GO ON ไป ไม่ระวัง
ไม่เคยคิด จะเปลี่ยน หรือเวียนกลับ
ถ้าเจ้ารับ ไมตรี ที่พี่หวัง
ที่วาดไว้ ในภายหน้า ถ้าไม่พัง
คงสมหวัง ที่หมาย ได้กายใจ
รถเข้าจอด เทียบท่า ต้องลาแล้ว
ของดวงแก้ว รัตนะ ที่สดใส
จงปกป้อง ดวงกมล ให้พ้นภัย
และขอให้ รักพี่ เสียที...เอย
3 พฤศจิกายน 2546 12:14 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
ฉันตกหลุมรักเธอแล้วเพ้อพก
รักมันจุกที่อกเกินทนไหว
เธอมาส่งยิ้มให้แล้วจากไป
ตกลงไปในสายตาของเธอ
2 พฤศจิกายน 2546 21:29 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
สวัสดีสมาชิกทุกทุกท่าน
ทีแรกผมเพียงผ่านเข้าเวบนี้
พออ่านไปอ่านมาเข้าท่าดี
เลยสมัครลงบัญชีด้วยอีกคน
***ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ***